สิ่งมีชีวิตจุติในท้อง

เดือนกุมภาพันธ์ 2554 คือ กำหนดการผ่ามดลูกทั้งก้อนออก เพราะทุกหมอพูดเหมือนกันหมดว่า "ไม่น่าจะท้องได้ เพราะเนื้องอกใหญ่มาก จนไม่มีพื้นที่เหลือให้เกิดการฝังตัวได้" เราและสามีเราทำใจมาได้ระยะหนึ่งแล้ว เพราะพยายามกันมา 6 เดือน

แต่และแล้ว อะไรก็เกิดขึ้นได้ วันที่ 25 ตุลาคม 2553 เรากลับจากต่างประเทศและคาดว่าจะมีประจำเดือน เพราะปกติแล้ว ประจำเดือนเราจะมาตรง แต่รอแล้วรออีก มันก็ยังไม่มา

วันที่ 27 ตุลาคม 2554 เราซื้อแผ่นทดสอบมาตรวจ ปรากฎว่า "ท้อง" เราตกใจปนดีใจปนความรู้สึกอะไรก็ไม่รู้เข้ามา แต่ก็ตั้งสติได้ว่าควรจะลองทดสอบอีกรอบ เผื่อเกิดการผิดพลาด มันก็ได้ผลดังเดิม

เรารีบบอกสามี แต่เพื่อความชัวร์ เราตัดสินใจไปตรวจที่โรงพยาบาล ผลออกมาว่าเราตั้งครรภ์ ตอนนั้นเราตี้นตันมาก แต่ก็คิดไปหลายอย่าง เพราะหมอเคยบอกว่าถ้าเราท้องจะมีความเสี่ยงสูง พอคิดได้ เรารีบไปหาหมอที่โรงพยาบาลกรุงเทพฯ คุณหมอคนนี้เค้าเป็นคนที่ตรวจเจอเนื้องอกของเรา พอ ultrasound อย่างละเอียดแล้ว คุณหมอท่านก็ดีมาก อธิบายถึงความเสี่ยง ด้วยการให้ความหวัง แต่ค่าใช้จ่ายโรงพยาบาลเอกชนอันดับต้น ๆ แบบนี้ เรากับสามีคงสู้ไม่ไหว เราเลยตัดสินใจไปฝากครรภ์ที่ศิริราช กับคุณหมอที่เราตั้งใจจะผ่าตัด

คำแรกที่เราได้ยินคือ "เสี่ยงนะ มีโอกาสเด็กไม่รอดสูง ตอนอุ้มท้องก็เสี่ยงต่อการแท้ง ส่วนเมื่อทำการคลอดก็เสี่ยงกับการตกเลือด คุณแม่อาจจะเป็นอันตรายถึงตายได้ .... " พูดประมาณว่าไม่ควรเอาเด็กไว้อ่ะ

เราถึงกับอึ้งกิมกี่ไป 2 วินาที แต่ทำใจดีสู้หมอว่า ยังไงเราก็จะอุ้มท้องและสู้ให้ถึงที่สุด ถ้ามันไม่ได้ก็คือไม่ได้ เราทำใจยอมรับได้ แต่ถ้าจะให้เราตัดใจแล้ว ... ไปเลย เราว่าไม่มีผู้หญิงคนไหนสามารถทำได้แน่นอน

หลังจากนั้น หมอเค้าก็รับฝาก แต่ไม่รับผ่า จะมีคณะแพทย์มาดูแลในช่วงที่ผ่า ซึ่งตอนนั้น เราเข้าใจว่า เค้าอาจจะแค่คน lead แล้วมีคณะแพทย์ทำงานตามคำสั่งเค้า แต่เราเข้าใจผิด และนี่เองที่ทำให้มีปัญหา ซึ่งเดี๋ยวเราจะเล่าให้ฟังในตอนต่อไปนะ

Create Date : 04 สิงหาคม 2554 Last Update : 4 สิงหาคม 2554 17:10:48 น. Counter : 755 Pageviews.		1 comments
Share Tweet