การเดินทางของเจ้าชายแห่งความฝันท่องสู่โลกวรรณกรรม

 
มิถุนายน 2550
 
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
 
4 มิถุนายน 2550
 

คิดนอกกล่องทำอย่างไร?

"ความคิดสร้างสรรค์ คือ การมองหาอะไรที่แตกต่าง ซึ่งโดยปกติแล้วมันจะมาจาก "มุมมอง" ที่แตกต่าง จากเดิม เป็นความสามารถในการมองเห็นสิ่งที่ผู้อื่นไม่เห็น หรือไม่ต้องการจะเห็น เป็นการมองหาแง่มุมอื่นๆ ต่อสิ่งหนึ่งสิ่งใด" นั่นคือมุมมองความคิดสร้างสรรค์ของ Arthur Gogatz

อาเธอร์ คือนักคิดผู้เชี่ยวชาญเรื่องการคิดอย่างสร้างสรรค์ ซึ่งทำหน้าที่เป็น ครีเอทิฟ ไดเรคเตอร์ ของเอเจนซี่ในมหานครนิวยอร์ก และฝรั่งเศส นอกจากนี้ อาเธอร์ยังได้ก่อตั้งบริษัทที่ปรึกษาด้านการคิดอย่างสร้างสรรค์ ผลิตตำรา และ มีคิวบรรยายด้านความคิดสร้างสรรค์ยาวเหยียด

ความคิดสร้างสรรค์ หรือการคิดนอกกล่อง อย่างที่ฝรั่งพูดกันว่า "think outside the box" นั้น คนทั่วๆไปก็คงอยากจะทำได้ เพราะว่าฟังดูแล้วมันโก้ดี แล้วมันมีประโยชน์อย่างไร? ทำไมเราจึงควรคิดนอกกล่อง?

นั่นก็เป็นเพราะว่าการที่เราคิดนอกกล่องนั้น จะช่วยส่งเสริมให้เกิดสิ่งใหม่ๆขึ้นได้ ถ้าเราทุกคนคิดเหมือนๆกันหมด หรือคิดอย่างเดิมๆ อยู่ตลอดเวลา ไม่มีใครคิดอะไรที่ต่างออกไป โลกคงจะจืดชืดน่าดู มีแต่ความจำเจ น่าเบื่อหน่าย แล้วถ้าอย่างนั้นเราควรทำยังไงหล่ะ?

การจะมองมุมมองที่แตกต่างออกไปจากที่เราเคยมองนั้น อาจจะต้องอาศัยการเปลี่ยนวิธีคิดเล็กน้อย เพราะถ้าเรายังคิดแบบเดิมอยู่ เราก็จะมองมุมเดิมๆต่อไป ซึ่งโดยปกติแล้ว คนส่วนมากไม่คิดอย่างสร้างสรรค์ก็เพราะว่าถูกกฏเกณฑ์ ระเบียบ ข้อบังคับต่างๆ ตีกรอบทางความคิดเอาไว้ ทำให้ไม่สามารถคิดอย่างแตกต่างได้ ซึ่งเหล่านี้เป็นอุปสรรคสำคัญที่จะเกิดผลกระทบทางความคิด เพราะถ้าเราถูกบังคับให้อยู่ในกรอบ คงไม่สามารถคิดนอกกรอบได้

ถ้าเป็นเช่นนั้นแล้ว สิ่งแรกที่เราควรจะต้องทำนั่นก็คือ ลืมกฏเกณฑ์ต่างๆ ออกไปให้หมด ซึ่งเหล่านั้นเป็นอุปสรรคทางความคิดอย่างแท้จริง และควรให้ความสำคัญกับทุกๆความคิดที่ผ่านเข้ามาในหัว เพราะความคิดดีๆ มักจะเหมือนโจรมาแว๊บเดียว เดี๋ยวก็ไปแล้ว เพราะฉะนั้นเราควรใส่ใจความคิดที่แว่บเข้ามาในหัวให้ดี

โดยส่วนมากที่ความแตกต่างทางความคิดไม่เกิดนั้นก็เพราะว่า คนส่วนใหญ่กลัวที่จะแสดงความคิดที่คิดเห็นอย่างแตกต่างนั้นออกไป กลัวว่าคนจะหาว่าบ้า หรือคิดอะไรโง่ๆ แต่ในความเป็นจริงแล้ว นั่นอาจจะเป็นการเสนอทางเลือกที่ดีอย่างคาดไม่ถึงก็ได้ เช่น ความคิดแปลกๆของเราที่บางคนฟังแล้วอาจจะขำ แต่อาจจะไปต่อยอดความคิดให้อีกคนหนึ่งเกิดการตกผลึกทางความคิดออกมาในเชิงสร้างสรรค์ และฉีกหนีออกจากกล่องไปได้อย่างไม่น่าเชื่อ ซึ่งบ่อยครั้งที่มันมักจะเป็นเช่นนี้

เพราะฉะนั้นแล้วเราไม่ควรจะกลัวที่จะแสดงความคิดเห็นที่แตกต่างออกมา เพราะว่าจริงๆแล้ว มันไม่มีอะไรที่ผิด เพียงแต่ว่าอาจจะไม่เหมาะกับช่วงเวลานั้นๆ เท่านั้นเอง ซึ่งการที่เราเก็บกดความคิดเชิงสร้างสรรค์ของเราเอาไว้นั้นย่อมทำให้เรายึดติดอยู่กับสิ่งต่างๆ โดยไม่รู้ตัว ซึ่งเหล่านี้ระบบร่างกายจะเรียนรู้ผ่านจิตใต้สำนึก เก็บกักลงไปในความทรงจำของเรา ทำให้คิดอย่างซ้ำๆเดิมๆเสมอๆ โดยไม่รู้ตัว

สามารถสังเกตได้อย่างชัดเจนว่าเด็กจะมีความคิดสร้างสรรค์ดีกว่าผู้ใหญ่หลายเท่านัก เนื่องจากการคิดอย่างไม่ถูกครอบงำทางความคิด คิดอย่างอิสระเสรี ผู้ใหญ่โดยส่วนมากมักจะถูกตีกรอบโดยข้อมูล ข่าวสาร ความรู้ที่รับมา ส่งผลให้เกิดการตัดสินใจถึงความเป็นไปไม่ได้ขึ้นมา ซึ่งต่างจากเด็กที่อิสระทางความคิด ไม่ยึดติดถึงความเป็นไปได้ ทำให้เกิดไอเดียใหม่ๆขึ้นอยู่เสมอ

เพราะฉะนั้นจงคิดแบบเด็ก สนใจต่อทุกสิ่งรอบๆตัว ตั้งคำถามกับทุกๆสิ่ง อย่างใส่ใจในรายละเอียด โดยไม่สนใจถึงความเป็นไปไม่ได้ เพราะเมื่อเราโตเป็นผู้ใหญ่มักจะสนใจแต่ว่าสิ่งต่างๆนั้นเกิดขึ้นมาได้อย่างไร เมื่อรู้แล้วก็จะหมดข้อสงสัย ต่างจากเด็กซึ่งมักจะมีคำถามตามมาเสมอๆว่า ทำไมอย่างนู้น ทำไมอย่างนี้ ทำไม ทำไม ทำไม ซึ่งเป็นคำถามสำคัญที่ก่อให้เกิดความเปลี่ยนแปลงในเชิงสร้างสรรค์

ทำไมต้องอย่างนี้? อย่างนี้ไม่ได้หรอ? ทำอย่างนั้นได้มั้ย? ทำอย่างนี้ไม่ดีกว่าหรอ? คำถามว่าทำไม จะช่วยให้เกิดทางเลือกในความคิด และนำไปสู่การปฏิบัติที่หลากหลาย โดยเฉพาะความคิดที่ว่าเป็นไปไม่ได้นั้นจะเป็นกำแพงอุปสรรคทางความคิดอย่างร้ายกาจ เพราะว่าถ้าเรามัวแต่คิดถึงความเป็นไปได้แล้ว อะไรก็คงยากที่จะเป็นไปได้ ถ้าลืม"ความเป็นไปไม่ได้"ไปซะ ความคิดสร้างสรรค์ก็จะเกิด เพราะทุกๆสิ่งนั้น เป็นไปได้จริงๆ และอะไรที่เคยเป็นไปไม่ได้มาก่อน แต่ตอนนี้ก็เป็นไปแล้ว ก็มีตั้งแยะแยะ เพราะฉะนั้น ถ้าจะคิดนอกกล่อง ก็จงลืมความเป็นไปไม่ได้ไปซะ จำไว้แค่ว่า "ในพจนานุกรมของชั้น ไม่มีคำว่าเป็นไปไม่ได้"

หากเราใส่ใจกับความคิดในเชิงสร้างสรรค์ของตัวเองมากกว่านี้ ก็จะทำให้เกิดทางเลือกใหม่ๆขึ้นมากมายในใจของเรา ช่วยให้สามารถแก้ปัญหาต่างๆได้อย่างหลากหลายจากเชิงกระบวนการสร้างสรรค์ทางความคิด นำไปสู่การปฏิบัติอย่างสร้างสรรค์ ที่ให้ผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพสูง ซึ่งสิ่งเหล่านี้คือสิ่งที่ผลักดันให้โลกของเราก้าวไปข้างหน้าอย่างไม่หยุดยั้ง เป็นเหตุให้กำเนิดนวัตกรรมใหม่ๆ ครั้งแล้วครั้งเล่า และสิ่งนั้นก็คือ จินตนาการนั่นเอง

"จงอย่ากลัวที่จะคิดนอกกรอบ จงกล้าที่จะแตกต่าง เพราะไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้"

"Dare to be different"

"Impossible is nothing"

"Think outside the box"




 

Create Date : 04 มิถุนายน 2550
3 comments
Last Update : 6 กรกฎาคม 2550 2:33:06 น.
Counter : 2973 Pageviews.

 
 
 
 
ชอบจังเลยค่ะ อ่านแล้วนำไปพัฒนาตัวเองได้

ขอบคุณสำหรับบทความดี ๆ นะค่ะ
 
 

โดย: แค่ความทรงจำ (แค่ความทรงจำ ) วันที่: 4 มิถุนายน 2550 เวลา:12:27:06 น.  

 
 
 
นำภาพประกอบมาให้ครับ
คิดนอกกรอบ



 
 

โดย: Yoawarat วันที่: 4 มิถุนายน 2550 เวลา:16:57:54 น.  

 
 
 
อ่า .. พออ่านบทความนี้ แล้วทำให้นึกถึงเพื่อนๆที่มีความคิดสร้างสรรค์สูง (ถึงขั้นที่เรียกว่า ติสท์แตก ก็ได้) ..

พวกเค้าเหล่านี้ มักจะมีคำถาม หรือมุมมอง อะไรทีคนทั่วไปไม่สงสัยกันได้ตลอดเวลา ..

จะถามว่า ทำไมไม่อย่างนู้น ทำไมถึงเป็นแบบนี้ ทำไมเราไม่ลองทำแบบนั้นดู .. บลา ๆๆ เป็นบุคคลประเภทปุจฉาลักษณ์มากกกก
แล้วเค้าก็จะสามารถผุดไอเดียสร้างสรรค์ ที่แผลงๆ หรือ บางทีก็มีประโยชน์ได้เรื่อยๆ ..

เหมือนที่คุณเจ้าของบล็อคบอกเลยค่ะ .. เรื่องเด็กๆตั้งคำถามกับทุกสิ่ง ใส่ใจในสิ่งต่างๆ รอบตัว จึงมักมีความคิดสร้างสรรค์มากกว่าผู้ใหญ่..

.
.

เพื่อนๆ เฟิร์นบางคนที่ชอบถ่ายรูป ก็มาปรึกษาว่า .. ทำอย่างไร ที่จะได้มีมุมมองในการถ่ายภาพใหม่ๆ .. เฟิร์นก็บอกว่า .. "ก็เปลี่ยนความคิด หรือ เปลี่ยนทัศนคติสิ" เพราะเฟิร์นเคยลองทำแล้วมันได้ผล .. ทุกครั้งที่หลุดจากแนวความคิดเดิมๆ ตัวตนเดิมๆ มันมักได้มุมมองและรู้คุณค่าของชีวิตที่เพิ่มขึ้น ดังนั้น วิธีการถ่ายทอดมุมมองมันก็จะแตกต่างจากเดิมไปด้วย ..

ถึงแม้ที่กล่าวไป ฝีมือถ่ายภาพของเฟิร์นก็ยังจัดว่าธรรมดา .. แต่วิธีนี้ เฟิร์นรู้สึกว่า มันสามารถนำมาประยุกต์ใช้กับการดำเนินชีวิตได้ดี เฟิร์นก็เลยทำมาตลอดค่ะ ..

ขอบคุณเจ้าของบล็อคที่แบ่งปันเนื้อหาและแนวคิดดีๆ ใ้ห้นะคะ
 
 

โดย: Fernny วันที่: 14 สิงหาคม 2550 เวลา:7:00:27 น.  

Name
Opinion
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก

Green Tea Lover
 
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




เคยสงสัยมั้ยว่า เราเกิดมาทำอะไร? เกิดมาทำไม? อยู่ทำไม? เพื่ออะไร? ความสงสัยนี้ไม่ได้ติดตัวมาเมื่อตอนเกิด แต่เพิ่งกำเนิด เมื่อถลำลึกเข้าไปในโลกวรรณกรรม ยิ่งอ่านยิ่งรู้ แต่ยิ่งรู้ก็ยิ่งสงสัย รู้มาก ก็มีให้สงสัยเยอะ พอหาคำตอบไม่ได้ก็หาทางระบายออกโดยการสร้างสรรค์ความใคร่สงสัยขึ้นจากจินตนาการและการสั่งสม แต่กระนั้นก็ยิ่งสงสัย และเมื่อเดินทางมาถึงจุดๆหนึ่ง เราก็ค้นพบคำตอบบางอย่างของคำถาม และนั่นก็คือเราเกิดมาเพื่อ.....
[Add Green Tea Lover's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com