ผมว่าวัตถุนิยมกำลังรุกเข้าไปในสังคมอย่างรุนแรงนะครับเวลานี้คนเราจึงมุงที่จะหาความสุขแก่ตนเองกันเป็นส่วนมากจนเป็นที่งมงายกันไปยกใหญ่...หลังจากที่ได้นอนพักเล่นที่บ้านมา 2 วัน วันนี้เป็นวันที่ 3 ของวันหยุด ฝนตกปรอยๆไม่รู้จะไปไหนดี นั่งนึกๆ ก็นึกถึงวัดวัดหนึ่งที่ฝังท่าฉลอมครับ... วัดบางหญ้าแพรก เคยไปมาเมื่อ 2 ปีก่อน วัดนี้ตั้งอยู่ที่ บ้านหัวโพง ตำบลบางหญ้าแพรก อำเภอเมืองสมุทรสาคร ผมผ่านไปผ่านมาอยู่หลายครั้งแต่ไม่ได้แวะเพราะเห็นผู้คนพลุกพล่านอยู่เป็นประจำ...วันนี้จึงตั้งใจไปดูว่าที่วัดนี้เขามีกิจกรรมอะไรกัน
อุโบสถที่ใหญ่โตมโหฬารนั้นคงไม่ต้องกล่าวถึงกันมาก เพราะมีแทบทุกวัด แต่ที่น่าสนใจมากกว่าพระอุโบสถ ก็น่าจะเป็นพระประธานในอุโบสถนั้นมากกว่า...ถามๆคนที่ขวักไขว่ในวัด เขาบอกว่า เราต้องไปกราบ หลวงพ่อใหญ่ ซึ่งประดิษฐานอยู่ภายในอุโบสถหลังเก่า โบสถ์มหาอุตม์ ไปครับไปชมกัน
เข้าไปในนั้น กลับกลายเป็นสถานที่เสี่ยงโชคขอเลขเด็ดครับ เห็นมีกระจายอยู่ทั่วไป ในนั้นมี "เจ้าแม่ตะเคียนทอง"นั่งเรียงรายประจำเสาอุโบสถครับแต่ละเสาเจ้าแม่ก็มีชื่อต่างๆกันไปครับ...เขาว่ากันว่าเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่วัดบางหญ้าแพรกเลยละครับ ตรงกลางมีแท่นที่ประดิษฐาน หลวงพ่อใหญ่ ซึ่งก็เป็นพระพุทธรูปเก่าแก่ประมาณไม่น้อยกว่า 200 ปี...ผมนั้นสนใจหลวงพ่อใหญ่ครับ แต่เห็นผู้คนที่เข้ามาในพระอุโบสถ ส่วนใหญ่จะไปกราบไหว้เจ้าแม่ตะเคียนเพื่อขอเลขเด็ดซึ่งเขาว่ากันว่าเจ๋งเป็งมาก
จนกลายเป็นข่าวที่บอกต่อและสร้างความฮือฮาให้กับนักเสี่ยงโชคหลายงวดติดๆ มาแล้ว
ความแปลกประหลาดอีกประการของเจ้าแม่ตะเคียนทองนี่ก็คือ วันดีคืนดีก็จะมีน้ำมันตกออกมาให้เห็น "เสาไม้เก่าแก่อายุนับ200 กว่าปี" ชาวบ้านขนานนามเรียกว่า "เจ้าแม่ตะเคียนทองตกน้ำมัน" ชาวบ้านในละแวกนี้ ให้ความศรัทธาเป็นอย่างมาก!...เห็นไหมครับนั่นมีผู้นำชุดไทยสวยๆ มาแก้บน แขวนไว้กระจายอยู่ทั่วบริเวณ ซึ่งบางชุดมีราคาแพงมากครับ
เดินชมภายนอก "อุโบสถมหาอุตม์" นี้บ้างครับ...ภายนอกก็มีเรื่องประหลาดหลายๆอย่างที่เอื้ออำนวยต่อการขอหวยขอโชคทุกจัดครับ เช่นตรงหน้ารูปปั้นชูชก...ด้านหนังเป็นรูปปั้นหัวของฤๅษีชีพราหมณ์ อีกด้านนึงถัดไปก็เป็นเทวรูป ด้านบนก็เป็นพระราหูในท่าทางอมจันทร์ เหมือนจะบอกใบ้เป็นนัยๆว่า แทงมากๆ เจ้ามือกินเรียบ แต่พุทธศาสนิกชนก็ไม่เข้าใจกัน
สำหรับท่าน "พระครูอุทัยธรรมสาคร" หรือ หลวงพ่อมาลัย อุทโย เจ้าคณะตำบลท่าฉลอม เจ้าอาวาสวัดบางหญ้าแพรก ซึ่งผมเคยได้พูดคุยกับท่านท่านก็ว่า คนเราไม่ว่าจะกราบไหว้อะไรแล้วแต่ "ขอให้ทำดีไม่ทำความชั่ว"และควรทำตัวให้บริสุทธิ์ในศีลธรรม
แต่ท่านคงอยู่ในร่มผ้ากาสาวพัตร์มานาน รับใช้องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้ามานานคงไม่ทราบหรอกว่า คนเราสมัยนี้ ทางโลกสมัยนี้...ไหว้แต่สิ่งไรสาระเป็นหลัก เอาสิ่งไร้สาระมาเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจไปแล้ว เขาก็ปฏิบัติตามป้ายที่เขียนไว้นั่นแหละครับ
.
"ไปไหว้พระพุทธรูปกันครับ"
.
คนเราทุก วันนี้ ขาดที่ยึด
จึงตะพึด ตะพือ นับถือผี
จนหลงเพลิน เดินห่าง ทางที่ดี
จึงได้มี วิบากกรรม กระหน่ำเนือง
.
มิคิดหมาย ไหว้พระสงฆ์ องคะเจ้า
ถวายข้าว ของปัจจัย ไม่เอาเรื่อง
หลงค็อกเทล ตระเวนเหลา เย้ายวนเมือง
หมดสิ้นเปลือง ทรัพย์สิน สิ้นเนื้อตัว
.
หลงระเริง แสงไฟ ตามใจคึก
สนุกนึก ท้องไส้ ไม่มีผัว
จึงคลอดลูก ทิ้งกำแพง แล้วแฝงตัว
ไปทำชั่ว สุขใจ ในสังคม
.
หมดสิ้นเนื้อ ประดาตัว มัวหมองค่า
ก็เข้าวัด เข้าวา ธรรมมาข่ม
มาเห็นกัน มันก็สาย ใจระบม
เพราะทุกข์ตรม ฝังราก แก้ยากจัง
สวัสดีครับเพื่อนที่รักทุกท่าน
สวัสดีครับ
"คิดถึงเพื่อนที่รักทุกท่านครับ"
สุดท้าย...ขอขอบพระคุณ
***ทุกๆความรักที่มอบให้แก่กัน
*** คุณปานตะวัน (Pantawan) แนะนำวิธิแก้ไขและวางโค้ตเพลง
***เพื่อนชาวบล็อกแก้งค์ทุกๆท่าน ที่แวะมาเยี่ยมชม
*** เพลง "ชั่วเจ็ดที ดีเจ็ดหน" เพลง มีความหมายดี
ศิลปิน" สดใส รุ่งโพธิ์ทอง"
และ ทุกๆความสุขที่จะได้รับ ในปี 2555
ฟัง : วิทยุออนไลน์ 95 เอฟเอ็ม...radio.konseo.com
ฟัง : คลื่นประชาชน คนนำปัญญา
*** "บล็อกก่อน"
"อยากขอบคุณฟ้า...ให้เรามาเป็นลูกแม่.....ไปเที่ยววัดใหญ่บ้านบ่อกัน"
"ชั่วเจ็ดที ดีเจ็ดหน"