Group Blog
 
 
เมษายน 2553
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
252627282930 
 
9 เมษายน 2553
 
All Blogs
 
ปฏิรูปการศึกษาทศวรรษที่ 2



การปฏิรูปการศึกษาทศวรรษ
ที่สองเป็นนโยบายที่รัฐบาลปัจจุบันได้ดำเนินการอยู่และเป็นที่วิพากษ์
วิจารณ์กันอย่างกว้างขวาง
ตลอดจนข่าวการทุจริตคอรัปชั่นที่เกี่ยวกับการศึกษา
ปัญหาของการจัดการศึกษาในเรื่องวิชาชีพ ทางการแพทย์
และพยาบาลของสถาบันการศึกษา ปัญหาความรุนแรงของเด็กและเยาวชนในสถานศึกษา
ปัญหาคุณธรรม จริยธรรมของครูผู้สอน
ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงสภาพปัญหาของระบบการศึกษาไทยเป็นอย่างดี


นับ
ตั้งแต่มีการประกาศใช้พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ.
2542
เป็นต้นมาเป็นจุดเริ่มต้นของการปฏิรูปการศึกษานั้นผ่านมาได้
10 ปีแล้ว
โดยเน้นให้จัดการเรียนการสอนเพื่อส่งเสริมให้ผู้เรียนได้พัฒนาขีดความสามารถ
ของตนได้อย่างเต็มศักยภาพ และมีความสมดุลทั้งร่างกาย จิตใจ สติปัญญา
ความรู้ คุณธรรม จริยธรรม และวัฒนธรรมในการดำรงชีวิต
สามารถอยู่ร่วมกับผู้อื่นได้อย่างมีความสุข
โดยยึดผู้เรียนเป็นศูนย์กลางแห่งการเรียนรู้




สำหรับ
ประเทศไทยการศึกษาในอดีตที่ผ่านมานั้น ได้ถูกจัดขึ้นโดยครอบครัว ชุมชน
หรือสถาบันทางศาสนา
ที่มีส่วนร่วมในการถ่ายทอดความรู้หรือภูมิปัญญาที่เชื่อมโยงบนรากฐานประเพณี
และวัฒนธรรมที่สั่งสมมาของสังคม
ทำให้ความรู้เหล่านั้นคงอยู่และถ่ายทอดสืบสานต่อๆ กันมา
จนกระทั่งมาสู่การศึกษาในระบบโรงเรียน และสถาบันการศึกษาที่จัดโดยรัฐ
เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้การจัดการศึกษาในประเทศไทยได้เกิดความแปลกแยกไปจาก
ชุมชนท้องถิ่น



ระบบ
การศึกษากลายเป็นเรื่องของการรวมศูนย์อำนาจไว้ที่ส่วนกลาง
และครูผู้สอนได้มีบทบาทสำคัญในการเรียนการสอน
และครูเป็นศูนย์กลางในการเรียนการสอน
รวมทั้งหลักสูตรที่ผลิตจากส่วนกลางไม่สอดคล้องกับบริบทของชุมชนท้องถิ่น
ทำให้สถาบันการศึกษาและโรงเรียนไม่ได้ผลิตนักเรียน
นักศึกษาที่มีความเข้าใจในภาษาท้องถิ่น วัฒนธรรมท้องถิ่น
และภูมิปัญญาท้องถิ่นของชุมชนนั้นๆ อย่างแท้จริง



ถ้า
หากพิจารณาถึงระบบการศึกษาไทยในอดีต
ปัญหาส่วนใหญ่ที่เกิดขึ้นนั้นได้มีความสอดคล้องกับแนวคิดของเปาโล แฟร์ (
Paulo Freire) เป็นนักการศึกษาผู้หนึ่งที่ได้เขียนวิจารณ์ระบบการศึกษาที่มีครู
เป็นศูนย์กลางในหนังสือ
Pedagogy of the oppressed และ
หนังสือเล่มนี้ได้สร้างความหวั่นไหวให้แก่วงการการศึกษาเป็นอย่างยิ่งในสมัย
นั้น



เปา
โล แฟร์
มีความเห็นว่าการศึกษาในระบบโรงเรียนที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน
ส่วนใหญ่เป็นระบบการศึกษาที่มีครูซึ่งเป็นผู้ที่มีอำนาจสูงสุดมักจะเป็นผู้
กดขี่ กักขัง ครอบงำ ควบคุมความคิดของผู้เรียน
โดยครูมีบทบาทเป็นผู้เผด็จการที่คอยแต่จะสั่งว่า ผู้เรียนควรเรียนอะไร
ควรเรียนอย่างไร ควรคิดอย่างไร และประพฤติตัวอย่างไร



ซึ่งเปา
โล แฟร์
เห็นว่า
การเรียนการสอนแบบนี้จะทำให้ผู้เรียนมีชีวิตจิตใจกลายเป็นวัตถุที่คอยแต่จะ
รองรับสิ่งที่ผู้สอนถ่ายทอดให้เท่านั้น ผู้เรียนจะไม่สามารถเข้าใจตนเอง
ไม่มีความคิดสร้างสรรค์ ไม่สามารถปรับปรุงตนเองและสภาพแวดล้อมให้ดีขึ้นได้


เปา
โล แฟร์ เรียกการศึกษาที่มีศูนย์อำนาจเบ็ดเสร็จอยู่ที่ครูนี้ว่า
การศึกษาระบบธนาคารเงินฝาก (
Banking Education System)



จน
กระทั่งมาถึงปัจจุบัน ได้มีแนวคิดการปฏิรูปการศึกษาทศวรรษที่สอง เช่น
การพัฒนาคุณภาพคนไทยยุคใหม่ ให้มีนิสัยใฝ่เรียนรู้ ตั้งแต่ปฐมวัย
สามารถเรียนรู้ด้วยตนเองและแสวงหาความรู้อย่างต่อเนื่องตลอดชีวิต
การพัฒนาคุณภาพครูยุคใหม่ เป็นผู้เอื้ออำนวยให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้
เป็นวิชาชีพที่มีคุณค่า มีระบบ



กระบวน
การผลิตและพัฒนาครู คณาจารย์และบุคลากรทางการศึกษาที่มีคุณภาพมาตรฐาน
การพัฒนาคุณภาพสถานศึกษาและแหล่งเรียนรู้ยุคใหม่
พัฒนาคุณภาพสถานศึกษาและแหล่งเรียนรู้ทั้งในระบบ นอกระบบ
และแหล่งเรียนรู้ตามอัธยาศัยเพื่อส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิต
การพัฒนาการบริหารจัดการใหม่มุ่งเน้นการกระจายอำนาจสู่สถานศึกษา
เขตพื้นที่การศึกษาและ อปท. รวมทั้งการมีส่วนร่วมของผู้ปกครองชุมชน เอกชน
และทุกภาคส่วน



แนว
นโยบายและแนวทางการปฏิรูปการศึกษาทศวรรษที่สองนั้นสอดรับกับนโยบายเรียนฟรี
15
ปีของรัฐบาลปัจจุบัน



การ
ปฏิรูปการศึกษาทศวรรษที่สองแม้ว่าจะเน้นกระบวนการพัฒนาทั้งคุณภาพครูผู้สอน
สถานศึกษา การบริหารจัดการ และความร่วมมือระหว่างหน่วยงานต่างๆ
ซึ่งเป็นแนวทางที่ดี
ส่วนการนำนโยบายไปปฏิบัตินั้นจะสอดคล้องกับนโยบายที่วางไว้หรือไม่
การปฏิรูปการศึกษาทศวรรษที่สองจะช่วยให้ระบบการศึกษาของไทยพัฒนาไปในทิศทาง
ใด



อย่าง
ไรก็ตามควรให้ความสำคัญกับความรู้ของชุมชน ทุนชุมชนที่มีอยู่
ทั้งทุนมนุษย์คือปราชญ์ชาวบ้าน ทุนทางปัญญา คือภูมิปัญญาท้องถิ่น
ที่ได้สืบทอดต่อกันมาหลายชั่วอายุคนนั้น
น่าจะมีแนวทางการปรับใช้และประยุกต์ให้เป็นหลักสูตรท้องถิ่น
มีการจัดการเรียนการสอนในสถานศึกษา ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อเด็กนักเรียน
รวมทั้งเสริมสร้างความเข้มแข็งของคนในชุมชน และ
ที่สำคัญควรมีการเสริมสร้างจิตสำนึกให้เกิดความหวงแหนในบ้านเกิด
ภูมิปัญญาท้องถิ่น วัฒนธรรมของชุมชน
รวมทั้งการปลูกฝังจิตสำนึกด้านคุณธรรมและจริยธรรมให้กับนักเรียนด้วย
มิใช่เรียนเพื่อให้เป็นคนเก่ง คนฉลาดอย่างเดียวเท่านั้น



ที่มา  //www.thaihealth.or.th/






Free TextEditor


Create Date : 09 เมษายน 2553
Last Update : 9 เมษายน 2553 3:48:20 น. 0 comments
Counter : 246 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

สมหญิง ณ ทรายทอง
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add สมหญิง ณ ทรายทอง's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.