พฤษภาคม 2556
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
16 พฤษภาคม 2556

แคชเมียร์ กว่าจะถึงสวรรค์ ตอน 2

ความเดิมจากตอนแรก หลังจากหนีร้อนเที่ยวขี่ม้า ปีนเขาหิมะที่ Sonamarg ค้างคืนหนึ่งคืน เช้าวันรุ่งขึ้นติดต่อหา taxi ลงมาที่เมืองหลวง Srinagar กันค่ะ ค่า taxi ขากลับ 2000 รูปี เท่ากับขาไป

ระหว่างทางก็เก็บภาพไปเรื่อยๆ

เจอน้องม้าขนฟางมาเต็มหลัง น่าเอ็นดู

ผ่านไปสองชั่วโมงกว่า เราก็เดินทางมาถึง Srinagar ก่อนจะหาที่พัก ขอแวะพาไปเที่ยว Mughal garden ซึ่งตั้งอยู่ริม Dal Lake ก่อนค่ะ ค่าเข้าชม 10 รูปี

ครั้งนี้เริ่มเข้าฤดูร้อน ดอกไม้เริ่มออกดอกแล้วค่ะ แต่โดยความคิดเห็นส่วนตัว สวนหลายๆแห่งในเมืองไทยของเรา สวยกว่านะคะ ความคิดเห็นส่วนตัวนะคะ ท่านที่เคยไปแล้วอาจจะค้าน อันนี้แล้วแต่มุมมองค่ะ ยิ่งในฤดูหนาว ยิ่งไม่มีอะไรใดๆ มีแค่ต้นชินาที่มีแต่กิ่งก้าน เดี๋ยวท้ายๆ รีวิวจะเอารูปตอนมาที่นี่ครั้งแรกมาให้ชมกันค่ะ เที่ยวทริปนี้กันต่อเลยค่ะ

ออกจาก Mughal garden เราก็นั่งรถเลียบ Dal lake มาย่านที่พักกันค่ะ ที่เมือง Srinagar มีทะเลสาปคือ Dal lake และ Nigeen lake ซึ่ง Dal lake จะเป็นทะเลสาปที่ใหญ่และมี House boat มากมาย ส่วน Nigeen lake จะเล็กและเงียบสงบกว่า

และพาหนะที่คู่กับ Dal lake ก็นี่เลยค่ะ Shikara

และกิจกรรมอันเป็นที่นิยม เรียกว่าถ้าไม่ได้ทำกิจกรรมนี้แล้วมาไม่ถึง Dal lake คือการนั่ง Shikara ชม Dal lake กันค่ะ อัตราค่าบริการ ครึ่งชั่วโมง 200 รูปี ถ้านั่ง 1 ชั่วโมง 300 รูปี

 

จขบ เหมาไป 2 ชั่วโมง ให้พาเข้าไปในหมู่บ้านชาวแคชเมียร์ใน Dal lake เลยค่ะ ขอนำเสนอวิถีชาวบ้านบ้างนะคะ

ชาวแคชเมียร์ ส่วนใหญ่ในฤดูร้อนจะปลูกผัก และ ทำงานบริการเกี่ยวกับการท่องเที่ยว ขายของที่ระลึกันบ้าง ส่วนในฤดูหนาว ใน Dal lake เป็นน้ำแข็งกันเลย ชาวแคชเมียร์ใน dal lake จะนั่งทำหัตถกรรม พวกทอผ้า หรือ เปเปอร์มาเช่ ประมาณนั้น ดูๆแล้วเป็นชีวิตที่เรียบง่ายดีจังค่ะ

ล่องทะเลสาปกันจนค่ำ ได้เวลากลับที่พักละค่ะ ปีนี้ จขบ. พักโรงแรมบนฝั่ง

ค่าห้องโรงแรมนี้ 3000 รูปี ข้อควรระวังสำหรับที่นี่คือ ราคาค่ะ ต่อรองกันให้ดีค่ะ ตอนแรกเปิดราคาห้องมา 5600 รูปี คุยไปคุยมาเหลือ 3000 รูปีซะงั้น แปลกดีค่ะ

ตกกลางคืนออกหาอะไรทาน หลังจากนั้นเวลาสำคัญค่ะ Shopping

นี่เลยค่ะ paper mache อันขึ้นชื่อของศรีนาการ์ ของน่ารัก ราคาน่าเอ็นดูค่ะ

ได้ช้อปสะใจ กลับมานอนพักผ่อน

เช้าวันที่ 30 เม.ย. 56 วันนี้ต้องเดินทางออกจากศรีนาการ์ตอนบ่ายสอง ดังนั้นตอนเช้ามีเวลาค่ะ ใช้เวลาให้คุ้มค่า เที่ยวชมในเมืองเล็กน้อย

ใช้บริการ taxi อีกเหมือนเดิมค่ะ เหมาให้พาชมเมือง แวะมัสยิด และส่งสนามบิน ทั้งหมดนี้ 1100 รูปี

jamia musjid เป็นมัสยิดที่อนุญาติให้เข้าชมค่ะ มัสยิดส่วนใหญ่ไม่อนุญาติให้นักท่องเที่ยวเข้าชม แต่ที่นี่ เข้าได้ แต่ต้องโพกผมด้วย ทางมัสยิดมีผ้าไว้บริการค่ะ

สถานที่จริงสวยงามยิ่งใหญ่ค่ะ

ย่านตลาดเมืองเก่า วุ่นวายตามสไตล์

และสุดท้ายเราก็ต้องอำลาแคชเมียร์ไปละค่ะ สำหรับการเดินทางกลับก็ไปต่อเครื่องที่เดลลีเหมือนเดิมค่ะ

ก่อนจบ ก่อนจากขอพาดพิงการเดินทางมาแคชเมียร์ครั้งแรกซักนิด

ครั้งแรกที่เดินทางมาแคชเมียร์ เมื่อ มีนาคม 2554  จขบ.พัก House Boat หรือบ้านเรือ เอ๊ะ เราจะเรียก เรือนแพ ก็คงไม่ผิดมั้งคะ อิอิ บ้านเรือที่พักมาจากนายหน้าค่ะ พอลงเครื่องที่สนามบินศรีนาการ์ปั๊บ ปรี่เข้ามา คุยๆกันไปมา ตามเค้าไปเฉยเลยค่ะ

ผู้ชายเสื้อสีส้มคือนายหน้าที่เจอกันที่สนามบินค่ะ ส่วนอีกคน คือเจ้าของบ้านเรือค่ะ อัธยาศัยดีใช้ได้ค่ะ

นี่แหละค่ะ บ้านเรือที่เราพักกันในครั้งแรก สภาพแวดล้อม อยู่ในย่านชุมชนเก่า บ้านเรือรอบๆค่อนข้างเก่าค่ะ แต่อาศัยที่เจ้าของบ้านเรืออัธยาศัยดี และภายในบ้านก็สะอาดเรียบร้อยดี ฉันเลยโอเค Smiley

บ้านเรือที่นี่เดิมเกิดขึ้นในช่วงศตวรรษที่ 19 ชาวอังกฤษที่มาอยู่ ไม่มีสิทธิ์ในการซื้อที่ดิน เลยสร้างบ้านเรือเพื่ออยู่อาศัย แต่ในปัจจุบันกลายเป็นสถานที่พักเป็นจุดขายของศรีนาการ์ไปแล้ว

เท่ห์มั้ยคะ Heater กลางบ้าน รุ่นนี้คงหายาก

สำหรับทริปครั้งแรก จขบ พักบ้านเรือทุกคืน เป็นเวลา 3 วัน 2 คืนค่ะ มีอาหารเช้า  อาหารเย็น พร้อมแพคเกจเที่ยว Gulmarg และ Pahalgam ทั้งหมดทั้งสิ้น 23,000 รูปีค่ะ ณ เวลานั้น ไม่ทราบเลยค่ะ ว่ามันแพงหรือว่าถูก เนื่องจากมาครั้งแรก มาถึงก็เจอนายหน้าลากมาเลยค่ะ คุยไปคุยมา ฉันเลยโอเค Smiley

เอาภาพที่ Pahalgam มาฝากค่ะ

Pahalgam ห่างจากศรีนาการ์ 96 km ใช้เวลาเดินทางด้วยรถยนต์ประมาณ 2 ชั่วโมง กิจกรรมหลักสำหรับนักท่องเที่ยว หนีไม่พ้น การขี่ม้าค่ะ

เพื่อขึ้นไปชมวิวแบบนี้

สำหรับ Pahalgam มีโรงแรมที่พักเยอะทีเดียวค่ะ

วันที่สองของทริปแรก เราไปกันที่ Gulmarg

Gulmarg เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงอีกแห่งของ kasmir เป็นจุดเล่นสกีที่มีชื่อเสียง ห่างจากศรีนาการ์ 52 km

เดือนมีนาคม 2554 ค่ะ หิมะยังแน่นอยู่ ร้านอาหารบนเขาไม่ค่อยเปิดบริการ หลายร้านหิมะท่วมค่ะ ตามทางเดิน ก็ต้องไถหิมะเป็นช่องให้เดินกันเลย

และการขึ้นไปบนยอดเขา มีเคเบิ้ลคาร์บริการค่ะ ที่นั่นเรียก Gondola

ระหว่างขึ้นเขา ด้านล่างเห็นบ้านชาวยิปซี ไม่มีคนอยู่ สภาพนี้คงอยู่ไม่ได้ พวกเขาจะย้ายกลับมาในฤดูร้อน เห็นแบบนี้ แอบคิดในใจ "ร้อนแบบบ้านเรายังดีกว่า"

Gondola มี 2 เฟส ส่วน จขบ ขอลงแค่ เฟส 1 ดูเค้าหัดเล่นสกีกันค่ะ

เฟส 2 ขึ้นไปนู่นค่ะ มีนักสกีเก่งๆ ขึ้นไปแล้วสกีลงมาจากยอดเขา เห็นแล้ว อึ้ง ทึ่ง เสียว

ภาพสุดท้ายสำหรับรีวิว แคชเมียร์ กว่าจะถึงสวรรค์ ฝากรูป Mughal garden แบบแล้งๆในปลายฤดูหนาว อย่างที่เคยบอกน่ะค่ะ จขบ ชอบสวนสวยๆ บ้านเรามากกว่า

ในที่สุด กับการเดินทางไปแคชเมียร์ 2 ครั้ง เก็บจนครบค่ะ สำหรับจุดท่องเที่ยว

สวรรค์บนดิน คงเป็นความสวยงามของภูมิประเทศ และ ความสงบของขุนเขาที่ซุกซ่อนอยู่ในโลกมนุษย์อันวุ่นวาย สุดท้ายแล้ว ความสงบในใจคงเป็นสวรรค์ที่ทุกๆคนคงไปถึงได้ จริงไหมคะ

อย่างไรก็ตาม ฝากไว้ให้ได้คิด "เมืองไทยเรานี้แสนดีหนักหนา ในน้ำมีปลา ในนามีข้าว" ถึงแม้จะร้อนไปมากก แต่ถ้าให้ไปมีชีวิตแบบฤดูหนาวติดลบ น้ำเป็นน้ำแข็ง ฮีทเตอร์รุ่นโบราณ จขบ. ขอนั่งตากพัดลมที่เมืองไทยดีกว่า Smiley

ขอบคุณที่อ่านกันมานะคะ หวังว่าจะเกิดประโยชน์ในการวางแผนการท่องเที่ยวของท่านอื่นๆ อย่างที่ จขบ. ไปอ่านจากบ้านอื่นๆมาจนไปถึงแดนสวรรค์แคชเมียร์ด้วยตัวเองในที่สุด

 




 

Create Date : 16 พฤษภาคม 2556
1 comments
Last Update : 17 พฤษภาคม 2556 15:35:23 น.
Counter : 1557 Pageviews.

 

สวยจริง ๆ ชอบมากค่ะ

นั่งเรือมีระบายฟองฟู่ หรูหรามากเลย

 

โดย: tuk-tuk@korat 20 พฤษภาคม 2556 16:36:06 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


papepo
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




New Comments
[Add papepo's blog to your web]