สวัสดีกันอีกครั้งครับ มาคราวนี้ เป็นการทำ Rubik แถวสุดท้ายแล้ว คือแถวที่สาม สำหรับแถวนี้นะครับ มีขั้นตอนการทำค่อนข้างเยอะมากๆ เลยล่ะ ขั้นตอนใหญ่ๆ ของมันก็เป็น 3 ขั้นตอน ในตอนแรกผมคิดว่าจะเขียนเป็น 2 ตอน แต่ว่าไปๆ มาๆ แล้ว ขอแยกกันเป็น 3 ตอนจะดีกว่าครับ แบ่งกันชัดๆ ไปเลยดีกว่า .. มาเริ่มกันเลยก็แล้วกันนะครับ วิธีทำให้ด้านบนเป็นกากะบาท หลังจากที่เราได้สองแถวเรียบร้อยตามสูตรที่ผ่านมาแล้ว ต่อไปก็คือการทำขั้นตอนสุดท้าย คือแถวที่สาม (จะให้กลับไปทำขั้นตอนแรกหรือไงตาอ้วน บ้าป่าว อิอิ) สำหรับการทำขั้นตอนนี้นะครับ ให้เราพิจารณแถวที่เหลือ โดยมองจากด้านบนนะครับ มองหาดูว่ามันเป็นเครื่องหมาย + หรือเปล่า กล่าวคือ ให้มันเป็นอย่างในรูปอีกรูปครับ ที่ด้านบนเป็นสีเขียวแบบกากะบาทน่ะครับ นี่คือผลจากการทำสูตรชั้นที่สองเสร็จ | และนี่คือกากะบาทที่เราจะต้องทำในขั้นตอนที่สามครับ | แต่ก็อย่างว่าครับ การพลิกแบบมั่วไปมั่วมาในตอนแรก (ภาษาอีสานบ้านผมเรียกว่า Scramble) ทำให้แต่ละเม็ดกระจัดกระจาย ไม่เป็นระเบียบ ดังนั้นเมื่อบิดได้ขั้นตอนที่ 2 แล้วนั้น มีน้อยครั้งมากๆ ที่เราจะโชคดีได้ [+] เป๊ะๆ ดังนั้น ในบทความนี้ ผมจะบอกวิธีการทำให้เป็น กากะบาทซะก่อนนะครับ | ถ้าไม่โชคร้ายเกินไป เราจะได้มุมที่เป็น L กลับด้านอย่างในรูปครับ แต่ทีนี้ถ้าโชคไม่เข้าข้าง ก็ไม่เป็นไรครับ เราจะมีวิธีทำให้เป็นตัว L อย่างว่านี้เสียก่อนครับ สำหรับตรงนี้บอกไว้ก่อนเลยนะครับ ว่าการทำต่อไปนี้ เป็นการสลับสีด้านบนที่เหลือให้มาอยู่ในฟอร์มของ [+] ครับ ถ้ามันไม่อยู่ในฟอร์มนี้เลย เราก็เพียงบิดแบบที่ผมจะบอกต่อไปนี้ อีกสองสามชุด มันจะลงมาอยู่ที่รูปแบบของตัว L และจากนั้น เราก็เอาตัว L นี่แหละ เป็นจุดศูนย์กลาง โดยให้อยู่ที่มุมด้านบนซ้าย อย่างในรูป และหมุนอีกครั้งเดียว เราก็จะได้ กากะบาท อย่างที่ต้องการครับ | นี่นะครับ ดูด้านบนนะครับ เป็นตัว L ครับ และดูสีที่มองไม่เห็นด้วยนะครับ ว่ามันอยู่ยังไง มันยังไม่ match กัน | พลิกด้านขวาลงมาหนึ่งครั้ง | พลิกด้านบนไปทางขวาหนึ่งครั้ง | พลิกด้านหน้าทวนเข็มนาฬิกา | บิดด้านบนกลับมาทางด้านซ้าย | แล้วก็บิดด้านหน้ากลับมาแบบตามเข็มนาฬิกา | แล้วก็พลิกด้านขวากลับขึ้นไปข้างบนหนึ่งครั้ง | จากนั้นเราจะได้กากะบาทมาแล้วครับ | ขอทวนสรุปขั้นตอนนี้นะครับ นี่คือชุดของการทำให้เป็นกากะบาทครับ 1. บิดด้านขวาลง 2. บิดด้านบนมาทางขวา 3. บิดด้านหน้าทวนเข็มนาฬิกา 4. บิดด้านบน "กลับ" โดยบิดมาทางซ้าย 5. บิดด้านหน้า "กลับ" โดยบิดตามเข็มนาฬิกา 6. บิดด้านขวาขึ้น นี่คือชุดของการบิด ที่ใช้ได้กับตอนที่ยังไม่เป็นรูปตัว L ด้วยเช่นกันนะครับ ให้บิดแบบนี้ครั้งหรือสองครั้ง แล้วเราจะได้ตัว L ของด้านบนมานะครับ แล้วก็ค่อยใช้วิธีบิดชุดเดิมนี่แหละ บิดให้ได้กากะบาทครับ แต่อย่าลืมนะครับ ว่าต้องให้มุมด้านซ้ายบนเป็นตัว L กลับหัวครับ วิธีทำให้กากะบาท มีสีที่ถูกต้องกับสองหน้าที่ทำเอาไว้แล้ว ตอนนี้ล่ะครับ หนักหน่วงเอาการเลยล่ะ เราต้องมาพิจารณากันมากพอสมควรเลยครับ เพราะมันมีหลาย "กรณี" ที่ต้องเอามาพิจารณา เพื่อจัดการกับการบิด ว่าจะต้องบิดไปในแบบใด สำหรับ การบิดที่ได้กากะบาทแล้วนั้น จะมีกรณีคือ .. 1. สีที่ได้ที่ปลายของกากะบาทที่แถวที่สาม ไม่ตรงกับสีของแถวที่สองเลย .. อันนี้ไม่ยาก บิดมาทางซ้ายหรือขวานิดนึง ก็ตรงแล้วครับ เผลอๆ จะตรงมากกว่าหนึ่งสีเสียอีก 2. สีที่ได้ที่ปลายของกากะบาทที่แถวที่สาม ตรงกับสีของแถวที่สองอยู่เม็ดเดียว 3. สีที่ได้ที่ปลายของกากะบาทตรงกันกับสีของแถวที่สองอยู่สองเม็ด แล้วอยู่แบบ ด้านติดกัน 4. สีที่ได้ที่ปลายของกากะบาทตรงกันกับสีของแถวที่สองอยู่สองเม็ด แล้วอยู่แบบ ด้านตรงข้ามกัน เห็นผมเขียนมาซะเยอะอย่างนี้ ไม่ต้องตกใจครับ ไม่ยากอย่างที่คิดครับ .. ข้อหนึ่งตัดไป ข้อ 4 ก็ไม่ยาก .. ให้เราพิจารณาเฉพาะกรณีที่ 2 และ 3 เท่านั้นครับ ตัวอย่างในรูปนี้นะครับ เป็นการมองจากมุมมองด้านบนที่เหลืออยู่ครับ | นี่คือการตรงกันของสีที่เราต้องการครับ นั่นคือ ปลายของกากะบาทแต่ละอัน จะมีสีที่ตรงกันกับแถวที่สองที่ทำเอาไว้แล้ว ซึ่งนี่คือตรงกันทั้ง 4 ด้านเลย .. นี่ะล่ะครับ กากะบาทในฝัน | | นี่คือกรณีที่สีตรงกันอยู่สีเดียวครับ ในตัวอย่างคือสีส้ม ส่วนปลายกากะบาทอันอื่น สีจะไม่ตรงครับ | | และนี่คือกรณีที่สีของปลายกากะบาทตรงกับสีของแถวที่สองทั้งหมด 2 สี และดันเป็นด้านที่อยู่ติดกันเสียด้วย | | กรณีนี้คือ ปลายกากะบาท สีตรงเหมือนกัน ตรงสองด้านด้วย แต่ว่าด้านมันอยู่ตรงข้ามกันครับ | วิธีการหมุนของทุกวิธีมีวิธีการหมุนที่เป็นชุดเดียวกันทั้งหมดครับ เพียงแต่ว่า แต่ละรูปแบบอาจจะมีการหมุนที่มากกว่าแบบอื่นอยู่ซักหน่อย วิธีการหมุนชุดนี้มีดังนี้ครับ ให้เราหันด้านที่สีของแถวที่สาม ตรงกับแถวที่สองหันหน้าเข้าหาตัว | บิดด้านขวาขึ้นหนึ่งครั้ง | บิดด้านบนมาทางซ้าย | บิดด้านขวาลง | บิดด้านบนไปทางซ้าย | บิดด้านขวาขึ้น | บิดด้านบนไปทางซ้ายหนึ่งครั้ง | บิดด้านบนไปทางซ้ายเบิ้ลไปอีกหนึ่งครั้ง | บิดด้านขวากลับลงมา | แล้วเราก็จะได้สีที่ตรงกันอย่างในรูปแล้วครับ | มันเหมือนทำยากนะครับ แต่จริงๆ มีหลักการณ์นะครับ กล่าวคือ มันคือการขยับปลายของกากะบาทนั่นเองครับ โดยที่ในการหมุนแต่ละชุดนั้น จะเป็นการหมุนแทนที่ในลักษณะนี้ คือ A มาแทน B และ B มาแทน C และ C มาแทน A ซึ่งด้านที่หันหาตัวเรานั้น เมื่อบิดครบชุดนี้แล้ว สีตรงนั้นจะอยู่ที่เดิมครับ ไม่ได้เปลี่ยนไปไหน ส่วนการที่สีไปอยู่ในกรณีที่สีเหมือนกัน แต่อยู่ด้านติดกัน นะครับ ให้เราเลือกสีที่ไม่ตรงมาสีนึง แล้วบิดไปให้ตรงกับสีของมันเองในแถวที่สอง แล้วใช้สีนั้นแหละหันด้านนั้นมาหาเรา ให้เป็นศูนย์กลางการหมุน อย่างในตัวอย่างนี้ สีส้ม และสีน้ำเงิน มีสีที่ตรงกันกับแถวที่สอง แต่บังเอิญว่าทั้ง ส้ม และน้ำเงิน ดันอยู่ด้านที่ติดกัน เราก็เลือกอีกสองสีที่เหลือเลยครับ ในนี้ ผมเลือกสีแดงที่เหลืออยู่ เพราะสีแดงไปตรงกับสีเหลือง ซึ่งผิด แต่ดันมาเข้ากันกับสูตรที่ว่า ด้านสองด้านสีตรงกันติดกัน ผมก็บิดให้สีแดงมาตรงกับสีแดงของแถวที่สอง ก็เท่านั้นเองครับ ทีนี้ เราก็สามารถใช้สูตรการหมุนของข้างบนที่ได้บอกไปแล้ว หมุนไปได้เลยครับ หมุนไม่เกิน 3 ครั้ง รับรองว่าจะได้มุมของกากะบาทมาตรงกันทั้ง 4 มุมแน่นอนครับผม ส่วนกรณีที่สีถูกต้องแต่อยู่คนละด้านกันนั้น เราก็ใช้สีที่ตรงกันนั่นล่ะครับ สีใดก็ได้สีหนึ่ง เป็นด้านที่หันหน้ามาหาเรา แล้วก็บิดไปซะชุดนึง ทีนี้ก็ค่อยมาพิจารณา ว่าจะกลายเป็น "ตรงด้านเดียว" หรือ "ตรงสองด้านติดกัน" จากนั้นก็ทำตามวิธีการแบบที่ผมบอกข้างบนครับ
อย่าเพิ่งงงกันนะครับ หลังจากได้มุมของกากะบาทที่ตรงกันแล้ว ตรงนี้เราจะเหลือแค่มุมทั้ง 4 แล้วล่ะครับ ที่เราต้องบิด ใกล้แล้ว ใกล้แล้ว .. อิอิ |
หรืออิชั้นหัวไม่ถึงวะ..
-_-''