|
| 1 |
2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 |
9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 |
16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 |
23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29 |
30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
รอรักจากใครสักคน
รอรักจากใครสักคน
การรอคอย ถึงแม้เป็นแค่การรอ รอใครสักคนโดยที่ไม่มีจุดหมายปลายทางและระยะเวลาในการรอ แต่ก็ดีกว่าที่...ไม่มีใครให้เรารอ...
ไปทำงานแต่เช้าอีกแล้วนะเต้ ทันทีที่เสียงกระดิ่งหน้าร้านดังขึ้น ถึงแม้ไม่ได้มองว่าคนที่เดินเข้ามาภายในร้านเป็นใคร แต่เจ้าของร้านกาแฟหน้าหมู่บ้านจัดสรรก็รู้ทันทีว่าเป็นใคร เพราะลูกค้าคนนี้มักจะมานั่งดื่มกาแฟที่ร้านตอนเช้าเป็นประจำ ที่จริงแล้วเขาไม่ได้ไปทำงานแต่เช้าหรอก แต่มาที่ร้านเธอแต่เช้ามากกว่า กว่าจะได้ออกไปทำงานก็สายๆโน่นแหละ
ทุกเช้าชายหนุ่มจะมานั่งดูเธอจัดร้าน ร้านกาแฟเล็กๆที่อบอวลไปด้วยกลิ่นกาแฟหอมกรุ่นทำให้เขาหลงรักกลิ่นกาแฟโดยปริยาย
เต้ชอบมองดูนุชสาละวนกับการจัดร้านเช้าๆแบบนี้จัง รู้สึกดีพิลึก
โรคจิตหรือเปล่าเต้ เธอแขวะเขา
วันนี้เอาอะไรดี เธอเอ่ยถามพลางเช็ดโต๊ะไปเรื่อยๆ ร้านเธอเป็นเพียงร้านเล็กๆเลยไม่จำเป็นต้องจ้างผู้ช่วย ทุกอย่างในร้านเธอทำเองหมดทุกอย่าง และถ้าวันไหนที่เป็นวันหยุดร้านกาแฟเล็กๆแห่งนี้จะมีผู้ช่วยมือดีอย่างเตวิชย์มาช่วยทุกครั้งไป
ขอลาเต้ที่มีส่วนผสมของหัวใจเจ้าของร้านด้วยได้ไหม เขานั่งท้าวค้างมองเธอ หญิงสาวชะงักมือจากการเช็ดโต๊ะเก้าอี้ หันมามองเขา
ตลกนะเต้ เดี๋ยวจะได้ลาเต้ผสมเลือดเต้แทน เธอบอกเค้ายิ้มๆ ทำให้คนที่ท้าวค้างอยู่ยิ้มตามไปด้วย
โธ่ ขอหัวใจไม่ได้ ถ้าอย่างนั้นวันนี้เต้ขอแค่รอยยิ้มของเจ้าของร้านก็พอนะ
ก็ให้ไปทุกวันอยู่แล้วนี่นา รอเดี๋ยวนะเดี๋ยวนุชเช็ดตัวนี้เสร็จก่อนแล้วจะทำให้ ที่จริงแล้วเขาก็ทำเป็น เพราะมาเป็นลูกมือของเธอประจำ แต่เตวิชย์ไม่ยอมทำเองดื่มเอง เขาชอบดื่มกาแฟจากฝีมือเธอมากกว่า
เดี๋ยวพรุ่งนี้เต้มาช่วยแต่เช้านะ เขาบอกหลังจากที่เธอเอากาแฟมาวางตรงหน้าเขาเรียบร้อยแล้ว
ถ้าเต้ไม่สะดวกก็ไม่เป็นไรนะ นุชเกรงใจ
เราเพื่อนกัน จะมาเกรงจงเกรงใจอะไรละนุช ใช่...เธอกับเขาเป็นเพื่อนกัน เขาคงอยู่ในฐานะนี้ละมั้ง หลายครั้งที่เขาพยายามบอกความนัย แต่ดูเหมือนว่าอีกฝ่ายจะไม่ยอมรับรู้ แถมมักจะเฉไฉไปทางอื่นอีกต่างหาก
เราไปทำงานก่อนนะ เย็นจะแวะมารับยิ้มใหม่ ว่าแล้วเขาก็ลุกหนีไป ปล่อยให้เจ้าของร้านยืนอมยิ้มอยู่คนเดียวแบบนั้น
แล้วเราจะรอส่งยิ้มให้เต้นะ เธอบอกเขาในใจ
วันนี้เหนื่อยจัง เต้ขอยิ้มหวานๆของนุชหน่อยซิ ชายหนุ่มเดินยิ้มเซียวๆเข้ามาในร้านในตอนเย็นของวันหนึ่ง หญิงสาวฉีกยิ้มกว้างให้อย่างเอาใจอดที่จะเอ่ยถามอย่างเป็นห่วงไม่ได้
วันนี้ดูไม่ค่อยดีเลย เต้ไม่สบายหรือเปล่า เขามองรอยยิ้มหวานๆของเธอ อดที่จะเอื้อมมือไปแตะรอยยิ้มนั้นไม่ได้
เต้อยากให้นุชเก็บรอยยิ้มนี้ไว้ให้เต้คนเดียวได้ไหม
วันนี้เขามาแปลกๆ...หญิงสาวคิด เธอจับมือเขามากุมไว้
รอยยิ้มนี้นุชมีไว้ให้เต้มานานแล้วนี่ ก็เราเพื่อนกันนี่นา เธอย้ำคำว่าเพื่อนอีกแล้ว เต้มีอะไรหรือเปล่า นุชว่าวันนี้เต้ดูแปลกๆไปนะ เธอเอียงคอมองเขาเล็กน้อย สายตาช่างสังเกตของเธอ วันไหนที่เขาดูผิดปกติเธอจะรับรู้ได้ตลอดซิน่า
เต้แค่เหนื่อยน่ะ วันนี้ขอลาเต้ผสมหัวใจเจ้าของร้านได้หรือเปล่า เขาพูดยิ้มๆ ทุกครั้งเขาจะได้คำตอบว่า...ตลกน่าเต้ แต่วันนี้เธอได้แต่อมยิ้มแล้วเดินไปยังเครื่องทำกาแฟ แล้วทำมันอย่างตั้งใจ
อ่ะ...อันนี้เป็นแก้วพิเศษเลยนะ ใส่ทั้งหัวใจทั้งรอยยิ้ม สำหรับเต้คนเดียว เธอยื่นแก้วกาแฟให้แก่เขา แล้วหย่อนตัวนั่งลงเบียดกับเขา อดไม่ได้ที่จะซบศีรษะกับบ่ากว้างๆนั้น
วันนี้เต้เหนื่อยมากหรอ? เธอเอ่ยถาม มือหนาที่กำลังยกแก้วกาแฟขึ้นจิบชะงักนิดหนึ่ง แล้วหันมามองรอยยิ้มจากเธอ เขาพยักหน้างึกๆ
แต่พอมาเจอรอยยิ้มของนุชเต้ก็หายเหนื่อยแล้วละ เตวิชย์ยกมืออีกข้างที่ว่างดึงศีรษะได้รูปของเพื่อนสาวมากอดไว้หลวมๆ
วันนี้ลูกค้าเยอะไหม เขาถามคนที่เงยหน้าขึ้นฉีกยิ้มหวานให้เขา พร้อมพยักหน้างึกๆ
เยอะ แต่นุชไม่รู้สึกเหนื่อยนะ
จะเหนื่อยได้ไงละ เงินทั้งนั้นนี่ หญิงสาวย่นจมูกให้กับคนที่รู้ทันไปซะทุกเรื่อง แล้วดีดนั่งตัวตรงทันที
เออ...นุชลืมไปเลยว่าอบขนมไว้ เดี๋ยวจะเอามาให้เต้ลองชิมนะ สูตรใหม่เลยละ รับรองความอร่อยโดยผู้ชำนาญการทางด้านขนมเบเกอรี่อย่างนุชการ เธอชี้ใส่ตัวเอง นั่นทำให้คนที่กำลังจิบกาแฟส่ายหัวยิ้มๆ
ผู้ชำนาญการคนนี้แหละที่เชื่อยากกกก เขาทำเสียงยานคาง
แล้วจะติดใจจนถอนตัวไม่ขึ้น เธอสะบัดหน้าพรืดเข้าหลังร้านไป ปล่อยให้เขาอมยิ้มอยู่คนเดียวหน้าร้าน
ไม่นานหญิงสาวกลับมาพร้อมขนมสูตรเด็ดและใหม่ พร้อมวางมันไว้ข้างหน้าเขาแล้วพยักหน้าเป็นสัญญาณให้เขาหยิบมันขึ้นชิม เตวิชย์แกล้งทำหน้าพะอืดพะอมเล็กน้อยก่อนตัดสินใจหยิบขนมตรงหน้าเข้าปาก ซึ่งมีเจ้าของขนมสูตรใหม่ยืนลุ้นว่าเขาจะว่าไง
ชายหนุ่มแกล้งกลอกตาไปมาเล็กน้อย เหมือนไม่มั่นใจในรสชาติตรงหน้า แล้วหยิบชิ้นใหม่ขึ้นเข้าปากอีกครั้ง
เป็นไงบ้าง สีหน้าลุ้นๆของเธอทำให้เขาอยากแกล้ง เขาทำสีหน้าไม่แน่ใจเหมือนเดิมโดยไม่พูดไม่จาจนเจ้าของขนมทำสีหน้าผิดหวัง
นุชอุตส่าห์คิดค้นตั้งนาน พยายามตั้งหลายหน สงสัยจะแป้วอีกตามเคย แล้วเธอก็ถอนหายใจอย่างแรง
กินสองสามชิ้นมันยังไม่รู้รสหรอก ต้องหมดจานนี่แหละถึงจะรู้ เขาหยิบขนมเข้าปากอีกหลายๆชิ้น พร้อมรอยยิ้มหวานหยด แค่นี้เธอก็รู้แล้วว่าเขาแกล้ง...
เต้อ่ะ...อร่อยใช่ไหมล่ะ เธอกำมือชกไหล่เขาเบาๆ เตวิชย์พยักหน้ารับในระหว่างที่เคี้ยวขนมอยู่เต็มปาก
นุชคิดเองหรอสูตรนี้ เขาเอ่ยถามหลังจากที่กลืนขนมในปากลงท้องหมดแล้ว ใช่...พอไหวไหม
ไม่อยากจะบอกเลยเดี๋ยวนุชจะเหลิงไปซะก่อน แต่ก็เอาเถอะ...ก็ขนมฝีมือนุชน่ะอร่อยทุกอย่างอยู่แล้วนี่เนอะ
อย่างนี้หน่อยถึงน่าให้เป็นนักชิมประจำร้าน เธอเท้าคางยิ้มมองคนที่กำลังเคี้ยวขนมอย่างเอร็ดอร่อย
เดี๋ยวนุชเก็บร้านก่อนนะ
เต้ช่วยนะ เขาหยิบขนมใส่ปากก่อนลุกขึ้นเพื่อช่วยหญิงสาวเก็บข้าวของ เพื่อปิดร้าน...จะได้กลับบ้านซักที
ร้านกาแฟของเธอเป็นร้านกาแฟเล็กๆแต่ตกแต่งได้อย่างสวยงาม ที่ตั้งของร้านอยู่หน้าหมู่บ้านของเธอและเขา ทำให้ร้านกาแฟของเธอไม่ได้อวบอวลไปด้วยกลิ่นกาแฟเท่านั้น แต่อบอวลไปด้วยมิตรภาพของคนในหมู่บ้านด้วย
สองหนุ่มสาวที่เดินเข้าซอยมาด้วยกันเป็นภาพที่ชินตาของคนในหมู่บ้านเสียแล้ว หนึ่งร่างสูงใหญ่หุ่นนักกีฬา กับหนึ่งร่างบอบบางน่าทะนุถนอม...ทั้งคู่เดินพูดคุยหยอกล้อกันสนุกสนาน
เพิ่งปิดร้านหรอนุช เสียงเพื่อนบ้านที่กำลังยืนใช้สายยางฉีดรดน้ำต้นไม้อยู่หน้าบ้านเอ่ยถามขึ้น
จ้าลุง สองหนุ่มสาวหยุดเดิน เพื่อพูดคุยกับเพื่อนบ้านต่างวัย
เต้ก็คงอยู่ช่วยจนปิดร้านเหมือนเคยซินะ คนสูงวัยยิ้มให้กับเขา เตวิขย์พยักหน้ารับ
ครับลุง
ได้ยินว่าเดือนหน้าเต้ต้องไปทำงานอยู่สิงคโปร์หรอ
ครับ เขาพยักหน้ารับ แล้วหันมามองหน้าหญิงสาวที่ยืนอยู่ข้างๆมองเขาด้วยสายตาตัดพ้อ
เขาต้องไปทำงานอยู่สิงคโปร์...ทำไมเธอถึงไม่รู้เรื่องนี้ สายตาที่เต็มไปด้วยคำถามทำให้ชายหนุ่มเริ่มจะอึกอัก
แล้วไปอยู่กี่ปีละ
ต้องไปอยู่หนึ่งปีครับลุง เขาหันไปตอบคนถามแล้วหันมามองหน้าคนที่ยืนนิ่งเงียบราวกับรูปปั้น
อ้าว...ทำไมเงียบไปละนุช ชายสูงวัยเห็นว่าหญิงสาวยืนเงียบเลยหันมาถาม
เปล่าค่ะลุง นุชคงจะต้องไปแล้วนะคะ เดี๋ยวพ่อกับแม่จะรอทานข้าว แล้วเธอก็สาวเท้าเดินหนีจากตรงนั้น
ผมไปนะครับ เตวิชย์บอกเพื่อนบ้านต่างวัยก่อนสาวเท้าเดินตามคนที่เดินเร็วจนเหมือนกับจะวิ่ง
นุชเดี๋ยวซิ
เต้ใจร้าย เธอหันมาต่อว่าเขา แล้วสาวเท้าเดินเร็วๆ
เต้ไม่คิดจะบอกนุชเลยใช่ไหม เต้ไม่เห็นนุชเป็นเพื่อนอีกแล้วใช่ไหม เตวิชย์อยากตะโกนบอกเธอเหลือเกินว่า...ใช่ เขาไม่ต้องการเป็นเพื่อนกับเธออีกแล้ว เพราะหัวใจของเราเรียกร้องสิทธิ์มากกว่านั้น เขาอยากเป็นมากกว่าเพื่อนของเธอ...และนี่แหละที่ทำให้เขาลำบากใจจนไม่อยากเอ่ยคำนี้ออกไป
ไม่ใช่อย่างนั้นนะนุช นุชหยุดฟังเราก่อนได้ไหม
เท้าของเธอหยุดกึกอยู่กับที่ทันที แล้วหันมามองหน้าเขา...เหมือนรอคำตอบ เต้ไม่รู้จะเริ่มต้นยังไงดี
ถ้างั้นก็ไม่ต้องพูดอะไรแล้ว เธอสาวเท้าหนีเขาอีกครั้ง เตวิชย์คว้ามือเธอไว้ได้ทัน
ฟังเต้ก่อนได้ไหม เสียงเขาช่างแผ่วเบายิ่งนัก หญิงสาวลอบถอนหายใจเบาๆ ทำไมเธอต้องรู้สึกใจหายขนาดนี้ ทั้งที่คอยย้ำว่าเขาคือเพื่อน แค่เพื่อนเท่านั้น แต่พอคิดว่าอีกไม่นานก็จะไม่มีเงาของเขาคอยอยู่ข้างๆอย่างเช่นทุกวัน มันก็อดใจหายไม่ได้
ทุกเช้า...ถ้าขาดคนไปนั่งจิบกาแฟเป็นเพื่อนคุยเธอก่อนไปทำงาน ทุกวันหยุดของเขา...ถ้าขาดคนมากวน มาช่วยขายกาแฟ เธอคงจะเหงา ทุกเย็น...ถ้าขาดคนคอยเดินเป็นเพื่อนเข้าซอยตอนปิดร้าน เธอจะเป็นยังไง ทุกอย่างที่กล่าวมา...มันเป็นแค่ความเคยชินของเธอที่มีเคยมีเขาอยู่ข้างๆ หรือว่าเพราะหัวใจของเธอเรียกร้องกันแน่นะ...
เต้รู้ว่าเต้อาจเป็นได้แค่เพื่อนคนหนึ่งของนุชเท่านั้น วันนี้เต้นั่งคิดจนปวดหัวว่าจะเริ่มต้นบอกนุชยังไงดี นุชเชื่อไหมว่าเต้รู้สึกเจ็บทุกครั้งที่คิดว่าอีกไม่นานก็จะไม่ได้เจอหน้านุชแล้ว หัวใจเธอพองโตขึ้นมาเล็กน้อยเมื่อได้ยินคำนี้
เต้ไม่รู้ว่าเป็นเพราะความเคยชินหรือเปล่า...นุชรู้ไหมทุกเช้าถ้าเต้ไม่ได้เห็นหน้านุช เต้จะรู้สึกว่าตัวเองทำงานไม่ได้ตามเป้าที่ตั้งไว้ ความรู้สึกนี้มันเกิดขึ้นตอนไหนเต้ไม่อาจรู้ได้ ชายหนุ่มจ้องมองลึกเข้าไปในดวงตาที่สดใสสุกสกาวราวกับดวงดาวบนฟากฟ้านั่น
เต้ไม่ได้จะปิดบังอะไรนุชหรอกนะ แต่เต้...ไม่รู้ซิ เต้ไม่รู้จะแก้ตัวยังไง เขาส่ายหน้าช้าๆอย่างคนหาข้อแก้ตัวไม่เจอ
ไม่ต้องก็ได้ นุชแค่น้อยใจที่ไม่รู้เรื่องนี้มาก่อนก็เท่านั้น นุชเข้าบ้านก่อนนะ
เดี๋ยวนุช ขอเต้คุยด้วยสักครู่ได้ไหม หญิงสาวหันมาจ้องตาเขาอย่างค้นคว้า ก่อนพยักหน้าอนุญาต
เข้ามาซิ เธอเปิดประตูรั้ว แล้วหันมาพยักหน้าให้กับเขา ชายหนุ่มเดินตามหญิงสาวไปยังสวนหน้าบ้านที่มีชิงช้าวางอยู่ รอบๆนั้นเต็มไปด้วยดอกไม้หลากหลายชนิดที่เจ้าของบ้านตกแต่งไว้อย่างสวยงาม
เขาหย่อนตัวลงนั่งบนชิงช้า แล้วดึงมือเธอให้นั่งลงใกล้ๆ
เดือนหน้าเต้คงต้องเดินทางแล้ว เต้ต้องไปประจำที่บริษัทแม่เป็นเวลาหนึ่งปี เขาเริ่มต้นการเล่า
ทำไมต้องเป็นเต้ เธอเอ่ยถามอย่างแผ่วเบา รู้สึกใจหาย
อนาคตเต้จะต้องรับผิดชอบงานที่หนักขึ้นมั้ง เขาเปรยๆนั่นก็คือการเตรียมตัวเลื่อนตำแหน่งนั่นเอง เตวิชย์เป็นวิศวกรอันดับต้นๆของบริษัทซึ่งหาตัวจับยาก นั่นอาจเป็นเหตุผลที่ทำให้เขาถูกเลือกไปประจำที่สำนักงานใหญ่ของบริษัทเพื่อเรียนรู้งานที่ต้องรับผิดชอบมากขึ้น นุชการยิ้มให้เขา
นุชจะเป็นกำลังใจให้เต้เสมอนะ เธอเอื้อมมือไปแตะมือเขาเบาๆ
ขอบคุณมากนะนุช
ถึงแม้ตอนนี้เธออยากรั้งเขาไว้แค่ไหน...เธอก็คงทำไม่ได้ เพราะนั่นมันจะเป็นการขัดขวางความก้าวหน้าของเขาเอง เธอจะต้องสนับสนุนและให้กำลังใจเขาซิถึงจะถูก
อีกเรื่องนะนุช เขากุมมือเธอมาวางไว้บนตักของตัวเอง
อะไร หญิงสาวทำหน้าทะเล้นถามเขา
นุชรอเต้ได้ไหม คำถามจากปากกระจับได้รูปนั้น ทำให้หญิงสาวตัวแข็งเป็นหุ่นยนต์ไปหนึ่งนาทีก่อนจะเอ่ยถามเขาเพื่อให้แน่ใจในคำถาม
เต้ว่าอะไรนะ เธอเลิกคิ้วถาม
เต้ถามว่า...นุชจะรอเต้ได้ไหม
หมายความว่าไง ชายหนุ่มใช้ขาดันพื้นเพื่อโยกชิงช้าไปเบาๆ เขาหันมามองเธอเล็กน้อยก่อนสูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆเพื่อเรียกกำลังใจ
เต้เคยบอกนุชไปหลายครั้งแล้วนะว่า อยากได้ลาเต้พร้อมหัวใจของนุชทุกเช้า คำพูดของเขาทำให้เธอหน้าแดงขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้
นุชนึกว่าทุกเช้า...คำนี้จะเป็นคำที่เต้เคยชินซะอีก ใช่...เพราะคำนี้เขามักจะพูดตอนที่สั่งลาเต้ กาแฟรสโปรดของเขาเสมอ จนเธอคิดว่าเขาคงจะพูดเล่นเพราะความเคยชิน
เต้ไปดีกว่า... อยู่ๆเขาก็ลุกขึ้นยืนหันหลังให้เธอ
เต้จะมาฟังคำตอบหลังจากที่เต้กลับมาแล้วนะ เขาพูดทิ้งท้ายก่อนปล่อยให้เธอนั่งจมกับความคิดของตัวเองอย่างนั้น
...เขาไปแล้ว... ทุกเช้าเธอไม่ได้ยินเสียงเขา ไม่ได้ชงลาเต้พร้อมหัวใจให้เขาอีกแล้ว ทุกวันหยุด...ที่เคยมีเขามาช่วยเป็นลูกมือ ตอนนี้ว่างเปล่า ไม่ว่าวันไหนๆเธออดที่จะคิดถึงเขาไม่ได้ ทุกเย็นหลังปิดร้าน...เธอต้องเดินกลับบ้านคนเดียว ไม่มีคนคอยแหย่ คอยช่วยถือของเหมือนเช่นเคย มองไปทางไหนมันช่างว่างเปล่า...หัวใจเธอรู้สึกโดดเดี่ยวเหลือเกิน
...รอเต้นะ... ข้อความสั้นๆที่เขาส่งให้เธอก่อนขึ้นเครื่องเหมือนเป็นสัญญาระหว่างเขากับเธอ...มองข้อความนี้คราใดอดที่จะอมยิ้มไม่ได้ ใช่...เธอจะรอเขากลับมา ในแต่ละวัน...เธอรู้สึกว่าวันเวลาช่างผ่านไปอย่างเชื่องช้าเหลือเกิน หญิงสาวเหลือบมองปฏิทินที่มีปากกาสีแดงขีดฆ่าตัวหนังสือบนนั้น เพิ่งผ่านไปแค่เดือนหนึ่งเองหรือนี่...แต่ทำไมเธอถึงรู้สึกเหมือนว่า เวลาได้ผ่านไปเป็นปีแล้ว
วันเวลาผ่านไป...จากวันเป็นเดือน เดือนเป็น สอง สาม สี่ ห้าเดือน...เธอยังคงรอเขา รอรักจากคนที่บอกว่าจะมาขอคำว่ารักจากเธอ
วันนี้อากาศข้างนอกไม่สดใสเหมือนทุกวัน ท้องฟ้ามืดครึ้ม ลมแรง...หญิงสาวเปิดร้านแต่เช้าเหมือนเคย สภาพอากาศจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร แต่ร้านของเธอยังคงดำเนินไปเฉกเช่นทุกวัน
ลูกค้าคนที่หนึ่งเข้ามา ที่สอง สามสี่ตามมา บ้างมาเดี่ยว บ้างมาเป็นคู่ บ้างมาเป็นหมู่คณะเธอรู้สึกดีเวลาที่ลูกค้าเข้ามาแล้วพูดคุยทักทายกัน
ลูกค้าบางคนที่รู้จักกับเตวิชย์ก็มักจะถามถึงเขา เธอก็ได้แต่ยิ้มๆแล้วตอบกลับไป แต่คงไม่เท่าคำๆหนึ่งจากลูกค้าคนนี้
แฟนไม่อยู่คงเหงาแย่ซิคะ หลังจากที่รับรู้จากปากของเธอว่าเขาไปไหน ดูเหมือนว่าลูกค้าคนนี้จะเป็นห่วงเธอเป็นพิเศษ หญิงสาวไม่ได้เอ่ยปากปฏิเสธไป...อย่างน้อยเขาก็คือคนที่เธอรอ
ไม่นานหลังจากที่เมฆสีดำเคลื่อนตัวปกคลุมจนเต็มท้องฟ้า เม็ดฝนเริ่มหลั่งรินลงมาอย่างบ้าคลั่ง เสียงท้องฟ้าคำรามท่ามกลางฟ้าแลบ ความเหงาเกาะกุมหัวใจทันที เธอคิดถึงเขา...คิดถึงเวลาเดินใต้คันร่มเดียวกันยามฝนตก คิดถึงอกอุ่นๆคอยปกป้องยามฟ้าร้อง คิดถึงๆๆ ทำไมตอนนี้เธอถึงได้คิดถึงเขามากเพียงนี้
ไม่อยากเชื่อเลยว่า...เธอเพิ่งจะค้นพบหัวใจที่แท้จริงของตัวเองตอนนี้ มันคงไม่สายเกินไปใช่ไหม
ฝนเริ่มซา...ลูกค้าที่ติดอยู่ในร้านต่างทยอยกันออกไป ไม่นานร้านทั้งร้านก็เหลือเพียงเธอกับความเหงาอีกครั้ง นุชการหยิบแก้วกาแฟที่เตวิชย์มักจะใช้เป็นประจำขึ้นมาดู
เต้ชอบแก้วอันนี้ เวลานุชชงกาแฟให้เต้ เต้ขอแก้วนี้นะ
หญิงสาวหยิบแก้วใบนั้นขึ้นมากุมไว้เสมือนว่าแก้วใบนั้นเป็นตัวแทนของคนที่เธอคิดถึงเวลานี้...
เสียงกระดิ่งหน้าร้านดังขึ้น นั่นแปลว่ามีลูกค้าเข้ามาในร้าน หญิงสาววางแก้วลงพร้อมหันหลังกลับไปยิ้มทักทายลูกค้า
สวัสดี... เสียงเธอขาดหายไปแค่นั้นเมื่อเห็นว่าลูกค้าที่เดินเข้ามาคือใคร เสียงของเธอถูกกลืนเข้าไปข้างในลำคอ...หญิงสาวได้แต่ยืนยิ้มอยู่อย่างนั้นพูดอะไรไม่ออก
เต้กลับมารับคำตอบจากนุชนะ คนที่เพิ่งเดินเข้ามาภายในร้านพูดยิ้มๆ ไหนว่าเต้ไปหนึ่งปีไง เธอถามตะกุกตะกัก
เต้ต้องไปทำงานที่โน่นหนึ่งปีก็จริง แต่ใช่ว่าเต้จะกลับมาระหว่างนั้นไม่ได้นี่นา สิงคโปร์กับไทยบินแป๊บเดียวก็ถึงแล้ว
เขากางแขนออกเพื่อรับร่างที่วิ่งถลาเขามากอดเขาไว้แนบแน่น...คำตอบของหัวใจของเธอคือเขา
ขอให้นุชได้ชงลาเต้ผสมหัวใจให้เต้ได้ดื่มทุกเช้าได้ไหม เขาพย้กหน้ารับด้วยรอยยิ้ม...
การรอคอยใครบางคน...เพื่อมาบอกรัก อาจต้องรอทั้งชีวิต แต่ถ้าเขาเดินเข้ามาแล้ว อย่าปล่อยให้เขาต้องจากไปด้วยการที่เราไม่รู้หัวใจตัวเอง...
|
Create Date : 24 มีนาคม 2551 |
|
18 comments |
Last Update : 23 กรกฎาคม 2551 23:17:18 น. |
Counter : 820 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
โดย: doyngam 25 มีนาคม 2551 1:10:25 น. |
|
|
|
| |
โดย: สิงห์อมบ๊วย IP: 61.7.133.232 25 มีนาคม 2551 20:27:14 น. |
|
|
|
| |
โดย: doyngam 28 มีนาคม 2551 1:57:54 น. |
|
|
|
| |
โดย: fonrin 29 มีนาคม 2551 11:03:52 น. |
|
|
|
| |
โดย: เตชิต IP: 125.27.112.98 29 มีนาคม 2551 14:01:44 น. |
|
|
|
| |
โดย: ปาณิก... IP: 61.19.66.97 29 มีนาคม 2551 17:35:46 น. |
|
|
|
| |
โดย: mangotip IP: 118.173.239.145 5 เมษายน 2551 3:32:13 น. |
|
|
|
| |
โดย: hakuto IP: 118.172.99.133 15 เมษายน 2551 22:06:50 น. |
|
|
|
|
|
|
|
Location :
[ดู Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]
|
* ฝนริน/ปาณิกดา *
ผู้หญิงที่มีอารมณ์อ่อนไหว เหงา เศร้า หัวเราะ ร้องไห้ได้ในเวลาเดียวกัน (ท่าจะบ้าเนอะผู้หญิงคนนี้ เอิ๊กส์)
งานเขียนในบล็อกนี้ ขอสงวนลิขสิทธิ์ ตามพรบ.ลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537 นะคะ
|
**ขอขอบคุณภาพแต่งบล็อก และ โค๊ดแต่งบล็อกจากเพื่อนชาวบล็อกทุกท่านมา ณ ตรงนี้ด้วยนะคะ**
|
|
|
|
|
|
|
แต่อ่านแล้วแอบเหงา
เพราะวันนี้เพิ่งเขียนกลอน ใจคนคอยไป
...เมื่อไหร่คนที่เราคอยจะมาบ้างนะนี่