ตอนที่40 ตกแต่งบ้าน : ติดตั้งเหล็กดัด และ ผ้าม่าน
ตอนนี้ไม่อยากให้เกิด....แต่ก็ต้องเกิด ....เฮ้อ ออกอาการเดียวกะ คุณ ก้อปศักดิ์ ล่ะครับ คือ ไม่มีก็ไม่ได้ รู้สึกชีวิตไม่ค่อยจะปลอดภัย.....เลย..."จำเป็น" ที่จะต้องมี นั่นคือ "เหล็กดัด" นั่นเอง

เอาล่ะครับ พอว่ากันเรื่องเหล็กดัด....ก็มีร้านหลายร้านมาให้เลือกสรร ซึ่งแต่ละร้าน ก็คิวทอง....งานเยอะล้นมือกัน หามาแต่ละเจ้า...ต้องรอเป็นเดือน กว่าจะเข้ามาติดตั้งให้ได้ ก็เข้าใจนะครับว่า ก็ต้องใช้เวลาทำชิ้นงานขึ้นด้วย...

ผมเองใจจริงทีแรกก็อยากจะติดเหล็กดัดแค่ชั้น 1 และ ชั้น 2 ....แต่พอคิดไปคิดว่า บ้านเรา...ขอบหน้าต่างบ้านสูงจากพื้นมาแค่หัวเข่าเอง...น่ากลัวเหมือนกัน เพราะน้องแทนก็ซนจริงๆ....กลัวจะพลัดตกลงมา เลยนอกจากเพื่อป้องกันขโมยแล้วยังเอาไว้ป้องกันเด็กๆ ไว้อีกทางนึงด้วยครับ

สรุปติดมันทั้งหลังเลยนั่นแหล่ะ ...ติดต่อให้ร้านนู้นร้านนี้เข้ามาดูหน้างาน...ก็ยังไม่มีร้านไหนทำให้ เพราะคิวเยอะมากจนผมรอไม่ไหวบ้างล่ะ....กับอีกร้านประเภทนึง....."กลัวการทำงานกับบ้านผม"....คือกลัวทำมาแล้วไม่สวยแล้วผมจะไม่รับ เพราะผมพูดบอกกับทุกเจ้าเลยว่า ถ้าคิดว่าจะทำงานแบบขอไปที ผมไม่รับนะครับ (ถือเป็นการขู่ ดักต้นทางไว้เลย)....เป็นการกรองไว้ระดับนึง.......และในบางร้าน ตั้งราคาไว้สูงเว่อร์ ซึ่งก็ไม่รู้จะแพงอะไรขนาดนั้น กับแค่ เหล็ก 4 หุนตัน+สีอบ..........เลยเป็นเหตุให้ใช้เวลานานพอสมควรเลยทีเดียว

สุดท้ายก็มาได้ร้านที่กล้ารับทำ...ฝีมือที่ออกมา ก็ไม่ได้สวยเลิศเลอ perfect อะไร แต่มองด้วยตาผมเองก็ถือว่ายอมรับได้ในระดับของ คนที่เชื่อมเหล็กเป็นอย่างผม (เคยเรียนเชื่อมเหล็กมาก่อน) ว่าจุดเชื่อมที่สวยงามและแข็งแรงควรเป็นแบบใด......และเป็นการเลี่ยงไม่ได้ว่าจะเกิดการบิดงอในบางจุดอันเนื่องมาจากความร้อน..........ถือว่างานที่ออกมาโอเคพอยอมรับได้ครับ (เพราะเป้าหมายผม ไม่ได้ใช้เพื่อความสวยงาม แต่เพื่อความปลอดภัย และต้องไม่ทำให้ความสวยงามเดิมลดลงไปมากนัก)


หลังจากที่ร้านทำชิ้นงานเสร็จผมก็ไปตรวจดูผลงานที่ร้านก่อนจะนำมาติดตั้ง
ผมทำสีอบดำ (เพราะกรอบหน้าต่างผมเป็น อลูมิเนียมสีดำ หากใช้สีอบขาว ก็จะขัดกันไม่น้อยและทำให้ เหล็กดัดมันดูลอยเด่นขึ้นมา....ไม่งามแน่ๆ)





เมื่อยกนำมาวางพิงเทียบ....จะเห็นได้ว่า ขอบ มันเลยกรอบออกมา (ออกมาข้างละประมาณ 5 cm.) .......สวยมั๊ยครับ.......บอกเลยว่า "ไม่สวยเลยแม้แต่น้อย น่าเกลียดสุดๆ"........แล้วทำไมผมถึงทำเช่นนี้.........


ประเด็นเลยครับว่า ถ้าหากติดภายในกรอบหน้าต่างที่เป็น อลูมิเนียม...ก็จะต้องเจาะยึดเข้าไป ซึ่ง....จะทำให้งานออกมาดู เรียบร้อย สวยงามดี แต่โทษนะครับ "ขโมยชอบมากกก" แบบนี้ เพราะเค้าแค่ใช้ไขควงใหญ่ๆเสียบงัด....อลูมิเนียมที่ว่าหนาๆ ก็ฉีกหลุดออกมาโดยง่าย.....แล้วจะติดไปเพื่ออะไรล่ะครับนั่น






จะเน้นเอาในเรื่องความแข็งแรงจริงๆคือ ต้องเจาะปูน แล้วฝังพุกยึดไปเลย และการจะทำแบบนี้ ก็ต้องเว้นระยะห่างจากกรอบอลูมิเนียมออกมาอย่างน้อย 5 cm. เพื่อที่เวลาจะตอกฝังพุก ปูนจะได้ไม่ร้าว ไม่แตก เสียหาย
(แต่ไม่ต้องห่วง เหอๆๆ....ผมหาทางแก้เอาไว้ล่ะในเรื่องการปกปิด ความน่าเกลียดอันเกิดจาก สาเหตุการติดตั้งแบบนี้)






เว้นช่องเอาไว้ให้มือสอดเข้าไปบิดที่ล็อคหน้าต่าง ได้สะดวกๆ





ดูใกล้ๆอีกที หัวน๊อตโผล่เชียว.......เสร็จแล้วเด็วก็เอาสีดำมาแต้มๆ ปิดไปซะ





คราวนี้มาดูการติดตั้งประตูเหล็กดัดกันบ้าง....สมัยเก่า ก็จะเป็นรางเหล็กแล้วใช้ชุดรางเลื่อนหน้าตาคล้ายๆตะกั่ว ซึ่ง "พัง ง่าย" ก็แปลก แต่จริงครับ ที่บ้านเดิมผมก็เป็นรุ่นที่ว่านี่แหล่ะ พังแล้วพังอีกจนขี้เกียจซ่อม.....รุ่นใหม่ก็จะเนราง อลูมิเนียมยึดด้านบนอย่างนี้เลย .....เรื่องความลื่นนี้ ปรื๊ดๆดีครับ....แต่ก็สงสัยในเรื่องความแข็งแรงอยู่เหมือนกัน...ช่าง confirm แค่ว่า "แข็งแรงมากนะ"......ก็คงต้องลองให้ดูไปล่ะครับ เพราะเชื่ออยู่อย่างว่า....ไม่มีอะไรแข็งแรงอยู่ค้ำฟ้าหรอก...



หน้าตาของรางเลื่อน





หลังจากติดตั้งเสร็จ







หลังจากนั้นเราก็มาต่อกันที่งาน ผ้าม่านล่ะครับ .....เรื่องผ้าม่านก็อีกเช่นกัน....ไปเลือกมาหลายร้าน และ แต่ละร้าน (ส่วนใหญ่ก็ได้จากร้านที่เดินในงาน เมืองทอง พวกบรรดาร้านที่ไปเปิดบูทกันในนั้น...มีกันทั้งปี งานเฟอร์นิเจอร์ แฟร์ นู่นนี่นั่น).......ซึ่งราคา บอกได้คำเดียวเลยว่า....."แพงครับ....."....ทำให้เข้าใจได้เลยอย่างนึงว่า....ไม่ต้องไปหาร้านผ้าม่านที่ไปเปิดบูทในงาน ต่างๆ ได้เลย.....พวกนี้รอฟันพวกเดินหลงเข้าไป ......

..ผมทำผ้าม่านทั้งหลัง ซึ่งมีแบบ และวัดคร่าวๆ หน้าต่างประตูทุกหลัง แล้วไล่เดิน check ราคา ในงานเมืองทอง เจอราคาตั้งแต่ 100,000+ นิดส์ๆ ถูกสุดคือ 80,000+ .....โอว แพงมาก และผ้าที่ผมเลือกก็ไม่ได้ใช้ผ้ามีเกรด ไฮโซ อย่างพวก PASAYA อะไรเลยนะ...ฮึ่ม


งานนี้ ถอยมาตั้งหลัก....จนว่าจะทำเองละ เพราะรางก็มีแยกขาย แถม คุณแม่ผมเองก็เป็นช่างเย็บผ้า ด้วย ไปซื้อผ้ามาให้แม่เย็บให้ ดีกว่า...ประหยัดงบไปได้ เกิน 60% แน่ๆ...........

แต่แล้ว เมื่อวันที่จะไปซื้อผ้า เพื่อจะมาทำผ้าม่าน....เกิดแรงดลใจแวะร้านทำผ้าม่าน ที่อยู่ท้ายซอยบ้านผมเอง....เข้าไปคุยเล่นถามนู่นนี่นั่น แล้วก็เลือกผ้า "ซึ่งเป็นผ้า ยี่ห้อเดียว และลายเดียวกัน กับที่ผมเลือกจากร้านที่เปิดบูทขายในเมืองทอง...ผมจำได้ดีเลยล่ะ เพราะการจัดเรียงผ้าในเล่มและลายมันเหมือนกันเดี๊ยะ หน้าปกก็ใช่"......

คิดราคาออกมา ติ๊ดๆๆๆ "49,000" บาท ค่ะน้อง.....ผม แทบอยากจะร้อง "หา!!!".......ที่ต้องร้องเพราะ ผมเลือกลายผ้า ลายเดียวกะที่ผมเลือกในร้านที่เปิดบูท แต่ดันต่างกันตรงที่ แบบผ้าม่านจากร้านเปิดบูท ให้แค่ spec ม่านพับ (คือม่านที่มีรอกชักแล้วมันจะพับๆๆ เป็นชั้นๆ ขึ้นไปกองอยู่ด้านบน) ....ซึ่งผมไม่เอาแบบนี้อ่ะ......ผมชอบแบบม่านตาไก่.....ซึ่งราคาแพงกว่านะคะ (ร้านในเมืองทอง ว่างั้น) เพราะมันใช้ผ้าเยอะกว่า และราคารางก็แพง.........


งงๆๆ จากราคา 80000+ มาเหลือ 49,000 ครึ่งต่อครึ่ง.....ฮาไหมล่ะครับ....ไม่ไปมันแล้วซื้อผ้ามาทำเอง....สรุป จ้างทำเลยครับ ให้เข้าไปวัดที่หน้างานอีกรอบเลย เพราะอยู่ใกล้ๆกันแค่ไม่กี่ร้อยเมตร......กลับเข้ามาบ้าน อย่างมีความสุขบอกแม่ว่าไม่ต้องลำบากละ...ฮ่าๆๆๆ


ใช้เวลาทำนานเกือบเดือน เพราะก็รอให้เหล็กดัดเข้ามาติดตั้งให้เสร็จก่อน เพื่อจะได้ประเมินอีกรอบว่าควรเผื่อระยะขอบผ้าม่านให้ห่างซักเท่าไหร่...และขาผ้าม่านต้องตั้งมาไกลแค่ไหน ทางร้านจะได้เตรียมของๆได้ถูก....ก็ใช้เวลาแค่ อาทิตย์เดียวหลังจาก ติดเหล็กดัดเสร็จ งานผ้าม่านก็เข้าจัดการต่อ



มาถึงก็กางข้าวของเตรียมติดตั้ง






ช่างขึ้นไปวัดระยะและ mark จุดเตรียมติดขายึดผ้าม่าน





การติดตั้งในฝ้าหลุมที่ทำเอาไว้ ใช้รางตาไก่ไม่ได้ ก็ต้องเป็น รางของม่านจีบไป และการยึดน็อต ก็ใช้น็อตเกลียวปล่อย ยิงขึ้นไปให้เกาะกับ ขอบ ฝ้าที่จะมี เหล็กโครง C บาร์ รับแผ่นฝ้าเอาไว้อยู่ เพื่อความแข็งแรง......





แต่ถ้าจุดไหนไม่มีเหล็กโครงฝ้าอยู่ ช่างก็จะใช้ "พุกระเบิด" ศัพท์ช่างแปลก ฟังดูน่ากลัว......หน้าตามันก็ประมาณนี้ครับ คือพอน็อตขันเข้าตรงกลางมันก็จะถ่างๆๆๆ ออก จนแนบแน่นไปกะแผ่นฝ้าด้านบน ไป.....






และตรงนี้ ที่ต้องใช้ ขายึดแบบ 3 ชั้น เพราะมีเหล็กดัด ที่ประตูบานเฟี้ยม และ เหล็กดัดตัวนี้ก็สามารถ เปิดเป็น บานเฟี้ยมที่ด้านในได้อีกเช่นกัน ทำให้ต้องเว้นระยะห่างออกมาพอสมควรเพื่อไม่ให้เกะกะเวลาจะเปิดหรือปิดประตู






หน้าตาหลังติดผ้าม่าน ที่ หน้าต่าง เสร็จแล้ว





ฝั่งโซน ห้องทานอาหาร.....ผมชอบแนว ผ้าม่านทิ้งตัวยาวตลอด อย่างงี้ล่ะครับ มันให้ความรู้สึกมีมิติมากขึ้นดี........ทำไปทำมาออกมาแนว โรงแรมๆ เลยนะเนี่ย Feel เดียวกันเลย ...แหะๆๆๆ






คราวนี้ลองมาดูในห้องสีชมพูกันหน่อย...(ผ้าม่านผมใช้สีเดียวกันทั้งหลัง เพราะไม่อยากให้แต่ละห้องมันดูโดดและแตกต่างกันมากจนเกินไป...เอาแค่สีแต่ละห้องมันก็ไม่เหมือนกันอยู่แล้ว....เอา ผ้าม่านมา break เอาไว้หน่อย....จะได้ให้ยังรู้สึกว่า มันเป็นบ้านเดียวกันอยู่)






ห้องทำงานสีฟ้า...ก็ยังเข้ากันได้ดีกับผ้าม่านสีเทา





ห้องนอนรับแขกสีม่วงๆ









ห้องสีเขียวของน้องแทน






จะมีที่แปลกๆไม่เหมือนชาวบ้านเค้า ก็ห้องปูนเปลือย ซึ่ง จะเอาไว้ลงให้ชมในตอนหน้า คงมาพร้อมกะชุดครัวล่ะครับ (คุณหญิงแก่นรอดูชุดครัวอยู่นิครับ...ขอติดไว้ตอนหน้านะครับ จะได้เอามาลงให้ดูเต็มๆครับ)....

ตรงนี้เป็นโซนหน้าบ้านชั้น 2 ที่มีแสงเข้าให้ช่วงบ่ายๆแล้ว และต้องการแสงในบางช่างอยู่...เลยเลือกใช้ ม่านปรับแสง......ม่านปรับแสงตัวนี้ ได้มาจากในงานเมืองทอง น่ะครับ เพราะเห็นว่ามันเป็น ไวนิลและมีความแข็งแรงอยู่พอตัว เพราะตะขอเกี่ยวเป็น พลาสติก ABS เกรด.....รูดแบบกระชากๆก็ไม่มีแตก....แถมพอรูดปรับเกร็ดให้พลิกมาจนหมดแล้ว ก็ยังสามารถรูดต่อเรื่อยๆได้ไม่มีฝืน ซึ่งจะเป็นปัญหากับ รางม่านปรับแสงรุ่นเก่าๆ (ที่ Office ผมก็ใช้รุ่นเก่าๆๆ ที่ว่าเนี่ยละครับ เจ๊งเป็นแถบๆ กลัวเหมือนกันที่จะใช้แบบนี้ในทีแรก...แต่เจอ design นี้...ถูกใจล่ะครับ) แถมราคาสมเหตุสมผลดี (อิอิ อันนี้สำคัญๆ)





พอรูดมาเต็มพื้นที่ และเปิดรับแสงแบบเต็มๆ ก็ไม่ได้ลดทอนแสงลง...แต่การบดบังทัศนียภาพ ก็ให้ความรู้สึกแนว Office เลย....แปลกดี





ทดสอบปรับให้แสงเข้ามาน้อยลงหน่อย และบังตาคนภายนอก






ปิดทึบไปเลย...สังเกตุว่าก็ยังมีแสงแพลมๆออกมาบ้าง....ก็อย่างว่าล่ะครับ ม่านปรับแสงก็ไม่ได้กันหมด คงลอดออกมาตามช่องพวกนี้ล่ะ





และบรรดาช่องแสงต่างๆ....ที่อยู่ตาม บรรได....ก็ไปหาพวก ม่านปรับแสงไม้มาใส่ไป .....อืม...มันดูหรู...ขึ้นเลยแหะ...ฮ่าๆๆ บ้านเราก็ขอแอบหรูกะเค้าหน่อยๆเหมือนกัน




ทดสอบปิดทึบไปเลย.....





และตรงนี้ที่ติดเหล็กดัดไว้ ดูน่าเกลียดมากครับ....พอเอาม่านมาปิดไว้ค่อยยังชั่ว...เฮ้อ






ตรงนี้รูดมันลงมาปิดไปเลยดีกว่า...แล้วปรับแสงเอา...






วิ่งกลับลงไปส่องขึ้นมาดู.....เอ้อ! เอางี้ล่ะ...ปรับแสงเท่านี้ไว้เลย...ไม่แยงตาดีเหมือนกัน






ตอนหน้า จะมาลง เรื่องผ้าม่านต่อในส่วน ของ ห้องผนังกระจกที่เหลือ นะครับ ร่วมกับ งานส่วนครัว built-in ไปเลย และฝากทิ้งท้ายไว้ว่า....ตอนเลือกผ้าม่านว่าจะเอาลายไหน ก็อย่าลืมดูว่า ลายนั้นๆที่เราชอบ มีขนาด หน้ากว้างเท่าไหร่ พอไหมกับความยาวของช่องที่เราจะใช้ เพราะไม่งั้นก็ต้อง ต่อผ้าเอานะครับ.....




อ๋อออ...ลืมเล่าเรื่องฮาๆๆ ตอนไปเลือกผ้าม่านที่ร้าน มีน้องคนนึงกำลังตัดสินใจเลือกลาย และ ประเภทราง. เลือกอยู่นานตัดสินใจไม่ได้ซักที....ไปๆมาๆมาให้ผมช่วยเลือกให้ทั้งหมดเลย บอกแค่ ว่า ห้องตัวเองสีอะไร เป็นห้องนอน แล้วตัวเองชอบโทนสีอะไร....ผมก็เลือกให้ซะ..จบไป..ไม่รู้ตอนนี้จะด่าผมไปยังเนี่ยดันมาให้เราเลือกให้ซะงั้น.....จะโชคดีหรือโชคร้ายของน้องเค้านะเนี่ย...ฮ่าๆๆๆ



Create Date : 29 กันยายน 2554
Last Update : 29 กันยายน 2554 13:42:37 น.
Counter : 111703 Pageviews.

22 comments
  
ขอคำแนะนำหน่อยค่ะ เรากำลังเลือกร้านผ้าม่านอยู่เหมือนกัน ให้ร้านตามงานแฟร์ตีราคาแล้ว สามหมื่นกว่า แทบเป็นลม บ้านเราทาวน์โฮม 3 ชั้น พอจะแนะนำให้ได้ไหมคะ ขอบคุณค่ะ
โดย: โย่งโก๊ะ วันที่: 29 กันยายน 2554 เวลา:15:02:00 น.
  
ร้านเหล็กดัน แอบคิวเยอะ ทำช้าทั่วประเทศเลยมังคะนี่
โดย: m&n วันที่: 29 กันยายน 2554 เวลา:16:33:16 น.
  
ม่านสวยค่ะ
ชอบแบบเพดานจรดพื้นเหมือนกันเลย
(ซึ่งมันเปลืองผ้าเนอะ)
ได้ราคานี้ดีมากๆเลยค่ะ

โดย: tippy (Muff&Kate ) วันที่: 29 กันยายน 2554 เวลา:19:24:05 น.
  
เหล็กดัดของที่บ้านก็มาวัดไปแล้วเมื่อวานค่ะ หน้าต่างที่บ้านก็ประมาณเอวเหมือนกัน ตอนแรกชั้นสองว่าจะไม่ติด แต่ก็กลัวเด็กๆตก ค่ะ ก็เลยให้ติด เว้นห้องน้องสาวที่หน้าต่างอยู่สูงไม่ได้ติด

ผ้าม่านไม่อยากจะพูด เป็นเพื่อนของพ่อตีราคามา 91000 บอกลดแล้ว จะเป็นลม ผ้าหลาละ 180 ส่วนใหญ่ มี 400 กว่าบาทเล็กน้อย
ไม่รู้ว่าคนอื่นเค้าทำผ้าม่านหลาละเท่าไรกัน นี่เลยเบรคไว้ก่อนรอดูเจ้าอื่นก่อนค่ะ
โดย: ฟ้าประทานให้ วันที่: 29 กันยายน 2554 เวลา:19:58:52 น.
  
สวัสดีค่ะ กำลังเลือกผ้าม่านเหมือนกันค่ะ (เหล็กดัดเลือกแล้วค่ะ รอช่างมาติดประมาณวันเสาร์หน้า ) เป็นทาวน์โฮม 2 ชั้นค่ะ หลังริมประตูเยอะค่ะ ราคายังสูงมากค่ะ จะขอรบกวนขอชื่อร้าน และเบอร์ผ้าม่านด้วยนะค่ะ ขอบคุณมาก ๆ ค่ะ ฝากอีเมล์นะคะ lekbangbang@yahoo.com
โดย: lek (Loganz ) วันที่: 29 กันยายน 2554 เวลา:22:35:38 น.
  
รบกวนขอเบอร์ร้านผ้าม่านด้วยค่ะ ขอบคุณค่ะ
โดย: Roselines วันที่: 30 กันยายน 2554 เวลา:5:57:05 น.
  
อ่าคุณ Roselines ยังไม่มี Blog page เลย....งั้นผมบอกไปในข้อความหลังไมค์ให้แล้วนะครับ
โดย: Thandagra วันที่: 30 กันยายน 2554 เวลา:10:51:13 น.
  
น้าน ว่าแล้วว่าเหล็กดัด กะผ่าม่านคุณต่อต้องเลือกได้สวยแน่ เหล็กดัดใช้เหล็ก 4 หุนด้วยความแข็งแรงไม่ต้องพูดถึง แถมสวยงามสุดยอดอย่างนี้ มิน่าเล่าใคร ๆ ก็อยากขอความเห็นเรื่องเหล็กดัด พอมาดูผ้าม่าน โอโห้ สวยหรู จริง ๆ ราคาแสนจะถูกด้วย น้องคนนั้นคงขอบคุณต่อมากกว่าบ่นล่ะค่ะ เพราะคุณต่อเลือกเก่งมั๊ก แหมนี้ถ้าบ้านอยู่ใกล้ ๆ คงจะแว้ปไปสั่งผ้าม่านแถว ๆ นั้น ด้วย ไว้บ้านเสร็จจะขอคำแนะนำเรื่องผ้าม่านบ้างนะคะ

จะรอดูผ้าม่านตรงฝาผนังกระจกนะคะ
โดย: tanayako วันที่: 5 ตุลาคม 2554 เวลา:9:41:38 น.
  
รบกวนขออิเมล์ติดต่อได้มั้ยค่ะ
ต้องการคำปรึกษาค่ะ กำลังหาแบบสร้างบ้านค่ะ
beau_pmm@yahoo.com
โดย: beau_pmm วันที่: 6 ตุลาคม 2554 เวลา:23:23:39 น.
  
ส่งให้แล้วนะครับคุณ beau_pmm
โดย: Thandagra วันที่: 7 ตุลาคม 2554 เวลา:9:56:36 น.
  
สวัสดีค่ะคุณต่อ ไม่ทราบว่าพลาดไปได้อย่างไร เล็กว่าเล็กแวะมาหาออกบ่อยนะเนี่ยมาอัพตอนไหน ทำไมไม่แวะไปบอกกันมั่งคร้า เห็นแนวคิดของคุณต่อเรื่องติดเหล็กดัดแล้วเออจริงด้วยแฮะ ว่าแต่ที่บอกว่าแก้ปัญหาไว้แล้วทำไงเหรอคะ (แต่ไม่ต้องห่วง เหอๆๆ....ผมหาทางแก้เอาไว้ล่ะในเรื่องการปกปิด ความน่าเกลียดอันเกิดจาก สาเหตุการติดตั้งแบบนี้) ของเล็กให้ช่างเค้าตัดหัวน็อตด้านบนออกไปเลยค่ะแล้วเก็บสีเป็นเนื้อเดียวกะเหล็ก คุณต่อช่วยถ่ายผ้าม่านแบบเปิดเต็มให้ดูลายผ้าชัดๆหน่อยได้ไหมเอ่ยอยากเห็นอ่ะ ท้ายสุดรอชมบิ้วอินงานครัวนะคะ ทั้งหมดทั้งมวลสวยจริงๆเลยค่ะ
โดย: หญิงแก่น วันที่: 10 ตุลาคม 2554 เวลา:17:00:31 น.
  
บ้านคุณต่อสวยมากเลยแถมคุณต่อหาของแต่งบ้านเก่งมาก ชอบมาหาข้อมูลที่บ้านนี่ประจำ และตอนนี้อยากได้เบอร์ช่างทำเหล็กดัดคะ ขอบคุณมากคะ
โดย: puticha วันที่: 11 ตุลาคม 2554 เวลา:12:31:00 น.
  
พอจะหาข้อมูลเรื่องสีทาบ้านว่าใช้ยี่ห้อใดดีน๊า คิดถึงคุณต่อขึ้นมาก็เลยแว้ป มาหาข้อมูลว่าคุณต่่อใช้สียี่่ห้ออะไร จะได้แอบนำไปใช้มั้ง ตัวเองก็เล็ง ๆ TOA อยู่่เหมือนกัน แต่ว่าสีทาไม้ระหว่าง TOA กะเบเยอร์ อะไรดีกว่ากัน แว้ปมาตั้งคำถามคุณต่อให้ช่วยคิดสักหน่อย เพราะประมาณว่าตอนนี้คุณต่อ ได้รับการแต่งตั้งให้เป็น ชช.(ผู้เชี่ยวชาญ)ของทุกคนไปซะแล้ว ขอบคุณค้าบ
โดย: tanayako วันที่: 11 ตุลาคม 2554 เวลา:23:01:01 น.
  
หวัดดีค่ะคุณต่อ
ลายเหล็กดัดสวยจัง ขอเบอร์ช่างด้วยค่ะ
suchada.pr@egat.co.th ค่ะ
โดย: suad1 วันที่: 15 ตุลาคม 2554 เวลา:9:39:52 น.
  
สวัสดีครับ....กำลังจะอัพ blog ตอนที่ 41 นะครับ...ติดปัญหาน้ำท่วมอยู่น่ะครับ เลยยังไม่ได้มีเวลามาตอบคำถามกัน บ้านหลังใหม่ที่ลงไว้ใน blog นี้ ตอนนี้ยังปลอดภัยดี น้ำมาไม่ถึง....แต่ก็วุ่นวายกับบ้านหลังเก่า (บ้านพ่อแม่) ที่ต้องมาก่อกำแพงสูง และหาซื้อกระสอบทราย หายากมากๆๆๆ ราคาก็แพง x 3 ไปได้เลย.....ตอนนี้เริ่มทำใจล่ะครับ ถ้าจะท่วมก็ปล่อยละ...เตรียมการเอาไว้ไม่รู้จะเพียงพอไหม
โดย: Thandagra วันที่: 18 ตุลาคม 2554 เวลา:11:30:33 น.
  
ขอบคุณครับคุณ tanayako...ไม่กล้ารับตำแหน่งนี้ล่ะครับ ขอเป็น reviewer ตัวน้อยอย่างเดิมจะดีกว่าครับ .....

เรื่องสีเบเยอร์ เค้าดังมาจาก สีไม้น่ะครับ ประสบการณ์ถือว่าเยอะกว่ามาก...ถ้าให้ผมเทียบก็ยังยกให้เบเยอร์ในเรื่องของสีทาไม้ น่ะครับ
โดย: Thandagra วันที่: 18 ตุลาคม 2554 เวลา:14:55:29 น.
  
บ้านสวย ดูสะอาดตาดีค่ะ
ที่บ้านใส่เหล็กดัดแล้ว เหลือผ้าม่านกับห้องน้ำค่ะ
ช่างมาใส่เหล็กดัดคิดราคา บานละ 1500
ไม่รู้แพงหรือถูก
ขอบคุณสำหรับข้อมูลนะคะ
โดย: mumi (aoy_aun ) วันที่: 1 ธันวาคม 2554 เวลา:8:54:49 น.
  
เจ๊คุยกับหญิงแก่นเรื่องเหล็กดัด น้องเค้าบอกว่าต้องมาดูไอเดียของคุณต่อ ... อืม ดูแล้วเซฟตี้สุดๆ ไม่น่าเกลียดด้วย แต่บ้านเจ๊ตัดสินใจไม่ติดเหล็กดัดในตอนนี้ ติดแต่สัญญาณกันขโมย ว่าจะอยู่ๆไปก่อน ที่ไม่อยากติดเพราะว่ามีกระจกบานใหญ่ตรงห้องอาหาร ถ้าติดแล้วหมดสวยกันพอดี กำลังชั่งใจระหว่างเซฟตี้กับความสบายตา ส่วนบ้านคุณค่อที่ไม่ติดเหล็กดัดตรงบานใหญ่เพราะมันอยู่ชั้นบนใช่ไหมคะ

เห็นม่านแล้ว น่าจะเป็นลายเดียวกับที่บ้านเจ๊เลือกไว้ แต่ของที่บ้านสีน้ำตาล อยากเห็นม่านเต็มๆผืนน่ะค่ะ ถ่ายให้ดูหน่อยสิ
โดย: รอบรั้ว วันที่: 7 ธันวาคม 2554 เวลา:16:44:07 น.
  
ไม่รู้มาตอบเจข๊มิวช้าไปไหมนะครับ มานั่งไล่อ่านดู....
ตรงบานกระจกใหญ่ผม อยู่ชั้น 2 ทั้งหมดเลยนะครับ และ อยู่หน้าบ้านด้วย ซึ่งในความคิดผม ถ้าโจรคิดจะขึ้นจากตรงนี้ ต้องกล้าหน่อยนะ เพราะมันหน้าบ้าน.....และที่สำคัญ กระจก บานใหญ่มากครับ (กระจก Temper หนา 12 mm กว้าง บานละประมาณ 120 cm x 200 cm) คิดจะเข้ามีทางเดียว ทุบครับ....หมดสิทธิ มาแคะแกะเกา....และถ้าทุบทั้งบานก็จะระเบิด....เสียงดังสนั่นแน่ๆ....
เลยพยายามใช้ สภาพแวดล้อม ให้เ็ป็นประโยชน์ เอาไว้ก่อนแล้วค่อยมาปรับวัสดุเสริมความปลอดภัย อีกที เพื่อให้ไม่บดบังความสวยงาม น่ะครับ.....
ติดสัญญาณกันขโมยก็ดีนะครับเจ๊มิว..ผมเองก็คิดๆอยู่ครับ.....เอาไซเรนมาตั้งแถวๆหน้าบ้านด้วยถ้าโจรมา..ทั้งหวอทั้งไซเรนดัง...มาดูกันซอยแน่ๆ..คิดจะปล้นบ้านนี้ คิดให้ดีๆ...เหอๆๆ...
โดย: Thandagra วันที่: 18 มกราคม 2555 เวลา:15:12:41 น.
  
ฝากผลงานของพี่ชายไว้ด้วยนะครับ
ดูผลงานได้ที่นี่ครับ //passornsteel.com/
โดย: tOeKiNgSiZe วันที่: 16 สิงหาคม 2556 เวลา:19:34:00 น.
  
แนะนำร้านติดเหล็กดัดให้เพื่อนๆ ไว้ค่ะ เอาใจใส่ลูกค้า ราคาเหมาะสม และมีหน้าร้านของตัวเอง แวะชมที่ //steelhow.com
ขอบคุณค่ะ
โดย: k084 (สมาชิกหมายเลข 1140693 ) วันที่: 7 ธันวาคม 2556 เวลา:12:32:56 น.
  
อยากได้ชื่อร้านน่เตะ
รบกวนส่งให้ทีได้ไหมคร้าร้านที่มาติดเหล็กดัดน่ะค่ะ

varunya_kaew@yahoo.com
โดย: Por (สมาชิกหมายเลข 2632745 ) วันที่: 6 กันยายน 2558 เวลา:22:26:33 น.
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

Thandagra
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 65 คน [?]




กันยายน 2554

 
 
 
 
1
2
3
4
5
6
7
8
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
30
 
 
All Blog