BlogGang.com : : i_tua_yung : :: วิธีทำโยเกิร์ตไว้กินเอง :: สูตรของปู่ td, *, NickyCharles << คนเดียวกัน ^^

บล็อคไร้สาระของมู๋เตย

ธันวาคม 2550

						1
2	3	4	5	6	7	8
9	10	11	12	13	14	15
16	17	18	19	20	21	22
23	24	25	26	27	28	29
30	31

2 ธันวาคม 2550

:: วิธีทำโยเกิร์ตไว้กินเอง :: สูตรของปู่ td, *, NickyCharles << คนเดียวกัน ^^

ข้อความเหล่านี้ก็อปมาจากกระทู้ "คิดถึงพี่ทีดี NickyCharles" กระทู้ระลึกถึงปู่ทีดีในหน้าห้องสมุด นี่เป็นสูตรของปู่ที่คุณเพ็ญชมพูเอามาเผยแพร่ ตัวมู๋เองเห็นว่าน่าสนใจ + น่าเก็บไว้ ทีนี้... จะเก็บที่ไหนละ เอาไว้ในบล็อคเลยดีกว่า ไว้ให้พี่น้องได้อ่านด้วย เอาละ เรามาเริ่มกันเลยยย

มู๋ขอแอบ edit หน้า + แบ่งตอนใหม่หน่อยนะคะ ปู่ _/\_ ข้อความต่อไปนี้ เป็นการไปพูดเพิ่มเติมต่อจากกระทู้ที่คุณ สันติ กิตติบรรพชา โพสท์เอาไว้ที่เว็บคนลำปาง จะใช้สีสลับกันเพื่อจะได้ไม่งงนะคะ (ของปู่จะใช้สีน้ำเงิน)

"วันอาทิตย์ว่าง ๆ ก็เลยเปิดเน็ตเล่น นึกถึงเว็บลำปางก็เลยหาอะไรมาคุยกันเล่น ผมนึกถึงเรื่องทำโยเกิร์ตไว้กินเอง ซึ่งผมก็ทำกินมากว่า ๗ ปีแล้ว เอาความรู้สมัยหนุ่ม ๆ เมื่อร่วม ๒๐ ปีแล้วที่ผมมีโอกาสดูสารคดี เรื่องหนึ่งไม่แน่ใจว่าเป็นสารคดีเกี่ยวกับประเทศเนปาลหรือไม่ ที่เขากินโยเกิร์ตกันเป็นว่าเล่น พอภรรยาตั้งท้องและอยากกินก็เลยลองทำดู

ทีแรกซื้อนมวัวสดมาต้มแล้วช้อนไขมันที่ลอยอยู่เมื่อเย็นลงออกหลังจากนั้นก็ใช้เชื้อโยเกิร์ตจากโยเกิร์ตรสธรรมชาติที่ไม่ได้ทำการปรุงแต่งใดๆที่สามารถหาได้ตามท้องตลาดมาใส่ในอัตราส่วน ๔ ช้อนโต๊ะต่อนม ๑ กิโลกรัม หากทำราว ๔ โมงเย็นตั้งทิ้งไว้ข้ามคืนก็ใช้ได้แล้ว

ฤดูหนาวอาจต้องใช้เวลา ราว ๒๔ ชั่วโมง ที่สำคัญคือต้องลวกภาชนะที่จะใช้ก่อนเพื่อฆ่าเชื้อ มาปีนี้ไม่ค่อยขยันก็ลองซื้อนมสดพร่องมันเนยที่ขายทั่วไปมาตั้งทิ้งไว้ให้หายเย็นแทนก็ใช้ได้ ครอบครัวผมจะซื้อแยมรสต่าง ๆ มาผสมกับโยเกิตที่ทำ พบว่าได้รสชาติอร่อยดี

เชื้อก็ต่อเรื่อย ๆ ปกติผมจะต่อเชื้อราว ๒-๕ ครั้ง เพราะเกรงว่าจะสกปรกทำให้โยเกิร์ตที่ต่อเชื้ออาจจะเสียได้ ใครที่ชอบกินโยเกิตก็ลองทำดูนะครับ ประหยัดดียิ่งหากอยู่ใกล้ฟาร์มโคนมก็สามารถหานมวัวสดได้ง่ายขึ้นและประหยัดขึ้น
จากคุณ : สันติ กิตติบรรพชา
03:06pm (9/11/03)"

"ขอเพิ่มเติมเรื่องโยเกิร์ตจากของคุณสันติหน่อยครับ

๑. ถูกเรื่องแล้วครับ ถ้าเป็นห่วงเรื่องน้ำหนักตัวกลัวจะอ้วน ให้ใช้นมสดพร่องมันเนยหรือปลอดมันเนยที่มีขายอยู่ทั่วไป พอนมกลายเป็นโยเกิร์ตแล้ว น้ำตาลในนม lactose ก็จะกลายเป็น lactic acid ไม่ทำให้อ้วน

แต่ถ้าจะให้ถูกเงินก็ซื้อนมผงชนิดไม่มีไขมันเอาไปละลายน้ำเอาก็ได้ แต่ต้องอ่านฉลากดูให้ดีก่อน เพราะนมผงเลี้ยงเด็กบางยี่ห้อเขาให้ผสมน้ำเย็น ถ้าผสมน้าร้อนจะเป็นก้อนละลายยาก ถ้าผสมน้ำเย็นก็เอาน้ำที่ต้มแล้วทิ้งไว้ให้เย็นก็ใช้ได้

โยเกิร์ตที่เขาขายใส่ถ้วยพลาสติก ที่ผสมรสผลไม้และใส่น้ำตาล ส่วนมากเขาจะเอานมผงใส่ไปในนมสดประมาณ ๕ เปอร์เซ็นต์เพื่อให้เนื้อข้น การทำให้โยเกิร์ตข้นส่วนใหญ่จะใส่วุ้นเพื่อให้เป็นตัวต้กง่าย ส่วนใหญ่โยเกิร์ตที่ใส่น้ำตาล ใส่ผลไม้ เขาจะฆ่าเชื้อ lactobacillus ก่อนบรรจุถ้วยเพื่อให้เก็บไว้ได้นาน เชื้อตายหมดแล้วเอามาเพาะไม่ได้

สำหรับโยเกิร์ตหลอกเด็ก ชนิดที่ทำเป็นน้ำยิ่งแล้วใหญ่ จะมี โยเกิร์ตเพียงนิดเดียว ใส่น้ำหวานผสมกลิ่นไม่มีประโยชน์อะไรนอกจากทำให้อ้วนเพราะน้ำตาล เชื้อ lactobacillus ที่โฆษณาว่ามีกี่พันล้านตัวก็ตายหมดแล้ว เคยเอาไปเพาะเชื้อแต่ไม่ขึ้น"

ขออนุญาติแยกเรื่อง เชื้อ lactobacillus กะ เรื่องประโยชน์อื่นๆ จากโยเกิร์ต ไปไว้อีกเรื่องหนึ่งนะคะ
เออ... ลืมเน้นไปว่าเรื่องนี้นานหลายปีแล้ว ข้อมูลตัวอย่างอาจจะเก่าไป - เก่ามากๆ ด้วย

""นึกว่าจะเขียนเรื่องโยเกิร์ตไปจนหมดเปลือกแล้ว บังเอิญนึกอะไรมาได้อีกก็เลยเอามาเขียนต่อ เผื่อคนที่คิดจะทำโยเกิร์ตไว้กินเอง จะได้ไม่ต้องมาสงสัยอะไรอึก

๑. น้ำนมที่ใช้ จะใช้นมสดชนิดมีไขมัน พร่องไขมัน ไม่มีไขมันหรือ นมผงละลายน้ำก็ได้

๒. เรื่องเชื้อนี่จะมีปัญหาอยู่นิดหน่อยสำหรับผู้อยู่ต่างจังหวัด เพราะเขาไม่ค่อยสั่งโยเกิร์ตชนิดธรรมชาติที่ไม่เติมน้ำตาลหรือผลไม้ เพราะคนไทยชอบกินอย่างหวาน ขนาดในกรุงเทพตามร้าน เซเว่นยังไม่มีขาย ต้องไปตามร้านแถว ๆ สุขุมวิท หรือซุเปอร์มาร์เกตใหญ่ ๆ

เรื่องนี้ถ้าเป็นนักเลงกินโยเกิร์ตแล้วเขากินอย่างไม่หวาน เพราะกินอย่างหวานมันทำให้อ้วนครับ แล้วอีกอย่างหนึ่งมันฆ่าเชื้อแลคโตบาซิลัสตายไปหมดแล้ว ยี่ห้อที่ผมเคยใช้ได้ผลดี คือ เนสเล่ กับ ฟอร์โมสต์ ยี่ห้ออื่นลองมาหลายอย่างแล้ว เลี้ยงเชื้อไม่ขึ้นเพราะมันฆ่าตายไปหมดแล้วก่อนบรรจุถ้วยจะได้เก็บได้บนชั้นขายนาน

พวกที่เป็นน้ำที่ทุ่มโฆษณามาก ๆ มีผู้หญิงขี่จักรยานไปส่งน่ะลืมได้เลยเลี้ยงเชื้อไม่ขึ้น ที่กรุงเทพมีอีกยี่ห้อหนึ่งทำเป็นอุตสาหกรรมในบ้านชื่อ Gourmet บอกว่าใช้เชื้อของบุลกาเรียมีขายแถวซุเปอร์แถวสุขุมวิท อันนี้เชื้อแข็งแรงดี

(หมายเหตุ ข่าวล่าสุด .....เมื่อเดือนที่แล้ว มิถุนายน ๐๖ ลูกชายที่เคารพนับถือมารับออกไปเที่ยว ไปได้โยเกิร์ตดีมาอันหนึ่ง ต่อมาตีฆ้องร้องเป่า หวังว่าจราจรพันทิปจะไม่มายึดใบขับขี่เพราะแอบมาโฆษณา โยเกิร์ตที่ว่า ยี่ห้อ YOLIDA ทำที่โคราช บริษัท sunrise dairy limited โทรศัพท์(๐๔๔) ๑๔๙-๑๒๐ ที่ให้เบอร์โทรศัพท์ไว้ด้วยเพราะหาซื้อยาก เพิ่งออกใหม่ จะได้เอาไว้ถามเขาว่ามีขายที่ไหนใกล้บ้านท่าน ผมซื้อมาจากวิลล่าพหลโยธิน แต่ไปเมียงมองที่ฟูจี และ เอ็มโพเรียมก็ยังไม่มีขาย

(เอ่อ... ครือว่า ปู่ขา ปี 06 มู๋ยังไม่เกิด~ อ๊ะ 06 นี่ พ.ศ. รึ ค.ศ.ง่ะ)

ที่ว่าดีกว่าโยเกิร์ตยี่ห้ออื่นที่เคยเอามาทำเช้อคือกลิ่นดี รสดี แล้วที่สำคัญที่สุดคือวางลืมไว้นอกตู้เย็นนาน ๆ ก็ไม่ค่อยกลายเป็น cottage cheese เคยเอาส่งไปให้สุภาพสตรีท่านหนึ่งที่เชียงใหม่ ตอนนั้นมีวันหยุดหลายวัน กว่าไปรษณีย์จะเอาไปส่งถึงก็เลยอาทิตย์ ทั้ง ๆ ที่ส่งอีเอ็มเอส แต่ปรากฏว่าตอนไปถึงก็ยังไม่กลายเป็นคอตเตจชีส กลิ่นแรงขึ้นนิดหน่อย ทั้ง ๆ ที่อยู่ในสภาพอากาศร้อนในระหว่างการขนส่ง)

๓. ภาชนะที่ใช้เลี้ยงเชื้อทำโยเกิร์ต ผมก็ใช้ขวดพลาสติกที่ใส่นมสดมานั่นแหละ สะดวกที่สุด เทนมออกมาดื่มสักอึกหนึ่งแล้วเอาเชื้อคือโยเกิร์ตที่ซื้อมาใส่เข้าไปสักช้อนหนึ่งเขย่าขวดแล้ววางไว้หลังตู้เย็นซึ่งเป็นที่ค่อยข้างอุ่นหน่อยก็เสร็จเรื่อง ควรจะทำทีละสองขวด

ระหว่างนั้นก็คอยสังเกตดูว่ามันจะข้นเข้าจะช้าหรือเร็วอยู่ที่อุณหภูมิอากาศถ้าหน้าร้อนก็เป็นเร็วถ้าหน้าหนาวเชื้อมันแบ่งต้วช้าก็เป็นช้า อันนี้ต้องคอยลองชิมดู ถ้าเปรี้ยวได้ที่จนพอใจแล้วก็เอาไปใสในตู้เย็น อยู่ในตู้เย็นมันจะไม่เปรี้ยวเพิ่มขึ้นเร็ว ระหว่างนี้ก็เอามาดื่มต่างนม

แต่ขอบอกสักหน่อยว่านักเลงจริงเขาไม่ใส่น้ำตาลจะทำให้อ้วน แต่จะเอามาโรยใสผลไม้เช่นมะละกอ ส้ม แอปเปิล สับปะรด สดกินก็ได้แต่อย่าใสน้ำตาล จะเอามาโรงใส่ผักเป็นน้ำสลัดก็ยังได้แต่งรสเอาเองตามชอบใจ

๔. พอกินจวนจะหมดขวดผู้เขียนก็เอานมใหม่เติมเข้าไปแล้วเอาไปวางบนหลังตู้เย็น ทำมาเป็นปีแล้วยังไม่เคยเปลี่ยนเชื้อใหม่เลย เพราะอย่างที่บอกไว้ตั้งแต่ตอนต้นแล้วว่า เชื้อแลคโตบาซิลัสมันเป็นเชื้อนักเลง เชื้ออะไรหลงเข้าไปมันฆ่าตายหมด

มีอะไรอยากจะบอกอีกนิดคือ ถ้าเผลอลืมทิ้งไว้หลังตู้เย็นนานเป็นอาทิตย์ มันจะเกิดแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ดันจุกหลุดออกบางทีดังเหมือนปืนลมเด็กเล่นก็ไม่ต้องตกอกตกใจ เอาจุกมาปิดไว้อย่างเดิมก็พอ คราวนี้ถ้าทิ้งไว้นาน ๆ มันกลายเป็นกรดแลคติกแอซิดมากเข้า มันจะแยกตัวตกตะกอน ข้างบนใส ข้างล่างเป็นก้อนสีขาว ๆ ก็ไม้ต้องตกใจ เอาตะแกรงแบบที่กรองชาหรืออะไรก็ได้มากรองน้ำใสออก

ของที่เหลือเป็นก้อนเม็ดสีขาว ๆ เขาเรียกว่า cottage cheese มีโปรตีนสูงไม่ทำให้อ้วน เอาไปใส่สลัดผักก็ได้หรือจะกินเปล่า ๆ ก็ได้ ไม่ผิดกติกา น้ำใส ๆ ที่กรองออกเขาเรียกว่า whey จะกินก็ได้ไม่มีใครว่าอะไร เพราะมีสารอาหารอยู่ ตามโรงทำเนยแข็งที่มี whey เหลือมาก ๆ ในเดนมาร์ก จะทิ้งไปก็จะเกิดมลภาวะทำให้น้ำเสีย เขาเอาไปขายโรงเลี้ยงหมูจ้า

คิดว่าจบบริบูรณ์คงไม่มีอะไรต้องเล่าต่ออีกแล้ว ใครสงสัยอะไรก็เขียนมาถามที่อีเมลข้างล่างก็แล้วกัน

จากคุณ : narinbkk narinbkk@msn.com 10:51pm (10/11/03)
"

สำหรับแมวข้างบน ไม่ทราบว่าปู่ทั่นเลิกใช้ไปหรือยัง ลองส่งไปทดสอบก็ได้ค่ะ แต่คนตอบอยู่บนสวรรค์ ไม่ทราบว่าจะถึงไหม บนโน้นมีเน็ตให้เล่นไหมหนอ

ขอขอบคุณ //www.dairycouncil.co.uk/cookpix.htm ที่ให้ยืมภาพแม้จะไม่บอกกล่าว

ที่เหลือขอแปะไว้วันหลังนะคะ แหะๆ คนโพสเปื่อยเล็กน้อยถึงปานกลาง

Create Date : 02 ธันวาคม 2550

Last Update : 2 ธันวาคม 2550 14:22:04 น.

15 comments

Counter : 1475 Pageviews.


วีซ่าผมไม่ผ่านนะครับ ฝากคุณเตยเที่ยวเผื่อด้วยเด้อ แล้วถ่ายรูปมาฝากเยอะๆนะครับผม

โดย: BrettAnderson (BrettAnderson

) วันที่: 2 ธันวาคม 2550 เวลา:17:25:15 น.

ขอบคุณมากๆค่ะ ว่าแล้วเคยลองทำแต่ใช้อีกยี่ห้อหนึ่ง ปรากฏว่าเลี้ยงไปเลี้ยงมาเหมือนเอานมไปเทลงในโยเกิรต์ เพราะเชื้อไม่ขึ้น เข้าใจแล้วค่ะ เนสเล่ โฟรโมสต์

โดย: หญ้าหวาน IP: 203.113.35.6 วันที่: 2 ธันวาคม 2550 เวลา:20:46:30 น.


ขอบคุณน้องมู๋เตยที่แวะไปเยี่ยมทักทายค่ะ มีเกร็ดความรู้มาฝากอีกแล้ว ขอบคุณนะคะ

โดย: พี่นุช (oranuch_sri

) วันที่: 3 ธันวาคม 2550 เวลา:19:35:11 น.

คุณ BrettAnderson
เสียใจด้วย แล้วจะถ่ายรูปมาฝากนะคะ

คุณ หญ้าหวาน
เคยลองทำเหมือนกันค่ะ แต่ไม่ใช่วิธีของปู่
และไม่ได้ผลเหมือนกัล อิอิ

พี่นุช
บอกแต่แรกแล้วว่ามันไม่ใช่ของมู๋ แหะๆ ขัดเขินเล็กน้อย

โดย: จขบ.ม๊ะลายล็อคอิน IP: 124.120.246.10 วันที่: 5 ธันวาคม 2550 เวลา:14:14:20 น.


ขอบคุณครับ

โดย: เอ็ม 69 IP: 161.200.255.162 วันที่: 22 ธันวาคม 2550 เวลา:16:06:29 น.


ขอบคุณมากนะค่ะ จะลองทำดุค่ะ

โดย: ohe IP: 202.139.223.18 วันที่: 28 มีนาคม 2551 เวลา:23:12:55 น.


ชอบมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ อ่านแล้วได้อะไรจริงๆ ได้มากๆ ขอบคุณมากกกกกกกกกกก

โดย: เหม่ย IP: 58.8.34.114 วันที่: 10 กรกฎาคม 2551 เวลา:23:24:32 น.


อยากรู้ว่าโยเกร์ตทำยังไง(วิธีทำโดยละเอียด) บอกด้วยนะแล้วจะมาดูวันหลัง

โดย: นุชากร กระจ่างจันทร์ IP: 125.25.248.19 วันที่: 15 สิงหาคม 2551 เวลา:9:26:35 น.

ปกติซื้อของดัชนีไบโอทานอยู่ค่ะ เพิ่งจะเข้ามาดูกระทู้ในพันทิปแบบจิงจัง และเพิ่งสมัครเป็นสมาชิก อยากทำโยเกิร์ตแบบทานเองค่ะ จะอร่อยเหมือนกันป่าวน๊า และขอบคุณสำหรับวิธีทำนะคะ ไปหามาจากกู้เกิ้ลอีกทีค่ะ

โดย: cattyna IP: 61.19.227.2 วันที่: 28 สิงหาคม 2551 เวลา:9:59:02 น.

ขอบคุณมู๋เตย มากเลยค่ะ ที่เอาบทความนี้มาลง
เราหลงกินโยเกิตที่ไม่เหลือจุลินทรีย์มาหลายปีแล้ว
เดี๋ยวจาไปซื้อโยเกิตดีๆมาต่อเชื้อกินเองดีกว่า

ขอบคุณมากๆเลยค่ะ
ปล..บล๊อคนี้ไม่ไร้สาระหรอกค่ะ แต่มีประโยชน์มากๆเลยตังหากกั๊บบบบบบบ

จุ๊บๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

โดย: ตาลสด IP: 58.9.145.201 วันที่: 1 มีนาคม 2552 เวลา:10:36:22 น.


ขอบคุณมากค่ะ ซื้อโยเกิร์ตมาลองทำละ จะขึ้นไหมน้อ ตอนนี้อยูที่อื่น โยเกิร์ตแพงมาก เลยมาหาไปทำเอง ขอบคุณมากๆนะคะ

โดย: Pi-PE IP: 216.99.116.26 วันที่: 7 เมษายน 2552 เวลา:3:17:55 น.

ขอบคุณค่ะ วันก่อนเสิร์ชในกูเกิ้ลมาเจอบล๊อคของคุณเตย วันนี้ได้ฤกษ์ เตรียมอุปกรณ์กำลีงจะลงมือทำแล้วเย่! :D

ได้รสชาตือย่างไรแล้วจะมารายงานนะคะ

โดย: mokiga IP: 61.90.88.200 วันที่: 31 พฤษภาคม 2552 เวลา:20:23:41 น.


ขอบคุณที่ให้สูตรค่ะ แต่อยากได้สูตรทำสลัดผลไม้ใส่โยเกิร์ตมากกว่า

โดย: น้องหนุนน่ารัก IP: 10.90.6.151, 202.28.181.7 วันที่: 1 สิงหาคม 2552 เวลา:14:45:03 น.


อยากรู้จังอุปกรณ์หาได้ที่ไหน

โดย: น้องหนุนน่ารักกว่าเดิม IP: 10.90.6.151, 202.28.181.7 วันที่: 1 สิงหาคม 2552 เวลา:14:47:09 น.


ขอบคุณสำหรับข้อมูลแน่นปิ๊กค่ะ จะทำไว้กินเองแล้วจะมาส่งข่าวนะคะ ว่าอยู่หรือตาย 55

โดย: แม่น้องกะบูน

วันที่: 20 สิงหาคม 2552 เวลา:13:33:04 น.

i_tua_yung

Location :
สมุทรปราการ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์

Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]

[Add i_tua_yung's blog to your web]

Bloggang.com