 |
|
|
 |
 |
|
|
| | 1 | 2 |
| 3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 |
| 10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 |
| 17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 |
| 24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29 | 30 |
| 31 | |
|
|
| |
|
 |
|
|
|
โบอิ้งไทยถูกเนอรมันยึด
สื่อนอกตีข่าวกระทรวงการต่างประเทศเยอรมนีแถลงขออภัยกรณีอายัดเป็น "เครื่องบินส่วนพระองค์" ขณะที่การยื่นถอนอายัดของทีมอัยการไทยต่อศาลเยอรมันยังไม่ได้ข้อยุติ เหตุศาลเปิดโอกาสให้ฝ่ายเอกชนยื่นเอกสารโต้แย้ง "อภิสิทธิ์" ชี้เป็นเรื่องของเอกชน รัฐบาลเยอรมนีไม่สิทธิแทรกแซง ซัด "วอลเตอร์ บาว" ไม่จำเป็นต้องดิ้นยึดทรัพย์สิน ลั่นหากไทยแพ้คดีรัฐบาลพร้อมจ่าย โฆษกทอ.ยันเครื่องโบอิ้ง 737 ถูกเยอรมนีอายัดไม่ใช่ของทางราชการ แต่เป็นเครื่องบินส่วนพระองค์ ขณะที่ศาลเยอรมนีกำลังพิจารณาเอกสารคดีอายัดเครื่องบิน "ธานินทร์ พานิชชีวะ" ผู้บริหารดอนเมือง โทลล์เวย์ร่อนหนังสือแจงไม่เกี่ยวยึดโบอิง 737 ยันไม่เห็นด้วยกับ "วอลเตอร์ บาว" พล.อ.ต.มณฑล สัชฌุกร โฆษกกองทัพอากาศ เปิดเผยว่า ตามที่ปรากฏเป็นข่าวว่าเครื่องบินโบอิ้ง 737-400 ของไทยถูกอายัดไว้ที่ประเทศเยอรมนีนั้น ทางกองทัพอากาศได้ตรวจสอบข้อมูลแล้วพบว่า เป็นเครื่องบินที่กองทัพอากาศไทยได้ทูลเกล้าฯถวายเมื่อปี พ.ศ.2550 ในช่วงที่ พล.อ.อ.ชลิต พุกผาสุข ดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการทหารอากาศ ทำให้สถานะของเครื่องบินลำดังกล่าวไม่ใช่เครื่องบินของทางราชการแต่อย่างใด แต่เป็นเครื่องบินส่วนพระองค์
โฆษกกองทัพอากาศกล่าวอีกว่า กองทัพอากาศยืนยันว่า ไม่ใช่เครื่องบินของราชการ หรือรัฐบาล เพราะได้มีการทูลเกล้าฯถวายไปแล้ว มีหนังสือทูลเกล้าฯอย่างถูกต้อง ซึ่งกระทรวงการต่างประเทศได้ขอหนังสือดังกล่าว ไปเพื่อนำไปยืนยันกับทางเยอรมนี ซึ่งกองทัพอากาศได้ส่งไปให้เรียบร้อยแล้ว
เว็บไซต์หนังสือพิมพ์เทเลกราฟของประเทศอังกฤษ รายงานอ้างคำแถลงของกระทรวงการต่างประเทศเยอรมนีว่า เยอรมนีขอพระราชทานอภัยในความไม่สะดวกที่เกิดขึ้นกับ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร อันเป็นผลจากการอายัดเครื่องบินโบอิง 737 สัญชาติไทย ที่สนามบินมิวนิก ประเทศเยอรมนี เมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา
ขณะที่ความคืบหน้าการยื่นถอนอายัดของทางการไทยต่อศาลเยอรมัน นายปณิธาน วัฒนายากร รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยกับ "กรุงเทพธุรกิจ" ว่า นายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ พร้อมคณะได้เดินทางถึงประเทศเยอรมนีแล้ว และได้เข้ารับฟังกระบวนการทางศาลของประเทศเยอรมนี ซึ่งอัยการสูงสุดของไทยได้ยื่นเอกสารหลักฐานชี้แจงไปก่อนหน้านี้ว่า เครื่องบินลำดังกล่าวไม่ใช่ทรัพย์สินของรัฐบาลไทย แต่เป็นเครื่องบินส่วนพระองค์ จึงไม่สามารถอายัดได้ตามที่ทนายของบริษัทวอลเตอร์ บาว ซึ่งปิดกิจการไปแล้วได้ร้องขอต่อศาล หลังจากมีข้อพิพาทกับรัฐบาลไทยจากโครงการก่อสร้างทางยกระดับดอนเมืองโทลล์เวย์
นายธานี ทองภักดี อธิบดีกรมสารนิเทศ และโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า เมื่อวันศุกร์ที่ 15 ก.ค. ศาลเยอรมันได้ออกนั่งพิจารณาเอกสารของทางการไทยที่ยื่นขอถอนอายัดเครื่องบินแล้ว และได้เปิดโอกาสให้บริษัทสัญชาติเยอรมันยื่นเอกสารชี้แจงโต้แย้งด้วย จึงยังบอกไม่ได้ว่ากระบวนการจะเสร็จเรียบร้อยเมื่อใด
นายธานี กล่าวอีกว่า นายกษิตได้พบกับ นางคอร์เนเลีย พีเพอร์ ปลัดกระทรวงต่างประเทศของเยอรมนี เมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 15 ก.ค. เพื่อย้ำความกังวลของฝ่ายไทยและความสำคัญที่ไทยมีต่อเรื่องนี้ โดยนายกษิตต้องเข้าพบกับปลัดกระทรวงการต่างประเทศของเยอรมนี เพราะรัฐมนตรีต่างประเทศเยอรมนีกำลังอยู่ระหว่างเยือนเม็กซิโก
รัฐบาลเบียร์แจงไม่แทรกแซงศาล
นายมาร์ติน ชาเอเฟอร์ โฆษกกระทรวงต่างประเทศเยอรมนี แถลงว่า รัฐบาลเยอรมนีไม่สามารถแสดงความเห็นในเรื่องนี้ได้ เพราะต้องเคารพความเป็นอิสระของฝ่ายตุลาการซึ่งขณะนี้กำลังรับผิดชอบเรื่องนี้อยู่
นายชาเอเฟอร์ กล่าวต่อว่า สถานทูตเยอรมนีในกรุงเทพฯ เคยติดต่อกับเจ้าหน้าที่ของไทยเกี่ยวกับคดีนี้ และรัฐบาลเยอรมนีเคารพการตัดสินใจของตุลาการอย่างอิสระที่ให้อายัดเครื่องบิน พร้อมเสริมว่านางพีเพอร์จะหารืออย่างสุภาพ และเป็นมิตรกับนายกษิต
ด้าน นายแวร์เนอร์ ชไนเดอร์ เจ้าหน้าที่พิทักษ์ทรัพย์ของบริษัท วอลเตอร์ บาว แถลงว่า ได้อายัดเครื่องบินหลังจากรัฐบาลไทยปฏิเสธชำระหนี้แก่บริษัท ซึ่งพยายามดำเนินการมานานหลายปีเพื่อให้รัฐบาลไทยตอบสนองข้อเรียกร้องชำระหนี้กว่า 30 ล้านยูโร และมาตรการเด็ดขาดที่นำมาใช้ถือเป็นหนทางสุดท้าย พร้อมระบุด้วยว่ารัฐบาลไทยถ่วงเวลาไปเรื่อยๆ และไม่เคยตอบสนองข้อเรียกร้องของบริษัท แม้กระทั่งหน่วยงานของรัฐบาลเยอรมันได้ยื่นมือเข้ามาเกี่ยวข้องแล้ว แต่ก็ยังไร้ผล
อายัดโบอิงปมเอกชน-รัฐบาลเยอรมันไม่เกี่ยว
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์เมื่อวานนี้ (15 ก.ค.) ถึงการเร่งถอนอายัดเครื่องบินโบอิง 737 สัญชาติไทย ว่า เมื่อวันที่ 14 ก.ค. อัยการสูงสุดได้เดินทางไปประเทศเยอรมนีเพื่อนำข้อเท็จจริงไปให้ศาลประเทศเยอรมนีได้พิจารณาว่าเครื่องบินลำดังกล่าวเป็นเครื่องบินส่วนพระองค์ ซึ่งศาลได้รับฟังข้อเท็จจริงแล้ว และนัดออกคำสั่งว่าจะถอนอายัดหรือไม่ในวันศุกร์ที่ 15 ก.ค.
"ฝ่ายไทยหวังว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงคำตัดสิน และคงชัดเจน เพราะที่ผ่านมาศาลเข้าใจคลาดเคลื่อนว่าเครื่องบินลำนี้เป็นของรัฐบาล ซึ่งความจริงไม่ใช่ เราได้ประสานงานทุกช่องทางเพื่อเร่งแก้ไขปัญหาโดยเร็วที่สุด ขณะที่รัฐบาลเยอรมันได้อำนวยความสะดวกด้านกฎหมายให้ฝ่ายไทย และถือว่าเป็นเรื่องของเอกชนที่ไปฟ้องศาล ฝ่ายบริหารของเยอรมนีเข้าไปแทรกแซงไม่ได้"
ส่วนคดีหลักที่บริษัท วอลเตอร์ บาว ฟ้องเรียกค่าเสียหายจากรัฐบาลไทยนั้น นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า อยู่ระหว่างการยื่นอุทธรณ์ที่ศาลนครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา ซึ่งเราไม่ทราบว่าจะใช้เวลามากน้อยเพียงใด แต่ที่ผ่านมาคดีจะใช้เวลามากพอสมควร ขณะนี้อัยการสูงสุดมีข้อมูลที่เป็นประโยชน์ในชั้นอุทธรณ์
ย้ำไม่จำเป็นต้องอายัด-ถ้าไทยแพ้พร้อมจ่าย
"เรื่องนี้ไม่ควรเกิดขึ้นเลย และทางอัยการสูงสุดกำลังดำเนินการ แต่ปัญหาที่เกิดขึ้นขณะนี้เพราะเป็นช่วงรอยต่อของคดีที่ไทยเตรียมยื่นอุทธรณ์ในวันที่ 29 ก.ค. ซึ่งตามข้อเท็จจริงแล้วไม่มีความจำเป็นต้องมาอายัดทรัพย์สินอะไร เพราะหากสุดท้ายศาลตัดสินให้ประเทศไทยชำระหนี้ เราต้องปฏิบัติตามอยู่แล้ว รัฐบาลไม่มีทางหนีไปไหน ทรัพย์สินของรัฐบาลมีอยู่มากมาย และเป็นเรื่องที่ต้องดำเนินการ ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะไม่ปฏิบัติตาม ดังนั้นไม่มีความจำเป็นใดๆ ที่ทางการเยอรมนีจะต้องมาดำเนินการอะไร"
ผู้สื่อข่าวถามว่า ทางกระทรวงการต่างประเทศตั้งข้อสังเกตว่า กระบวนการการไต่สวนของเยอรมนีเป็นการไต่สวนฝ่ายโจทก์เพียงฝ่ายเดียว เรื่องนี้จะดำเนินการอย่างไร นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ไม่อยากวิจารณ์กระบวนการยุติธรรม แต่เราข้องใจว่าทำไมถึงไต่สวนฝ่ายเดียว เข้าใจว่าฝ่ายผู้ร้องคงจะอ้างว่าเป็นเรื่องฉุกเฉิน และเป็นมาตรการชั่วคราวที่จะดำเนินการอย่างเร่งด่วน
"ขณะนี้ภารกิจสำคัญที่สุดคือให้มีการถอนอายัดเครื่องบินส่วนพระองค์เสียก่อน และต่อไปไม่ควรมีปัญหาแบบนี้เกิดขึ้นอีก เพราะเป็นเรื่องของเอกชน"
ยันไม่กระทบความสัมพันธ์สองประเทศ
เมื่อถามว่า ในฐานะที่เป็นรัฐบาลจะชี้แจงกับประชาชนอย่างไร เพราะเรื่องที่เกิดขึ้นส่งผลกระทบต่อความรู้สึกของประชาชน นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า อยากให้ประชาชนทราบว่ารัฐบาลให้ความสำคัญดำเนินการเรื่องนี้เต็มที่ ไม่ว่าจะเป็นนายกษิต, เอกอัครราชทูตไทยประจำเยอรมนี, อัยการสูงสุด และทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง
นอกจากนั้นขอให้เข้าใจว่าปัญหาที่เกิดขึ้นไม่ใช่เรื่องของรัฐบาลเยอรมัน แต่เป็นเรื่องเอกชนรายหนึ่งที่ไปฟ้องศาลและใช้อำนาจศาล ซึ่งรัฐบาลเยอรมันไม่มีอำนาจไปแทรกแซง และได้อำนวยความสะดวกอย่างดีให้ไทยใช้สิทธิทางกฎหมาย ดังนั้นปัญหาที่เกิดขึ้นไม่ส่งผลกระทบความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ
บริษัททางยกระดับฯยันไม่เกี่ยวยึดเครื่องบิน
นายธานินทร์ พานิชชีวะ กรรมการผู้จัดการบริษัท ทางยกระดับดอนเมือง จำกัด (มหาชน) ได้ส่งหนังสือชี้แจงว่า การดำเนินการใดๆ ของบริษัท วอลเตอร์ บาว ซึ่งเป็นนิติบุคคลสัญชาติเยอรมันได้ใช้สิทธิส่วนตัวในฐานะชาวเยอรมัน ไม่เกี่ยวข้องกับบริษัททางยกระดับดอนเมืองซึ่งเป็นนิติบุคคลสัญชาติไทย และบริษัทไม่เห็นด้วยกับการดำเนินการเช่นนี้ เพราะพระราชยานพาหนะเป็นสิ่งอันสูงส่ง และเป็นที่เคารพของปวงชนชาวไทยทั้งประเทศ การดำเนินการของบริษัท วอลเตอร์ บาว ส่งผลกระทบต่อจิตใจของคนไทยเป็นอย่างยิ่ง อาจทำให้ความสัมพันธ์และความร่วมมือทางธุรกิจระหว่างประเทศไทยและประเทศเยอรมนีได้รับผลกระทบในระยะยาว
สำหรับประเด็นที่เกี่ยวข้องกับข้อพิพาทระหว่างกรมทางหลวงและบริษัททางยกระดับดอนเมือง ในฐานะผู้รับสัมปทานโครงการดอนเมืองโทลล์เวย์นั้น บริษัทได้ดำเนินการถอนและยกเลิกการฟ้องคดีต่อกรมทางหลวงทั้งหมดมาตั้งแต่ 3 ปีเศษแล้ว ตามเงื่อนไขของบันทึกข้อตกลงเปลี่ยนแปลงสัญญาสัมปทานปี 2550 บริษัทจึงไม่เห็นด้วยกับการดำเนินการของบริษัท วอลเตอร์ บาว ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์และความร่วมมืออันดีระหว่างสองประเทศที่มีมาเป็นเวลาช้านาน
//www.suthichaiyoon.com/detail/12168
18 7 54
นายคริสตอฟ เฟลล์เนอร์ รองประธานศาลแขวงแลนด์ชัต เมืองมิวนิค ประเทศเยอรมนี เปิดเผยว่าจะยังไม่ตัดสินคดีอายัดเครื่องบินโบอิ้ง 737ส่วนพระองค์ หลังจากบริษัทวอลเตอร์ บาว ได้ร้องขอให้อายัดไว้ เพราะเข้าใจว่าเป็นเครื่องบินของรัฐบาลไทย โดยจะตัดสินภายในวันพุธที่ 20 ก.ค.นี้เวลาประมาณ 05.00น.ตามเวลาประเทศไทย ทั้งนี้ เพื่อให้คู่กรณีทั้งสองฝ่ายมีโอกาสชี้แจงคือฝ่ายของบริษัทวอลเตอร์บาวและฝ่ายรัฐบาลไทย
ก่อนหน้านี้ เว็บไซต์กระทรวงการต่างประเทศ รายงานว่านายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ ได้เข้าเฝ้าฯ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ณ ท่าอากาศยานแฟรงเฟิร์ต เพื่อถวายรายงานเกี่ยวกับการดำเนินการทั้งทางด้านการทูตและทางด้านกฎหมาย กรณีศาลเยอรมันมีคำสั่งให้ยึดทรัพย์สินรัฐบาลไทย ซึ่งนำไปสู่การอายัดเครื่องบินพระที่นั่ง ซึ่งจอดอยู่ที่ท่าอากาศยานนครมิวนิค ตั้งแต่วันที่ 12 ก.ค.ที่ผ่านมา
ทั้งนี้นายกษิต ได้หารือกับนางคอร์นีเลีย พีเพอร์ รก.รมว.ต่างประเทศเยอรมัน โดยนายกษิต แสดงความกังวลถึงการดำเนินการของฝ่ายเยอรมัน ถือว่าผิดพลาดร้ายแรงที่อายัดเครื่องบินลำดังกล่าว จึงจำเป็นที่ทั้ง 2 ฝ่ายต้องร่วมกันหาทางแก้ไขทันที โดยพิจารณาถึงประเด็นความสำคัญทางการเมืองและกฎหมาย ซึ่งฝ่ายเยอรมันก็รับทราบข้อห่วงกังวลของไทยและเห็นพ้องว่าไม่ควรให้เรื่องดังกล่าวกระทบต่อความสัมพันธ์ที่ดีของ 2 ประเทศ พร้อมเสียใจต่อที่เรื่องที่เกิดขึ้นเป็นเหตุให้ระคายเคืองเบื้องพระยุคลบาท
//www.tnews.co.th/html/read_headnews.php?hilight_id=1007
| Create Date : 19 กรกฎาคม 2554 |
| Last Update : 19 กรกฎาคม 2554 18:18:13 น. |
|
0 comments
|
| Counter : 579 Pageviews. |
|
 |
|
|
|
|
|
| oozingplanet |
 |
|
|
|
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [
