JPG vs. GIF (ตอนที่ 1)
ไม่ใช่คู่มวย ไม่ใช่คู่รัก ไม่ใช่คู่แค้น แต่เป็นรูปแบบของไฟล์ภาพที่นิยมมากที่สุดสองแบบที่ใช้กันทั่วๆ ไป (จริงๆ มีอีกหลายแบบ แต่ขอพูดถึงสองแบบนี้นะครับ)
JPG มีเพื่อนผมเคยให้นิยามว่า "มันย่อมาจาก JaPan Graphicology" หรือภาพถายแบบญี่ปุ่น เพราะเพื่อนผมมักเห็นสาวๆ นุ่งน้อยห่มน้อยแปะอยู่บนไฟล์ภาพที่มีนามสกุลเป็น JPG เสมอ .. มะจ๊ายยย!!! จริงๆ แล้ว JPG (หรือเรียกเต็มๆ ว่า JPEG) ว่า Joint Photographic Experts Group
ไฟล์ JPG จะแตกต่างกับไฟล์แบบ GIF อยู่หลายอย่างทีเดียว ที่เห็นชัดๆ ก็คือ JPG เก็บสีถึง 24 bit (บิดตั้ง 24 ครั้ง อย่างนี้ผ้าแห้งไว อิอิ) ซึ่งเป็นจำนวนสี ที่คนในหน่วยงานสืบราชการลับของอุตรประเทศเค้าเรียกว่า "สีจริง" หรือฝรั่งแถบตรอกข้าวสารเรียกว่า "true color" ซึ่งประชาชนบนโลกหลากอาชีพ นิยมใช้ไฟล์แบบ JPG ในการทำงาน
ไฟล์ JPG มีการบีบอัดภาพ (compress) อยู่ด้วยเสมอ ซึ่งใช้การบีบอัดที่เรียกว่า lossy ซึ่งคือการตัด "บิตที่ไม่จำเป็น" ออกจากข้อมูลของภาพ ซึ่งจะเห็นผลของการดึงข้อมูลที่ไม่จำเป็นออกอย่างชัดเจน คือภาพจะมีความละเอียดลดลง อย่างที่แสดงในภาพครับ
การเกิด "การหายไปของความคมชัด" ของภาพ JPG นั้น เกิดขึ้นตอนที่จะ Save ภาพ JPG จะมีการถามว่าจะ Save ไว้ที่กี่เปอร์เซนต์เสมอ (ถ้าไม่เห็น ก็ให้ลองหาปุ่ม Options แถวๆ นั้นนะครับ มันอยู่ในนั้นล่ะครับ) เปอร์เซนต์มาก คือมีความละเอียดมาก ยิ่งเปอร์เซนต์น้อยเท่าไหร่ ความละเอียดจะยิ่งหายไปเท่านั้น ยิ่งถ้า Save ซ้ำๆ กัน หลายๆ ครั้ง และไม่ได้ปรับความละเอียด (แต่มันตั้งเอาไว้ราวๆ 60%) แล้วล่ะก็ ไฟล์ JPG รุ่นเหลน จะดูแทบไม่ได้เลยครับ
และเนื่องด้วยการเก็บข้อมูลแบบจำรายละเอียดของแต่ละจุดของ JPG นี้เก็บสีได้มาก ทำให้เหมาะกับ "รูปถ่าย" ต่างๆ ซึ่งมีจำนวนสีมากๆ มีการเกลี่ยสีที่สวยงาม ส่วนภาพที่สีน้อยๆ อย่างถ้าจับหน้าจอการทำงานของโปรแกรม Excel หรือภาพ การ์ตูนอย่างที่เห็นกันในเว็บ นั่นจะมีสีจำนวนน้อย เราจะใช้ GIF ในการเก็บไฟล์ ... ซึ่งจะพูดถึงกันในตอนหน้าครับ
หมายเหตุ : ถ้าจะพูดกันจริงๆ JPG ไม่ใช่ภาพที่ดีที่สุด เพราะมีการบีบอัด "อย่างน้อย" หนึ่งครั้งมาแล้ว ทำให้สูญเสียความละเอียดมาบ้างแล้ว แต่ไฟล์แบบ RAW Format ชนิดต่างๆ ที่ไม่มีการบีบอัดนั่นคือภาพที่ดีสุด ... แต่เปลืองเนื้อที่เก็บไฟล์มากๆ เพราะเก็บรายละเอียดทุกเม็ด ไม่มีเม้ม ..
Create Date : 03 มีนาคม 2548 |
|
24 comments |
Last Update : 4 มีนาคม 2548 0:54:18 น. |
Counter : 2175 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
โดย: Oakyman IP: 61.204.195.95 3 มีนาคม 2548 23:45:08 น. |
|
|
|
| |
โดย: เครา IP: 61.90.24.76 3 มีนาคม 2548 23:53:37 น. |
|
|
|
| |
โดย: รำเพย 4 มีนาคม 2548 11:11:00 น. |
|
|
|
| |
โดย: x.y.u. IP: 202.183.233.76 4 มีนาคม 2548 14:16:17 น. |
|
|
|
| |
โดย: ~nawo~ 4 มีนาคม 2548 14:51:12 น. |
|
|
|
| |
โดย: yyswim (yyswim ) 5 มีนาคม 2548 1:43:52 น. |
|
|
|
| |
โดย: x.y.u. IP: 202.183.233.76 6 มีนาคม 2548 13:38:56 น. |
|
|
|
| |
โดย: x.y.u. IP: 202.183.233.76 6 มีนาคม 2548 14:06:18 น. |
|
|
|
| |
โดย: นมัสเต 6 มีนาคม 2548 20:09:06 น. |
|
|
|
| |
โดย: umae 7 มีนาคม 2548 0:16:11 น. |
|
|
|
| |
โดย: ป้ามด 17 เมษายน 2548 10:12:04 น. |
|
|
|
| |
โดย: ลิฟ IP: 125.27.208.121 5 มิถุนายน 2552 14:37:24 น. |
|
|
|
|
|
|
|
Location :
กรุงเทพ Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 4 คน [?]
|
มีคนถามมาเยอะ ว่าชื่อผมแปลว่าอะไร บอกง่ายๆ ว่ามาจากฟุตบอลครับ "กึ่งยิงกึ่งผ่าน" เป็นการส่งลูกไปที่
หน้าประตูฝ่ายตรงข้าม โดยผู้เล่นที่เลี้ยงลูกมาจากทางด้านข้างของสนาม พอถึงจังหวะ ก็ผ่านลูกมาให้เพื่อนที่วิ่งมารออยู่หน้าประตู .... ต่าแว่!!
... แต่ว่า!!! ... ลูกมันเลยเพื่อนไป แต่ก็ไม่ถึงประตู เหมือนจะเป็นการยิงประตูก็ไม่ใช่ จะส่งให้เพื่อนก็ไม่ใช่
นี่จึงเป็นที่มาของคำว่า "กึ่งยิงกึ่งผ่าน" ครับ
ผมไม่ได้คิดเองแต่อย่างใด แต่เอามาจากการดูฟุตบอลครับ
ปล. ชื่อผมนี่บ่งบอกเลยว่า "ฟุตบอล" แต่ผมไม่ได้เล่นห้องศุภฯ นะครับ .. แหะ แหะ แหะ
|
|
|
|
|
|
|