Group Blog
 
<<
พฤศจิกายน 2551
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
30 
 
29 พฤศจิกายน 2551
 
All Blogs
 
(9) เสียงหัวใจลูก เต้น ตุ้บ ตุ้บ ตุ้บ ๆๆๆๆ



ขอยิ้มเยอะๆๆๆๆ หน่อย เพราะปลื้มอกปลื้มใจเหลือเกิน.....


เพิ่งไปพบหมอมาค่ะ เป็นครั้งที่ 2 อายุครรภ์ตามที่คุณหมอนับก็ 11 สัปดาห์ ไปคราวนี้ คุณหมออธิบายเรื่องการตรวจกรองดาว์น ซึ่งเราเข้าใจดี และมีคำตอบในใจแล้ว แต่ยังไม่ได้ตอบหมอน่ะ หมอให้เวลาไปคิดก่อน หมอบอกว่า เราอายุ 31 ก็ถือว่ามีเปอรเซนต์เสี่ยงเหมือนกัน การตรวจจะทำให้เราทราบว่า เราเสี่ยง หรือ ไม่เสี่ยง ถ้าเสี่ยงก็ตรวจเพิ่มเติมได้โดยการตรวจน้ำคร่ำ ซึ่งมีโอกาสแท้งจากการตรวจ


เราตัดสินใจว่า ไม่ตรวจค่ะ เพราะยังไง เราก็จะไม่มีวันระงับการตั้งครรภ์แน่นอน เราจะรับผิดชอบต่อชีวิตของลูกที่เราตั้งใจและพยายามจะมีเอง


หลังจากที่คุณหมออธิบายเสร็จ ก็ถึงตอนสำคัญที่เราเฝ้ารอมานาน หมอบอก "ไปฟังเสียงหัวใจลูกดีกว่า" สามีก็ถามคุณหมอว่า จำเป็นต้อง ultrasound ไหม เพราะอยากรู้ว่าลูกอยู่ถูกที่ถูกทางเหรอเปล่า คุณหมอก็ไม่บอกว่าไม่จำเป็น ฟังเสียงหัวใจลูกก็รู้แล้ว


เราก็กระโดดขึ้นไปนอนบนเตียงทันใด คุณหมอก็เริ่มเอาเครื่องมือมาวางบนท้องไล่ขึ้นมา ตอนแรกยังไม่ได้ยินเสียงอะไรเลย เราก็นอนลุ้น สักครู่แหละ หมอหันมามองเราแล้วยิ้ม ก็เป็นเสียง ตุ้บ ตุ้บ ตุ้บ ๆๆๆๆๆๆ ถี่มาก เราก็ยิ้มจนปากจะฉีก หันไปมองสามีสุดที่รัก สามีก็ยิ้มจนตีนกาขึ้นเหมือนกัน หมอให้ฟังสักครู่ สามีก็ถามว่าทำไมหัวใจลูกเต้นเร็วจัง คุณพยาบาลก็บอกว่า ลูกจะเต้นเร็วกว่าแม่ 2 เท่า แหม...เราฟังแล้วได้อารมณ์ว่า ลูกชั้นแข็งแรงเหลือเกิน


คุณหมอบอกว่า มดลูกขยายกำลังดี ไม่เล็กและไม่โตเกินไป ช่วงนี้อาการแพ้ก็จะลดลง และมดลูกจะขยายอย่างรวดเร็วในเดือนที่ 4 ก็อาจใส่กางเกงที่เราใส่ไม่ได้แล้ว คราวนี้ คุณหมอให้ calcium มาทานแล้วค่ะ แต่รออีก 2-3 วันค่อยเริ่มทาน


ค่าเสียหายคราวนี้ก็ 930 บาท (ค่าบริการ 300 / ค่าแพทย์ 300 / ค่ายา 330) คราวหน้า นัดวันที่ 27 Dec 15.00 หมอบอกจะตรวจเลือด และ ตรวจปัสสาวะแล้ว


ตั้งแต่ฟังเสียงหัวใจลูกเสร็จจนตอนนี้ ก็ยังยิ้มไม่หุบเลยยยยยย ดีใจๆๆๆๆๆ


ว่าแล้วก็มาเล่าเรื่องอื่นๆ บ้างดีกว่า ก็หลังจากเขียน blog คราวก่อนไปด้วยอารมณ์หดหู่สุดชีวิต ซึ่งเหตุผลที่แอบแฝง ก็มาจากการน้อยอกน้อยใจสามีสุดที่รัก ที่มีเวลาให้เราน้อยไปนิด (ก็เข้าใจว่าทำงานอ่ะเนอะ) เป็นเรื่องปกติที่คนรอบข้างจะสามารถเดาได้ว่า เราเป็นอะไร เพราะใคร ยกเว้นสามีที่ไม่เคยรู้เลยว่าเราเป็นอะไร แต่เราก็ชินกะมันแล้วแหละ เลือกที่จะมองแต่ข้อดีของสามีที่มีเป็นล้านดีกว่า (แต่อย่าให้ระเบิดลงบ่อยน่ะ เหนื่อย อิ อิ อิ)


เสาร์-อาทิตย์ที่ผ่านมา สามีและพี่สาวเลยพาไปสงบจิตสงบใจที่สวนผึ้ง ราชบุรีมา อาการดีขึ้นทันใด ประมาณว่า ลูกชอบเที่ยวซะงั้น อิ อิ กินได้ ไม่อาเจียน อากาศดีมากค่ะ ได้ไป survey ที่พักสวยๆ โดยเฉพาะ Scenery ชอบมากเลย เลยจองบ้านไปแล้วตอนเดือน Feb & Dec ปีหน้า ช่วงนี้ขออะไร สามีก็ให้ เลยรีบจัดการโอนเงินไปแล้วเรียบร้อย


เป็นเรื่องที่น่าขำ จากอาการที่ดีขึ้น พอวันอาทิตย์ขึ้นรถจะกลับกรุงเทพ อาการมันมาทันทีค่ะ มันจุกอยู่ที่คอตลอดทางจนถึงกรุงเทพ สามีจะไปล้างรถ ก็อ้อนไปด้วย อยากอยู่ใกล้ๆ ระหว่างที่นั่งรอในร้านอาหาร กลิ่นน้ำหอมของผู้คนเอย กลิ่นอาหารเอย เราอาการไม่ไหวมากๆ จนสามีต้องเอารถออกมาก่อนทั้งเปียกๆ เพื่อพาเรากลับบ้าน


พอถึงบ้าน สลบเลย นอนไปตื่นนึง สามีไปซื้อข้าวมาให้และปลุกให้กิน กินไปคำเดียวต้องคายออกเลย กินไม่ได้ สักครู่ ก็อ้วกออกมา อ้วกเยอะมากกกกกกกกกกกกกกว่าทุกที ดีที่สามีอยู่ด้วย อ้วกไป น้ำตาเราไหลไป บีบแขนสามีแน่นมาก มันทรมานสุดๆๆ อ้วกออกมาเยอะ เป็นอาหารที่ทานไป 3-4 มื้อ และมีน้ำย่อยออกมาด้วย อ้วกเสร็จก็สลบ สรุปเย็นนั้นก็ไม่ได้ทานอะไร ทานไม่ได้เลย ก็พยายามนอนให้หลับอย่างทรมาน


ก็หยุดงานต่อในที่สุด แต่ไม่เครียดเรื่องงานเท่าไหร่แล้ว เพราะนาย mail หา (โทรหาไม่ได้ เพราะเราปิดเครื่องพอดี) เพื่อนและน้องในทีมก็เป็นห่วงเป็นใย เราก็สบายใจขึ้น ตื่นมาวันจันทร์ ก็ทานข้าวเช้าได้นิดหน่อย เราทานข้าวกะผัดลูกชิ้นปลากราย เผ็ดนิดนึง ก็ทานเสร็จปุ้ป ก็อ้วกค่ะ อ้วกออกมาเป็นไอ้ที่กินไปเลย เผ็ดมาก ตามด้วยเศษผักซึ่งเราจำได้ว่าเป็นอาหารที่กินไปวันเสาร์-อาทิตย์ที่ผ่านมา เราก็หัวเราะเลยค่ะ น้าเราที่คอยลูบหลังให้ก็งง แต่ก็โล่งใจที่เห็นเราหัวเราะ ก็เราขำอ่ะ วันอาทิตย์เย็น อ้วกแทบตาย ยังอุตสาห์หลงเหลือมาเช้าวันจันทร์อีก


วันอังคารก็หยุดอีกวัน เพราะคืนวันจันทร์ ตื่นมาเข้าห้องน้ำตอนตี 3 แล้วนอนไม่หลับอีกเลย แต่อาการดีขึ้นน่ะ รู้สึกได้ เริ่มทานได้บ้าง ในที่สุดก็กลับไปทำงานวันพุธได้ และอาการก็ดีขึ้น หิว และ กินได้


เมื่อเช้า เจอเรื่องน่าแปลกใจ ตื่นแต่เช้า ชวนสามีไปเดินตลาด อยากกินปาท๋องโก๋ กับ น้ำเต้าหู้ ตอนซื้อน้ำเต้าหู้ ก็บอกเค้าจะใส่วุ้น เค้าก็ถามขึ้นมาทันทีว่า เพิ่งคลอด หรือกำลังท้องอยู่ เราก็ตอบ อ๋อ ท้องอยู่ค่ะ เค้าก็บอก งั้นกินวุ้นไม่ได้น่ะ และแนะนำอีกเยอะเลยว่า ท้องอ่อนๆ กินของเย็นๆ ไม่ได้ ของที่ใส่สารกันบูดก็ไม่ได้ น้ำเก็กฮวย น้ำจับเลี้ยง น้ำมะพร้าวก็กินไม่ได้ โดยเฉพาะน้ำมะพร้าว ควรไปกินตอนท้องแก่ ถ้ากินตอนนี้ มันจะมีผลกับเลือด แล้วเล่าว่าคนขายโจ้กในตลาดอ่ะ ไม่รู้ไปกิน ลูกออกมามีปัญหาเรื่องเลือด ต้องไปถ่ายเลือดบ่อยๆ เราก็ขอบคุณเค้า น่ารักเนอะ


พอเดินออกมา สามีก็ถามว่าเรารู้จักเค้าเหรอ เค้ารู้ได้ไงว่าเราท้อง เพราะรูปร่างเรายังปกติมาก น้ำหนักลดลงด้วยซ้ำ เมื่อเช้าเราใส่กางเกงยีนส์ขาสั้นกับเสื้อปกติ แต่เสื้อจะเข้ารูปช่วงบนและปล่อยหลวมๆ ช่วงหน้าอกลงมา แต่เป็นชุดที่เราก็ใส่ตอนไม่ท้องอ่ะ แบบพุงยังไม่ยื่นอ่ะ


เราก็ เออว่ะ เค้ารู้ได้ไงเนี่ย หรือหน้าเราดูมีราศีคุณแม่ 5555 เราก็มัวแต่เก็บข้อมูลที่เค้าแนะนำ จนลืมถาม แปลกดีเนอะ แต่ก็ดีแล้วหล่ะ ชอนคนขายของที่ตลาดนี้มากเลย น่ารักหลายคนเลยแหละ คนซื้อของเยอะ แต่ก็ไม่หยิ่งเลยน่ะ ใครมีโอกาส แวะมาจ่ายตลาดตรงวัดแขกดูน่ะ ช้อบ ชอบ ของเยอะมากด้วย


Create Date : 29 พฤศจิกายน 2551
Last Update : 29 พฤศจิกายน 2551 16:36:17 น. 6 comments
Counter : 6125 Pageviews.

 
ดีใจ ที่อาการแพ้ดีขึ้น
ดีใจ ที่ได้ยินเสียงหัวใจลูกแล้ว
ดีใจ ที่ได้ไป Scenery วันนี้ ชอบมากกกก อิอิ Porkchop อร่อยยยย


โดย: SmileTeppe วันที่: 30 พฤศจิกายน 2551 เวลา:20:24:45 น.  

 
ดีใจด้วยนะจ๊ะ
ตื่นเต้นไปด้วยนะเนี่ย
อยากไปเที่ยวบ้างจัง อากาศดีๆเย็นๆแบบนี้
แต่สามีพี่คงไม่ใจดีแบบสามีอรหรอก
น่าอิจฉาจังเลยอ่ะ



โดย: misspommy วันที่: 1 ธันวาคม 2551 เวลา:9:57:22 น.  

 
ยินดีด้วยนะคะ ที่ได้ยินเสียงหัวใจเจ้าตัวเล็ก มีความสุขที่สุดเลยใช่มั๊ยล่ะ

ของหญิง พรุ่งนี้หมอนัดตรวจคัดกรองดาวน์ซินโดรมอ่ะค่ะ
หญิงอายุ 26 ปี (แต่เป็นคนขี้กลัวน่ะ)
ก็เลยตรวจเพื่อความสบายใจ

อ้อ... แล้วอย่าลืมทำการบ้านส่งด้วยน๊า
มาเตือนอีกรอบ เพราะคนอื่นๆเค้าทำกันจะหมดแล้ว

ขอให้หายแพ้ท้องไวๆนะคะ
มีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงทั้งคุณอร
และก็เจ้าตัวเล็ก


โดย: หญิง (Yingang ) วันที่: 1 ธันวาคม 2551 เวลา:10:15:53 น.  

 
สรุป แผนการก้อสำเร็จ ได้ไปเที่ยว ตจว อากาศดีๆ สมใจเราแล้ว

น้านิตาเคยบอกแล้วว่าหนูไม่ได้แพ้อะไรหรอก แพ้กรุงเทพนี่เอง ก้อให้อยู่แต่บ้าน ไม่ไปไหนเลย อากาศดีแบบนี้ ก้ออยากไปสูดอากาศบริสุทธิ์นี่นา พ่อแม่ก้อตอบสนองความต้องการหนูหน่อย แล้วที่สำคัญต้องให้น้าสาวและพี่ตี๊จังไปด้วยทุกครั้งด้วยนะ ไม่งั้นหนูก้อจะให้แม่แพ้อีก 555

เสียงหัวใจหนูเปนไงล่ะ ตื่นเต้นกันเลยสิ เด๋วครั้งหน้าอยากฟังจังหวะดนตรีแบบไหนล่ะ เด๋วจัดให้

หนูให้ฟังเสียงหัวใจชัดๆ ก้อให้เป็นรางวัลที่พาไปสวนผึ้งนะ ถ้าแม่ยังเครียด พ่อยังเอาแต่ทำงาน ไม่มาดูแลอีกเนี่ย จะงอนให้ดูเลย เปนไงล่ะ ฤทธิ์เดชของหนู ไม่แพ้แม่เลยเนอะ 55

เสียงหัวใจ


โดย: ความในใจลูกน้อย IP: 58.8.27.35 วันที่: 1 ธันวาคม 2551 เวลา:10:56:09 น.  

 
ดีใจด้วยน่ะค่ะ.......ตื่นเต้นเนอะ เวลาฟังเสียงหัวใจเจ้าตัวเล็กเนี่ย.....มี้เบ็นซ์ยังอดยิ้มม่ะได้เลยค่ะ....

ตอนนี้มี้เบ็นซ์ก็ เหลือ อีก 2 วันก็ 24 วีคเต็มๆ แย้ว 6 เดือนเต็มด้วยแหละ อิอิ

อีกไม่นานค่ะ คงได้เห็นหน้าน้องใบข้าวที่อยู่ในพุงแล้วล่ะ ดีใจจัง(แอบตั้งชื่อแล้วด้วยพอคลอดมาจะเปลี่ยนใจอีกอ่ะป่าวก็ม่ายรู้ อิอิ)

รักษาสุขภาพด้วยน่ะค่ะ ช่วงนี้อากาศเริ่มเย็นแล้ว คุณแม่ดื่มนมเยอะๆ น่ะคะ


โดย: golf_benz วันที่: 12 ธันวาคม 2551 เวลา:12:51:56 น.  

 
ขอให้แข็งแรงทั้งสองคนเลยนะค่ะ


โดย: jee-ef วันที่: 16 ธันวาคม 2551 เวลา:11:04:21 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

จ้าว..จอม
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 77 คน [?]




เมื่อชั้นอยาก

"บอกรักลูกผ่านตัวหนังสือ"

blog นี้จึงได้บังเกิดขึ้นมาเพื่อหมูเรย์ของหม๊ามี๊


Lilypie Premature Baby tickers


วันนี้คุณ "ใจเย็น" แล้วหรือยัง?

อิ อิ ตอนนี้ทำไอติม homemade เสริฟ์ด้วยน่ะเพื่อนๆ
แวะมาใจเย็นกันได้น่ะจ้ะ จุ้บ จุ้บ :)

Friends' blogs
[Add จ้าว..จอม's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.