|
| 1 | 2 | 3 | 4 | 5 |
6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 |
13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 |
20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 |
27 | 28 | 29 | 30 | |
|
|
|
|
|
|
|
((( เอา คาร์ล มาร์กซ ของผมคืนมา เอาโซเวียต ของคุณคืนไปvol1 )))
...เกริ่นนำก่อนว่าผู็ที่อ่านต้องรู้ก่อนว่า คาร์ล มาร์กซ วิพากษ์ระบบการปกครองโลก ว่าเป็น การขัดแย้งกันระหว่าง2 ชนชั้นคือ ชนชั้นนายทุน และ ชนชั้นแรงงาน ระหว่าง ไฮโซ และ โลโซ มีผลประโยชน์ร่วมกันแต่อยากได้ต่างกัน
ไฮโซ - อยากได้กำไรสูงสุด = กดค่าแรง ใช้เยี่ยงทาส หมกเม็ดกำไร (กะล่อน) โลโซ - อยากได้ค่าแรงสูงสุด = รวมตัวขึ้นค่าแรง แห่ลาออก และยึดกิจการ
ชี้แจงยังงี้นะครับว่า คาร์ล มาร์กซ มองทะลุปุโปร่งไว้หมดแล้ว ว่า ความต้องการระหว่าง2ชนชั้นนั้นมันก่อให้เกิดปัญหาสังคม การกระล่อนของทั้ง2ฝ่าย เมื่อแรงงานได้ค่าตัวน้อยก็จะมองหาโรงงานที่ให้ค่าตัวมาก โรงงานเก่านั้นก็จะแย่จนถึงขั้นปิดเอา จึงต้องย้ายฐานผลิตไปอีกประเทศ จึงทำให้ประเทศนั้นเกิดปัญหา โดยการไหลของนายทุนจะไหลไปหาประเทศที่ค่าเงินอ่อนเสมอ หรือเมื่อต้นทุนสูงเกินไป เขาก็จะเลิกจ้างแบบไม่สนใจใยดี
ทำให้เกิดช่องว่างตรงคำว่า ความแน่นอนของการดำรงอยู่ในรัฐนั้นคืออะไร ท่านต้องการแค่การเป็นเจ้าของปัจจัยในส่วนที่เท่าๆกัน และพอยู่พอกินกันทั้งหมด ไม่เกิดการเอาเปรียบกัน นั้นคือ การปกครองแบบคอมมิวนิสต์
โดยท่าน มาร์กซ เีลียงลำดับผลของการกระทำไว้แบบนี้
ยุค สังคมศักดินา >> สังคมทุนนิยม >> สังคมนิยม
แน่นอนว่ายุคที่สมบูรณ์แบบที่สุดของ คือ ยุคสังคมนิยม แต่ท่านมาร์กซจะเอาอะไรไปให้ชาวโลกดูออกว่า ยุคทุนนิยมมันไม่ดียังงัย ก็เลยเกิด บริบทของ ปฏิกิริยา "ทุนนิยมทำลายตัวเอง"
ทุนนิยมทำลายตัวเอง คืออะไร ผมพยายามอธิบายให้เห็นภาพนะครับ คุณผู้อ่านขณะนี้เราอยู่ในยุคทุนนิยมที่ใกล้จะทำลายตัวเองที่สุดแล้ว ทั้งที่มันชิงทำลายตัวเองมาตั้งแต่เนิ้นๆแล้วคือ(ต้มยำกุ้ง พศ.2540ที่ไทย) ทุนนิยมในยุคนี้ ค่าเงินตรามีความสำคุญมาก การบริโภคนิยมมีความสำคัญมาก จึงก่อให้เกิด ภาระมวลชนขึ้นมา ด้วยการรวมกลุ่มกัน ระหว่าง 2 สิ่งที่แตกต่างกันนั้นคือ ชนชั้นผู็ขาย ชนชั้นผู้บริโภค
ให้สังเกตุเรื่องใกล้ตัวตอนนี้ (step1)*ภาวะน้ำมันแพง ชนชั้นผู็้ขาย นั้นคือ ชาติที่มีแหล่งผลิตน้ำมันได้เองต่างๆทั่วมุมโลก เขารวมกลุ่มกัน แล้วตั้งชื่อว่า กลุ่ม opec กลุ่มนี้มีผู้นำคือ ซาอุดิสอารเบีย(ประเทศน้ำมันเยอะสุด)พวกเขามีสิทธิ์การชี้ชตาชาวโลกด้วยการควบคุม ทั้ง ดีมานด์ และ ซับพราย ได้เอง คือ ผลิตน้ำมันให้น้อยเพื่อให้ราคาแพง ผลิตน้ำมันให้มากเพื่อให้ราคาถูก น้ำมันคือสินค้าจำเป็น ดังนั้นชาวโลกถูกขูดเลือดขูดเนื้อจากกลุ่มนี้นี่เอง นี่คือการได้เปรียบโดยสมบูรณ์ (step2)*ภาวะข้าวแพง ในไทยนี้เอง ข้าวในตลาดเหลือน้อยราคาสูงขึ้น ชาวนาผู้ผลิตได้ราคา โรงสีผู้กักตุนได้กำไีร ผู้บริโภคย่ำแย่ (สังเกตุผมเพิ่มผู้กักตุนขึ้นมานั้นคือผู้ค้าผูกตลาดโดยแท้จริงเพราะเขากักตุนได้) หากปล่อยเป็นอย่างนี้ก็จะเรียกว่า ทุนนิยมทำลายตัวเอง เพราะผู้คนที่มีปริมาณมากกว่านั้นคือผู้บริโภค รัฐบาลจึงสั่งลดราคาข้าวทันใด ผู้ผลิตคือชาวนาต้องกลับมาเศร้า(สังเกตุว่าชาวนาพยายามทำเรื่องลดราคาปุ๋ยให้ได้มากกว่าอย่างอื่น) ผู้ค้าการตลาดอยู่ทุน (step3)*ภาวะการขาดแคลนอาหารที่แอฟริกา นั้นคือภาพแห่งการทำลายตัวเองที่ย่อยยับของโลกมนุษย์(สังเกตุว่าผมไม่อิงทฤษฏีการค้าใดๆผมใช้คำว่า การย่อยยับของมวลมนุษยชาติ) เพราะการดิ้นเอาตัวรอดของชั้นนายทุนที่ไม่เคยจะแยเรื่องศีลธรรมเลย นอกจากกำไร และผู้บริโภคเมื่อความสามารถการใช้บริการเครื่องอุปโภคสิ้นสุดลง ก็ต้องจบ
step1=การผูกขาดการค้าของผู้ผลิต (การรวบกลุ่มของผู้ค้า) step2=การเข้าแทรกแซงเพื่อผู็บริโภค (การรวมกลุ่มของผู้บริโภค) ออกคำสั่งโดยรัฐบาล(คอมมิวนิสย์) step3=การย่อยยับของมวลมนุษย์หลังจากการทำลายตัวเองของทุนนิยม (ตรงนี้ไม่สำคัญ)
คุณสังเกตุ step1 step2 ว่า มันคือ2สิ่งที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน ระหว่าง ความอยากขาย กับ อยากได้ ผมจะไล่ให้ดูว่าทุนนิยมสมัยใหม่ นั้นก็คือ มวลชนแห่งการรวมกลุ่มของการบริโภคนั้นเอง
1. การรวมกลุ่มของชนชั้นแรงงาน - การรวมกลุ่มของชนชั้นนายทุน 2. การรวมกลุ่มของผู้บริโภค - การรวมกลุ่มของผู้ค้า 3. การรวมกลุ่มของผู้ถูกปกครอง - การรวมกลุ่มของผู็้้้้ปกครอง
จะเห็นได้่ว่านี่คือชนวนการระเบิดตัวเองของระบบเศรษฐกิจ และ ระบบปกครอง
มันไปเข้าประเด็นการวิพากษ์ของท่านมาร์กซ ก็คือ การเปลี่ยนตัวเองของมวลมนุษยชาติไปสู่ระบอบสังคมนิยม
สังคมนิยมคืออะไร ผมชี้แจงยังงี้ว่าคุณลืมภาพเดิมๆให้หมด สังคมนิยมคือ ความพอดีของสัดส่วนของการอยู่รวมกันเป็นมนุษย์ในโลกเล็กๆแห่งนี้ (คุณลบสหภาพโซเวียต และ เลนิน ออกไปเลย)
สรุป สังคมทุนนิยม >> สังคมนิยม นั้นต้องใช้เวลาและรอจุดนั้นก่อน
โดยปัจจุบันชาวโลกอยู่ในยุคทุนนิยม เป็นส่วนใหญ่ เป็นยุคที่มีแต่ปัญหาและความกระล่อน ประเทศ หรือ รัฐ บางรัฐ ไปลัดวงจรใช้ระบบสังคมนิยมเร็วเกินไปเลยเกิดปัญหา เป็นเยี่ยงนี้ผมเลยขอวิพากษ์
นาย เลนิน คนที่นำลัทธิ และศาสตร์ของ มาร์กซไปใช้ในสหภาพโซะเวียตนั้นผมบอกว่าดัดจริตสิ้นดี เนื้อหาถูกดัดแปลงไปใช้ในทางรุนแรง ไม่ทันทีทันใดเกินไป เขาใช้ลัทธิสังคมนิยมไปหากินโดยใช้ทหารเป็นใหญ่ ประชาชนได้รับอิสระภาพน้อยมาก ดังนั้นวิธีปฏิบัติแบบนี้ นอกจารีตของสังคมนิยม
ผมกล้าบอกได้เลยว่า ในโลกนี้มีประเทศ จีน เท่านั้นที่ปกครอง แบบสังคมนิยมได้ดีที่สุด เขายึดอำนาจได้โดยกลุ่มคนที่แรงกล้าด้วยอุดมการณ์ และเขามีความหลากหลายในการปกครองพอที่จะนำประเทศไปสู่สิ่งที่ดี เหมา เจ๋อตุง นำ ลัทธิทุนนิยม และ สังคมนิยมมาผสานกันได้ยอดเยี่ยมมาก ด้วยสุนทรพจณ์เด็ดคือ
"ถ้าแมวจะจับหนู แมวไม่จำเป็นต้องมีสีอะไร"
นั้นคือ รัฐๆหนึ่งจะทำมาหากินให้ประเทศเจริญรุ่งเรื่องไม่จำเป็นต้องมีลัทธิที่แน่นอน นั้นคือจีนกลับมาใช้ระบบผสมเหมือนไทย แต่เขาอิง คอมมิวนิสต์จัดกว่าเรา
ดังนั้น คาร์ล มาร์กซ กับ เลนิน จึงเป็นสิ่งที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน
เพราะ มาร์กซ์ มองการเมืองในมุมที่สะอาดกว่า เลนิน
ติดตามต่อใน vol2ครับ
เพลงประกอบเรื่อง เพลง ; ใช้กรรม คนร้อง : อุ หฤทัย
Create Date : 21 เมษายน 2551 |
|
0 comments |
Last Update : 22 เมษายน 2551 16:19:45 น. |
Counter : 680 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
|
|