อยู่ดีๆ เพื่อนก็โทรมาชวนไปทำบุญไหว้เจ้าที่ครับ เขาจะดำเนินการก่อสร้างอาคารใหม่ขึ้นบนที่ดิน ปัญหามันก็คือ มันมีต้นโพธิ์ใหญ่ อยู่ 4 ต้น กับศาลพระภูมิ เก่าอีก 1 ศาล มีความจำเป็นที่จะต้องรื้อขุดขนย้าย เพราะเขาเป็นคนที่มีความเชื่อเรื่องนี้อยู่ไม่น้อย จึงได้นิมนต์พระมา 9 รูป กับอาจารย์ทางไสยศาสตร์มาดำเนินการ ผมก็มีโอกาสไปร่วมงานนั้นด้วย...พิธีการโดยทั่วไปก็ไม่มีอะไรมากครับ ก็เป็นการทำบุญโดยทั่วไปครับ บูชาพระพุทธ พระธรรม พระสงค์ ตามพิธีการทำบุญทั่วๆไป แต่ที่พิเศษก็คือ การอัญเชิญ รุกขเทวดาที่สถิตอยู่ที่ต้นไม้ ผมไม่เคยเห็นพิธีแบบนี้ ก็มีความสงสัยอยู่หลายเรื่องเหมือนกัน ในระหว่างที่พระท่านฉันท์ภัตตาหาร ผมก็มีโอกาสได้คุยกับคุณลุงอาจารย์หมอ
ผม: คุณลุงครับ รุกขเทวดาท่านอยู่ตรงส่วนไหนของต้นโพธิ์ครับ ผมสงสัยจึงลองถามดู
คุณลุงหมอ: บนยอดของต้นไม้ใหญ่ เป็น วิมาน ของ รุกขเทวดา ซึ่งจะอยู่เป็นครอบครัวเลยนะ คุณลุงอาจารย์หมอเห็นผมสนใจจริงจึงมีคำตอบให้
ผม: แล้วในเมื่อท่านเป็นเทวดา ทำไมจึงไม่สถิตย์ ชั้นฟ้าชั้นวิมานละครับลุง ผมยิงคำถามต่อ
คุณลุงหมอ: ก็เพราะว่า รุกขเทวดา เป็นเพียงเทวดาชั้นต่ำเท่านั้น ไม่สามารถอยู่บนสรวงสวรรค์ได้นะสิ เป็นเทวดา มันก็เหมือนกับคนเรานี่แหละ ทำบุญมากก็ได้บุญมาก ทำน้อยก็ได้น้อยลดหลั่นกันไป ส่วนที่ไม่ทำบุญไม่ทำบาปเลย ก็จะเป็นพวกเร่ร่อน โอปปาติกะ ไงล่ะ คุณลุงอธิบายด้วยความตั้งใจ
ผม: ลุงครับ แล้วในต้นไม้ใหญ่ๆอย่างนี้ จะมีรุกขเทวดาอยู่กันกี่ครอบครัวครับ ผมเลยป้อนคำถามต่อ
คุณลุงหมอ: ครอบครัวเดียวแหละ แต่จะมี คันธัพพเทวดา สถิตอยู่ด้วยนะ...เคยได้ยินไหม?
ผม: ไม่เคยครับลุง
คุณลุงหมอ: คันธัพพเทวดา คันธัพพี คันธัพโพ ก็คือ เทวดาคันธัพพะ ที่ถือกำเนิดภายใน ตาไม้ ต้นไม้ที่มีกลิ่นหอม บางทีก็ เรียกกันว่า "นางไม้" หรือ "แม่ย่านาง" บ้าง ชอบรบกวนให้เกิดอุปสรรคต่าง ๆ เช่น ให้ เกิดเจ็บป่วย หรือทำอันตรายแก่ทรัพย์สมบัติที่นำไม้นั้นมาใช้สอย หรือนำมาปลูกบ้านเรือน คันธัพพเทวดานี้ สิงอยู่ในต้นไม้นั้นตลอดไป แม้ว่าใครจะตัดฟันไป ทำเรือ แพ บ้าน เรือน หรือเครื่องใช้สอยอย่างใดอย่างหนึ่ง ก็คงสิงอยู่ในไม้นั้น คุณลุงท่านร่ายยาวเลย
ผม: ลุงครับแล้วท่านรุกขเทวดาละครับ ท่านจะไปกับต้นโพธิ์ต้นนี้ไหมครับ? ผมถามต่อ
คุณลุงหมอ: โดยตามหลักแล้ว "รุกขเทวดา" ที่อาศัยอยู่ตามต้นไม้ ถ้าต้นไม้นั้นตายหรือถูกตัดฟัน ก็ย้ายจากต้นไม้นั้นไปต้นไม้อื่น แต่นี่เป็นการย้ายต้นไม้ไปปลูกที่วัด เดี๋ยวลุงจะลองถามดูว่าไปหรือปล่าวนะ
ผม: อั๊ยยะ!! ผมนึกเอาในใจ
คุณลุงหมอ: ไปๆพระท่านฉันท์เสร็จแล้ว ไปกรวดน้ำกัน คุณลุงอาจารย์หมอ ชวนผมไปกรวดน้ำการกรวดน้ำ เราจะเริ่มต้นตอนที่พระท่าน สัพพี นะ แล้วต้องท่องคำบาลีด้วย ถ้าท่องไม่เป็น ให้ว่าตามลุงนะ คุณลุงอาจารย์หมอบอก พอพระท่าเริ่ม สัพพี คุณลุงก็เริ่มท่องคำบาลีทันทีครับ
"อิทํเม มาตาปิตุนํ โหตุ สุขิตาโหนฺตุ มาตาปิตโร อิทํเม ญาตีนํ โหตุ สุขิตาโหนฺตุ ญาตโย อิทํเม คุรูปัชฺฌายา จริยานํ โหนฺตุ คุรูปัชฺฌายา จริยา อิทํ สัพฺพ เทวตานํ โหตุ สุขิตา โหนฺตุ สัพฺเพ เทวา อิทํ สัพฺพะ เปตานํ โหตุ สุขิตา โหนฺตุ สัพฺเพ เปตา อิทํ สัพฺพะ เวรีนํ โหตุ สุขิตา โหนฺตุ สัพฺพะ เวรี อิทํ สัพฺพะ สัตฺตานํ โหตุ สุขิตา โหนฺตุ สัพฺเพ สัตฺตา
ผม: คุณลุงครับ...เอาคำแปลด้วยนะครับ คุณลุง ผมบอกลุงในขณะที่กำลัง เทน้ำจากคนโฑลงถ้วยที่รองรับ
คุณลุงหมอ: อืม มันก็แปลว่า....ขอส่วนบุญนี้จงสำเร็จ แก่มารดาบิดาของข้าพเจ้า ขอให้มารดาบิดาของข้าพเจ้า จงมีความสุข ขอส่วนบุญนี้จงสำเร็จ แก่ญาติทั้งหลายของข้าพเจ้า ขอให้ญาติทั้งหลายของข้าพเจ้า จงมีความสุข ขอส่วนบุญนี้จงสำเร็จ แก่ครูอุปัชฌาย์อาจารย์ของข้าพเจ้า ขอให้ครูอุปัชฌาย์อาจารย์ของข้าพเจ้า จงมีความสุข ขอส่วนบุญนี้จงสำเร็จแก่เทวดาทั้งหลายทั้งปวง ขอให้เทวดาทั้งหลายทั้งปวง จงมีความสุข ขอส่วนบุญนี้จงสำเร็จ แก่เปรตทั้งหลายทั้งปวง ขอให้เปรตทั้งหลายทั้งปวง จงมีความสุข ขอส่วนบุญนี้จงสำเร็จ แก่เจ้ากรรมนายเวรทั้งหลายทั้งปวง ขอให้เจ้ากรรมนายเวรทั้งหลายทั้งปวง จงมีความสุข ขอส่วนบุญนี้จงสำเร็จ แก่สัตว์ทั้งหลายทั้งปวง ขอให้สัตว์ทั้งหลายทั้งปวง จงมีความสุข
.
สพฺพะ สตฺตานํ โหตุ สุขิตา โหนฺตุ สพฺเพ สตฺตา
.
อิทังเม มาตา ปิตุนัง
เอาจิตตั้ง มั่นหมาย ให้พบสุข
โหตุสุ ขิตา ว่าคลายทุกข์
ขอความสุข แด่ มาตา ปิตะโร
.
อิทังเม ญา ติ นังโหตุ
ให้บรรลุ สุขหมาย ไว้อักโข
สุขิตา โหนตุ ญาตโย
อย่าโมโห โกรธา ข้าน้อยเลย
.
อิทังเม คุรู ปัชฌายา
ขอครูบา อาจารย์ นั้นสุขเอ๋ย
ทุกประการ ที่หวัง สมดังเคย
คิด เอื้อนเอ่ย เรื่องใด สมใจปอง
.
ขอให้บุญ ประสิทธิ์ สัมฤทธิ์ผล
บันดานดล สุขี มิหม่นหมอง
สถิตย์สรวง ห้วงสวรรค์ วิมานทอง
ในครรลอง ของสุข ทุกคราเทอญ
..
พันวัตต์
๒๓๐๒๕๖
ขอขอบคุณ
อนุโมทนาบุญก่อนค่ะ
เทวดาก็ศีล 5 ค่ะ
มนุษย์ถ้ามีศีล เทวดา หรือใคร
ก็เกรงใจ เหมือนคำกล่าวว่า
กลิ่นดอกไม้หอม
แต่กลิ่นศีลย่อมหอมทวนลม