ต่อๆ
22-Oct-2006
วันนี้ไปวัดความอึด ไปขึ้น เขาพูกันซาน (Pukansan)คนเยอะมาก เค้ามาเดินกันป็นกิจวัตรใช่มั้ยเนี่ยสมเป็นฤดูใบไม้ร่วง ร่วงจริงๆเดิน.. เดิน.. แล้วก็เดิน..เดินมาเท่าไหร่แล้ว แล้วต้องไปอีกเท่าไหร่เนี่ยตอนนั้นไปกันทางไหนหว่าสู้มั้ยสู้ หน้าตาหมดสภาพอย่างแรง ไม่สามารถออกกล้องได้ เพราะช่วงเดินเหนื่อยขาดใจ อัดยาดมเกือบหมดหลอด แต่คนเกาหลีเค้าเดินกันชิลๆมากประหนึ่งเดินห้างคนแก่ก็เดินไปคุยกันไป บางกลุ่มแบกข้าวของมาปิคนิกกันเลย พวกเราแค่แบกสังขารตนเองขึ้นก็จะแย่แล้ว มาถึงที่จุดชมวิวละกัน พักก่อนแล้ววิวงามมั้ยด้านล่างมั่งDangerous Trail ที่จริงมันขึ้นไปได้ถึงบนโน่น แต่หลังจากมองตากับเพื่อน ไม่น่าเชื่อว่าเราจะใจตรงกัน โอเค เราเอาแค่นี้พอละกันถ้าต้องไปต่อ เดี้ยงแน่ๆ หลังจากนั้นก็ไปผ่อนคลายกล้ามเนื้อที่ ตลาดนัมแดมุน (Numdaemun Market) หาซื้อของกิน ของฝาก ทั้งช็อคโกแลต สาหร่าย โสม มากมายก่ายกองแต่พอมาดู เพิ่งรู้ว่าไร้ซึ่งภาพถ่ายใดๆไม่ว่าจะกล้องเรา หรือกล้องเพื่อนหมดสภาพกันจริง ไม่มีอารมณ์แม้จะหยิบกล้องมาถ่ายใดๆทั้งสิ้น23-Oct-2006ยังคงปวดเมื่อยจากเมื่อวานแต่ก็ต้องตื่นเช้า ไป เกาะนามิ (Nami Island)บรรยากาศดีจัง เริ่มมีสิ่งของบิวท์บรรยากาศ Winter Love Song กันแล้วขอบอกเลยว่าทั้งเราและเพื่อนไม่ได้กรี๊ดป๋าเบ ยอง จุนแต่อย่างใด (ไม่ชอบคนมีอายุ ปกติรักเด็ก )คือเฉยๆมากมาย แต่ทำไงได้บรรยากาศมันพาไป ชอบถนนเส้นนี้ ใบไม้เปลี่ยนสี งามมากๆ มาต่อถนนอีกสายโรแมนติกกันเองก็ได้ฟะ และแล้วก็มาถึง สถานที่บังคับ ไม่มา ไม่ถึงเกาะนามิไม่ได้ชอบ ไม่ชอบนะเนี่ย (ขนาดมันไม่ได้ชอบนะ)บ้าบอ ท่าอะไรของมัน หิมะตกเหรอ เนียนมั้ย (ถ่ายเสร็จ คนอื่นทำตามกันเพียบ )ตรงนี้ประมาณฉาก kiss ครั้งแรกมั้ง ไม่ได้ดูอ่ะบ้าบอมามาก พอเหอะ ทีแรกก็เหมือนๆจะไม่มีอะไร ว่าจะอยู่แค่ครึ่งวัน แต่เดินๆไปก็สวยดีนี่นา บรรยากาศดี ถ่ายรูปกันจนเพลิน ปาไปบ่ายๆโน่นเลยกว่าจะออกมาตอนต่อไป นัมซานทาว์เวอร์
ตอนต่อไป นัมซานทาว์เวอร์
โอเช ตามนั้น ฝากนัดน้อง ๆ คนอื่น ๆ ด้วยน๊า.. เดี๋ยวหนีไปแฮ่ดก่อน.. คิคิ...