Group Blog
 
<<
กันยายน 2555
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
30 
 
14 กันยายน 2555
 
All Blogs
 
(CR/SR) หนีความวุ่นวาย สลายความเครียด ไปเบียดธรรมชาติที่เขาใหญ่: คาวเกิร์ลเรย์บุก “ฟาร์มโชคชัย” 3Y2M

30-31 August 2012


กราบสวัสดีงามๆ 1 ทีค่ะ ^^
อย่าเพิ่งงงกับหัว blog ทำไมเขียนค้างๆ คาๆ มีทั้ง CR และ SR
คือ Trip ของเราในครั้งนี้บังเกิดขึ้นได้เพราะมีสปอนเซอร์เตรียมที่พักงามๆ ไว้ให้
แต่เรื่องเที่ยวเรื่องกินจัดการกันเองตามอัธยาศัย
ดังนั้นเราเลยใส่ไปทั้งคู่ ภาษาชาวบ้านก็คือมีทั้งจ่ายเองและเจ้าภาพจัดให้ อารมณ์นั้น ;P
สปอนเซอร์ที่กล่าวถึงคือ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กับโครงการ “มหัศจรรย์วันธรรมดา”
จุดมุ่งหมายของโครงการนี้คืออยากรณรงค์ให้คนไทยเที่ยวเมืองไทยในช่วงหน้าฝน และในวันธรรมดา
ฟังครั้งแรกก็แปลกใจว่าคนไม่เที่ยวหน้าฝนกันเหรอเพราะเราเที่ยวทุกหน้าเลย 555
โอเคน่ะว่าพอมีลูก เวลาจะเที่ยวก็ลำบากกว่าปกตินิดหน่อย ถ้าเป็นตัวเองคงลุยเต็มที่
แต่พอมีลูก เวลาจะเที่ยวต้องเตรียมแผน 1 แผน 2 ไว้เสมอ โดยเฉพาะเวลาไปเที่ยวหน้าฝน
แผน 1 คือไปเที่ยวเก็บแต้มครบทุกจุดตามที่ตั้งใจ
แผน 2 ถ้าฝนตก ลูกงอแง ก็เข้าที่พักเลย 5555




ไหนๆ ก็ไหนๆ เราขอเกริ่นเรื่อง SR กันสักนิด
เพราะกังวลใจเหมือนกันว่าเพื่อนที่ตามอ่าน blog เราบางคนอาจรู้สึกว่าเราขายของไปไหม เป็นหน้าม้าหรือเปล่า
ที่เราเขียน blog ลูกก็อย่างที่เขียนบอกกันบ่อยๆ ว่าอยากให้ลูกอ่านตอนโต และเราก็ยังตั้งใจเช่นนั้นอยู่
ที่ผ่านมามีคนติดต่อมาให้เขียน blog เกี่ยวกับสินค้าเค้าให้เยอะมาก ซึ่งเราก็ไม่ได้รับทุกอย่าง
ง่ายๆ เรื่องแรก ถ้าใครที่ตามอ่าน blog เราหรือเป็นเพื่อนเราใน facebook จะรู้ว่าเราไม่ค่อยมีเวลาหรอก
ทำงานประจำ ทำไอติม อยู่กับลูก หายใจ 2 ทีหมดเวลาเข้านอนแหละ 555 จะเอาเวลามากมายที่ไหนมาทำอย่างอื่นได้อีก
เรื่องที่ 2 อันไหนที่เราเขียนถึงอยากให้เข้าใจว่ามันเป็นเรื่องที่เราสนใจ เป็นสิ่งที่เราใช้ และจะกำกับว่า SR เนอะ
อย่าง blog อันนี้ได้ไปพักโรงแรมฟรี ถามว่าชอบไหม ก็ชอบอยู่แล้วแหละ แต่เราก็เลือกโรงแรมน่ะจ้ะ
ถ้าไม่ชอบหรือไปแล้วไม่เลิฟก็จะเขียนตามความรู้สึกจริงๆ ไม่มีเวอร์
(แต่ปกติเป็นคนเวอร์น่ะ ถ้าชอบอะไรจะชมและเชียร์ออกแนวเวอร์มาก 5555)


มีได้ลงรีวิวในห้อง Blue Planet & ชานเรือนด้วย ขอบคุณทุกคนที่ให้การต้อนรับค่ะ ^^
//www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E12602194/E12602194.html
//www.pantip.com/cafe/family/topic/N12604088/N12604088.html


สบายใจแหละ เข้าเรื่องต่อ….




จุดหมายปลายทางของเราคือไปพักที่ Hotel Des Artist ที่เขาใหญ่
เป็นโรงแรมที่ลิสต์ไว้ในใจมานานว่าอยากไปเยือนสักครั้ง และได้ไปสมใจแล้ว
ครั้นจะไปคลุกอยู่แต่ในโรงแรมก็ใช่ที่ ดังนั้นเราจะมีแวะเที่ยวทั้งขาไปและขากลับ
เป็นโปรแกรมเอาใจลูก แต่แม่สนุกกว่ามาก ;P
จริงๆ บ้านเราไปเที่ยวเขาใหญ่กันบ่อยมาก แต่ไม่เคยเบื่อ ไปได้เรื่อยๆ
เรียกได้ว่าถ้าไปที่เดิมๆ แต่เราก็สามารถตื่นเต้นได้ทุกครั้งเสมือนเพิ่งเคยได้ไป 555
พาลูกไปเที่ยวเป็นกิจกรรมที่เหนื่อยมาก เหนื่อยกว่าสิ่งอื่นใด แต่ “รอยยิ้ม” ของลูกที่ได้เห็นมันคุ้มค่ามากๆ ^^




เราเป็นคนชอบเที่ยว เที่ยวบ่อยตั้งแต่เด็กจนเกือบแก่
แต่การพาลูกไปเที่ยวมันไม่ง่าย…มันเหมือนการทำโปรเจกเสนองานให้เจ้านายอนุมัติก่อน
เด็กสมัยนี้ไม่ใช่จะลากไปไหนก็ได้น่ะ เค้าต้องรู้ก่อนว่าจะไปไหนทำอะไรและเค้าตัดสินใจยังไง (เด็กสมัยนี้ เยอะ!!)
ดังนั้นเราต้องหาข้อมูลมาเล่าให้ลูกฟังพร้อมภาพว่ามันน่าไปมากเลยน่ะ อยากไปไหม (เหนื่อยตั้งแต่ยังไม่ได้เที่ยว - -*)
อย่างหัวใจของทริปนี้คือ ฟาร์มโชคชัย และ Sheep Land ซึ่งเราขายงานผ่าน เรย์อยากไป ตื่นเต้นมาก 555
ส่วนโรงแรม อันนี้ขอแค่พ่อแม่พอใจ แต่สำหรับลูก “มีสระว่ายน้ำไหมค่ะมะหม๊า?” ขอแค่นี้แหละเด็กๆ เนอะ
แผนที่ด้านล่างเป็นโปรแกรมที่เราไปกันครั้งนี้ ทั้งแวะเที่ยว แวะกิน และนอนหลับฝันดี มีความสุข ^^




เราติดต่อซื้อตั๋วเข้าฟาร์มโชคชัย 1 อาทิตย์ล่วงหน้า ซึ่งเต็มและแน่นมาก โอ้วว…ไม่อยากจะเชื่อ ไม่เคยรู้มาก่อน
นี่ขนาดเราไปเที่ยววันธรรมดาน่ะ วันธรรมดาส่วนใหญ่จะมีกรุ้ปทัวร์มาลง วันที่เราจะไปมี 2 รอบที่พอจะร่วมกลุ่มไปกับเค้าได้
รอบ 13:40 เป็นเด็กนักเรียนมาทัศนศึกษา รอบ 14:40 เป็นกลุ่ม อบต มาเที่ยว น่ารักเนอะ ^^
เราจองเป็นรอบ 13:40 เด็กได้เจอเด็กน่าจะโอเคกว่า
ก่อนไปเที่ยวฟาร์มโชคชัยเราเลยแวะหาอะไรอร่อยๆ กินกันก่อน
ซึ่งเรานึกถึง Dairy Home เป็นอันดับแรก เพราะไปวันธรรมดาคนน่าจะไม่เยอะมาก และมันก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ




ย้อนกลับไป 5-7 ปีก่อน เรามาเที่ยวปากช่องทุกปีช่วงหน้าหนาว
เราแวะร้าน Dairy Home แทบทุกครั้งจนคนเยอะขึ้นๆ จนเราเลิกแวะที่นี้ไปก็ 5 ปีถ้วน
นี่เป็นครั้งแรกที่ได้แวะมาที่นี้อีกครั้ง และพบว่าเค้าใหญ่โตกว้างขวางขึ้น สวยมากขึ้นเยอะ




ที่เหมือนเดิมคือยังมีร้านขายของฝากและบ้านต้นไม้น่ารักๆ อยู่ แต่บริเวณรอบๆ กว้างมากขึ้น
ประกอบกันเรามาถึงเป็นกลุ่มแรกๆ คนน้อยจนมันสวย สงบ แปลกตาดีแท้
รีบใช้ช่วงนี้ถ่ายรูปก่อน หลังจากนี้ไม่นานก็มีคนทยอยเข้าร้านเรื่อยๆ
ทุกคนทำเหมือนกันหมดคือแวะถ่ายรูปก่อนเข้าร้านอาหาร แค่แวะกินข้าวก็เหมือนได้เที่ยวแล้ว ^^




บริเวณที่ทำใหม่ น่านั่งเล่นมากๆ อากาศดีมีลมเย็นๆ ขนาดเราไปถึงตอนเกือบเที่ยง
นี่แหละน่ะข้อดีคือการมาเที่ยวหน้าฝน อากาศมันชุ่มฉ่ำ หอมกลิ่นต้นไม่ดีจริงๆ
รูปที่เห็น เชื่อว่าถ้ามาเสาร์-อาทิตย์ คงแน่นไปด้วยผู้คนที่รอคิวทานข้าวกันแน่ๆ




ทางเดินไปห้องน้ำ ทำซะสวยแบบนี้ ไม่ได้ปวดอะไรก็อยากเดินไปดูแล้วอ่ะ




ไปเจอนกเกาะอยู่ เชื่องและไม่กลัวคนเลย ปกติเรย์เป็นเด็กขี้กลัวยังไม่กลัว กล้าไปยืนใกล้ๆ นกตัวน้อยน่ารักตัวนี้ด้วย




ตอนสาวๆ เวลาเห็นบ้านต้นไม้ก็จะกรี้ดกร้าด อยากปีนขึ้นไป
แต่ตอนนี้พกลูกมาด้วย ต้องเจียมตัวให้เรย์ปีนขึ้นไปเล่นอย่างสมวัย รู้สึกได้ว่าเราโตเกินไปแล้ว (แปลว่าแก่ 555)
ข้างในบ้านก็มีโต๊ะให้นั่ง ลูกก็ขึ้นไปนั่งเป็นมารยาททีนึงก็เปลี่ยนไปจุดอื่นต่อ (สงสัยกลัวเก็บไม่ครบ)




บ้านกลังนี้ตั้งอยู่ด้านหน้าเลย น่ารักดี บอกให้ลูกเดินไปโผล่หน้าออกมาให้แม่ถ่ายรูปหน่อย
ทำตามอย่างว่าง่าย บ้ากล้องได้แม่ เค้าเรียกว่าเป็นการถ่ายทอดผ่านทางสายเลือดจริงๆ ;P




ณ เวลานั้น สามีพยายามทั้งลากเมียและลูกเข้าไปในร้านอาหารเพื่อสั่งอาหารกินกัน
เมียก็ตื่นตาตื่นใจถ่ายรูปไม่หยุด ลูกก็วี้ดว้ายวิ่งเล่นไปทั่วเลย
“เข้าไปสั่งอาหารกันก่อนแล้วค่อยออกมาเดินเล่นน่ะ” คุณสามีกล่อมเมียก่อน พอได้ผลก็กล่อมลูกต่อ
เรา 3 คนได้ฤกษ์เดินเข้าร้านแล้ว แต่ดูคุณนายซะก่อน ทำหน้าครุ่นคิด อาลัยอาวรณ์ 5555




ภายในร้านยังตกแต่งเหมือนเดิม มีโซนเดิมและเพิ่มโซนใหม่ขึ้นมา
รูปที่ถ่ายมาเป็นโซนใหม่ เรานั่งกันด้านใน ไม่ได้ถ่ายรูปมาเพราะมีลูกค้าโต๊ะอื่นนั่งกันอยู่ค่ะ




มาเขาใหญ่รอบนี้รู้สึกเจอแต่ดอกไม่ ต้นไม่ ใบหญ้า ตลอดเวลา ชอบน่ะ สดชื่นดี




บ้านเรากินกันดุค่ะ สั่งมาได้ไงไม่รู้ 5 อย่าง คือไม่ได้มานานเลยลืมว่าจานนึงขนาดใหญ่โตมาก แต่…หมดค่ะ แหะ แหะ
ไม่ได้มานานแต่จำได้ว่าเมนูโปรดของเราคือซี่โครงหมู BBQ เนื้อหมูนุ่ม แต่กินแบบไม่ได้แย่งกันกินมันเลี่ยนเหมือนกันน่ะ
ซุบข้าวโพดและน้ำสลัดหวานมาก เราว่าหวานไป ส่วนสเต๊กหมูของคุณสามีมันเยอะมาก
ไปๆ มาๆ เมนูข้าวผัดอเมริกันของลูกอร่อยสุด มาจานใหญ่มาก รู้งี้กินกับลูกก็ได้น่ะ
จากที่ว่าจะตบท้ายด้วยไอติมหลากเมนูของเค้าก็ไม่สามารถ ท้องแน่นมาก
ตอนหิวก็ไม่คิด พออิ่มล่ะเครียด กลัวไขมันและกล้ามเนื้อเสียที่หน้าท้องมาก
แต่มองโลกในแง่ดี เราคงได้ใช้พลังงาน 5 จานนี้ที่ฟาร์มโชคชัยเป็นแน่แท้




ขับรถไปอีกไม่ไกลก็ถึงฟารม์โชคชัย
ขำเรย์มาก ขับรถผ่านป้ายสินค้าปูนเป็นรูปช้าง ลูกบอกว่า “มะหม๊า ป้ายเค้าบอกว่าจะมีแสดงโชว์ช้างด้วย” (- -*)
ไม่พอๆ ตอนรอกลับรถมีป้านโฆษณา M150 ลูกชี้อีก “มะหม๊า นั่นเป็นซอสเหรอ ซอสอะไร เผ็ดไหม” (- -*)
มีลูกวัยกำลังพูดได้ก็เพลินแบบนี้แหละ ต้องคอยตอบคำถามไปเรื่อย
ดังนั้นทุกเวลาที่ไปชมข้างในฟาร์ม เราตั้งใจฟังมาก เพราะกลัวเรย์ถามแล้วตอบไม่ได้ 5555
จอดรถเสร็จก็เดินตรงไปติดต่อรับตั๋วตรงบริเวณทางเข้าฟาร์มโชคชัย
ถ้าหันหน้าเข้าหาฟาร์ม เราขอดรถด้านซ้ายสุด ทางเข้าฟาร์มอยู่ขวาสุด
เดินไประยะนึงเลยค่ะ ระหว่างทางก็เป็นร้านค้า ร้านอาหาร ร้านขายของที่ระลึก




ไปติดต่อรับบัตรที่นี้ค่ะ สอบถามเจ้าหน้าที่ ปกติต้องจองล่วงหน้า 1 สัปดาห์
แต่เราว่าถ้าเป็นวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ น่าจะต้องจองล่วงหน้านานกว่านั้นน่ะ ขนาดวันธรรมดายังเกือบไม่ได้เข้าเลย




ค่าตั๋ว ผู้ใหญ่ 250 บาท เด็ก 125 บาท (เด็กสูงไม่ถึง 90 ซม ไม่มีค่าใช้จ่ายค่ะ)
ราคานี้เราว่าคุ้มมากๆ สำหรับการเข้าไปเที่ยวข้างในฟาร์มเป็นเวลา 2 ชั่วโมงครึ่ง เดี๋ยวตามไปดูกันค่ะว่าเราได้ทำอะไรกันบ้าง
จำนวนรอบที่เข้าเที่ยวชมฟาร์ม วันหยุดจะมีเยอะมีทั้งหมด 18 รอบ วันธรรมดา 2 รอบแต่เปลี่ยนแปลงได้ตามความหมาะสม
ที่นี้หยุดวันจันทร์น่ะค่ะ




เด็กสูงไม่ถึง 90 ซม ไม่ต้องซื้อบัตร เรย์สูง 92-93ซม แต่เจ้าหน้าที่บอกไม่ต้องเสียค่าตั๋ว ขอบคุณมากค่ะ ^^




เวลาเข้าไปเที่ยวด้านในจะเจอที่กลางแจ้งเยอะและแดดค่อนข้างแรง
เค้าจะมีร่มให้ใช้ค่ะ แต่เตรียมหมวกไปด้วยก็ดี จะได้ใส่ติดหัวไปเลย
ถ้าไม่มีก็หาซื้อหมวกคาวบอยเท่ห์ๆ ได้ที่ร้านขายของที่ระลึกที่นี้ได้
เห็นแล้วก็เกิดกิเลสอยากซื้อให้ลูกเท่ห์ แต่ไม่มีขนาดหัวเรย์เลย รอไปก่อน




เดินออกมาเจอกลุ่มนักเรียนที่เราจะเข้าไปเที่ยวด้วยกัน นั่งรออย่างเป็นระเบียบและไม่เอะอะเสียงดังเลย น่ารักมากค่ะ




เรา 3 คนก็เข้าไปนั่งรอด้านใน เลือกจุดที่พัดลมจ่อหัว 5555




2 คนพ่อลูกเล่นกันหงุงหงิง น่ารักซะไม่มี (ทำเสียงหมั่นใส้)





ถ่ายรูปเล่นระหว่างรอ เรย์ทำท่าปากหมู พ่อแม่จะทำตาม มีหันมาห้ามด้วย บอกเรย์จะทำท่านี้คนเดียว ชริ






ถึงเวลาเจ้าหน้าที่ก็ประกาศให้ทุกคนเข้าไปด้านใน




ทุกคนที่เข้าไปจะได้ของที่ระลึกเป็นกระเป๋าใบเล็กแบบนี้




จุดแรกที่เข้าไปคือห้องเตรียมความพร้อม (ตั้งชื่อเอง) เข้าไปนั่งฟังประวัติความเป็นมาของที่นี้
เราชอบที่จะเรียนรู้เรื่องราวของบุคคลที่ประสบความสำเร็จน่ะ อย่างฟาร์มโชคชัยต้องบอกว่าเก่งตั้งแต่รุ่นพ่อมารุ่นลูก




เคลื่อนพลเข้าไปด้านในแบบของจริง โดยผ่านอุโมงค์ฆ่าเชื้อกันก่อน มีควันเย็นๆ เป่าออกมา
พ้นจากอุโมงค์ก็มีอ่างที่นักท่องเที่ยวต้องล้างมือก่อนเข้าข้างในทุกคน





แวะจุดที่ 2 ชมรถรุ่นบุกเบิกของคุณโชคชัย




เห็นแบบนี้ เด็ก 3 ขวบก็สนใจจะฟังน่ะค่ะ ^^





จุดที่ 3 ศูนย์พันธุกรรมโคนม เป็นการเล่าว่าการจะได้น้ำนมที่ดี ต้องได้จากพ่อพันธุ์แม่พันธุ์ที่ดี
เจ้าหน้าที่จูงวัวที่ได้รับการคัดเลือกว่าเป็นพ่อพันธุ์ที่ดีมาให้ดู ตัวใหญ่มาก
วัวก็เหมือนคน มีน้ำนมก็ต่อเมื่อมีลูก และใช้เวลา 9 เดือนก่อนคลอดลูกเหมือนกัน
ดังนั้นทางฟาร์มก็ต้องทำให้แม่วัวตั้งท้องเพื่อมีน้ำนม ซึ่งเค้าจะใช้วิธีการผสมเทียมโดยใช้เจ้าแท่งในรูปเป็นอุปกรณ์สำคัญ
ขั้นตอนต่างๆ เค้าอธิบายทางวีดีโอ เล่าออกสื่ออาจจะไม่ค่อยงาม ขอข้ามไปเลยน่ะค่ะ
แต่อยากบอกว่าฟังวีธรการแล้วก็สงสารชีวิตแม่วัวน่ะ เหมือนเกิดมาเพื่อทำหน้าที่ผลิตน้ำนมอย่างเดียว
ทั้งเรื่องการผสมเทียม คลอดลูดกออกมาก็โดนจับแยก และทำหน้าที่ผลิตน้ำนมอย่างเดียว คงเพราะเราเป็นแม่มั่ง มันเลยอิน




จุดที่ 5 โรงรีดนม ไปชมการรีดนมวัวแบบใช้เครื่องและใช้มือ
ทางด้านขวาเป็นการสาธิตแบบใช้เครื่อง ก็เก็บน้ำนมได้ปริมาณเยอะในเวลาที่รวดเร็ว
ในฐานะที่เป็นแม่เลี้ยงลูกด้วยนมแม่มา 2 ปีกว่า ต้องบอกว่าสงสารแม่วัวจังเลยค่ะ
เวลาที่ลูกดูดนมหรือปั้มน้ำนมออกมามันเจ็บมากน่ะ แต่เรายอมเพราะอยากให้ลูกกิน
แต่แม่วัวเหล่านี้เค้ามีแรงกระตุ้นทางใจอย่างไรหนอ…..
แย่แหละ เขียนไปเขียนมาจะเริ่มเศร้าไปไหน เอาเป็นว่าเราและสัตว์ต่างๆ เกิดมาต่างกรรมต่างวาระ มีหน้าที่ต่างๆ กันไป
เป็นวัวแบบนี้ก็คงดีกว่าเป็นวัวที่ถูกส่งเข้าโรงเชือดแหละเนอะ




เริ่มสาธิตการรีมนมด้วยเครื่องก่อน และเจ้าหน้าที่ก็โชว์นมขาวนวลที่รีดกันสดๆ ให้ดู
เจ้าหน้าที่บอกว่ากลิ่นนมหอมตามธรรมชาติและถามว่าใครอยากดมกลิ่นบ้าง ลูกเดี้ยนยกมือพรึ่บ!!!
ปกติเราไม่ชอบกินนมวัวเพราะเหม็นกลิ่นคาว แต่พอได้ดมกลิ่นต้องบอกว่าหอมจริงๆ ไม่มีกลิ่นคาวเลยแหะ




หลังจากนั้นก็เป็นการสาธิตการรีดนมด้วยมือ ซึ่งตอนนี้ไม่ได้ทำแบบนี้แล้ว
เจ้าหน้าที่สาธิตเสร็จก็เชิญคนที่อยากลองเข้ามารองรีดนม 2 คน
ใครไปแล้วอยากลอง เตรียมยกมือหรือแสดงตัวให้ไวเลยน่ะค่ะ ^^




พาลูกวัยนี้มาเที่ยวก็เหมาะน่ะ เพราะเค้าจะแบบอยากรู้อยากเห็น ช่างซักช่างถาม
เป็นการเปิดโลกการเรียนรู้ให้เค้าได้ดีเลย และก็เป็นกิจกรรมครอบครัวที่มีประโยชน์มาก
แต่ถามเรา เราว่าการมาเที่ยวที่นี้เหมาะกับทุกคนน่ะค่ะ ใครมาก็สนุกได้หมด




จุดที่ 6 ชมโรงงานทำไอติม Umm!..Milk ซึ่งเค้าเคลมว่าไอติมเค้าทำจากนมสดจริงๆ
เข้ามาฟังจึงทำให้รู้ว่าตอนนี้ฟาร์มโชคชัยไม่ได้ทำนมสดเพราะได้ขายให้คนอื่นไปแล้ว และทำแค่ฟาร์มวัวและไอติมเท่านั้น
หลังจากชมโรงงานก็มีไอติมอร่อยๆ ให้ชิมกันด้วย




มีหรือที่เด็กๆ จะพลาด… ทั้งเลียทั้งยกซดจนหมดถ้วย อร่อยเค้าล่ะ!




เราจะเดินทางเข้าไปด้านในฟาร์มกันต่อด้วยรถรางค่ะ




ระหว่างทางก็ได้เห็นวิถีชีวิตของวัว รู้สึกดีที่ได้เห็นพวกเค้าอยู่ในที่กว้างๆ ไม่ต้องเบียดกัน
ฟาร์มเค้าก็ใช้พื้นที่ทุกตารางอย่างมีประโยชน์ มีทุ่งหญ้าไว้ปลูกหญ้าและข้าวโพดเพื่อใช้เป็นอาหารให้วัวเหล่านี้ด้วย




ตรงที่เห็นลิบๆ ด้านโน้นคือที่พักของฟาร์มโชคชัย ที่ออกแบบให้มาพักอาศัยในฟาร์ม นอนในเต้นท์ แต่เป็นเต้นท์ติดแอร์
จะมีกิจกรรมต่างๆ ให้ทำมากมาย ก็ฟังดูน่าสนใจดี รอให้ลูกโตมากกว่านี้ก็น่าพามาผจญภัยสักครั้ง




เราหยุดแวะกันที่เมืองคาวบอยเป็นจุดที่ 7 ซึ่งจะได้ชมการแสดงที่นี้ด้วย
เค้าปล่อยให้เราเดินเล่นกันตามอัธยาศัยก่อน 10-15 นาทีแล้วค่อยมาดูการแสดง







ในบริเวณนั้นมีบู้ทกิจกรรมอย่างเกมยิงปืน โยนห่วง
และก็มีบริการนั่งรถม้าหรือขี่รถม้าด้วย ก็มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมต่างกันไป
เล่นเกมครั้งละ 30 บาท ขี่ม้าสำหรับผู้ใหญ่ 60 บาท ขี่ม้าสำหรับเด็ก 40 บาท นั่งรถม้าคันละ 100 บาท เป็นต้น




เรย์เห็นหุ่นม้าบอกอยากขึ้นไปนั่ง ขึ้นไปก็ทำท่าโยกซะมันส์ 5555




ทีแรกก็คิดว่าเราคงไม่ได้เสียเงินไปกับกิจกรรมเหล่านี้ เพราะลูกเราเป็นเด็กขี้กลัว
แต่อยู่ดีๆ ลูกก็บอก “มะหม๊าขา หนูอยากขี่ม้า อยากนั่งบนนั่น”
เราก็งง “เอาจริงเหรอลูก ป๊าหม๊าไม่ได้เดินไปกับหนูน่ะ หนูโอเคไหม” ลูกบอก “ได้ หนูไม่กลัว” ก็วิ่งไปซื้อคูปองมา
แต่รอบแรกพอลูกขึ้นไปนั่งและเห็นว่าพ่อแม่ไม่ได้ลงไปเดินด้วยจริงๆ ก็ร้องขอลงบอก ไม่เอา ไม่ขี่แล้ว
แต่บอกอยากนั่งรถม้า ก็เลยพาไปนั่งรถม้า รถมันวิ่งวนรอบเล็กๆ รอบนึง แต่ได้อารมณ์อยู่ในฟาร์มดี ม้ามันวิ่งเร็วน่ะเนี่ย








พอลงจากรถม้า ลูกบอก “มะหม๊า หนูอยากขี่ม้าแล้ว หนูไม่กลัวแล้วค่ะ”
อ๋อ…ไปเตรียมความพร้อมก่อน 5555
เจ้าหน้าที่ก็สอนให้เรย์จับและจูงม้าขี่ไปรอบๆ 1 รอบ





เรย์ก็ยิ้มมีความสุข ไอ้เราก็มีความสุขไปด้วย





ได้เวลาเข้ามาดูการแสดง มุมที่เรานั่งถ่ายรูปออกมามืดมากๆ เลยมีแต่รูปนี้ที่ชัด
การแสดงที่นี้ก็มีสาธิตวิธีการขี่ม้า เดินหน้า ถอยหลัง หยุด
มีอธิบายวิธีการล้มวัว และการประทับตราที่ตัววัวด้วยความร้อนซึ่งตอนนี้เค้าเลิกใช้วิธีนี้ไปแล้ว
มีแสดงการคล้องเชือก การยิงปืน แต่พอถึงตอนปืน ลูกก็บอกไม่อยากดูตอนนี้ก็เลยพาไปเดินเล่นด้านนอกแทน




จุดต่อไป จุดที่ 8 เป็นจุดสุดท้ายของทริปในฟาร์มโชคชัย แต่เราชอบที่สุด
จุดนี้มีสวนสัตว์และดูการแสดงของสัตว์ น่ารักมาก
ไปถึงเค้าก็ให้เราเดินเล่นก่อนดูการแสดง เข้าไปในสวนสัตว์มันมีอะไรมากกว่าที่เราคิด
มีให้อาหารกระต่าย ให้นมวัว และแพะ อาหารพวกนี้ก็ซื้อต่างหาก ชุดละ 20 บาท
Highlight ของงานนี้คงเป็นเจ้ากวางที่เดินลัลลาไปมาแบบไม่เกรงกลัวใคร





เรย์อยากเลี้ยงอาหารกระต่าย กำลังให้อาหารกระต่ายอยู่ดีๆ หันมาต้กกะใจ กวางแห่กันมาตามกลิ่นอาหาร
เรย์ตกใจบอก “ไม่รักกวางแล้ว!”




เรย์ยิ่งกลัว เจ้ากวางก็ยิ่งตาม 5555





เรย์เลยยอมๆ เอาอาหารไปป้อนกวาง
ป้อนอย่างนิ่มนวลแต่กวางกระชากไปจากมือจนเรย์หน้าเหวอ
ณ จุดนี้ เรย์บาย สะบัดหน้าม้าใส่ไปให้นมวัวดีกว่า





วัวก็แรงเยอะมาก เด็กจับคนเดียวเอาไม่อยู่อาจโดนกระชากขวดไปได้




ชอบรูปนี้ วัวมองกล้องด้วย น่ารักดี ^^




รูปนี้ชื่อว่า “เมื่อชั้นเนื้อหอม” 5555 กวางมันหิวกันดุจริงๆ อ่ะ




ไปดูการแสดงต่อ เป็นโชว์ที่น่ารักมาก มีการแสดงจากน้องหมา ลูกวัว และนก เป็นโชว์ที่สนุกดีค่ะ




ตัวอย่างบางโชว์
โชว์น้องหมาป้อนนมน้องวัว วัวแรงเยอะมากจนหมาพยายามยื้อขวด เรียกเสียงฮากันไป น่ารักดี




น้องหมากระโดดข้ามรั้ว เก่งอ่ะ




น้องนกปั่นจักรยานออกมาหน้าเวที ทำได้ไงเนี่ย ตลกมาก




น้องนกคิดเลข อยากรู้ trick โชว์นี้มาก ทำยังไงเนี่ย




เรย์ก็เพลินกับการแสดงมาก กินไอติมไปดูไป มีความสุข เนอะ




จบแล้ว 8 จุดที่เราได้แวะเที่ยวกันในฟาร์มโชคชัย ทั้งสนุกทั้งได้ความรู้
2 ชั่วโมงกว่ากับค่าเข้า 125/250 บาท 2 คำ… คุ้มค่ะ!!





ชักจะยาวไปแหละ ขอไปต่อ blog หน้าแบบเนื้อๆ เน้นๆ กับโรงแรมน่ารักๆ ที่เราไปพักกันน่ะ

เจอกัน ^^



Create Date : 14 กันยายน 2555
Last Update : 30 พฤศจิกายน 2555 9:39:07 น. 7 comments
Counter : 6566 Pageviews.

 
แวะเข้ามาดูโดยบังเอิญ ครอบครัวน่ารักมาก ๆ ค่ะ


โดย: Nikki IP: 198.240.133.75 วันที่: 14 กันยายน 2555 เวลา:19:08:41 น.  

 
ตามน้องเรย์มาจากทริปสวนผึ้งค่ะ หลงเสน่ห์น้องเรย์เข้าให้แล้วซิคะ น่ารักมากๆเลย

ดู blog ไป ยิ้มไป มีความสุขตามไปด้วยเลย เป็นครอบครัวที่น่ารักและอบอุ่นมากค่ะ


โดย: แม่น้องAelly (AellikoJaidee ) วันที่: 15 กันยายน 2555 เวลา:1:30:26 น.  

 
เข้ามาอ่านทีไร ยิ้มปากกว้าง ทุกทีเลยค่ะ


โดย: เพลิน IP: 115.87.53.93 วันที่: 15 กันยายน 2555 เวลา:12:06:27 น.  

 
คงต้องรอให้ลูกบ้านนี้อายุเท่าเรย์ซะก่อนถึงจะพาไปได้อ่ะ ตอนนี้ยังเล็กเกินไปที่จะพาไป แม่จะเหนื่อยมากกว่าจะสนุก ขอบคุณค่าสำหรับรีวิวอีกครั้ง


โดย: พี่โซเองจ้า IP: 124.120.70.124 วันที่: 16 กันยายน 2555 เวลา:3:43:59 น.  

 
น่าไปจังเลยค่ะ ไกด์พาเที่ยวน่ารักมากๆ อิอิ


โดย: nongfont วันที่: 24 กันยายน 2555 เวลา:13:42:43 น.  

 
ไอติมที่ dairy home อร่อยมาก ได้แถมแก้วด้วย เค้ากะจะทำให้ได้ 99 สูตร หน้าตาคนคิดสูตรอยู่บนขวดนม dairy home ของ um milk ก็อร่อย แต่หนักนมไปหน่อย


โดย: คุณแม่น้องเอ IP: 203.185.152.181 วันที่: 25 กันยายน 2555 เวลา:10:30:58 น.  

 
Have you seen those people at checkout with tons of coupons and hoped that you could save like them? Then read on! Read on for the best information on how to use coupons and start saving money today!
Nike Outlet //www.heijulor.com/


โดย: Nike Outlet IP: 192.99.14.34 วันที่: 27 ธันวาคม 2557 เวลา:2:00:34 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

จ้าว..จอม
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 77 คน [?]




เมื่อชั้นอยาก

"บอกรักลูกผ่านตัวหนังสือ"

blog นี้จึงได้บังเกิดขึ้นมาเพื่อหมูเรย์ของหม๊ามี๊


Lilypie Premature Baby tickers


วันนี้คุณ "ใจเย็น" แล้วหรือยัง?

อิ อิ ตอนนี้ทำไอติม homemade เสริฟ์ด้วยน่ะเพื่อนๆ
แวะมาใจเย็นกันได้น่ะจ้ะ จุ้บ จุ้บ :)

Friends' blogs
[Add จ้าว..จอม's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.