มีนาคม 2560
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
 
20 มีนาคม 2560
 

ฝึก 2



  (ต่อ)

เธอยิ้มให้ฉันและหวังเหมือนพ่อว่าฉันจะชอบฟอร์ค ฉันยิ้มกลับไปให้เธออย่างจริงใจที่สุดเท่าที่ฉันจะทำได้
 เมื่อฉันกลับมาที่รถ นักเรียนคนอื่นๆเริ่มมาถึง ฉันจึงขับรถวนไปรอบๆโรงเรียนตามป้ายที่บอกตามทาง ฉันรู้สึกดีนะที่เห็นรถส่วนมากเป็นรถที่เก่าแล้วเหมือนฉัน ไม่ได้ใหม่มาก ฉันอยู่ในหมู่บ้านพาราไดซ์ที่เป็นหนึ่งในผู้ที่มีรายได้ต่ำกว่าเพื่อนบ้าน มันเป็นปกติเลยที่จะเห็นรถยี่ห้อ เมอเซเดซคันหรือพอร์ชใหม่ของนักเรียนที่นั่นจำนวนมาก แต่รถที่ดีสำหรับที่นี่คือ วอลโว ฉันดับเครืื่องยนต์ทันทีที่ถึงจุดจอดรถ มันเป็นเรื่องดีที่ไม่ค่อยมีใครสนใจฉัน
   ฉันเปิดดูแผนทีดูในรถ และพยายามจำทุกที่ที่อยู่ในนั้นด้วยความหวังว่าฉันจะไม่ต้องขับรถวนไปรอบๆทั้งวัน ฉันยัดทุกสิ่งทุกอย่างลงในกระเป๋า สะพายเป้ขึ้นที่ไหล่และสูดลมหายใจลึกๆ ฉันต้องทำมันได้สิ่ ฉันโกหกตัวเองอีกครั้ง จะไม่มีใครทำอะไรฉันได้ และในที่สุดฉันก็ก้าวลงจากรถ
  ฉันจับฮูทขึ้นมาไว้บนหัวและเดินเข้าไปข้างในพร้อมกับผู้คนและวัยรุ่น เป้สีดำของฉันดูไม่โดดเด่น ทำให้ฉันโล่งใจขึ้น 
  ฉันเดินไปรอบๆโรงอาหารที่สร้างเป็น 3 จุดง่ายๆ มีตัวเลข 3 ตัวใหญ่ติดไว้อย่างชัดเจนตรงมุมด้านขวา ฉันรู้สึกว่าใจฉันมันโหวงเหวงชอบกลตอนที่อยู่หน้าประตู จากนั้นก็มีคนใส่ชุดกันฝน 2 คนเดินเข้ามาฉันจึงเดินตามเข้าไปในห้องเรียน
 ในห้องเป็นห้องเรียนขนาดเล็ก มีคนยืนอยู่ตรงหน้าฉัน 2 คนหน้าประตูหยุดและแขวนเสื้อโค้ดไว้ที่ราว ฉันทำตามเค้า 2 คนนั้นเป็นผู้หญิงคนหนึ่งผมสีบลอนด์ อีกคนซีดและมีผมสีน้ำตาลอ่อน ซึ่งในท้ายที่สุดผิวของฉันก็ไม่ได้เด่นมากสำหรับที่นี่นะ
 ฉันซุ่มซ่ามกับครูที่อยู่ห้อง มีป้ายบอกชื่อครูอย่างชัดเจนว่า ครูมาซัน ครูจ้องมาที่ฉันและอ่านชื่อ ไม่มีสียงตอบรับจากครู และแน่นอนฉันอายมาก แต่ท้ายที่สุดครูก็มาส่งฉันที่โต๊ะโดยไม่การแนะนำตัวฉันให้กับเพื่อนในห้องรู้จัก มันเป็นเรื่องยากนะที่ฉันจะไม่ถูกเพ่งมองจากเพื่อนที่อยู่ด้านหลัง แต่เดี๋ยวพวกเขาก็จัดการกันเองได้แหละมั้ง จากนั้นครูก็เริ่มสอนและฉันก้ตั้งใจเรียน แต่มันเป็นเรื่องพื้นฐานมาก ฉันอ่านมาแล้วทุกบท มันก็ดีนะแต่ก็น่าเบื่อสุดๆเลย ฉันบ่นอยูในหัวในระหว่างที่ครูเองก็สอนไปด้วย
 เมื่อระฆังดังขึ้น ก็เกิดเสียงดังขึ้น ผู้ชายคนนึงเดินเข้ามาระหว่างทางเดินที่นั่งเข้ามาหาฉัน
"คุณคืออิสซาเบลล่า สวอนใช่ไหม?" เขาดูเป็นคนประเภทชอบช่วยเหลือคนนะ
"ใช่ เบลล่า"ฉันตอบ ในขณะที่คนอื่นๆอีก 3 คนที่ถัดจากฉันก็เริ่มมองมาที่ฉัน
"คาบเรียนถัดไปของเธอคือที่ไหนหรอ" เขาถาม ฉันจึงหันมาดูตารางเรียน
"อืม...การปกครองน่ะ กับอาจารย์เจฟเฟอสัน ที่ตึก 6" ที่นี่มันไม่มีที่ที่ปราศจากสายตาอยากรู้อยากเห็นเลยหรือไง
"ฉันกำลังจะไปตึก 4 ฉันสามารถพาไปเธอไปทาง..." มันมีความช่วยเหลือที่เกินจริงอย่างแน่นอน
"ฉันอีริค" เขาพูดต่อ
ฉันยิ้มอย่างลังเล "ขอบใจ"
 เราเข้าไปใส่แจ๊คเกทและมุ่งหน้าสู่ฝนที่รอรับอยู่ ฉันสาบานเลยว่าผู้อื่นที่อยู่ด้านหลังเราจะไม่มาแอบฟังเราแน่ เพราะฉันก็หวังไว้ว่าฉันคงไม่ต้องระแวง
"ที่นี่ต่างจากฟินิคซ์ไหม?" เขาถามขึ้น
"มาก"
"มันคงไม่มีฝนมากเหมือนที่นี่ใช่ไหม"
"3-4ครั้งต่อปี"
"ว้าว ...ที่นั่นเป็นยังไงอ่ะ"
"เป็นที่มีแสงแดด"
"แต่ผิวเธอดูไม่แทนเลยนะ"
"แม่ฉันเป็นคนอัลบิโน" 
   เขาหันมองหน้าฉันอย่างตกใจ ฉันถอนหายใจ 
  เราเดินมาตรงโรงอาหารที่ทางทิศตะวันตกเป็นยิม อีริคเดินอยู่ข้างฉัน
"อืม....โชคดีนะ บางทีเราอาจจะได้เรียนคาบอื่นด้วยกันอีกก็ได้" เขาพูดอย่างมีความหวัง
ฉันยิ้มไปให้เขาและเดินเข้าห้อง
  เช้านี้ทุกคนแต่งตัวเหมือนกัน อาจารย์สอนตรีโกณมิติ คืออาจารย์เวอร์เนอ เป็นอาจารย์ที่ฉันเกลียดที่สุดเพราะวิชาที่เค้าสอน ซึ่งเป็นคนเดียวที่ทำให้ฉันมาอยู่หน้าห้องและแนะนำตัวเอง ฉันพูดตะกุกตะกัก หน้าแดง และสะดุดร้องเท้าตัวเองตอนที่จะนั่งเข้าที่ตัวเอง
  หลังจากเรียนไป 2 คาบ ฉันก็พอรู้จักกับคนอื่นๆในห้องแล้ว มีบางคนที่กล้ามาแนะนำตัวเองและถามฉันเกี่ยวกับว่าฉันเกี่ยวข้องอะไรกับฟอร์ค ฉันพยายามสร้างความสัมพันธ์ แต่ฉันโกหกไปอย่างมาก และในที่สุดฉันก็ไม่ต้องแผนที่อีก
  ผู้หญิงคนหนึ่งที่นั่งข้างฉันที่คอยช่วยเหลือและเป็นคนสเปน เธอก็เดินมากินข้าวเที่ยงกับฉันที่โรงอาหารด้วย เธอเป็นคนตัวเล็กกว่าฉัน และมีผมลอนสีดำ ฉันจำชื่อเธอไม่ได้ แต่ฉันก็ยิ้มและพยักหน้าให้เธอ เธอดูเป็นคนช่างพูดเกี่ยวกับอาจารย์และห้องเรียน
  พวกเรานั่งอยู่ที่โต๊ะยาวตัวสุดท้ายกับเพื่อนของเธอ พร้อมกับที่เธอก็แนะนำฉันให้เพื่อนคนอื่นรู้จัก ฉันยังจำชื่อของทุกคนไม่ได้ แม้เธอจะพูดคุยกับพวกนั้นอยู่ก็ตาม พวกเขาดูพอใจในความกล้าของเธอที่คุยกับฉัน ผู้ชายที่มากจากอังกฤษ อีริค โบกมือให้ฉันจากมุมห้องอาหาร
 และทันใดนั้นก็มีคนแปลกหน้า 7 คนเดินเข้ามาที่โรงอาหาร พวกเขาเข้ามานั่งโต๊ะตรงมุมของโรงอาหารซึ่งไกลออกไปจากที่ฉันนั่งอยู่ มี5 คนในนั้นที่ไม่คุยกันไม่กินอาหาร ไม่มีใครแตะถาดอาหารตรงหน้าเลยสักนิด พวกเขาไม่ได้จ้อมมองมาที่ฉันเหมือนกับนักเรียนคนอื่น  ดังนั้นมันจึงปลอดภัยที่จะจ้องมองพวกเขาอย่างไม่ต้องกลัวว่าจะสบตาของพวกเขา แต่ในความสนใจของฉัน มันก็ไม่ได้รู้สึกอยากไปจับต้องหรือไปยุ่งด้วยนะ
(หนูยังคงอ่านบทต่อไปอยู่นะพี่ปุ้ม แต่นี่มาเขียนย้อนบทแรกอยู่ค่ะ พรุ่งนี้มีเรียนเช้าขออนุญาติมาต่อพรุ่งนี้นะคะ)




 

Create Date : 20 มีนาคม 2560
0 comments
Last Update : 20 มีนาคม 2560 23:25:53 น.
Counter : 428 Pageviews.

 
Name
* blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Opinion
*ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet

สมาชิกหมายเลข 3751594
 
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




New Comments
[Add สมาชิกหมายเลข 3751594's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com