Group Blog
 
<<
กันยายน 2549
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
 
12 กันยายน 2549
 
All Blogs
 
ประชาคม ลุนาชัย ชายผู้เขียนความฝันด้วยชีวิต

"ชีวิตจะเล่นตลกอะไรกับผม งานเขียนกลายเป็นม่านควันที่ไร้ความหมายมานานแล้ว และเรื่องนี้ก็ตายไปจากใจผมนานแล้ว เช่นเดียวกัน นี่มันยังโดยสารโชคชะตามาตลบหลังความรู้สึกของผมอีก"

เรื่อง.. ประชาคม ลุนาชัย ชายผู้สวรรค์ไม่มีอะไรจะให้

จากหนังสือ แล้ววันหนึ่งดอกไม้ก็บาน


ข้างบนนั้นเป็นคำกล่าวของประชาคม ที่ได้เล่าถึงชีวิตของเขาไว้ในหนังสือ "แล้ววันหนึ่งดอกไม่ก็บาน" ที่ฉันมีโอกาสได้อ่านเมื่อสามปีก่อน นั่นเป็นครั้งแรกที่ชื่อของเขาผ่านตา และผ่านความรู้สึกของฉัน ระยะเวลาที่หยุดอัพบล็อก ฉันอ่านหนังสือไปหลายเล่ม และสามเล่มในจำบวนทั้งหมดที่อ่าน เป็นหนังสือของ ประชาคม ลุนาชัย

แต่ทั้งหมดทั้งมวล คงไม่มีเล่มไหนที่จับใจและตราตรึงอยู่ในความรู้สึกของฉัน เท่ากับ "เขียนฝันด้วยชีวิต" "อัตชีวประวัติเชิงนวนิยาย นวนิยายเชิงอัตชีวประวัติ เปี่ยมจริง เปี่ยมฝัน เปี่ยมชีวิต" คือคำโปรยบนหน้าปก และนั่นไม่ใช่คำอวดอ้างที่เกินจริง

ประชาคม ชายหนุ่มลูกอีสานผู้มีชีวิตสองด้านอยู่ในตัวคนๆเดียว ชีวิตด้านหนึ่งของเขาคือชายเร่ร่อน หาเช้ากินค่ำเลี้ยงชีพตัวเองด้วยการเป็นกรรมกรขายแรงงาน ที่ได้ค่าแรงเพียงวันละ 80 บาท มีชีวิตแบบ อดมื้อ หิวมื้อ และกินแค่มื้อ ยามตกงานไม่มีแม้ที่จะซุกหัวนอน เคยแม้กระทั่งอาศัยศาลาริมทาง หรือริมคลอง แถวๆสถานีรถไฟหัวลำโพง เป็นเรือนนอน

แต่บอกใครๆจะเชื่อว่าความฝันของชายผู้นี้คือ เขาอยากจะเป็นนักเขียน ฉันพอจะเข้าใจ ว่าการอยากเป็นนักเขียนในประเทศที่ผู้คนอ่านหนังสือ กันน้อยแสนน้อยอย่างบ้านเรานั้น เรื่องจะหวังถึงรายได้เป็นกอบเป็นกำนั้นยากแสนยาก เพราะฉะนั้นอาชีพนักเขียนจึงเหมาะสำหรับที่จะทำเพื่อ หล่อเลี้ยงความฝันและหัวใจให้พอจะมีความสุขได้บ้างก็เท่านั้น ยิ่งในยุคสมัยของ ประชาคม ด้วยแล้วนับว่าเป็นเรื่องยากมาก ที่ประตูแห่งโอกาสจะเปิดต้อนรับนักเขียนหน้าใหม่สักคน มันจึงเป็นเรื่องสำคัญและจำเป็น ที่นักเขียนจะต้องมีอาชีพอื่นทำไปด้วย ทั้งนี้ก็เพื่อจะได้มีเงินซื้อข้าวกิน

และเขา ประชาคม มีอาชีพที่เลี้ยงตัวไปวันๆด้วยการเป็นกรรมกรขายแรงงาน เป็นจำนวนน้อยในน้อย และมันออกจะดูขัดแย้งกันจนเกินเชื่อ เขาทำงานหนักอาบเหงื่อ อาบเลือด และอาจเกือบตลอดชีวิต ที่อาบด้วยน้ำตาของตัวเขาเอง แต่ถึงกระนั้นชีวิตของเขาไม่เคยห่างหนังสือ แรงกายของเขาส่วนหนึ่งกลายมาเป็นหนังสือ เล่มแล้วเล่มเล่า เขาปลอบประโลมชีวิตที่ปวดร้าวของตัวเองด้วยตัวอักษร เพาะบ่ม อบร่ำ ความเป็นนักเขียนของเขา ด้วยชีวิตที่ยากแค้นลำเค็ญ

หลายครั้งโชคชะตาเล่นตลก นับตั้งแต่วันแรกที่เขาหนีจากอกพ่อแม่ หอบหิ้วความฝันของตัวเองเข้ากรุง เร่ร่อนหางานทำ แขวนชีวิตอยู่บนความไม่แน่นอนไปวันๆ หากเขาก็ไม่เคยละทิ้งนิสัยใฝ่ใจและเรียนรู้ แม้กระทั่งตอนตกงาน อดอยากถึงที่สุด กินเพียงอาหารเย็นมื้อเดียว กระเซอะกระเซิงเดินหางานทำ หิวก็เอาน้ำลูบท้อง

แต่ชีวิตเขาก็ยังวนเวียนอยู่กับห้องสมุดประชาชนทุกแห่งที่เขาเจอ แวะพักเหนื่อย ดื่มน้ำเย็นที่ตู้ แล้วนั่งลงอ่านหนังสือ หยุดยั้งความหิวด้วยความเพลิดเพลินจากการอ่าน ก่อนจะเดินกลับที่พักไกลแสนไกล เพื่อกินข้าวผัดเย็นๆเหลือๆจากที่คนอื่นกิน ซึ่งเพื่อนผู้อารีอารอบของเขาคนหนึ่งเก็บไว้ให้

หลายครั้งความใฝ่ฝันกระตุ้น และกวักมือเรียกร้องให้เขาเขียน เขาก็เขียนและส่งงานเหล่านั้นไปยังสำนักพิมพ์ต่างๆ ทั้งเรื่องสั้นและบทกวีของเขาได้รับการตีพิมพ์ และทางสำนักพิมพ์มีค่าตอบแทนให้ เขาถือนิตยสารเหล่านั้น เดินเข้าไปในสำนักพิมพ์เพื่อขอรับค่าเรื่อง แต่สิ่งที่เขาทำเมื่อไปถึงคือการนั่งลง ดื่มน้ำเย็นที่เจ้าหน้าที่จัดหามาให้ นั่งมองดูนั่นดูนี่สักพัก แล้วก็ตัดใจเดินคอตกกลับออกมา เพราะเขาอายเกินกว่าจะเดินเข้าไปบอกว่าเขามารับค่าเรื่อง อาย...สถานะภาพการเป็นกรรมกรผู้ใช้แรงงานของตัวเอง

หลายต่อหลายครั้งอีกเช่นกัน ที่เขาพากเพียรใช้เวลาว่างที่มีเพียงน้อยนิด จากการดิ้นรนหาอาหารใส่ปากใส่ท้อง เขียนนวนิยายที่ผุดขึ้นจากจินตนาการอันบรรเจิด ยามนั้นเขากระหยิ่มยิ้มย่อง และเปี่ยมล้นด้วยพลังใจ วาดหวังว่านวนิยายที่เขาเขียนด้วยความตั้งใจ และอย่างละเอียดรอบคอบ จะสามารถส่งเขาให้ขึ้นแท่นเป็นนักเขียนอีกคนของเมืองไทยได้ หากครั้งแล้วก็ครั้งเล่า....ที่โชคชะตากระชากและฉีกทึ้งเขาและความฝันของเขา อย่างไม่ปรานีปราศัย

ครั้งหนึ่งเขาจำเป็นต้องรอนแรมออกทะเลไปกับเรืออวน เขาจึงเช่าห้องพักเอาไว้สำหรับเขียนหนังสือเมื่อยามที่เรือเข้าฝั่ง ออกทะเลแรมเดือน กลับมาเขียนนิยาย 4 - 5 วัน แล้วก็ออกทะเลอีก ทำอยู่เช่นนั้นจนเขียนนิยายเรื่องเยี่ยมของเขาจบ เหลือก็เพียงกลับมาขัดเกลาอีกเล็กน้อย นาทีนั้นความฝันของเขาแจ่มชัดและบานเบ่งอยู่ในหัวใจ

แต่...ฉันบอกคุณๆว่าโชคชะตากระชากและฉีกทึ้งเขา..!!?

โดยไม่ได้รับการบอกกล่าวจากใต้ก๋ง ว่าเรือจะต้องออกเดินทางไปไกลและนานกว่าที่เคย เพราะเป็นฤดูที่ทางการปิดอ่าว ทำให้เขาต้องรอนแรมอยู่ในทะเลถึง 5 เดือน เมื่อเรือเข้าฝั่งเขารีบบกลับไปยังบ้านเช่า แต่ปรากฎว่าหญิงชราเจ้าของห้องเช่า ได้ยกห้องให้คนอื่นเช่าเสียแล้ว หล่อนใจดีและเอื้ออาทรต่อเขาเหมือนลูกหลาน อุตส่าห์เก็บรัษาข้าวของเครื่องใช้ทุกชิ้นไว้ให้ ยกเว้นก็แต่เพียงกระดาษปึกหนึ่งที่ตั้งอยู่บนหัวเตียง หล่อนเห็นว่ามันรกเลยเก็บเอาไปเผาทิ้ง...!! หล่อนเผา...ความใฝ่ฝันของเขามอดไหม้เป็นจุณ

และนั่นก็ไม่ใช่ครั้งแรกหรือครั้งสุดท้าย อีกหลายครั้งหลายหนที่ผู้ร้ายคนเดิม...โชคชะตา กระชากแย่งชิงความฝันจากเขาไปด้วยวิธีการต่างๆนาๆ อย่างเดียวที่มันทำไม่ได้ก็คือดับไฟแห่งความฝันของเขา ประชาคม ไม่เคยยอมหันหลังหรือก้มหัวให้ ทุกครั้งเขาปาดเช็ดน้ำตาตัวเอง ก่อนจะเงยหน้าขึ้น กล้ำกลืนมันกลับเข้าไปในอก เหยียดยืดอกและไหล่ขึ้นเผชิญหน้ากับมัน ด้วยแรงกาย ด้วยวัยวันทั้งหมดทั้งมวลของเขา และกว่าที่ดอกไม้ของ ประชาคม ลุนาชัยจะบาน เขาก็แทบจะรดมันทุกวันด้วยหยาดน้ำตาแห่งความทุกข์ยากของเขาเอง

หลายครั้งเช่นกันที่ฉันแอบกรีดน้ำตา ตัวเอง เพราะฉันรู้สึกและสัมผัสถึงความเจ็บปวดนั้นได้ รู้สึกราวกับว่าตัวเองได้ร่วมเดินทางไกลไปกับเขา เผชิญความเจ็บปวดร่วมกันกับเขา นั่นอาจเป็นเพราะว่าฉันเองมีฝันเหมือนกันกับเขา กำลังก้าวตามหลังเขาไปบนทางเดียวกับที่เขาเคยเดิน แน่นอน...ว่าอุปสรรคที่ฉันอาจต้องเจอนั้นคงเทียบไม่ได้ แม้เพียงเศษเสี้ยวกระผีกริ้นที่เขาเจอ เพราะหนทางนั้นได้ถูกนักบุกเบิกรุ่นเขา หรือก่อนหน้าเขาถากถางจนโล่งเตียนมาแล้ว หากก็ตระหนักดีว่าปลายทางนั้นยังห่างไกลจากสองเท้าของฉันมากนัก

"เขียนฝันด้วยชีวิต" ไม่ใช่คำอวดอ้างที่เกินจริง คือสิ่งที่ฉันอยากบอกเพื่อนๆ ถึงแม้ว่าจะไม่เคยฝันถึงการเป็นนักเขียนเหมือนอย่างฉัน แต่ฉันก็เชื่อว่าทุกคนอาจจะเคยมีความฝันเล็กๆของตัวเองซุกซ่อนอยู่ในใจ และไม่ว่าความฝันนั้นจะเป็นอะไร ฉันอยากให้เพื่อนๆลองพลิก "เขียนฝันด้วยชีวิต" อ่านดูสักบท เผื่อบางทีคุณอาจพบว่าไฟแห่งความฝันของคุณ ยังไม่ได้มอดไหม้ไปกับวันเวลา หรืออาจบางทีเพื่อนคนหนึ่งคนใดของฉัน กำลังรู้สึกท้อแท้สิ้นหวัง ต่อโชคชะตาหรืออุปสรรค ประชาคม ลุนาชัย และเรื่องราวของเขา อาจจะมีคำตอบบางอย่างให้แก่คุณ อาจช่วยฉุดคุณลุกขึ้นมาได้ด้วยพลังของเขา เหมือนกับที่ได้เผื่อแผ่มายังฉัน


หลังจากที่ปิดหนังสือหน้าสุดท้าย ฉันยิ้มกับตัวเองและพร่ำบอกกับหัวใจของฉันว่า "ฉันจะไม่ท้อแท้ที่จะเขียนอีก" และ ประชาคม ลุนาชัย ชื่อของชายคนนั้น จะจารจำอยู่ในความรำลึก ว่า "ครั้งหนึ่งเรื่องราวของเขา ได้ฉุดกระชากฉันขึ้นมาจากวังวนแห่งความท้อแท้ สิ้นหวัง" แม้หนทางจะยังไกลแต่ฉันก็รู้สึกได้ว่า "สักวันหนึ่งดอกไม้ของฉันเองก็จะบาน"



Create Date : 12 กันยายน 2549
Last Update : 18 มีนาคม 2550 12:42:57 น. 52 comments
Counter : 900 Pageviews.

 
อ่านแล้วต้องปรบมือให้กับคนเก่งและอดทนค่ะ ...

อ่านแล้วย้ำเตือนเราเองเลยว่าไมมีอะไรได้มาง่ายๆ และเมื่อเราไม่ย่อท้อ อดทน ...สักวันหนึ่งสิ่งที่เราหวังเอาไว้มันคงจะมาถึง ...

คนเราบางครั้งไม่ได้โชดดี แต่ประสบการณ์ที่หนักหนาแทบจะเอาชีวิตไม่รอด แต่เค้าก็ได้มาถึงขั้นนี้ อย่างน้อยตามฝัน ได้ทำอะไรตามปรารถนาได้แล้ว ก็ถือว่าเค้าประสบความสำเร็จนะค่ะ

หลับหรือยังเอ่ย ... แวะมาสวัสดีค่ะ


โดย: JewNid วันที่: 12 กันยายน 2549 เวลา:1:15:39 น.  

 
สวัสดีค่ะคุณ บรรณภรณ์ มาเยี่ยมบ้านสีหวานรอบดึกค่ะ
พร้อมทั้งได้อ่านเรื่องราวดีๆ ของบ้านนี้ด้วย ขอบคุณค่ะที่ไปเยี่ยมบ้านไม้หอม...



โดย: Maihom (Maihom ) วันที่: 12 กันยายน 2549 เวลา:2:21:37 น.  

 
สวัสดีค่ะคุณ บรรณภรณ์
ขอบคุณนะค่ะที่สละเวลาไปตามลิ้งค์
ฝันดีนะค่ะ


โดย: โอน่าจอมซ่าส์ วันที่: 12 กันยายน 2549 เวลา:3:14:59 น.  

 
พักนี้ ตาชอบนั่งมองดูคนแก่ที่เดินผ่านไปมา แล้วคิดตามว่า คนเหล่านี้ ในชีวิตของเขา ได้ทำอะไรกับความฝันของเขาบ้างหรือเปล่า ถ้าได้ทำ แล้ว เขาทำมันสำเร็จหรือเปล่า...
แล้วหันคิดกลับมาที่ตัวของตาเอง ตาได้ทำอะไรลงไปบ้าง ที่เรียกว่า ตามความฝันของตา....ก็พบว่า ได้ทำอะไรๆมาหลายอย่างในสิ่งที่ควรทำ ได้มีอะไรๆเกือบทุกอย่างที่คิดว่า ควรมี แต่ความฝันล่ะ...ตาได้ทำตามความฝันตาหรือยัง....
ตาจะกลับบ้านค่ะ...ปลูกบ้านเคบินเรือนไม้ริมภูเขา อย่างที่เคยฝัน...เปิดร้านกาแฟ ที่ทานแกล้มขนมทองม้วนได้ มีหนังสือดีๆให้ลูกค้าอ่าน มีเวลาอบขนม ทำอาหารตามอารมณ์ มีคนเล่นเพลงดีๆให้ได้ฟังกัน...
ภาพในฝัน...ไม่จบแค่นี้ค่ะ...เพราะอาจจะมีเพื่อนน่ารักๆอย่างคุณ บรรณภรณ์ ไปนั่งอ่านหนังสือ ที่ตรงนั้น แล้ว ...พากันเมา ไง...ฮา


โดย: Tante Ta วันที่: 12 กันยายน 2549 เวลา:3:20:12 น.  

 
เป็นอีกเรื่องที่สะกิดต่อมอยากอ่านให้ทำงานอีกวาระหนึ่ง

ความฝันนั้นสวยงาม ชวนให้เดินตามฝัน

แม้ในความทุกข์ทน ทุกคนก็ยังฝัน และมีสิทธิ์ฝัน

คุณบรรณภรณ์บอกไม่ท้อที่จะเขียนเรื่องต่อไปเพื่อสานฝัน

นับว่าได้กำลังใจอันประเสริฐจากหนังสือเรื่องนี้

จะว่าไป สิ่งที่คุณเขียนแนะนำอยู่นี้ ก็บ่งชัดว่าคุณบรรภรณ์มีสายเลือดนักเขียนในตัวเองสูงมากนะครับ

ผมเป็นนักอ่านคนหนึ่งเหมือนกัน แม้จะไม่มากมาย แต่ผมก็รักการอ่าน และชอบเขียน

ผมรู้งู ๆ ปลา ๆ ด้วยตัวเองว่า

หลายคราวที่ เรื่องที่ดีกับเรื่องที่เอาใจตลาดมันต่างกันครับ

คนเสพงานดี กับคนเสพงานตามแฟชั่น มันเป็นอะไรที่สัดส่วนตรงข้ามกันแบบเว่อร์ ๆ เลยครับ

อีกประการหนึ่ง

นักเขียนโดยมากหวังการยอมรับ แต่ถ้าเรามองย้อนกลับ เราสุขในขณะเขียนมันก็คุ้มที่จะเขียนต่อไปครับ

เขียนซะยาว และ ยืด.....เชียว



โดย: ดำรงเฮฮา วันที่: 12 กันยายน 2549 เวลา:5:52:41 น.  

 
ชอบตอนที่เค้าไปเป็น รปภ. ค่ะ


โดย: platoo_cd วันที่: 12 กันยายน 2549 เวลา:8:31:42 น.  

 
ความลำบากเป็นบทพิสูจน์คนเก่งจริงๆนะคะ

มีหนังสือเล่มหนึ่งบอกว่า...

คนเก่งคือคนที่ออกมาจากความทุกข์ยากได้อย่างยืดอก

ยิ่งลำบากเท่าไหร่..ยิ่งทดสอบความอดทนและความเข้ม

แข็ง บางทีในชีวิตหนึ่งเราอาจไม่รู้สึกภูมิใจในตัวเองเลย

ถ้าชีวิตไม่ชักพาเราไปเจอความเก่งกาจของตัวเอง

~~

ฉันว่าคุณมีความสามารถเพียงพอที่จะเขียนหนังสือได้นะ

คะ แต่สำหรับฉันขอเป็นคนอ่านและคนวิจารณ์จะเหมาะ

กว่าค่ะ

~~ความฝันอยู่ไม่ไกล หากใจจะคว้า ขอเพียงอย่าท้อแท้

แค่นั้นเอง ~~ คำกล่าวนี้ยังใช้ได้ผลเสมอค่ะ

ขอบคุณสำหรับคำอวยพรวันเกิดค่ะ


โดย: random-4 วันที่: 12 กันยายน 2549 เวลา:9:27:48 น.  

 
ก่อนหน้านี้ที่ชีวิตเต็มไปด้วยความรัก รักแบบหนุ่มสาววัยรุ่น
และเต็มไปด้วยความสนุขปราศจากห่วงและความรับผิดชอบ
นอกเหนือจากการเรียน ชีวิตผมช่วงนั้นเคยเขียนอะไรไว้บ้าง
เล็กๆน้อยๆ อาจจะเป็นช่วงเดียวของชีวิตผมกระมัง ที่มีโอกาส
ได้เขียน "ความฝัน" เฉกเช่นผู้ที่เป็นนักเขียน เพราะหลังจาก
ที่ชีวิตต้องแบกรับภาระและความรับผิดชอบมากขึ้น ผมเองก็
ลืมความฝันที่คิดจะเขียนไปหมดแล้ว (หรือลืมเขียนความฝัน
ที่คิดไว้กันแน่....)

รอชมดอกไม้ที่จะบานของคุณอยู่นะครับ


โดย: ฝัน....ที่ลืมเขียน (ST.Exsodus ) วันที่: 12 กันยายน 2549 เวลา:9:43:16 น.  

 
เอาใจช่วยให้มีผลงานออกมาค่ะ
ไม่ได้แวะมาหาซะนาน
ขอโทษค่า^^







...


โดย: ขอบคุณที่รักกัน (blueberry_cpie ) วันที่: 12 กันยายน 2549 เวลา:9:45:10 น.  

 
สวัสดีวันอังคารสีชมพูค่ะ เป็นเรื่องราวที่น่าอ่านอีกเรื่องหนึ่ง


โดย: 304 คอนแวนต์ (304 คอนแวนต์ ) วันที่: 12 กันยายน 2549 เวลา:9:47:54 น.  

 
ชีวิตคุณประชาคม น่าทึ่งจริงๆ ค่ะ
มีคนชอบหนังสือเล่มนี้หลายคนเลย


โดย: grappa วันที่: 12 กันยายน 2549 เวลา:11:22:56 น.  

 
ต้องไปหามาอ่านมั่งล่ะค่ะ อ่านบล็อกวันนี้ของคุณแล้วรู้สึกอยากอ่านหนังสือเรื่องนี้มากๆ


โดย: แพนด้ามหาภัย วันที่: 12 กันยายน 2549 เวลา:11:44:50 น.  

 
แวะมาทักทายก่อนกลับบ้านค่ะ


โดย: ทูน่าค่ะ วันที่: 12 กันยายน 2549 เวลา:18:19:08 น.  

 
เราจะเป็นกำลังใจให้คุณบรรณภรณ์นะคะ

นี่ขนาดเราอ่านแค่บทความที่คุณเขียนยังอดรู้สึกขนลุกไม่ได้

ขอบคุณสำหรับบทความดีๆ ที่ทำให้เราได้รู้จักประชาคม ลุนาชัยมากขึ้นนะคะ


โดย: สลิลลา No.1 วันที่: 12 กันยายน 2549 เวลา:21:01:40 น.  

 
ยังไม่ได้อ่านหนังสือเล่มนี้ แต่ก็มีน้องที่ทำงานมาบอกว่าเขาซื้อมาแล้ว และจะเอามาให้ผมยืมอ่านหลังจากที่เขาอ่านจบแล้ว

ตอนนี้ผมจึงรอให้เขาอ่านจบอยู่

สมัยก่อนการฝันที่จะเป็นนักเขียนต้องผ่านด่านทดสอบที่สุดแสนทรหด

ผมเป็นคนหนึ่งที่สอบไม่ผ่าน

นึกถึงชีวิตตัวเองในช่วงนั้นแล้วก็ขำ ๆ

ผมเคยฝันว่าจะสามารถดำรงชีพอยู่ได้ด้วยการเขียนหนังสือ จึงไม่ได้ฝันเพียงแค่ว่าให้มีผลงานลงพิมพ์เพื่อความภาคภูมิใจเฉย ๆ

การได้รับค่าตอบแทนจากผลงานที่ได้รับการตีพิมพ์เป็นการสร้างความมั่นใจในเส้นทางที่เลือกเดิน

และมันทำให้ชีวิตอยู่รอด

ผลงานชิ้นหนึ่งได้รับการตีพิมพ์ในหน้าหนังสือพิมพ์ที่มีเซคชั่นวรรณกรรม ผู้คนในแวดวงวรรณกรรมทั้งน้อยใหญ่ล้วนมาวนเวียนอยู่ที่นี่

ความยากแค้นของคนวรรณกรรมถูกถ่ายทอดผ่านหน้าหนังสือพิมพ์นี้อยู่ครั้ง

ผลงานที่ได้ลงพิมพ์ที่นี่มีค่าเรื่องให้ด้วย

แต่ต้องส่งหมายเลขบัญชีของธนาคารกรุงเทพไปให้เขา แล้วเขาจะโอนเงินมาให้

ผมไม่ได้เปิดบัญชีกับธนาคารกรุงเทพ จึงส่งหมายเลขบัญชีธนาคารกรุงไทยไปแทน

สุดท้ายปรากฏว่าผมไม่ได้รับค่าตอบแทนจากผลงานชิ้นนั้น โทษฐานที่ไม่มีหมายเลขบัญชีธนาคารกรุงเทพ

แต่ไม่เป็นไร ตอนนั้นผมยังเด็ก ยังพอเขียนจดหมายไปขอตังค์แม่ใช้ได้


โดย: 9A วันที่: 12 กันยายน 2549 เวลา:23:00:10 น.  

 
ร้านที่ผมเล่นจะอยู่แถว 7 หัวมุมทางไป สนามกีฬา



โดย: BaLL182 วันที่: 13 กันยายน 2549 เวลา:0:18:31 น.  

 
อ่านแล้วอึ้งเลยครับ

เอ่อ... ผมเพิ่งเกิดความรู้สึกนี้ขึ้นมาหยกๆเมื่อสองสามวันก่อน

อยู่ๆ ก็รู้สึกว่า ตัวเองโชคดีจัง
ถ้าไม่นับเรื่องที่ไม่ได้อย่างใจหวังไปสองสามเรื่อง

ผมก็เป็นคนที่..ขออภัยที่อาจหยาบไปหน่อย .. โคตรโชคดีเลย

พออ่านเรื่องของคุณประชาคม ยิ่งรู้สึกว่า.. ชีวิตผมนี่ อภิมหาโชคดีจริงๆ

ขอบคุณสำหรับเรื่องดีๆนะครับ


โดย: aston27 วันที่: 13 กันยายน 2549 เวลา:1:17:20 น.  

 



อ่านแล้วประทับใจมากๆเลยค่ะ
บนเส้นทางชีวิต มีหลายทางให้เลือกเดิน
คนแต่ละคนอาจมีหลายฝัน
แต่คนเราจะทำฝันของตัวเองสำเร็จหรือไม่
ขึ้นอยู่กับใจ

.. แจงก็มีฝัน ทำมันสำเร็จบ้างในบางส่วน
ท้อในบางครั้งแต่ไม่เคยทิ้งความฝัน หยุดบ้างเมื่อเหนื่อย
เดินต่อเมื่อพร้อม สักวันฝันนั้นจะต้องมาถึง

ขอเป็นกำลังใจให้คุณบรรณภรณ์ บรรลุถึงฝันได้ในเร็ววันค่ะ



โดย: เลดี้อลิเซีย วันที่: 13 กันยายน 2549 เวลา:8:46:35 น.  

 
แวะมาทักก่อนนะครับ
ยังไม่มีเวลาอ่านโดยละเอียด
ไว้อ่านแล้วจะมาคุยอีกทีจ้า ...


โดย: สะเทื้อน วันที่: 13 กันยายน 2549 เวลา:11:00:39 น.  

 
ยังไม่เคยอ่านงานเล่มนี้เลยค่ะ

อ่านรีวิวแล้วคงต้องไปหามาอ่านซะแล้ว




พื้นหลังทำให้อ่านยากไปนิดหนึ่งนะคะ


โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 13 กันยายน 2549 เวลา:11:23:42 น.  

 

เผาดำฮารอบสาม ฉายแล้วจ้า



โดย: โสมรัศมี วันที่: 13 กันยายน 2549 เวลา:12:54:48 น.  

 
เช่นเดียวกันนะคะ
เมื่อคราวใดที่ท้อแท้....จะมีหนังสือเป็นเพื่อน เป็นข้อคิด เป็นกำลังใจที่ดี

และวันนี้ก็รู้สึกอยากอ่านหนังสือที่คุณบรรณภรณ์ จังเลยค่ะ


โดย: tu_bong วันที่: 13 กันยายน 2549 เวลา:13:51:20 น.  

 
อ้อ ลืมบอกไปว่าปรับปรุงบล็อกใหม่แล้วดูสวยงาม หวานในแบบ
ลึกซึ้งดีครับ(จริงๆจะบอกว่างั้ยดี เอาเป้นว่าหาคำมาบรรยายไม่ถูก
ละกันเลยใช้คำนี้) พยายามเข้านะครับ เอาใจช่วย


โดย: ST.Exsodus วันที่: 13 กันยายน 2549 เวลา:14:59:55 น.  

 
สวัสดียามเย็นค่ะคุณบรรณภรณ์


โดย: 304 คอนแวนต์ (304 คอนแวนต์ ) วันที่: 13 กันยายน 2549 เวลา:16:22:56 น.  

 
มีเพื่อนกรุณาแวะมาบอกว่า "พื้นหลังทำให้อ่านยากไปนิดหนึ่งนะคะ"

ขอบคุณจริงๆเลยค่ะที่กรุณา เลยจะขอเปลี่ยน บีจีใหม่ให้ เพราะสงสารคนที่สายตาไม่ค่อยดีค่ะ คิดอยู่เหมือนกันว่ามันดูยากไปหน่อย มีคำแนะนำ ติ ชม ไม่ต้องเกรงใจนะคะ ก็ฝากๆกันไว้ จะได้ปรับปรุงแก้ไข ขอบคุณคุณสาวไกด์ฯอีกทีค่ะ เพราะกะจะเก็บบล็อกนี้ไว้ก่อนสักสี่ห้าวัน ค่อยอัพบล็อกใหม่ค่ะ


โดย: บรรณภรณ์ วันที่: 13 กันยายน 2549 เวลา:16:24:45 น.  

 
อืมม์.........คิดว่าสีนี้น่าจะโอเคนะ แต่ถ้าใครยังอ่านยากอยู่ก็แวะมาบอกกันใหม่ได้ จะเปลี่ยนให้ใหม่ค่ะ


โดย: บรรณภรณ์ วันที่: 13 กันยายน 2549 เวลา:16:39:15 น.  

 
แวะมาเยี่ยมเยียนค่ะ..แต่ยังไม่มีเวลาอ่าน
วันหลังจะมาอ่านนะคะ...


โดย: ratana_sri วันที่: 13 กันยายน 2549 เวลา:17:29:07 น.  

 
เคยได้อ่านงานของคุณประชาคม
ตอนสมัยเรียนป.ตรี อ่ะค่ะ...
ช่วงนั้น ชอบอ่านเรื่องสั้น...
...
...
ถ้าอดทนรอ...ก็ก้าวผ่านเรื่องราวได้ทุกเรื่อง
...
...
เป็นกำลังใจให้จขบ.ด้วยนะคะ


โดย: Serendipity_t วันที่: 13 กันยายน 2549 เวลา:18:05:49 น.  

 
ลายนี้อ่านง่ายกว่าลายเดิมค่ะ ดีขึ้นค่ะ

ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกันค่ะ

แถมยังเป็นคนอ่านหนังสือเหมือนกันอีก

กลุ่มคนที่อ่านหนังสือที่เล่นบล็อกมีไม่เยอะหรอกค่ะ นับคนได้

มีมาเพิ่มก็ดีใจทุกครั้งค่ะ


โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 13 กันยายน 2549 เวลา:19:39:57 น.  

 
ชอบพี่ประชาคม มาตั้งแต่ ลูกแก้วสำรอง
เป็นหนึ่งในนักเขียนที่เป็นแรงบันดาลใจให้เราเขียนหนังสือด้วย


โดย: สายลมอิสระ IP: 58.147.58.198 วันที่: 13 กันยายน 2549 เวลา:21:24:46 น.  

 
แวะมาลงชื่อทักทายค่ะ

ทำงานอยู่ ง่วง ๆ เลยแวะมาเข้าบล็อกแก้งค์
ขอบคุณสำหรับความคิดถึงค่ะ..

ช่วงนี้งานเยอะ แต่ไม่มีคนช่วย..เฮ้อ...

คุณสบายดีไหมคะ.. ช่วงนี้พายุคงเข้าอีก
วันนี้กระบี่ฝนตกทั้งวันเลย

แถวบ้านคุณเป็นด้วยไหมคะ


โดย: สีน้ำฟ้า วันที่: 13 กันยายน 2549 เวลา:22:55:57 น.  

 
เข้ามาอีกรอบ เพิ่งจะเล่นเกมส์เสร็จ

เลยเข้ามาแวะเยี่ยมเยียน

เดี๋ยวกลับไปนอนและ


โดย: BaLL182 วันที่: 13 กันยายน 2549 เวลา:23:34:39 น.  

 


แวะมาส่งความคิดถึงจ้า


โดย: Malee30 วันที่: 14 กันยายน 2549 เวลา:2:05:18 น.  

 
ดีจ้ายามดึกพี่ติ๊ก ...

เรื่อง Mystic River ได้ดูจ้าพี่ พอดีมันเอามาฉายทางช่องเคเบิลที่นี่ช่วงที่เค้าให้ดูฟรี เลยได้ดูหนังดีเยอะเลยจ้ะ ... เรื่องนี้ต้องบอกว่าเข้มข้นนะ สำหรับตัวนำสามตัวเลย แต่ละคนก็ฝีมือฉมังทางการแสดงทั้งนั้นเลยค่ะ ..ดูแล้วมีลุ้นล่ะ

ส่วนฌอน เพนท์นี่ นิดไม่ได้เป็นแฟนพันธุ์แท้เค้าอ่ะคะ แต่ว่าได้ดูหนังเค้าก็พอสมควรเลย ไอแอมแซมก็เป็นอีกหนึ่งที่ได้ดูและก็ร่วมน้ำตานองเหมือนกันจ้ะ ... แบบว่าหน้าตาเค้าจริงๆ ดูไม่เหวอเท่าไหร่นะ แต่บทจะเล่นแบบเศร้าๆ มันก็อารมณ์มาเองเลยอ่ะจ้ะ

หลับหรือยังเอ่ย ...จะมาส่งฝันดีซะหน่อยค่ะ


โดย: JewNid วันที่: 14 กันยายน 2549 เวลา:2:08:48 น.  

 
อ่านแล้วอึ้งค่ะ... ถ้าต้นฉบับโดนเผา คง...
บอกไม่ถูก

แต่มีคนคนหนึ่งบอกไว้ค่ะ
ว่าถ้าคิดจะเป็นนักเขียนจริงๆ
อย่ายึดติดกับเรื่องหรือผลงานใดๆ
เพราะเราสามารถสร้างผลงานใหม่ๆ ขึ้นมาได้อีกค่ะ


โดย: สายลมโชยเอื่อย วันที่: 14 กันยายน 2549 เวลา:7:03:49 น.  

 
ชีวิตจะไม่สิ้นหวังตราบใดที่เรามีความอดทน

น้องเคนเนธยังหัดเกาะเดินอยู่เลยค่ะ น้องตัวใหญ่น่ะค่ะ..ยังไม่ครบ 11 เดือนแต่ตัวเท่า ๆ เด็กขวบครึ่ง ไปไหนใครก็คิดว่าเดินได้แล้ว พอบอกอายุแล้วอ้าปากหวอตาโตไม่อยากจะเชื่อกันแทบทุกคน


โดย: Lauderdale By The Sea วันที่: 14 กันยายน 2549 เวลา:9:19:26 น.  

 
เป็นกำลังใจให้เจ้าของบล๊อกผ่านความท้อแท้สิ้นหวัง และเดินไปสู่จุดหมายเร็ว ๆ จ้า


โดย: maxpal วันที่: 14 กันยายน 2549 เวลา:16:33:13 น.  

 
สู้นะกั๊บบบ

เป็นกำลังใจให้...
ไม่มีสิ่งใดที่เรามุ่งมั่นตั้งใจ...แล้วไกลเกินฝันหรอกจ๊ะ


ปล.ไรอันกลับไปแล้ว...คิดถึงจัง


โดย: ตี๋สีชมพู วันที่: 14 กันยายน 2549 เวลา:19:32:37 น.  

 
แวะมาส่งยิ้มให้ จขบ จ้า


โดย: Malee30 วันที่: 15 กันยายน 2549 เวลา:0:29:52 น.  

 
มายามดึกสงัด ดูลายแบ็คกราวน์สีพราวพร่าง อล่างฉ่างเหลืองไฉไล ครับผม


โดย: ดำรงเฮฮา วันที่: 15 กันยายน 2549 เวลา:1:07:18 น.  

 
พี่ติ๊ก ข้าน้อยแวะมาคารวะยามค่ำคืนค่ะ .. วันนี้ไม่เห็นพี่ติ๊กเลยอ่ะจ้ะ แอบแว๊บไปอ่านหนังสือหรือว่ายุ่งกับเรื่องไก่ๆ ค่ะ


โดย: JewNid วันที่: 15 กันยายน 2549 เวลา:1:20:43 น.  

 
เข้ามาราตรีสวัสดิ์ค่ะ
ขอบคุณที่ไปเยี่ยมบ้านไม้หอมรอบดึก พรุ่งนี้จะเข้ามาเยี่ยมชมบ้านแห่งมิตรภาพหลังนี้ใหม่นะคะ...


โดย: Maihom (ไม่ได้ login) IP: 124.120.176.119 วันที่: 15 กันยายน 2549 เวลา:2:11:38 น.  

 
วันนี้พี่ยามาแนวไชยาเลย น้องยาอดรนทนไม่ได้เลยแวะมาบอกพี่ยาว่าขอให้หลับฝันดีนะจ้ะ ..

แต่ก่อนไป มาปลอบประโลมขวัญให้พี่ยาหน่อยว่า ... โธ่ผู้มีวัยวุฒิอ่อนด้อยที่สุดในบ้านเลยต้องสละราชสมบัติเช่นคอมพิวเตอร์ให้แก่ผู้มีวิชาอาคมและอารมณ์เหนือกว่า ...แบบนี้แนะนำว่าท่านพี่ต้องไปฝึกวิชาให้แน่นกว่านี้นะจ้ะ ไม่อย่างนั้นแล้วกระบวนท่าจะสู้พระน้องยาตุ๊กไม่ได้ อ้อ ท่านพ่อด้วยจ้ะ ...

ปล.เขียนไปแล้วออกแนวพร่ำเพ้อ ...อ่านแล้วทรงพระงงก็ขออภัยน๊า


โดย: JewNid วันที่: 15 กันยายน 2549 เวลา:2:23:12 น.  

 
เพิ่งอัพบล๊อกสเปนเสร็จว่างๆ ไปดูเน้อจ้า


โดย: Malee30 วันที่: 15 กันยายน 2549 เวลา:3:06:42 น.  

 
ขอบคุณนะครับ
ผมคงได้รบกวนคุณแน่เลยอ่ะนะ
เดี๋ยวผ่านช่วงนี้ไปก่อน พอมีเวลาว่างมากขึ้น
แล้วจะขอคำแนะนำครับ ...




โดย: สะเทื้อน วันที่: 15 กันยายน 2549 เวลา:10:23:43 น.  

 
แวะมากอดค่ะ...ถึงเป็นหวัดก็จะกอด เพราะตาเป็นคนแข็งแรงไม่ค่อยเจ็บป่วยอะไรกับใครง่ายๆ...เอ๊ะ แต่ไม่แน่ จะมาแพ้ภูมิคราวนี้ซ่ะล่ะมั้ง...


โดย: Tante Ta วันที่: 15 กันยายน 2549 เวลา:13:35:33 น.  

 


ข้อความที่ป้าติ๊กเม้นท์ไว้ ผมบอกแม่แล้วครับ แม่ฝากขอบคุณป้าติ๊กมาด้วยนะครับป้า แล้วบอกว่าตอนนี้ไม่เป็นไรแล้วครับ แค่ว่ายังรู้สึกแย่ๆ กับการได้รับข่าวเศร้าๆ เหล่านี้ครับ อ้อ ป้าครับ แม่ฝากบอกป้าด้วยว่าอาจจะออนสายๆ หรือออนบ้างไม่ออนบ้างครับ อาจจะไม่ตรงกันกับป้าน๊า เพราะช่วงนี้พอดีมีหนังสือตกทอดมาถึงมือเลยต้องอ่านไปนะครับ แต่แม่ก็ยังคิดถึงป้าติ๊กน๊า อ้อ กับไก่ด้วยครับ เพราะพูดถึงการทอดและหมัก แม่ผมก็เกิดอาการน้ำลายฟูมปากเพราะหิวเลย


โดย: JewNid วันที่: 15 กันยายน 2549 เวลา:13:50:23 น.  

 
เรียกแจงก็ได้ค่ะคุณบรรณภรณ์
แจงก็ต้องขอ add blog เอาไว้เหมือนกันนะคะ

สุขสันต์วันศุกร์ค่ะ


โดย: เลดี้อลิเซีย วันที่: 15 กันยายน 2549 เวลา:14:32:37 น.  

 
สวัสดีค่ะ..แวะมาอ่านแล้วนะคะ...
สบายดีนะคะ....


โดย: ratana_sri วันที่: 15 กันยายน 2549 เวลา:15:42:15 น.  

 
โอ..แอดไปเถอะค่ะ ไม่ถือว่าตีซี้แต่อย่างใดค่ะ

เราเองก็แอดบล็อกเพื่อนๆ ไว้เยอะค่ะ เพราะเอาไว้ไปหา เอาไว้อ่านเหมือนกันค่ะ


โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 15 กันยายน 2549 เวลา:18:01:32 น.  

 
อ่านแล้วทึ่งและชื่นชมความรักในงานเขียน
และความมุ่งมั่นสู้ชีวิตของคุณประชาคม มากค่ะ
เชื่อว่าหลายๆ คนที่ได้อ่าน review นี้แล้ว
คงเกิดกำลังใจที่จะลุกขึ้นมาตามหาความฝัน
หรือทำความฝันของตนเองให้เป็นจริงขึ้นมา
เสียทีหนึ่ง

สำหรับคุณบรรณภรณ์ .. ขอเป็นกำลังใจให้
ได้พบความฝันของคุณเช่นกันนะคะ




โดย: ป้าติ๋ว (nature-delight ) วันที่: 16 กันยายน 2549 เวลา:1:17:14 น.  

 
...
พลังของความฝัน
นี่ช่างหอมกรุ่นจริงๆนะคะ

เชื่อว่า..ความมุงมั่นของคุณประชาคม
จะทำให้เค้าได้ทุกอย่างที่เขาอยากได้ค่ะ
.............
...............
ดีใจที่ได้เจอคุณบรรณภรณ์
และอ่านเรื่องดีๆที่เก็บเกี่ยวมาฝาก
ขอบคุณที่ห่วงใยดอกไม้ดอกนี้
อยากบอกว่ารู้สึกดีเหลือเกิน
ขอบคุณมากค่ะ
..
ช่วงนี้ยุ่งๆกับงานอยู่นิดหน่อย
เลยไม่ค่อยได้เข้าบล็อกเท่าไร



โดย: ระเบียงดอกไม้ IP: 203.151.46.131 วันที่: 16 กันยายน 2549 เวลา:4:37:37 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

บรรณภรณ์
Location :
สุราษฏร์ธานี Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]




"ถ้าลดขนาดความต้องการของเราให้เล็กลง ขนาดของความสุขจะเพิ่มมากขึ้น"




Everything happens for a reason,live it, love it,learn from it, make your smile change the world but don't let the world change your smile





ชื่อติ๊กนะคะ ......
จะเรียกน้อง (ถ้ายังมีคนที่อายุมากกว่าอยู่อ่ะนะ)
จะเรียกพี่ เรียกน้า อา หรือป้าก็ได้ไม่ว่ากัน
แต่อย่าเพิ่งเรียกยายเท่านั้นเพราะอายุยังไม่ถึง
ขณะนี้อยู่ที่สถานีรถไฟหลักสี่ตอนต้น ๆ ค่ะ

ก่อนอื่นใด ....คงต้องกล่าวคำขอบคุณจากใจ
ทั้งกับเพื่อนเก่าที่ไม่ลืมกัน.........
และเพื่อนใหม่ที่เข้ามาทักทาย
และให้โอกาส จขบ. ได้ทำความรู้จักนะคะ
รู้สึกเป็นเกียรติมาก
สำหรับมิตรภาพที่ทุกคนมีให้
ขอบคุณที่เข้ามาบ้านนี้และทิ้งคำทักทายไว้ให้
ไม่โหวด ไม่ไลค์ไม่เป็นไรค่ะ
แค่เข้ามาอ่านและทักทายกันก็ดีใจแล้ว
kiss kiss



New Comments
Friends' blogs
[Add บรรณภรณ์'s blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.