คนเคยผ่านมหาสมุทร ลำน้ำเล็กๆย่อมไร้ความหมาย
Group Blog
 
 
มกราคม 2554
 
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
26 มกราคม 2554
 
All Blogs
 
ทริปยุโรป แถมภูเขาไฟระเบิด (5 วันของการติดภูเขาไฟ)

หลังจากเที่ยวครบตามโปรแกรมทั้งหมด ใน 7 Blog ก่อนหน้านี้ ก็เตรียมตัวจะกลับ พอเช้าวันที่ 8 ตื่นมา แพ็คกระเป๋าเสร็จแล้ว ลงไปทานข้าว ลงมาก็มีคนถามว่า "พี่ทราบข่าวยังครับ ข่าวเรื่องภูเขาไฟที่ไอซ์แลนด์ระเบิด วันนี้เราคงกลับไม่ได้ ต้องเลื่อนกำหนดกลับ 1 วัน งั้นในที่สุดก็ได้เข้าไปในพระราชวังลูฟร์สมใจแล้วซิ ไปกันเลยครับ นั่งรถเมล์กันมาแบบงง เห็นอยู่ข้างหน้าแล้วทุกคนวิ่งลงจากรถเมล์ ปรากฎว่าหลังจากพวกเราลง รถเมล์ที่นั่งวิ่งเข้าไปจอดข้างในด้วย อ้าวพวกเราลงก่อนป้าย 2 ป้ายเลยต้องเดินเข้าไป





ลูฟร์ แต่เดิมเป็นพระราชวังที่ใหญ่โตมากที่สุดของโลก สร้างขึ้นในสมัยพระเจ้าฟิลิปป์ ออกุสต์ ในปี ค.ศ 1204 แต่มาเสร็จในสมัยพระเจ้านโปเลียนที่ 3 ปี ค.ศ 1856 รวมใช้เวลาก่อสร้างถึง 7 รัชกาล เริ่มเปลี่ยนสภาพเป็นพิพิธภัณฑ์ ตั้งแต่ ค.ศ 1791 ปัจจุบันพระราชวังเก่าแก่แห่งนี้ มีสภาพเป็นพิพิธภัณฑ์ที่สำคัญและใหญ่โตที่สุดในปารีส ภายในพิพิธภัณฑ์แห่งนี้เป็นที่เก็บรักษาวัตถุโบราณต่างๆที่มีค่าและมีชื่อเสียงของโลก เช่น ภาพเขียน La Jaconde หรือภาพโมนาลิซ่า อันเป็นภาพวาดของ Léonard de Vinci จิตกรและสถาปนิกชาวอิตาเลียน ค่าเข้าคนละ 9.5 ยูโร (ตอนนั้นก็ 420 บาท)







































หลังจากเราเดินตามหาภาพโมนาลิซ่า จนเจอเราก็ตั้งใจจะไปเดินหา รูปปั้นเทพวีนัส ก็มีคนโทรมาบอกว่า เราต้องย้ายออกจากโรงแรมก่อนเที่ยง เพราะโรงแรมที่เราพักเต็มมีคนจองล่วงหน้ามา ตอนนี้จองโรงแรมที่พักใหม่ให้แล้ว ก็เลยไม่ได้โอกาสไปตาม หาเทพวีนัส



กลับมาถึงโรงแรมเราก็ย้ายโรงแรม ที่อยู่กลางเมืองปารีส ออกไปนอกเมือง นัยว่าเพื่อให้ใกล้สนามบินมากขึ้นค่าโรงแรมคืนนี้ การบินไทยจ่ายให้ 1 คืน แต่อาหารเราต้องจ่ายเอง มื้อเย็นวันนั้น เดินไปที่ ห้างคาร์ฟูร์ ในอาคารนี้มีร้านอาหารจีน ติดราคาไว้ประมาณ 1.2-2 ยูโร ไม่แพงเลย สั่งกับข้าวสี่อย่าง ข้าวผัดด้วย โค๊ก 2 ขวด รวมราคา 34.3 ยูโร คูณ 44 เข้าไป ลืมดูว่า ราคาที่ติดน่ะ 100 กรัมไม่ใช่จาน กลับออกมาจากร้านเข้าคาร์ฟูไปหาบะหมี่สำเร็จรูป แบบถ้วยราคาถ้วยละ 1.6 ยูโร เมื่อก่อนออกมาเล็งไว้แล้วในห้องพักมีกาต้มน้ำร้อนด้วย







วันต่อมา ทราบข่าวต่อว่า อาจต้องพักอีกสองคืน สถานการณ์ภูเขาไฟยังไม่ดีขึ้น และเราต้องย้ายโรงแรมอีกเนื่องจากโรงแรมที่เราพักอยู่ เต็ม แต่คืนนี้ต้องจ่ายค่าใช้จ่ายเองราคาคืนละ 70 ยูโร อืมมมม ยังมีบะหมี่ถ้วยอยู่แต่พอย้ายโรงแรมมากลับไม่มีกาต้มน้ำร้อน คราวนี้ต้องไปพึ่ง ร้านพิซซ่า ราคาสองคนทานรวมกันก็ 20 ยูโร ตกเย็นเดินไปเจอไก่หมุนขายอยู่ตัวละ6ยูโรซื้อมา1 ตัวสองคนแบ่งกัน


วันที่สามของการรอเดินทางกลับ ทุกคนนั่งจับกลุ่มคุยกันในโรงแรมตรวจสอบข่าว และข่าวที่ได้รับก็คือ ยังไม่สามารถเดินทางกลับได้ และโรงแรมที่เราพักอยู่เต็ม เตรียมตัวย้ายโรงแรมได้ ที่เต็มเพราะว่ามีกรุ๊ปจองและเดินทางมาจากโรม มาติดภูเขาไฟที่ปารีสเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เราไม่ได้จองล่วงหน้า พอครบกำหนดก็ต้องย้าย ได้โรงแรมใหม่ราคาคืนละ 90 ยูโร ไกลออกไปอีกอาจไม่มีคาร์ฟูร์ให้ซื้อของกินให้ทุกคนเตรียมเสบียงไปให้มากที่สุด คราวนี้บะหมี่สำเร็จรูปแบบถ้วยแทบหมดไปจากคาร์ฟูร์ พร้อมกับตอนเย็นมีข้อมูลแจ้งว่าพรุ่งนี้ เราต้องเดินทางไปโรม เพื่อเดินทางกลับเมืองไทยเพราะการบินไทยมีเครื่องบินมาลงที่โรม ก็ยังดี จะได้กลับบ้านแล้วถึงจะเสียค่าโรงแรมไปสองคืนแล้วก็ตาม


วันที่สี่ของการตกค้างเตรียมกระเป๋าขนลงมาเรียบร้อย พอลงมาก็ทราบว่า พรุ่งนี้สนามบินที่ปารีสกำลังเปิด วันนี้เราพักกันให้สบายพรุ่งนี้ค่อยกลับใช้เวลาเท่ากันเพราะถ้าไปโรมต้องนั่งรถบัสไป 1800 กิโล ใช้เวลาเดินทางประมาณ 24 ชั่วโมง บางคนเลยเข้าไปในตัวเมืองปารีสซื้อของ บ้างก็กำลังวางแผนไปดิสนีย์แลนด์ แต่แล้วก็แจ้งมาว่าคงต้องไปโรม อีกเพราะสนามบินฝรั่งเศสยังไม่เปิด และรีบโทรตามคนที่เข้าไปในตัวเมืองกลับมา แต่พอทุกคนครบแผนการเดินทางเราก็เปลี่ยนอีกเป็นจะเดินทางวันรุ่งขึ้นตอนตีสี่ เพื่อไปโรม หลายคนเริ่มบ่นและต้องการความแน่นอนของแผนการ หลายคนก็เป็นห่วงว่าเมื่อถึงโรมแล้ว จะมีเที่ยวบินจริงหรือไม่ แต่ก็ได้ข้อสรุปว่า จะเดินทางไปโรม


ตีสี่ของวันที่ 5 ที่พวกเราตกค้าง เมื่อทุกคนพร้อมเราก็ออกเดินทาง พอเวลาประมาณเกือบ 6.30 น ก็จอดกินข้าวท่ามกลางสายหมอก





ขึ้นรถต่อเพื่อเดินทางไปโรมครับ ถ่ายรูปออกมาจากรถด้วยความเบื่อและเมื่อยขบ





















หลังผ่านพรมแดนของฝรั่งเศสมาที่สวิสเซอร์แลนด์ ได้ระยะหนึ่ง โทรศัพท์ก็ดังขึ้นพร้อม กับมีข่าวแจ้งให้ทุกคนในรถได้ทราบว่า ตอนนี้มีเครื่องที่ซูริคกำลังจะมาเมืองไทย เราสามารถกลับได้ที่ซูริค โดยไม่ต้องไปที่โรมแล้ว (นี่เองคงเป็นเพราะในวันแรกเราโยนเหรียญบาท เลยไม่ได้กลับมาที่โรมอีก ขอเฉลยเลยแล้วกันนะ) แต่ค่ารถ 6000 ยูโรที่พวกเราเหมามาและหารกันจ่ายไปแล้ว ก็ต้องเสียเปล่าไปอีก เอาก็เอา เลี้ยวไปซูริคเลย เฮียอันโตนิโอ(ชื่อคนขับรถของเรา)


สุดท้ายเราก็ได้ตั๋วเครื่องบินที่ซูริคหลังยืนเข้าคิวลุ้นนานเป็นชั่วโมงว่าเราจะมีที่นั่งหรือไม่ DD การบินไทยครับ ถ้าไม่มีที่นั่งยืนกลับผมก็ยอมครับ แค่บิน 12 ชั่วโมงเอง แต่ตอนที่ได้ตั๋วประมาณบ่าย 2 ต้องรอเครื่องออก 4 ทุ่มครึ่ง เอาก็เอา ได้ตั๋วแล้วก็ดีใจละ อำลาซูริคและทริปด้วยภาพนี้เลยนะครับ




Create Date : 26 มกราคม 2554
Last Update : 26 มกราคม 2554 16:20:54 น. 15 comments
Counter : 1941 Pageviews.

 
สวยจังเลยค่ะ แต่คนเยอะเหมือนกันนะคะ


โดย: AdrenalineRush วันที่: 26 มกราคม 2554 เวลา:14:02:20 น.  

 
ถ่ายภาพมาสวยมากๆ
อยากไปเที่ยวสุดๆ เลยค่ะ


โดย: Somyachi วันที่: 26 มกราคม 2554 เวลา:15:09:41 น.  

 
เห็นรูปแล้ว คิดถึงตอนไปเที่ยวอะคะ ในใจแอบคิดให้ เครื่องดีเลย์ออกไม่ได้ไปอีก 1 วันเหมือนกัน เพราะอยากเข้าไป ตามหาโมนาลิซ่าในลูฟว์ 55+


โดย: Rainny7 วันที่: 26 มกราคม 2554 เวลา:16:28:41 น.  

 
โหหหหห

งามจริงๆ

ยุโรปนี่คลาสสิคจริงๆ นะคะ


โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 27 มกราคม 2554 เวลา:11:42:49 น.  

 
ลืมไป

มาขอบคุณที่โหวตให้ด้วยนะคะ


โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 27 มกราคม 2554 เวลา:11:43:50 น.  

 
ถือเป็นโชคดีอย่างนึงที่ภูเขาไฟระเบิดนะคะ
เลยได้ไปชม พิพิธภัณฑ์ลูฟร์ ที่อยากไปพอดีเลย

แต่พอต้องมาติดค้างหลายวัน ค่าใช้จ่ายต่างๆก็เพิ่มขึ้นทวีคูณอ่ะนะคะ

คุณแฟนเค้าชอบที่นี่มากนะคะ แต่ตัวยุ้ยเองยังไม่เคยไปเลย
ได้แต่ตามมาเที่ยวด้วยทางบล๊อคนี่ล่ะค่ะ



โดย: nLatte วันที่: 27 มกราคม 2554 เวลา:14:24:24 น.  

 
ที่จริงวิวก็สวยนะคะ ถ้าเพิ่งมาคงจะไม่รู้สึกเบื่อ แต่จะกลับบ้านไม่ได้นี่เลยทำให้วิวสวยน้อยลงไปเยอะเลย

เพื่อนที่เคยไปลูฟท์ชอบมากเลยค่ะ


โดย: tuk-tuk@korat วันที่: 27 มกราคม 2554 เวลา:15:08:28 น.  

 
สวยงามมาก ๆ เลยค่ะ นี้ถ้าแหม่มไป สงสัยต้องเตรียมเมมโมรี่กล้องไปสัก โหลครึ่ง

...........



โดย: i'm not superman วันที่: 28 มกราคม 2554 เวลา:9:52:07 น.  

 
ดีจังค่ะติดภูเขาไฟระเบิดแล้วได้เที่ยวต่อแถมยังได้เข้าไปชมด้านในของลูฟท์ด้วย ถึงต้องจ่ายเงินเพิ่มแต่ก็คิดซะว่าไหนๆก็บินมาแล้ว คุ้มค่าค่ะ 555คิดบวกสบายใจดีค่ะ


โดย: apple.007 วันที่: 29 มกราคม 2554 เวลา:9:45:00 น.  

 
สวัสดียามค่ำนะคะคุณ คนเคยผ่านมหาสมุทร..

ขอบคุณสำหรับกำลังใจที่แหม่มได้รับค่ะ


โดย: i'm not superman วันที่: 30 มกราคม 2554 เวลา:19:40:23 น.  

 
ดอกขาว ๆ หลาย ๆ ต้นเรียงกันสวยมากเลยคะ


โดย: mariabamboo IP: 118.172.8.35 วันที่: 14 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:20:38:53 น.  

 
พาหลานแวะมาดูดอกสีขาวทั้งต้น อีกรอบค่ะ อยากไป ๆ


โดย: mariabamboo วันที่: 21 มีนาคม 2554 เวลา:17:04:58 น.  

 
ชอบภาพล่างๆที่มองเหมือนภาพวากสีน้ำ สวยดีค่ะ
เราอยู่ฝรั่งเศสแต่ยังไม่เคยเข้าไปในลูฟเลย น่าอิจฉาเจ้าของบล็อกจังค่ะ


โดย: jigabelle วันที่: 20 กันยายน 2554 เวลา:20:16:15 น.  

 
ภาพสวยม๊าก มากคะ นี้ขนาดเมษา ยังรู้สึกว่ายังหนาวอยู่ไม่ทราบ ตอนไปอุณภูมิประมาณเท่าไรคะ เพราะตั้งใจจะเดือนตุลา นี้


โดย: แอ๋ว IP: 58.8.65.144 วันที่: 21 กันยายน 2554 เวลา:22:17:22 น.  

 
สวยมากครับพี่


โดย: เว่นน้อย ส.สระแก้ว IP: 171.99.87.121 วันที่: 26 สิงหาคม 2556 เวลา:20:36:14 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

คนเคยผ่านมหาสมุทร
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




New Comments
Friends' blogs
[Add คนเคยผ่านมหาสมุทร's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.