ฝึก 2
(ต่อ) เธอยิ้มให้ฉันและหวังเหมือนพ่อว่าฉันจะชอบฟอร์ค ฉันยิ้มกลับไปให้เธออย่างจริงใจที่สุดเท่าที่ฉันจะทำได้ เมื่อฉันกลับมาที่รถ นักเรียนคนอื่นๆเริ่มมาถึง ฉันจึงขับรถวนไปรอบๆโรงเรียนตามป้ายที่บอกตามทาง ฉันรู้สึกดีนะที่เห็นรถส่วนมากเป็นรถที่เก่าแล้วเหมือนฉัน ไม่ได้ใหม่มาก ฉันอยู่ในหมู่บ้านพาราไดซ์ที่เป็นหนึ่งในผู้ที่มีรายได้ต่ำกว่าเพื่อนบ้าน มันเป็นปกติเลยที่จะเห็นรถยี่ห้อ เมอเซเดซคันหรือพอร์ชใหม่ของนักเรียนที่นั่นจำนวนมาก แต่รถที่ดีสำหรับที่นี่คือ วอลโว ฉันดับเครืื่องยนต์ทันทีที่ถึงจุดจอดรถ มันเป็นเรื่องดีที่ไม่ค่อยมีใครสนใจฉัน ฉันเปิดดูแผนทีดูในรถ และพยายามจำทุกที่ที่อยู่ในนั้นด้วยความหวังว่าฉันจะไม่ต้องขับรถวนไปรอบๆทั้งวัน ฉันยัดทุกสิ่งทุกอย่างลงในกระเป๋า สะพายเป้ขึ้นที่ไหล่และสูดลมหายใจลึกๆ ฉันต้องทำมันได้สิ่ ฉันโกหกตัวเองอีกครั้ง จะไม่มีใครทำอะไรฉันได้ และในที่สุดฉันก็ก้าวลงจากรถ ฉันจับฮูทขึ้นมาไว้บนหัวและเดินเข้าไปข้างในพร้อมกับผู้คนและวัยรุ่น เป้สีดำของฉันดูไม่โดดเด่น ทำให้ฉันโล่งใจขึ้น ฉันเดินไปรอบๆโรงอาหารที่สร้างเป็น 3 จุดง่ายๆ มีตัวเลข 3 ตัวใหญ่ติดไว้อย่างชัดเจนตรงมุมด้านขวา ฉันรู้สึกว่าใจฉันมันโหวงเหวงชอบกลตอนที่อยู่หน้าประตู จากนั้นก็มีคนใส่ชุดกันฝน 2 คนเดินเข้ามาฉันจึงเดินตามเข้าไปในห้องเรียน ในห้องเป็นห้องเรียนขนาดเล็ก มีคนยืนอยู่ตรงหน้าฉัน 2 คนหน้าประตูหยุดและแขวนเสื้อโค้ดไว้ที่ราว ฉันทำตามเค้า 2 คนนั้นเป็นผู้หญิงคนหนึ่งผมสีบลอนด์ อีกคนซีดและมีผมสีน้ำตาลอ่อน ซึ่งในท้ายที่สุดผิวของฉันก็ไม่ได้เด่นมากสำหรับที่นี่นะ ฉันซุ่มซ่ามกับครูที่อยู่ห้อง มีป้ายบอกชื่อครูอย่างชัดเจนว่า ครูมาซัน ครูจ้องมาที่ฉันและอ่านชื่อ ไม่มีสียงตอบรับจากครู และแน่นอนฉันอายมาก แต่ท้ายที่สุดครูก็มาส่งฉันที่โต๊ะโดยไม่การแนะนำตัวฉันให้กับเพื่อนในห้องรู้จัก มันเป็นเรื่องยากนะที่ฉันจะไม่ถูกเพ่งมองจากเพื่อนที่อยู่ด้านหลัง แต่เดี๋ยวพวกเขาก็จัดการกันเองได้แหละมั้ง จากนั้นครูก็เริ่มสอนและฉันก้ตั้งใจเรียน แต่มันเป็นเรื่องพื้นฐานมาก ฉันอ่านมาแล้วทุกบท มันก็ดีนะแต่ก็น่าเบื่อสุดๆเลย ฉันบ่นอยูในหัวในระหว่างที่ครูเองก็สอนไปด้วย เมื่อระฆังดังขึ้น ก็เกิดเสียงดังขึ้น ผู้ชายคนนึงเดินเข้ามาระหว่างทางเดินที่นั่งเข้ามาหาฉัน "คุณคืออิสซาเบลล่า สวอนใช่ไหม?" เขาดูเป็นคนประเภทชอบช่วยเหลือคนนะ "ใช่ เบลล่า"ฉันตอบ ในขณะที่คนอื่นๆอีก 3 คนที่ถัดจากฉันก็เริ่มมองมาที่ฉัน "คาบเรียนถัดไปของเธอคือที่ไหนหรอ" เขาถาม ฉันจึงหันมาดูตารางเรียน "อืม...การปกครองน่ะ กับอาจารย์เจฟเฟอสัน ที่ตึก 6" ที่นี่มันไม่มีที่ที่ปราศจากสายตาอยากรู้อยากเห็นเลยหรือไง "ฉันกำลังจะไปตึก 4 ฉันสามารถพาไปเธอไปทาง..." มันมีความช่วยเหลือที่เกินจริงอย่างแน่นอน "ฉันอีริค" เขาพูดต่อ ฉันยิ้มอย่างลังเล "ขอบใจ" เราเข้าไปใส่แจ๊คเกทและมุ่งหน้าสู่ฝนที่รอรับอยู่ ฉันสาบานเลยว่าผู้อื่นที่อยู่ด้านหลังเราจะไม่มาแอบฟังเราแน่ เพราะฉันก็หวังไว้ว่าฉันคงไม่ต้องระแวง "ที่นี่ต่างจากฟินิคซ์ไหม?" เขาถามขึ้น "มาก" "มันคงไม่มีฝนมากเหมือนที่นี่ใช่ไหม" "3-4ครั้งต่อปี" "ว้าว ...ที่นั่นเป็นยังไงอ่ะ" "เป็นที่มีแสงแดด" "แต่ผิวเธอดูไม่แทนเลยนะ" "แม่ฉันเป็นคนอัลบิโน" เขาหันมองหน้าฉันอย่างตกใจ ฉันถอนหายใจ เราเดินมาตรงโรงอาหารที่ทางทิศตะวันตกเป็นยิม อีริคเดินอยู่ข้างฉัน "อืม....โชคดีนะ บางทีเราอาจจะได้เรียนคาบอื่นด้วยกันอีกก็ได้" เขาพูดอย่างมีความหวัง ฉันยิ้มไปให้เขาและเดินเข้าห้อง เช้านี้ทุกคนแต่งตัวเหมือนกัน อาจารย์สอนตรีโกณมิติ คืออาจารย์เวอร์เนอ เป็นอาจารย์ที่ฉันเกลียดที่สุดเพราะวิชาที่เค้าสอน ซึ่งเป็นคนเดียวที่ทำให้ฉันมาอยู่หน้าห้องและแนะนำตัวเอง ฉันพูดตะกุกตะกัก หน้าแดง และสะดุดร้องเท้าตัวเองตอนที่จะนั่งเข้าที่ตัวเอง หลังจากเรียนไป 2 คาบ ฉันก็พอรู้จักกับคนอื่นๆในห้องแล้ว มีบางคนที่กล้ามาแนะนำตัวเองและถามฉันเกี่ยวกับว่าฉันเกี่ยวข้องอะไรกับฟอร์ค ฉันพยายามสร้างความสัมพันธ์ แต่ฉันโกหกไปอย่างมาก และในที่สุดฉันก็ไม่ต้องแผนที่อีก ผู้หญิงคนหนึ่งที่นั่งข้างฉันที่คอยช่วยเหลือและเป็นคนสเปน เธอก็เดินมากินข้าวเที่ยงกับฉันที่โรงอาหารด้วย เธอเป็นคนตัวเล็กกว่าฉัน และมีผมลอนสีดำ ฉันจำชื่อเธอไม่ได้ แต่ฉันก็ยิ้มและพยักหน้าให้เธอ เธอดูเป็นคนช่างพูดเกี่ยวกับอาจารย์และห้องเรียน พวกเรานั่งอยู่ที่โต๊ะยาวตัวสุดท้ายกับเพื่อนของเธอ พร้อมกับที่เธอก็แนะนำฉันให้เพื่อนคนอื่นรู้จัก ฉันยังจำชื่อของทุกคนไม่ได้ แม้เธอจะพูดคุยกับพวกนั้นอยู่ก็ตาม พวกเขาดูพอใจในความกล้าของเธอที่คุยกับฉัน ผู้ชายที่มากจากอังกฤษ อีริค โบกมือให้ฉันจากมุมห้องอาหาร และทันใดนั้นก็มีคนแปลกหน้า 7 คนเดินเข้ามาที่โรงอาหาร พวกเขาเข้ามานั่งโต๊ะตรงมุมของโรงอาหารซึ่งไกลออกไปจากที่ฉันนั่งอยู่ มี5 คนในนั้นที่ไม่คุยกันไม่กินอาหาร ไม่มีใครแตะถาดอาหารตรงหน้าเลยสักนิด พวกเขาไม่ได้จ้อมมองมาที่ฉันเหมือนกับนักเรียนคนอื่น ดังนั้นมันจึงปลอดภัยที่จะจ้องมองพวกเขาอย่างไม่ต้องกลัวว่าจะสบตาของพวกเขา แต่ในความสนใจของฉัน มันก็ไม่ได้รู้สึกอยากไปจับต้องหรือไปยุ่งด้วยนะ (หนูยังคงอ่านบทต่อไปอยู่นะพี่ปุ้ม แต่นี่มาเขียนย้อนบทแรกอยู่ค่ะ พรุ่งนี้มีเรียนเช้าขออนุญาติมาต่อพรุ่งนี้นะคะ)
Create Date : 20 มีนาคม 2560 |
Last Update : 20 มีนาคม 2560 23:25:53 น. |
|
0 comments
|
Counter : 431 Pageviews. |
|
|
|