ธมฺมํ ปสฺสโต มโน สุขํ.
เมื่อมองเห็นธรรม ใจย่อมเป็นสุข ฯ
Group Blog
 
 
พฤศจิกายน 2552
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
2930 
 
23 พฤศจิกายน 2552
 
All Blogs
 
อยากให้รู้ว่าคิดถึง..ตอน..ชีวิตที่ต้องเสี่ยง









หลังจากที่อิ่มหนำสำราญแล้ว..รายการต่อไปก็คือ..

ล้างถ้วยชามกับทำความสะอาดครัว..

ไม่เป็นไรๆ..เรามีแรงแล้วนี่นา..

แค่นี้..ส.บ.ม...สบายมาก..

ปล่อยให้เจ้าพันคุยกับลุงโชติไป..

เราจะได้คุยกับยายตัวร้าย..

งืมๆ..แผนของเราเข้าท่าแฮะ..

แต่..เอ่อ..สี่เขี้ยวเมื่อคืน..มันจะกลับมาอีกไหมนี่..

เดี๋ยวคอยดูอารมณ์ของยายตัวร้ายก่อนดีกว่า..

ขณะที่กำลังล้างชามอยู่..

เราก็คอยชำเลืองมองหน้ายายตัวร้าย..

รู้สึกเหมือนกับว่าเธอกำลังใช้ความคิดอะไรอยู่..

ความจริงเราก็ไม่อยากทำลายสมาธิของเธอหรอกนะ..

แต่ว่า..ถ้าปล่อยไว้นานๆก็ไม่ดีเหมือนกันสิ..

“นี่คุณ..กำลังคิดอะไรอยู่หรือครับ”..

“นายเคยอดไหม”..

“อดแบบไหนรึ”..

“ก็อดแบบที่ว่า..เมื่อถึงเวลากินก็ไม่ได้กินน่ะ”..

“เคยสิ..ตอนที่ผมบวช..ผมก็กินแค่สองมื้อ”..

“ก็นั่นมันเป็นข้อบังคับไม่ใช่รึ”..

“ใช่สิ”..

“แล้วนายจะเอามารวมกันได้ไง..

ที่ชั้นถาม..ไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น”..

“อ้อ..คุณถามถึงตอนนี้ใช่ไหม”..

“ใช่”..

“ถ้าหมายถึงตอนนี้..ก็มีบ้างนะ..

แต่ไม่ได้หมายความว่าไม่มีกิน..

แต่เป็นเพราะผมไม่กินเองมากกว่า..

อย่างเช่นเมื่อเช้า..ผมก็ไม่ได้กินข้าวมา..

กินกาแฟไปถ้วยเดียวเอง..ถึงได้หิวเร็วไงครับ”..

“อ้อ..อย่างนั้นรึ..นายได้ฟังเรื่องที่พ่อชั้นเล่าหรือเปล่า”..

“ฟังสิ”..

“แล้วนายคิดว่ายังไง”..

“พ่อคุณเป็นคนเก่งนะ..

ขยัน..อดทน..จนสามารถสร้างฐานะได้ถึงขนาดนี้”..

“พ่อชั้นเล่าตอนรับงานเหมาครั้งแรกหรือเปล่า”..

“เล่าสิ..ผมถึงได้บอกไงว่าพ่อคุณเก่ง..

ถ้าเป็นผม..

ผมก็คงไม่กล้ารับเหมาเองหรอกนะ..

กลัวขาดทุน”..

“ตอนที่พ่อชั้นรับเหมาครั้งแรก..

พ่อพูดกับชั้นว่า.. “อดทนหน่อยนะลูก..เราลำบากในวันนี้..

เพื่อจะได้สบายในวันข้างหน้า”..

“มันก็จริงของพ่อคุณนะ..

ตอนนี้..พวกคุณก็สบายแล้วนี่นา”..

“ไม่จริงหรอก”..

“อ้าว..ทำไมรึ”..

“ถึงตอนนี้..พวกชั้นก็ยังเสี่ยง..เสี่ยงทุกอย่าง..

แม้กระทั่งนายก็ยังเสี่ยงเหมือนกัน”..

“ผมไม่เข้าใจที่คุณพูดเลยนะ..ช่วยอธิบายหน่อยสิครับ”..

“นายมองพี่พันตอนกินข้าวหรือเปล่า”..

“มองสิ”..

“ปกติพี่พันจะกินข้าวช้าแบบนี้รึ”..

“ใช่..มันเป็นปกติของเขาอยู่แล้วนี่ครับ”..

“แล้วนายไม่คิดอะไรเลยรึ”..

“ก็ผมไม่รู้จะคิดอะไรนี่ครับ..

เห็นจนชินตา..มีอะไรหรือครับ”..

“ก็ที่ชั้นบอกว่า..ทุกวันนี้พวกเราก็ยังเสี่ยง..

รวมถึงนายด้วย”..

“เสี่ยงแบบไหนหรือ”..

“เสี่ยงทุกอย่าง..ทั้งที่เป็นการใช้ชีวิตประจำวัน..

ทั้งที่เป็นการใช้ชีวิตเพื่อวันข้างหน้า”..


โธ่..นี่เราเสี่ยงเรื่องอะไรกันรึ..ยัยตัวร้าย


“อธิบายให้ละเอียดหน่อยสิครับ”..

ก็เรายังสงสัยอยู่นี่..เนอะ..

“ถ้าอย่างนั้น..

เอาเรื่องการใช้ชีวิตประจำวันก่อนนะ..

อย่างเช่น..

ในขณะที่นายกำลังล้างจานอยู่นี่ก็เป็นการเสี่ยง..

เสี่ยงในการที่จานจะหล่นแตกแล้วกระเด็นมาถูกนาย..

หรือถ้าไม่กระเด็นถูก..แต่ก็ยังเสี่ยงตอนที่เก็บกวาด..

หรือเวลาหุงข้าวทำกับข้าว..ไฟฟ้าอาจจะช๊อด..

แก๊สอาจจะระเบิด..หรือเวลาที่ชั้นทำกับข้าว..

ชั้นอาจจะทำไม่สะอาด..จนทำให้เกิดโทษแก่นายก็ได้..

หรือในขณะที่นายกินข้าว..นายอาจจะไม่ระวัง..

จนทำให้นายได้รับบาดเจ็บก็ได้..เช่น..ก้างติดคอ..

กัดลิ้นตัวเอง..หรือช้อนบาดปากเอา..

นี่แค่ตัวอย่างเล็กน้อยนะ..

นายเห็นไหมว่าคนเราต้องเสี่ยงเป็นประจำอยู่ทุกวัน..

ที่พี่พันเค้ากินข้าวช้า..

ชั้นคิดว่าเค้าก็คงคิดอย่างนี้เหมือนกัน”..

“โห..เพื่อนผมมันคิดมากถึงขนาดนั้นเชียวหรือนี่”..

“ความจริง..ชั้นก็ไม่เคยคิดถึงเรื่องนี้เลยนะ..

เพียงแต่เห็นพี่พันเค้ากินข้าวช้า..

ชั้นก็เลยคิดได้..

ชั้นรู้เพียงแต่ว่า..เวลาเคี้ยวอาหาร..

ต้องเคี้ยวให้ละเอียดก่อนถึงจะกลืนได้..

เพราะว่า..อาหารจำพวกเนื้อมันย่อยยาก..

ถ้าเคี้ยวไม่ละเอียดแล้วกลืนลงไป..

มันจะทำให้ระบบย่อยสลายต้องทำงานหนักกว่าปกติ”..


อืม..เก่งจริงๆเลยนะ..ยัยตัวร้าย..


“แล้วที่คุณว่า..

เสี่ยงในการใช้ชีวิตในวันข้างหน้าล่ะ..หมายถึงอะไร”..

“ยกตัวอย่างง่ายๆ..

อากาศที่นายหายใจเข้าไปนั่น..

นายว่าบริสุทธิ์หรือเปล่า”..

“ไม่รู้สิ”..

“นั่นสิ..เพราะนายไม่รู้..ชั้นไม่รู้..ก็เลยป้องกันไม่ได้..

เมื่อป้องกันไม่ได้..มันก็เป็นการเสี่ยง..

เสี่ยงที่พวกเราจะหายใจเอาอากาศที่ไม่บริสุทธิ์เข้าไป..

วันก่อนที่โรงพยาบาล..

ชั้นเห็นพวกหมอกับนางพยาบาล..

คาดผ้ากรองอากาศกัน..

นั่นคงเป็นเพราะพวกเขาเรียนมา..

พวกเขาถึงได้รู้ว่า..อากาศที่นั่นไม่บริสุทธิ์..

พวกเขาถึงได้ป้องกัน..

แต่ว่า..พวกเราไม่รู้..อยู่ที่นั่นตั้งนาน..

แต่ไม่ได้ป้องกันอะไรกันเลย..

ป่านนี้พวกเชื้อโรคต่างๆ..

มันคงกำลังสร้างบ้านสร้างเมือง..

อาศัยอยู่ในร่างกายของพวกเรากันแล้วมั๊ง..

อีกอย่างนะ..เวลาที่พวกเราไปจ่ายกับข้าว..

เราไม่รู้เลยว่าพวกเนื้อพวกผักสดๆที่เราเห็น..

มันจะปนเปื้อนสารอะไรมาบ้าง..

เห็นผักสดๆเนื้อสดๆนึกว่าเป็นของใหม่..ก็ซื้อมา..

พอซื้อมาแล้วก็ทำกิน..พอกินเข้าไปแล้ว..

มันก็เกิดการสะสม..เมื่อมันสะสมมากๆเข้า..

ก็รอเวลาส่งชิงโชค..รางวัลที่ได้รับก็คือบิลค่ายา..

ค่ารักษาพยาบาล..หรืออาจจะโชคดีมากกว่านั้น..

ได้ไปทัวร์เมืองนรกแทน..

อย่างนี้..นายยังว่าไม่เสี่ยงอีกรึ”..


งืมๆ..นั่นสินะ..ยัยตัวร้าย..


“แต่ถึงเราจะรู้..เราก็ป้องกันได้เป็นอย่างๆเท่านั้น..

เราไม่สามารถที่จะป้องกันได้ทุกอย่างนี่ครับ”..

“มันก็จริงของนาย”..

“ผมว่า..ยิ่งคุณคิดมาก..คุณก็จะยิ่งกังวล”..

“แต่ว่า..

ความกังวลนั้นมันเกี่ยวกับครอบครัวของชั้นนะ..

ตาบ้า”..เอ้า..แอบมาตอนเผลอนิ..เขี้ยวนี้..

“พ่อชั้นต้องไปทำงานอย่างนั้นก็ยิ่งเสี่ยง..

ใครจะรู้ได้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในวันข้างหน้า..

โอ๊ย..ยิ่งคิด..ชั้นยิ่งกลุ้มนะนี่”..

“เอ่อ..งั้น..คุณก็ทำอย่างเจ้าพันสิ”..

“ทำยังไงเหรอ”..

“ก็..สบายกว่ากันเยอะเลยอยู่เฉยๆดีกว่า”..

“ฮื่ม..ตาบ้านี่”..

“ก็ผมบอกแล้วไงว่า..ยิ่งคุณคิด..คุณก็ยิ่งกลุ้ม”..

“จะไม่คิดมันก็ไม่ได้..เพราะว่าชั้นต้องหาทางป้องกัน”..

“คุณจะป้องกันแบบไหน”..

“ไม่รู้สิ..ชั้นยังไม่รู้หรอก”..

“ถ้าอย่างนั้น..

ผมขอถามคุณหน่อยว่า..คุณห่วงตัวเองหรือเปล่า”..

“ตัวของชั้น..ชั้นก็ต้องห่วงสิ”..

“แล้วคุณคิดว่า..พ่อคุณ..แม่คุณ..จะไม่ห่วงตัวเองรึ”..

“ก็คงจะห่วงตัวเองเหมือนกัน..

แต่ไม่รู้ว่าจะมากเหมือนที่ชั้นห่วงหรือเปล่า”..

“นั่นสิ..เพราะคุณไม่รู้..แล้วคุณจะป้องกันอย่างไร”..

“ฮื๊ย..ตาบ้านี่..เดี๋ยวกัดหูเสียเลย..พูดวกวนอยู่ได้”..


อ้าวๆ..กัดด้วยคำพูดมันแค่เจ็บใจ..

แต่นี่ยายตัวร้ายคิดจะกัดให้ร่างกายเราเจ็บด้วยนิ..

ดุจริงนะ..ยัยตัวร้าย..


“นี่ๆ..เราเลิกพูดเรื่องนี้กันเถอะ..ผมมีเรื่องอยากถามคุณ”..

“เรื่องอะไรรึ”..

“ผมอยากรู้ว่า..ทำไมคุณเรียกเจ้าพันกับเจ้านะว่าพี่..

แต่กับผม..ทำไมคุณเรียกว่านายล่ะ”..

“นายอยากรู้ไปทำไม”..

“ก็ผมสงสัยสิ..ทำไมคุณเรียกไม่เหมือนกัน”..

“ก็ได้..งั้นชั้นจะบอกนาย..

พี่พันเป็นคนใจเย็น..สุขุม..อ่อนโยน..

เค้ามีลักษณะของผู้นำ..ไม่รู้สิ..มันเหมือนกับว่า..

เขาพร้อมที่จะช่วยเหลือคนทุกคนที่เดือดร้อน..

เขาเป็นคนมีเสน่ห์นะ..เพียงแต่เขาไม่ได้เป็นคนเจ้าชู้..

ใครๆอยู่ใกล้เขาแล้วสบายใจ..เพราะอย่างนั้น..

ชั้นจึงเรียกเขาว่าพี่ได้..ส่วนพี่นะ..เป็นคนอารมณ์เย็น..

คุยเก่ง..ร่าเริงจนดูเหมือนเป็นคนกะล่อน..

และเป็นคนเจ้าชู้..คนอย่างพี่นะเป็นคนโลเล..

ไม่แน่นอนในเรื่องของผู้หญิง..อยู่ใกล้ผู้หญิงคนไหน..

ก็จะพูดเกี้ยวเขาไปหมด..แต่ในการทำงานแล้ว..

นับได้ว่าเป็นคนที่มีความมั่นใจสูง..

นายเคยสังเกตทั้งสองคนไหม..

ว่ามีลักษณะเหมือนอย่างที่ชั้นพูดหรือเปล่า”..

“อืม..ใช่จริงๆด้วยสิ..แล้วผมล่ะ..ผมมีลักษณะอย่างไร”..

“นายรับได้รึ”..

“อ้าว..มันร้ายมากนักเลยรึ”..

“สำหรับชั้นแล้ว..ไม่รู้สิ..

แต่สำหรับนายชั้นคิดว่าหนักพอดู”..

“โห..ยิ่งพูดอย่างนี้..ผมยิ่งอยากรู้..คุณบอกหน่อยสิ”..

“สำหรับนาย..เป็นคนอ่อนแอ..อ่อนไหวง่าย..

มักทนอะไรไม่ได้นาน..เป็นคนไม่มีลักษณะของผู้นำ..

แต่จะเป็นผู้ตามที่ดี”..

“โห..ผมนี่ไม่มีอะไรดีเลยรึ”..

“มีสิ..ก็นายเป็นผู้ตามที่ดีไง”..

“แค่นั้นเองนิ”..

“ชั้นก็ไม่รู้..

แต่ลักษณะของนายมันบอกอย่างนั้น..

ในชีวิตของนาย..จะพบกับความเศร้า..

ความเสียใจมากมาย..ชั้นก็ไม่รู้นะ..

แต่ชีวิตของพวกนายสามคน..แปลกมากเลย”..

“แปลกอย่างไรหรือครับ”..

“พี่พันเป็นคนมีบริวารมาก..แต่จะเป็นคนโดดเดียว..

ส่วนพี่นะ..เป็นคนมีเพื่อนมาก..

แต่ก็จะเป็นคนโดดเดี่ยวเหมือนกัน..

คนหนึ่งเป็นคนมีบริวารมาก..แต่ก็ยังเรียกว่าโดดเดี่ยว..

ส่วนอีกคนเป็นคนมีเพื่อนมาก..แต่ก็ยังเรียกว่าโดดเดี่ยว..

นายว่าแปลกไหมล่ะ”..

“นั่นสิ..ผมก็งงเหมือนกันนะ..แล้วผมล่ะ”..

“ส่วนนาย..เป็นคนมีเพื่อนน้อย..มีบริวารน้อย..

บางครั้ง..นายชอบทำตัวให้อยู่อย่างโดดเดี่ยว..

บางครั้ง..นายก็พยายามวิ่งหาเพื่อน..

อาจจะเรียกได้ว่า..นายเป็นคนมีอารมณ์อ่อนไหว..

อย่างที่ชั้นบอกตั้งแต่แรกมั๊ง”..

“งืมๆ..เข้าใจแล้ว..เวลามีเพื่อนมาก..

ก็อยากหนีไปอยู่คนเดียว..พออยู่คนเดียว..มันเหงา..

ก็เลยคิดถึงเพื่อนๆ..อย่างนี้ใช่ไหมครับ”..

“อาจจะใช่มั๊ง”..

“อ้าว..ตอบไม่เต็มเสียงเลยนี่ครับ..

มันเป็นอย่างไรกันแน่”..

“ชั้นไม่แน่ใจถึงขนาดนั้นหรอกนะ..

แต่บอกได้อยู่อย่างหนึ่ง..

คือ..

พวกนายสามคนไม่มีลักษณะของคนมีครอบครัวเลย”..

“อ้าว..ตกลงว่าพวกผมจะกลายเป็นคนโสดทั้งหมดเลยรึ”..

“ใช่..อย่างน้อยๆ.ก็ไม่ต่ำกว่าห้าปี”..


โหๆ..กรรมแล้วเรา..

นี่เราจะกลายเป็นคนโสดไปตลอดเลยรึ..ยัยตัวร้าย..


“พี่พันไม่เคยบอกเรื่องพวกนี้กับนายเลยรึ”..

“ไม่เคยเลยครับ”..

“อืม..แปลก..ชั้นว่าพี่พันเค้าก็น่าจะรู้เรื่องพวกนี้นะ”..

“เจ้าพันมันอาจจะมีเหตุอื่นก็ได้..ถึงไม่บอกผม”..

“ก็อาจจะจริง..เพราะพี่พันเป็นคนอ่านยากมาก”..

“ทำไมรึ”..

“ก็พี่พันเป็นคนเงียบๆขรึมๆ..

ไม่ค่อยแสดงอารมณ์ให้คนอื่นรู้..จึงอ่านยากมาก..

ไม่เหมือนนาย..อ่านง่ายจะตายไป”..

“อ้าว..แล้วไม่ดีรึ”..

“ก็..ดีเป็นบางครั้ง..ไม่ดีเป็นบางครั้ง”..

“คุณยิ่งพูด..ผมก็ยิ่งงง..มันเป็นอย่างไรรึ”..

“ก็นายเป็นคนเก็บอารมณ์ไม่เป็น..

ไม่ว่าจะอยู่ในอารมณ์ไหน..ก็แสดงออกมาให้คนเขารู้”..

“ผมว่าดีแล้วนา..รักก็บอกว่ารัก..โกรธก็บอกว่าโกรธ..

ไม่ต้องคอยเก็บอารมณ์”..

“นั่นแหล่ะ..ที่ชั้นบอกว่ามีทั้งดีและไม่ดี..

คือ..ดีที่คนอื่นเขารู้อารมณ์ของนายได้ง่ายๆ..

ที่ไม่ดี..คือ..ในขณะที่นายแสดงอารมณ์โกรธนั้นออกมา..

บางคนเขาอาจจะต้องการเป็นเพื่อนกับนาย..

ต้องการจะคบหากับนาย..แต่พอเขารู้อารมณ์ของนาย..

เขาก็จะไม่กล้าคบหากับนาย..

หรือบางคนอาจจะโกรธนายเสียด้วยซ้ำไป..

คนเรานั้น..เมื่อยังอยู่ในสังคมนี้..

การคบค้าสมาคมกันก็ยังต้องมี..

ดังนั้น..

การเก็บอารมณ์เป็นนั่นแหล่ะ..ถึงจะเป็นการดีที่สุด”..

“นั่นสินะ..ผมนี่..ไม่มีอะไรดีเลย”..

“มีสิ..แต่ยังน้อยอยู่..ก็เป็นธรรมดานะ..

เพราะว่านายไม่เคยสังเกตตัวเองหรือคนรอบข้าง..

นายก็เลยไม่รู้จักตัวเอง..แต่ว่า..พี่พันไม่ได้เป็นแบบนาย...

เขาเก็บอารมณ์เป็น..ชั้นเลยบอกว่า..พี่พันเป็นคนดูยาก”..


เฮ้อ..เพิ่งมีเธอคนแรกนะ..

ที่วิจารณ์ตัวเราอย่างนี้..ยัยตัวร้าย


ขอขอบคุณเฉดสีอักษรสวยๆจาก
บล๊อกคุณป้ามดด้วยนะขอรับ


ปล. ยายตัวร้าย..เรื่องนี้เราเขียนให้เธอนะ..
ถ้าพลัดหลงเข้ามาอ่าน..ก็คอมเม้นบอกด้วยนา..



เรายังคิดถึงเสมอ..เพื่อนรักต่างเพศ..



บรรยายโดย...ปีศาจน้อยจอมซน..






Create Date : 23 พฤศจิกายน 2552
Last Update : 7 ธันวาคม 2553 20:32:06 น. 1 comments
Counter : 566 Pageviews.

 
อ้าว ตอนใหม่แล้วนิ บล็อกมี่เพิ่งเข้าได้จิ คุณผี
................
สวัสดีค่ะ วันนี้เริ่มมีแดดสีจัดๆบ้างแล้ว หลังจากที่ฟ้ามัวๆมืดๆมาร่วม10วัน แต่บรรยากาศเหงาๆเงียบๆสไตน์หน้าหนาวยังเหลืออยู่ มี่เลยเอากลอน(แปด)เดียวดายมาฝากค่ะ อิอิ (จะได้เข้ากับบรรยากาศ)

..........................

คืนหนาวหนาวดาวเปลี่ยวแสงสลัว
แววหวาดกลัวรัวชัดรัดไม่อยู่
รดใบหน้าคร่ำเพ้อแตะตื่นพรู
แววหดหู่เหว่ว้าดาเดียวปัน

สายน้ำตาโดยดายกรายเข้าหา
บทสัญญาจะเข้มแข็งคล้ายเลือนผัน
ประกาศิตสาปโศกเริ่มโรมรัน
ปรอยปรอยสรรค์แทรกซุกรุกระบม

ปร่าเปล่าดายละม้ายมนต์หม่นเพรียก
นัยน์ช้ำเปียกเรียกแล้วกับขื่นขม
เสียงกระซิบลิบลิบที่โรยรม
พายากข่มระทมที่เรียงราย

อารมณ์ล่วงเข้าสู่ลู่ลานโศก
คิดชะโงกโยกย้ายก็มิหาย
แหหงอยเหงาพลันคลี่ระเลียบกราย
ด่าวกระวนกระวาย ณ ที่นั้น

พรั่นเดียวดายผะผ่าวก้าวมาหล่อ
ทยอยทอกรอเศร้ามาพันฝัน
ใบไม้นั้นยังร่วงตามกาลวัน
แต่เดียวดายในใจฉันฤาร่วงเป็น..



โดย: ญามี่ วันที่: 24 พฤศจิกายน 2552 เวลา:15:42:48 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะ VIP Friend
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

คืนฝันปีศาจน้อย
Location :
สมุทรสาคร Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




web stats
free counters
Friends' blogs
[Add คืนฝันปีศาจน้อย's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.