<<
พฤศจิกายน 2550
 
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
252627282930 
 
20 พฤศจิกายน 2550
 

จดหมายเปิดผนึกถึงพรรคแมลงสาบ


20 มิ.ย.2550

เรื่อง ถามหาความชอบธรรมของผู้ที่จะเป็นหัวหน้ารัฐบาลจากหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์

เรียน นายชวน หลีกภัย ประธานที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์

ด้วยปรากฏหลักฐานเป็นที่แน่ชัดว่า นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ในปัจจุบัน ได้เคยปรากฏพฤติการณ์หลีกเลี่ยงขัดขืน ไม่ไปแสดงตนเพื่อเข้ารับการตรวจเลือกทหารกองเกินเข้ากองประจำการ ตามที่แผนกสัสดี เขตพระโขนง กรุงเทพมหานคร กำหนด เมื่อวันที่ 7 เมษายน 2530

การกระทำและพฤติการณ์ของนายอภิสิทธิ์ในครั้งนั้นได้ปรากฏหลักฐานทางราชการที่เป็นบันทึกข้อความลับ ด่วนมาก ที่ กห.0421/54 ลงวันที่ 16 เมษายน พ.ศ.2542 เรื่อง การตรวจสอบเอกสารการบรรจุนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เข้ารับราชการทหารที่โรงเรียนนายร้อย จปร. ที่ลงนามโดย พล.อ.ชาญ บุญประเสริฐ เสนาธิการทหารบก ทำการแทนผู้บัญชาการทหารบกในขณะนั้น

การตรวจสอบเอกสารดังกล่าวนี้ ได้ปรากฏข้อมูลรายละเอียดของหลักฐานที่เกี่ยวข้องกับการบรรจุบุคคลพลเรือนเข้ารับราชการเป็นนายทหารสัญญาบัตรแล้ว ปรากฏว่า ไม่สามารถจะดำเนินการบรรจุ นายอภิสิทธิ์ให้เข้ารับราชการทหารได้ เนื่องจากขาดหลักฐานใบรับรองผลการตรวจเลือกฯ(สด43) ด้วยเหตุที่นายอภิสิทธิ์ไม่ได้เข้ารับการตรวจเลือกฯ ประกอบเป็นข้อมูลรายละเอียดดังต่อไปนี้

1) นายอภิสิทธิ์ เวชาชีวะ เกิดเมื่อวันที่ 3 สิงหาคม 2507 เลขประจำตัวบัตรประชาชน 3-1009-01830-69-4 เป็นบุตรนายอรรถสิทธิ์และนางสดใส เวชชาชีวะ ซึ่งได้ลงบัญชีทหารกองเกินตามมาตรา 18 แห่งพระราชบัญญัติรับราชการทหารพ.ศ.2497 เมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม 2529 ต่อมาในปี 2530 นายอภิสิทธิ์มีชื่ออยู่ในบัญชีที่พ้นจากฐานะการยกเว้นผ่อนผันไม่ต้องเข้ารับการตรวจเลือกเป็นทหาร แขวงคลองตัน เขตพระโขนง อยู่ในลำดับที่ 299 เลขที่ สด 43 ลำดับที่ 675


2) ต่อมาในปี 2531 ตามหลักฐานของกรมการกำลังสำรองทหารบก กลับไม่มีชื่อนายอภิสิทธิ์ปรากฏในบัญชีเรียกประจำปีนี้ และเมื่อตรวจสอบรายละเอียดตามข้อเท็จจริงก็ปรากฏว่า ในบัญชีเรียกเข้ารับการตรวจเลือก ตั้งแต่ปี 2532 จนถึงปี 2536 ปรากฏชื่อนายอภิสิทธิ์ อยู่ในบัญชีคนขาดเข้ารับการตรวจเลือก ประจำแขวงคลองตัน ในลำดับที่ 148 ลำดับที่ 417 ลำดับที่ 685และลำดับที่ 641 ตามลำดับ ในขณะเดียวกันกับที่ เมื่อปี พ.ศ.2530 นายอภิสิทธิ์ ได้รับหมายเรียก หลังจากที่ได้แสดงตนขอลงบัญชีทหารกองเกิน(เกินกำหนด) ณ สำนักงานเขตพระโขนง เมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม 2529 แต่ได้มีการขอใบแทนใบสำคัญฉบับนี้เมื่อวันที่ 8 เมษายน 2531 โดยนายอภิสิทธิ์ไม่ยอมเข้ารับการตรวจเลือกเกณฑ์ทหาร

3) จึงปรากฏพฤติการณ์เจตนาหลีกเลี่ยงขัดขืนการเข้ารับการตรวจเลือกฯของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ โดยอ้างเหตุผลว่า เป็นอาจารย์ประจำโรงเรียนนายร้อย จปร. ซึ่งปรากฏหลักฐานชัดเจนว่า ได้มีการทุจริต บกพร่องต่อหน้าที่ ในการดำเนินการบรรจุนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เข้ารับราชการทหารในครั้งนั้นกระทำกันอย่างเป็นทีม ซึ่งประกอบด้วยนายทหารบางนาย ซึ่งได้เกษียณอายุราชการไปแล้ว บางนายรับราชการนอกสังกัดกองทัพบก และบางนายเป็นนายทหารชั้นนายพล ซึ่งไม่สามารถรับโทษทัณฑ์ทางวินัยได้ จึงปรากฏเอกสารทางราชการให้มีผู้ต้องได้รับโทษทัณฑ์จากการกระทำทุจริตครั้งนี้ได้เพียงผู้เดียวคือ พ.อ.หญิงสายไสว มาสมบูรณ์ ตำแหน่งประจำกำลังพลทหาร กองทัพบก ขณะปฏิบัติหน้าที่เป็นหัวหน้าแผนก กองจัดการ กรมกำลังพลทหาร กองทัพบก

และปรากฏในเวลาต่อมาว่า ได้มีการดำเนินคดีอาญาต่อ พันตรีทองคำ เดชเร ในข้อหาละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ โดยสมคบกันออกเอกสารทางราชการอันเป็นเท็จเพื่อให้นายอภิสิทธิ์หลีกเลี่ยงการเข้ารับการตรวจเลือกฯด้วยการทำหลักฐานเท็จเพื่อบรรจุนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ซึ่งเป็นบุคคลที่มีลักษณะขัดต่อหลักเกณฑ์ของกองทัพบก ที่สามารถจะบรรจุเข้ารับราชการได้ เนื่องจากนายอภิสิทธิ์ ได้ผ่านการตรวจเลือกและไม่มีหลักฐานทางทหารนำมาส่งมอบ ประกอบเอกสารการบรรจุเข้ารับราชการทหารเพราะเป็นคนขาดการตรวจเลือกฯเมื่อวันที่ 7 เมษายน พ.ศ.2530 ถ้าหากจะดำเนินการบรรจุเข้ารับราชการต้องกระทำภายหลังจากที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ถูกส่งตัวดำเนินคดีตามพระราชบัญญัติรับราชการทหารพ.ศ.2497 มาตรา 27 และมาตรา 45 พร้อมกับส่งตัวเข้ากองประจำการจนครบกำหนดเสียก่อน

4) แต่ปรากฏว่า เจ้าหน้าที่กำลังพลของโรงเรียนนายร้อย จปร. กลับเพิกเฉย ไม่ปฏิบัติตามระเบียบของกองทัพบกที่ผู้บัญชาการทหารบกในขณะนั้น เป็นผู้อนุมัติระเบียบดังกล่าวนี้ จากเอกสารของทางราชการกองทัพบก ปรากฏว่า กรมสารบรรณ กองทัพบก ได้ทำการทักท้วงแล้ว แต่ผู้รับผิดชอบในเรื่องนี้ ขณะนั้นของโรงเรียนนายร้อย จปร. กลับไม่นำพา จึงเป็นความบกพร่องของเจ้าหน้าที่กำลังพลประกอบด้วย พ.อ.สมศักดิ์ พุ่มนิคม รอง ลก.บก.ทหารสูงสุด ขณะเป็นหก.กกพ.รร.จปร. ส่วนพล.อ.เผด็จ วัฒนะภูติ ขณะเป็นรองผบ.รร.จปร. ซึ่งรับผิดชอบงานด้านกำลังพล และพล.อ.นิยม ศันสนาคม ขณะเป็น ผบ.รร.จปร.ทั้งสองนายพลนี้ปัจจุบันเกษียณอายุราชการไปแล้ว จึงไม่สามารถตามไปเอาผิดทางวินัยได้ในปัจจุบัน

5) จากพฤติการณ์ตามข้อ1-4 ข้างต้นนี้ แสดงให้เห็นว่า การขอบรรจุ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เข้ารับราชการ ในตำแหน่งรักษาราชการ อาจารย์ส่วนการศึกษาโรงเรียนนายร้อย จปร. มีวัตถุประสงค์จงใจหลีกเลี่ยงความผิดที่จะเกิดขึ้นตามกฏหมายพระราชบัญญัติรับราชการทหาร พ.ศ.2497 มาตรา 45 ซึ่งมีบทบัญญัติพอสรุปได้ว่า บุคคลใดหลีกเลี่ยง หรือขัดขืน ไม่มาให้คณะกรรมการตรวจเลือกฯ ทำการตรวจเลือกเข้ารับราชการทหารตามหมายเรียกของอำเภอ หรือมาแต่ไม่เข้ารับการตรวจเลือกหรือไม่อยู่ จนกว่าการตรวจเลือกแล้วเสร็จ หรือหลีกเลี่ยง หรือขัดขืนด้วยประการใดก็ดี เพื่อจะไม่ให้เข้ารับราชการทหาร ตามพระราชบัญญัติฉบับนี้ ต้องระวางโทษไม่เกิน 3 ปี

6) ดังนั้นการที่ ว่าที่ ร.ต.อภิสิทธิ์ เมื่อได้รับคำสั่งบรรจุเป็นนายทหารสัญญาบัตรในตำแหน่ง รรก.อจ.สกศ.รร.จปร. แล้วเพียง 35 วัน ก็ได้แจ้งความจำนงว่า จะขอลาออกจากราชการ ดังนั้นโดยสามัญสำนึก จึงแปลเจตนารมณ์ไปได้ว่า ว่าที่ ร.ต.อภิสิทธิ์ ไม่มีเจตนาที่จะปฏิบัติหน้าที่ในขณะรับราชการ ดังปรากฏหลักฐานทางราชการว่า ว่าที่ ร.ต.อภิสิทธิ์ ได้ขอลากิจไปเยี่ยมญาติที่ประเทศอังกฤษ 2 ครั้ง ตั้งแต่วันที่ 22 สิงหาคม 2531 ถึง 30 กันยายน 2531 รวม 40 วัน และได้ขอลากิจอีกครั้งหนึ่ง ตั้งแต่วันที่ 4 ตุลาคม 2531 ถึงวันที่ 9 ธันวาคม 2531 รวม 67 วัน พฤติการณ์เยี่ยงนี้ แสดงให้เห็นว่า นายอภิสิทธิ์ไม่มีเจตนาที่จะเข้ารับราชการทหารอย่างแท้จริง การสมัครเข้ารับราชการทหาร จึงเป็นเพียงการหาเหตุผลที่จะแก้ปัญหาความผิดทางอาญาจากกรณีการขาดตรวจเลือกเข้าเป็นทหารกองประจำการเท่านั้น

7) การณีการบรรจุให้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นอาจารย์ประจำส่วนการศึกษาโรงเรียนนายร้อย จปร. จึงเป็นการบรรจุที่ขัดระเบียบของกองทัพบก ซึ่งอนุมัติโดยผู้บัญชาการทหารบก(พล.อ.อาทิตย์ กำลังเอก) ตามท้ายหนังสือที่ กห.0401/1916 ลงวันที่ 28 พฤศจิกายน 2528 ประกอบกับหนังสือกรมกำลังพลทหารบกที่
กพ.ทบ. 015/10006 ลงวันที่ 31 พฤษภาคม 2522 ทำให้เห็นได้อย่างชัดเจนว่า การบรรจุนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เข้ารับราชการทหาร เป็นการบรรจุผู้ไม่มีคุณสมบัติตามระเบียบกองทีพบกกำหนด

จากข้อเท็จจริง ที่รวบรวมจากเอกสารหลักฐานของทางราชการดังกล่าวทั้ง 7 ประการนี้ ทำให้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์คนปัจจุบัน เป็นบุคคลผู้จงใจหลีกเลี่ยง ขัดขืน ไม่ไปแสดงตนเพื่อเข้ารับการตรวจเลือกทหารกองเกินเข้ากองประจำการ แปลความง่าย ๆว่า "หนีการเกณฑ์ทหาร" ตามที่กฏหมายกำหนดให้ลูกผู้ชายไทยทุกคน ต้องเข้ารับการตรวจเลือกฯอย่างเสมอหน้ากันทุกคน นายอภิสิทธิ์จึงเป็นบุคคลที่มีพฤติการณ์หนีการเกณฑ์ทหารอย่างชัดแจ้ง จึงเป็นนักการเมืองประเภทโมฆะ บุรุษตามระบอบประชาธิปไตยในหลักสากลปฏิบัติ ทำให้ไม่สามารถที่จะเป็นผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองระดับผู้บริหารประเทศได้และยังเป็นบุคคลที่เห็นแก่ตัวอย่างน่ารังเกียจ เพราะคิดแต่จะเอาเปรียบผู้ชายไทยทั้งประเทศ โดยจงใจที่จะหลีกเลี่ยงกฎเกณฑ์และระเบียบของทางราชการ จนไม่สมควรที่จะไว้วางใจให้ทำกิจการใดๆ ของชาติบ้างเมืองอีกต่อไป

จดหมายเปิดผนึกฉบับนี้ ขอฝากคำถามถึงนายชวน หลีกภัย ที่เคยพร่ำพูดอยู่เสมอว่า จะยึดมั่นในหลักการความถูกต้อง และจะปฏิบัติตามระเบียบข้อบังคับและกฎหมายอย่างเคร่งครัด เมื่อนายอภิสิทธ์ หัวหน้าพรรคคนปัจจุบัน มีพฤติกรรมเยี่ยงที่กล่าวมานี้ จึงเป็นสิ่งที่นายชวนและชาวพรรคประชาธิปัตย์ทั้งมวล จะพิจารณาอย่างถ่องแท้ว่า นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ มีความชอบธรรมและมีความเหมาะสมที่จะเข้าไปดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีภายหลังการเลือกตั้งทั่วไปหรือไม่ ?เพราะเป็นหน้าที่ของสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ทุกคนที่จะต้องแก้ปัญหาส่วนตัวของหัวหน้าพรรคคนปัจจุบันด้วยกันเองเสียก่อน ดีกว่าที่จะปล่อยให้ข้อมูลเหล่านี้ กลายเป็นปัญหาติดตัวคนในพรรคประชาธิปัตย์ จนเป็นเหตุให้นักการเมืองฝ่ายค้านในอนาคตนำไปเป็นประเด็นเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจพรรคประชาธิปัตย์ หากได้เป็นรัฐบาลในเร็ววันนี้ตามความต้องการของประชาชน คมช.

นี่คือ คำถามที่นายอภิสิทธิ์ และคนในพรรคประชาธิปัตย์ทุกคนต้องตอบให้ประชาชนทราบอย่างตรงไปตรงมาโดยไม่เล่นลิ้น หรือให้ความกะล่อนปลิ้นปล้อนตลบตะแลงอีกต่อไป


จากกลุ่มนายทหารประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการ คมช.




 

Create Date : 20 พฤศจิกายน 2550
0 comments
Last Update : 20 พฤศจิกายน 2550 11:53:28 น.
Counter : 2594 Pageviews.

 

~ Passer By ~
 
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




[Add ~ Passer By ~'s blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com