"ขุนเขา....เห็ดโคน"
เดือนนี้เป็นช่วงที่ชาวบ้านไม่ได้ทำงานทำการอะไรเท่าไร นัก...สำหรับคนเมืองกาญจน์ทิ้ง ไร่ทิ้งสวนเข้าป่าหาเห็ดโคน....เป็นอาหารป่าที่เขาร่ำลือกันนักหนาว่าสุดยอดแห่งความ อร่อยครับ...ราคาสูงกิโลกรัมละ 300-500 บาท โอ เวรกรรม...ทิ้งไร่ทิ้งสวนกันเลย เพื่อนๆที่อยู่บ้านใกล้ๆกันชวนผมเหมือนกัน....ขึ้นเขากันเถ้อะ หาเห็ดโคน....ผมไม่ไหว ครับ...อากาศก็หนาว เขาไปหากันตอนกลางคืน เพราะว่าส่องไฟแล้วเห็ดจะสะท้อนแสง ทำให้หาง่ายกว่ากลางวัน....ไปกันเถอะครับพ่อ ผมรอขอดอกเดียวครับ
เขาเชิญชวนเข้าป่าไปหาเห็ด ฉันว่าเป็ดไก่หมูดูดีกว่า ยามดึกดื่น ไปส่องไฟ อยู่ท้ายนา ลุงป้าอา คะเย้ายวน มาชวนเรา
เดินข้ามโคกโยกเอาไม้เท้าค้ำ กันคะมำยามเหินขึ้นเนินเขา ผ่านไพรพงโหย่งย่างเหมือนค้างคาว สู่ลำเนาเขาป่าหาเห็ดโคน
ฉันก็พอกินได้ใช่ว่าชอบ กระสือปอบ โป่งกะหลั่ว หลอกหัวโกร๋น ไปสืบเลาะเสาะหาตามป่าโยน เดี๋ยวคว้าค้นคลำมั่วหัวจงอาง
สี่ห้าร้อย ต่อกิโล โอ..น่าเกลียด กินกบเขียดกุ๊ดจี่ดีกว่ามั้ง กินลาบหมูไก่ย่างอยู่ข้างทาง ไม่กี่ตังค์เงินเหลือเผื่อส้มตำ
สี่ห้าร้อยรู้จักชิมก็อิ่มหมี อาหารดีมากมายให้น่าหม่ำ ปลากะพงแกงส้มหรือต้มยำ กินกระหน่ำชามเกลี้ยงไม่เสี่ยงตาย
ก็เห็ดโคนสูงค่าราคาโหด จ่ายเงินหมด มิสมค่า ราคาไม่ ใครที่ชอบอยากกินก็กินไป ถ้าเปลี่ยนใจกินแบบฉันทุกท่านเชิญ
ระยะนี้ไม่ค่อยมีคนทำงานไร่ ทั้งนายจ้างทั้งลูกจ้างต่างยกโขยงกันไปหาเห็ดโคน ส่วนผม รอชิมอยู่ที่บ้าน...ทำเมนูไรมาก็ชิมได้ แต่ถ้าให้ชอบ ก็ต้อง หมู เป็ด ไก่ ครับพี่น้อง
"ก่อนจบก็ไม่ลืมขอบคุณครับ" ***เพื่อนๆชาวบล็อกแก้งค์ที่เคารพทุกท่านที่เป็นเพื่อน..เป็นพี่ เป็นลูกหลาน เหลือเชื่อ...ชาวบล็อกแก้งค์นี่ล้วนน่ารักจริงๆครับ***แวะมาทักกันอยู่เสมอๆ ***ภาพจากอินเตอร์เนตบ้าง ถ่ายเองด้วย...พักนี้ไม่ค่อยได้ไปในที่จริงเลยครับ
และนี่...คือ โพสการ์ด จากคุณอุ้มสี ผู้น่ารัก ครับ....เธอเป็นคนใจบุญครับ ทีมงาน ตัว "อ" ของเธอ น่ารักทุกคนครับ
เมนูเห็ดโคน
รสชาติแสนอร่อยของเห็ดโคนที่หลายคนติดใจนั้น ถูกนำมาทำเป็นเมนูได้หลากหลาย ตั้งแต่ยำเห็ดโคน ย่างเกลือ หรือจะทำเป็นแกงเห็ดโคนก็อร่อยไม่แพ้กัน บ้างก็ว่าเนื้อของเห็ดโคนเหมือนกับเนื้อไก่ ฉ่ำน้ำ หวานลิ้น และนอกจากจะอร่อยแล้วเขาว่าเห็ดโคน ก็ยังมีประโยชน์ต่อร่างกาย มีวิตามินบี 1 บี 2 และวิตามินซี อีกทั้งยังใช้เป็นยาบำรุงกำลัง ช่วยย่อยอาหาร หากกินเป็นประจำจะช่วยป้องกันโรคเบาหวานได้
ลุงบูลย์บอกว่า...สุกรมัทวะ เรียกอีกอย่่างหนึ่งว่า "เห็ดหมู" มีอยู่ใต้ดินไม่มีใครเห็น แต่หมูหรือสุกรจะรู้ จะไปขุดขึ้นมา ว่ากันว่าเป็นของหายากดีเลิศมาก นายจุนทะจึงคิดว่าเป็นของดี รู้ว่าพระพุทธเจ้าจะเสด็จมาทางนั้น จึงเตรียมเห็ดไว้ทำอาหารถวาย แต่เก็บไว้เกินอายุเห็ดจึงเป็นพิษ มีพระสงฆ์ไทยที่มาจากอินเดีย จบปริญญาโทจากนาลันทาเล่าให้ฟังตอนลุงเรียนวิชาพุทธที่วิทยาลัยครูภูเก็ต....งั้นต้องระวังให้ดี ก่อนลงมือปรุงเห็ด ต้องมั่นใจว่า รับประทานได้แน่ๆ ทั้งอร่อยและมีประโยชน์อย่างนี้ ใครที่ชอบก็คงต้องเสาะหาเห็ดโคนมาลองลิ้มชิมรสกันดูหน่อยแล้วละครับ
Create Date : 10 พฤศจิกายน 2553 |
Last Update : 16 พฤศจิกายน 2553 1:54:09 น. |
|
210 comments
|
Counter : 7032 Pageviews. |
|
|
ภาพประกอบที่ 2 น่ากลัวนะค่า
ราตรีสวัสดิ์ ค่า คุณพันวัตต์