Bloggang.com : palao : BatMan ตอน กำเนิดอัศวินดำกับหนังส่งท้ายของ Heath Ledger

BatMan ตอน กำเนิดอัศวินดำกับหนังส่งท้ายของ Heath Ledger

The Dark Knight (2008)

ข้างต้นนี้ขอกล่าวคำสดุดีถึง Heath Ledger ด้วยใจจริง ด้วยผลงานชิ้นสุดท้ายในชีวิตที่เล่นจนครบและเสร็จสมบูรณ์ออกมาเป็นหนังให้ได้ชมกัน แต่ก็มีอีกเรื่องที่ผมเองก็จำไม่ได้ว่าเล่นอะไรแต่ว่ายังถ่ายทำกันไม่เสร็จ จึงนับได้ว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องสุดท้ายของเขาจริง ๆ ที่ให้ความบันเทิงจนจดจำชื่อของเขาไว้ในความทรงจำ ด้วยการเฝ้ารอคอยว่าเมื่อไหร่จะมาถึงคิวของ อัศวินมืด แห่งกอธแทม และอยากชมผลงานชิ้นสุดท้ายของเขาด้วย จากเรื่องแรกที่ผมเคยดูคือ A Knight's Tale จนมาถึงหนังกระหึ่มโลกอย่าง Brokeback Mountain ทำให้ชื่อของ Heath กลายเป็นที่รู้จักกันอย่างเยอะแยะมากมาย จนแล้วปีนี้ ชื่อของเขาก็จะถูกจารึกไว้ตลอดกาลกับภาพยนตร์ภาคต่อฉบับนำกลับมาทำใหม่ในชื่อ The Dark Knight

The Dark Knight พูดถึงเรื่องผู้พิทักษ์แห่งเมืองกอธแทม ที่ต้องเผชิญชะตากรรมตั้งแต่ยังเด็ก ด้วยภาพอันติดตาตรึงใจจากความสูญเสียและความคับแค้นใจในช่วงนั้น ทำให้ Bruce Wayne เลือกที่จะเป็นขี้แพ้แล้วตายอย่างไม่มีเกียรติ หรือว่า สู้แล้วกลายเป็น Hero เรื่องในภาคต่อของ Batman Begin จึงออกจะดูเป็นหนังเครียดและอยู่ในภาวการณ์ของอาการจิตใจอย่างเห็นได้ชัด

Director : Christopher Nolan
Christian Bale : Bruce Wayne / Batman
Heath Ledger : The Joker
Aaron Eckhart : Harvey Dent / Two-Face
Michael Caine : Alfred Pennyworth
Maggie Gyllenhaal : Rachel Dawes
Gary Oldman : Lt. James Gordon
Morgan Freeman : Lucius Fox

ก่อนจะเข้าถึงเรื่องหลักทั้งหมด ต้องยอมรับกันทุกคนก่อนเลยว่า Batman Begin ผมเพิ่งได้มีโอกาสดูเมื่อตอนที่ช่อง 7 เอามาฉายนี้เอง ส่วนตัวแล้วเมื่อครั้งปี 2005 ผมยังไม่คิดที่จะดูหนังเรื่องนี้เลย ด้วยเหตุผลที่ว่า หนังในแบบฉบับก่อน ๆ ของแบทแมน ทั้งหมด มันคือความไม่ลงตัวและสับสนใจตัวแบทแมนเป็นอย่างมากจำได้ว่า จอร์ด คลูนี่ คือ แบทแมน ในสมัยนั้น จนถึงการเอาแบทแมนมาทำให้เป็นรุ่นใหม่ ผมเองจึงตัดสินใจที่จะไม่ตามหนังเรื่องนี้ เพราะคิดว่ามันคือมุมอับ ของหนังที่ต้องตามกลับมาแก้กันใหม่เพื่อนหมุนเงินทุนและดึงเงินคนดูจากการวางหมาก แต่แล้วความคิดนั้นก็คือเรื่องผิด เมื่อได้มีโอกาสดูจากช่อง 7 หนังทำให้ความรู้สึกที่คับแคบของตัวผมเองหลุดออกไปหมดเลย เหลือแค่ความเข้าใจที่เกิดขึ้นในหัวเต็มไปหมด จนมาถึงภาคต่อ เมื่อตอนนี้ทัศนะคติเปลี่ยนไป เรื่องต่าง ๆ จึงขอระบายออกตามนี้เลยแล้วกัน

ก่อนเข้าไปดูหนังเรื่องนี้คิดในใจไว้ก่อนแล้วว่า หนังจะต้องออกแนวโทนมืด หม่น คับจิต คับใจ แน่ น้านไงเราถูกไปแล้วหนึ่งหว่ะ เพราะว่าหน้าหนังบอกรายละเอียดได้เยอะมาก แรงดึงดูดจากหนังเหรอ แน่นอนส่วนหนึ่งมาจาก Ledger อีกส่วนมาจากหน้าหนัง แล้ว อีกส่วนมาจากแรงกระตุ้นจากเว็บเจ้าประจำ popcornmag นั้นเอง คนที่หวังจะเห็นฉากต่อสู้ อันเกิดจากอันตทานของอารมณ์จากตัวละคร คงจะผิดหวังมากหน่อย แต่ถ้าไม่ได้ตั้งความหวังอะไรมาเลย นั้นก็จะดีมาก แต่สำหรับตัวผมแล้วหวังว่าจะได้เห็น Ledger เล่นบทโจ๊กเกอร์ในแบบฉบับที่น่าจดจำ สิ่งต่าง ๆ ที่หวังจะได้เห็นก็ได้เห็นและเกินคาดกว่าที่คิดไว้มากเหมือนกัน เริ่มจาก

บทหนัง อยากแรกเลยไม่เคยอ่านการ์ตูนมาก่อนเลยไม่รู้ว่าตัวการ์ตูนให้พัฒนาการตัวแบทแมนไว้อย่างไร แล้ว ตัวร้ายเริ่มต้นจากใคร ศัตรูมีกี่คน อันนี้ไม่ทราบอีกเหมือนกันว่า บท ที่เป็นฉบับหนังนี้ ถอดการ์ตูนออกมาเลยไหม เลยเทียบความละเอียดของบทต่อตัวละคร ไม่ได้ว่ามันเท่าหรือเทียมกันไหม แต่บทที่ได้มือกรองอย่าง Christopher Nolan ร่วมถึงกำกับเองด้วยแล้วนั้น บทมันค่อนข้างที่จะลงตัวและเข้ากับตัวละครได้อย่างมาก วางตัวละครที่สะท้อนภาพบท แห่งการเอาใจใส่กับหนังไว้มีเหตุผลในเรื่องบทสามารถการันตี ได้เลยว่า มันลงตัวและเข้ากับตัวละครทุกตัวได้เป็นอย่างดี แต่เหมือนว่าบทจะเน้นตัวเด่น ๆ จนมากเกินไปเหมือนกันเลยทำให้บางครั้งรู้สึก อยากอ้วกออกมาเป็นแบทแมน ตัวละครรองดูจะเป็นไม้ประดับของจริง คือ มีบทให้แน่ไม่ได้เน้นอะไรมาก แต่ก็ขาดไม่ได้เช่นกัน มันสำคัญเท่ากันหมดทุกตัว และ จะตัดทิ้งก็หมาหางด้วน จะเอาไว้ก็เขี้ยวลากดิน เลยต้องฝากไว้กับบทที่มันดูจะกลางถึงระดับต่ำสำหรับตัวละครรอง แต่ตัวละครหลักเน้นหนักและให้โอกาสกับตัวละครหลักสูงมาก บทของตัวละครหนึ่งตัวที่ผมหลงใหล เป็นอย่างมากคือ ตัวโจ๊กเกอร์ ปิศาจผู้มีรอยยิ้มอันน่าเกลียด มีบทที่โดดเด่นและดูแล้วมันชวนให้เกลียดตัวมันเองด้วยไปในตัว แต่หลายคนกลับรักและเข้าข้างโจ๊กเกอร์ซะ จนไม่เข้าใจอาการของตัวเองเหมือนกันที่รู้สึกรักตัวละครตัวนี้ขึ้นมาแน่หล่ะ ทั้งหมดต้องยกให้เรื่องของ

การแสดง เรื่องการแสดงนั้นถึงตอนนี้แน่นอนว่าหลายคน คงจะเก็บ Ledger เอาไว้ในใจอย่างแน่นอน จริตจากบทที่ส่งให้ตัวละครตัวนี้ มีนิสัยแปลก ยิ้มได้น่ากลัวมากที่สุด ถ้าบทนี้ไม่เป็นของ Ledger คงนึกภาพไม่ออกเหมือนกันว่ามันคนไหน จะเล่นแล้วได้ดีเท่านี้เหรอเปล่า เสียดายนะที่ไม่น่าอายุสั้นมาก เรื่องนี้สามารถพูดได้เต็มปากเลยว่า ตัวโจ๊กเกอร์มีความเด่นจนกลบรัศมีของตัว แบทแมน อย่างเหลือเชื่อ ตัวผมเองไม่ค่อยจะเชื่อในตัว Christian Bale ที่รับบทมาเล่นเป็น แบทแมน จะว่ายังไงก็ผมไม่รู้สึกเชื่อว่าเขาจะเป็น แบทแมนได้ โดยเฉพาะ น้ำเสียงการพูดตอนเป็นแบทแมน คือ ดัดเสียงเพื่อป้องกันตัวเองแถมเสียงมันดูแล้วไม่น่าเกรงขามหรือว่าทำให้วิตกกังวลได้เลย ส่วน Maggie Gyllenhaal ผมว่าเธอยังไม่เหมาะที่จะเป็นขวัญใจแบทแมน อืมยังไงดีตรงไปตรงมาเลยแล้วกันก็ เธอไม่สวยนิ ดูแล้วเธอไม่มีเสน่ห์ดึงดูดซะมากกว่า เหมือนตัวเขานิ่งซะจนน่ากลัวเลย แต่ก็ยังถือว่าตัวละครทุกตัวเล่นบทบาทของตัวเองได้อย่างดีเท่าเทียมกัน โดยการแสดงทั้งหมด ส่งผลให้

การดำเนินเรื่อง ดูจะเป็นอะไรที่ยาวนานมากจนเกินไป แต่ไม่ได้ว่าไม่ชอบ บางฉากดูแล้วมันล้นเกินไป เกินว่าจะใส่เขามาในหนัง ความดีความชอบของหนังโดยทั้งหมด คงไม่ได้เหมารวมกันหรอกว่าหนังจะสมบูรณ์หรือไม่หากแต่องค์ประกอบบางอย่างถ้ามันส่งผลอย่างมากกับหนัง มันก็คือตัวตัดความน่าเชื่อถือของหนังเหมือนกัน โดยที่ผมเองมองว่าการดำเนินเรื่องดูจะอึดและหนักมากในบางช่วง ถึงกระทั้งบางฉากทำเอาเกือบหลับเหมือนกันเลย ผลที่เกิดขึ้นทำให้

ฉากการต่อสู้ ที่ตื่นตาตื่นใจค่อยเป็นตัวสอดแทรกความน่าดูของหนังได้ขึ้นมาบ้าง ถึงแม้ว่ามันจะไม่มากจัดเหมือนที่หลาย ๆ คนหวังว่าจะได้เห็น ฉากการต่อสู่ที่ทุกฉากมันคือเหตุแห่งหนังที่ค่อย ๆ เดินเรื่องแล้ว คล่อยตามมาที่การต่อสู้ ไม่สามารถหลีกเหลี่ยงการปะทะ หรือว่า ความรุนแรงได้เลย แค่ฉากเปิดตัวของหนังรวมถึงตัวร้ายของเรื่อง หนังก็ วางเรื่องได้น่าประทับใจตั้งแต่ต้น ที่บางฉากบางตอน จะได้เสียงประกอบที่ดูแล้วเหมือนมันจะไม่เข้ากันเลยก็ตาม และบางฉากจะไม่มีเสียงลุ้นระทึกมากมายก็ตาม แต่บางฉากที่มันเงียบมันก็ให้อารมณ์มืด ๆ ของภาพได้น่ากลัวอย่างจับใจ

โดยรวมแล้วสำหรับผม หนังดูจะเป็นโทนแห่งความมืดหม่น มืดมิด ของจริง ที่เขาสามารถขยายชื่อตอนได้อย่างเข้าอกเข้าใจซะเหลือเกิน ทั้งเรื่อง บท ภาพ ตัวละคร มันมืดหมด ไม่สามารถเดาใจความต้องการของอารมณ์ตัวละครในขณะนั้นได้เลยว่า ก้าวต่อไปของเขาคืออะไร โดยส่วนตัวแล้วหวังว่าจะเห็นฉากมัน ๆ ที่ต่อสู้กันด้วยสติปัญญาการเอาตัวรอด เปล่าเลย สู้กันด้วยฝีปากและคำคมซะเยอะแยะมากมาย ถ้าเขาจะให้นิยามของตอนที่จะดูเด่นเป็นสง่าซักหน่อย ควรจะหาวลีเด็ด ๆ แค่หนึ่งให้ได้เป็นที่จดจำดูจะดีกว่า เหมือนเป็นหนังปรัชญาขั้นสูง ที่ต้องทำความเข้าใจกันมากซะหน่อย เหมือนมันล้นเกินไป ทำให้หนังเกิดภาวะเครียดในตัวแล้วส่งผลให้คนดูเกิดภาวะไม่มีอารมณ์รวมจนกลายเป็นหมดอารมณ์เลยก็ว่าได้ ถึงแม้ว่ามันจะดูแล้วไม่บันเทิงเริงใจอย่างที่หลายคนหวัง แต่หนังก็มีส่วนซับซ้อนให้ได้คิดตามและเกิดเป็นอาการประทับใจกันอย่างถึงที่สุด แน่หล่ะว่าไม่ได้แบ่งแยกหรือชี้ให้เห็นว่า คนชอบหนังเรื่องนี้จะเป็นหัวสูง หรือยกระดับการดูหนังของตัวเองให้สูง แต่คนที่ไม่ชอบหนังเรื่องนี้ก็อยากให้เข้าใจในแง่มุมของหนังที่นอกจากจะให้ความบันเทิงแล้วแต่เนื้อหาและละเอียดของหนัง บางครั้งเราต้องเก็บกลับมาบ้าง เมื่องานศิลปะทุกชิ้นที่ออกมา ใน 99 คนจากร้อยคนจะถามว่า งานชิ้นนี้สวยไหม ? แต่ถ้าหนึ่งใน 100 กลับถามว่า งานชิ้นนี้มีดีตรงไหน ? นี้หล่ะคือคำตอบของหนังเรื่องนี้โดยทั้งหมดว่าสรุปแล้วมันสวยหรือว่ามันดี

Create Date : 19 กรกฎาคม 2551

Last Update : 19 กรกฎาคม 2551 23:54:58 น.

6 comments

Counter : 1293 Pageviews.

ไปดูมาเมื่อวาน หลังจากที่รอมานานเช่นกัน
เราชอบนะเรื่องนี้ และก้อคิดว่าชอบแบทแมน จากการตีความของโนแลนด้วย แต่เหนือสิ่งอื่นใด Heath เล่นได้ดีมาก ขอบคุณสำหรับ blog คุณนะคะ

โดย: Moby_p IP: 124.121.110.143 วันที่: 20 กรกฎาคม 2551 เวลา:0:36:05 น.

รายงายหน่อยแล้วกันนะครับ

อัศวินมืดของเราเปิดตัวด้วยรายรับสุดสัปดาห์ที่ 155.34 M.US

ว้าว ๆ ๆ ๆ ๆ เปิดตัวสูงมาก ๆ ๆ ครับ

โดย: palao

วันที่: 21 กรกฎาคม 2551 เวลา:20:31:39 น.

สลิดดกกก

โดย: บ่ะซึ่งตึง IP: 125.25.244.139 วันที่: 22 กรกฎาคม 2551 เวลา:21:23:59 น.

-*- ใครหว่ะ.... ง ง ง ง

โดย: palao

วันที่: 22 กรกฎาคม 2551 เวลา:22:55:43 น.

วันนี้ก้อไปดูรอบสองมาค่ะ
เฮ็อ ดูกี่ทีๆก้อเสียดายนักแสดงคุณภาพ
แต่ทำไมไม่รู้ เวลาป๋ามอร์แกน ฟรีแมนออกมาทีไร ดีใจทุกที

โดย: Moby_p IP: 124.121.108.170 วันที่: 23 กรกฎาคม 2551 เวลา:23:01:09 น.

น่ารักดีครับ

โดย: palao

วันที่: 27 กรกฎาคม 2551 เวลา:22:44:21 น.