อาการหงุดหงิดอย่างแรงก่อนมีประจำเดือน ร่วมกับ dysthymia งานเข้าเลยสิ
บลอกนี้ขอมาแนววิชาการนี้ดนึงนะคะ สืบเนื่องมาจาก เดือนนี้มีอาการ Premenstrual Syndrome (PMS)หรืออาการสติแตกก่อนมีประจำเดือนอย่างรุนแรงและชัดเจนมาก จนรู้สึกได้ว่ามันน่าจะไม่ใช่เรื่องปกติซะแล้ว เพราะอาการแสดงออกแบบสุดขีดและสุดขั้ว ตรงตามตำราเป๊ะ กล่าวคือ มีอาการหดหู่ เบื่อหน่าย เฉื่อยชา อ่อนเพลีย ไม่มีสมาธิในการทำงานเลย แถมอารมณ์ผันผวนปรวนแปรมากๆ หงุดหงิด ฉุนเฉียว โกรธง่าย นอนไม่หลับ แต่ถ้าได้หลับจะหลับเป็นตาย ใครพูดไม่ถูกใจหรือโดนแหย่จะปรี๊ดแตก ที่สำคัญร้องไห้เป็นบ้าเป็นบอ เพราะทะเลาะกับพี่ด้วยเรื่องขี้เล็บขี้ผง สืบเนื่องจากความหงุดหงิดอะไรก็ไม่รู้(ตอนแรกยังไม่ทราบสาเหตุ) จนพี่ที่อยู่ด้วยออกอาการเหวอรับประทานเพราะปกติภัทรไม่ค่อยใส่ใจอะไร ไม่ค่อยโกรธใครแรงๆ คนเข้มแข็งอย่างเรา ทำไมร้องไห้ด้วยเรื่องแค่นี้ เครียดเรื่องอะไรมารึเปล่า เอ๊ะ ตกลงนี่เราเป็นบ้าอะไรกันแน่วะเนี้ยะ เลยเริ่มหาข้อมูล ก็พบความจริงที่ว่า ภัทรมีอาการ Premenstrual Syndrome (PMS)หรืออาการก่อนมีประจำเดือน และสืบเนื่องมาจากโรคซึมเศร้าหรือdysthymiaที่เป็นอยู่เดิม ซ้ำเติมกับอาการก่อนมีประจำเดือน(มีเรื่องของฮอร์โมนมาเกี่ยวข้อง) บ้ากำเริบเลยค่ะ แล้วช่วงนี้ดันหยุดกินยารักษาdysthymiaช่วงเช้าเพราะงานยุ่ง และคิดเอาเองว่าคงไม่เป็นไรน่า เพราะป้าหมอประจำตัวเคยบอกว่า ใกล้จะให้หยุดยาแล้ว ไม่ได้กินยาแค่ไม่กี่วัน คงไม่เป็นไรมั้ง เหอะๆๆๆๆ แล้วก็เป็นเรื่องจนได้ หากพูดถึง anxiety disorderc และ dysthymia คิดว่าหลายๆท่านที่ภาษาอังกฤษไม่ค่อยแข็งแรง(เช่นเจ้าของบลอก)อาจไม่รู้จัก แต่ถ้าพูดถึงโรควิตกกังวลและโรคซึมเศร้า ชาวบลอกน่าจะพอคุ้นๆชื่อเหล่านี้อยู่บ้าง เจ้าของบลอกรักษาอาการ dysthymia หรือโรคซึมเศร้าเรื้อรังมาแล้วปีครึ่ง ยาที่ต้องทานอยู่เป็นประจำในมื้อเช้าของทุกวันคือ fluoxetine ส่วน sermonilที่ทานมื้อก่อนนอนนั้น เมื่อไม่นานมานี้ ป้าหมอประจำตัวสั่งให้หยุด และให้ทานเฉพาะจำเป็น เช่นช่วงที่นอนไม่หลับ โดยหมอให้เหตุผลว่า จะค่อยๆหยุดยาเพราะอาการเริ่มจะเข้าที่เข้าทางแล้ว มันก็เป็นธรรมดาของชีวิตมนุษย์ ที่วันดีคืนร้ายอาจจะต้องมีเรื่องแย่ๆเข้ามาให้ครุ่นคิดวิตกกังวลอยู่บ้าง ซึ่งถ้าเป็นคนปกติที่มีสภาพจิตใจแข็งแรง ก็จะสามารถปรับตัวปรับใจให้เข้าสู่สภาวะปกติได้ไว แต่สำหรับคนที่มีปัญหา dysthymia แล้ว หากมีเรื่องเข้ามากระทบจิตใจ จะยากขึ้นหลายเท่าที่จะปรับสภาพจิตใจตัวเองให้กลับมาสู่สภาพปกติ ซึ่งช่วงเวลาที่กำลังปรับตัวนี่หล่ะ ที่แสนจะทรมาน คนไม่เคยป่วย พูดไปจนปากฉีก ก็คงไม่เข้าใจหรอกเน้อะ และด้วยความที่อยากจะกลับมาใช้ชีวิตอย่างเป็นปกติสุขไวๆ ที่ผ่านมาเลยพยายามดูแลตัวเองให้ดีที่สุด ติดตามการรักษาอย่างเคร่งครัด ไปหาป้าหมอสม่ำเสมอ ส่งผลให้ผลการรักษาดำเนินไปในทิศทางที่ดีขึ้นเรื่อยๆ แต่จนแล้วจนรอด ป้าหมอก็ยังไม่ยอมให้หยุดยาทั้งหมดซะที(ยังไม่หายไง อิอิ) แล้วเดือนนี้ดันมีงานเข้ามาเยอะ ยุ่งมากๆ ชีวิตเร่งรีบเลยไม่ได้ทานอาหารเช้า ส่งผลให้อดทานยาหลังอาหารเช้าไปด้วยโดยปริยาย ร่างกายจึงขาดยาในกระแสเลือดติดต่อกันหลายวัน โชคร้ายที่ช่วงนี้ประจวบเหมาะกับเป็นช่วงที่ประจำเดือนจะมาพอดี อาการ Premenstrual Syndrome (PMS)หรืออาการซึมเศร้าเหงาหงอยและหงุดหงิดก่อนมีประจำเดือนจึงแสดงออกอย่างชัดเจน(หากได้รับ fluoxetine อย่างต่อเนื่องโดยไม่หยุดยาเอง อาการอาการหงุดหงิดงุ่นง่านก่อนมีประจำเดือนก็จะไม่สร้างปัญหาขนาดนี้ เพราะปกติ fluoxetine นอกจากจะใช้รักษา dysthymia แล้ว ยังเป็นยาที่ใช้ควบคุมอาการงี่เง่าของสาวๆก่อนมีประจำเดือนด้วยไง) กว่าจะรู้ตัวว่าบ้าขึ้น พี่มันก็โดนน้องมัน(ภัทร)วีนไปหลายดอก ถ้าป้าหมอรู้ว่าแอบไม่กินยา คงจะโดนว่าจนหูชาแน่ๆ ส่วนตอนนี้กลับสู่สภาพปกติแล้วนะคะ เพื่อนๆพี่ๆน้องๆป้าๆน้าๆไม่ต้องกลัว ไม่ต้องเอาไม้เขี่ยเน้อ เพราะตอนนี้หายจากอาการบ้าแล้วจ้า แฮ่ๆๆ
Free TextEditor
Create Date : 28 กุมภาพันธ์ 2552 |
Last Update : 28 กุมภาพันธ์ 2552 0:52:19 น. |
|
36 comments
|
Counter : 1624 Pageviews. |
|
|