Japan in my mouth : เมจิ ชิบูย่า ฮารา...จุ๊กกรู้
eating is not just eating.. most of time it's also soul fufilling.
when you eat..you dont just eat. you see, smell, touch and think..
one food can take you furthur than a kitchen table, it can take you to the new culture..new stories
of people around the world.
Now i'm tasting Japan..
Bon Appetit! ........................................................... หลังจากกินปลาที่ซึกิจิจนหนำไป มีวิญญาณปลา(โดยเฉพาะปลาไหล)ว่ายวนในท้องเต็มไปหมด เราก็ทำการกลับหอ..นอนเอาแรง
5555 .................................................................... ตื่นมาอีกทีเกือบเที่ยงได้ ตามที่บอกว่านอนกินบ้านกินเมืองไทยอย่างเดียวเดี๋ยวขาดดุล ต้องไปกินบ้านกินเมืองญี่ปุ่นด้วย..เพื่อความเท่าเทียม ตื่นมาก้ออาบน้ำแปรงฟันตามเรื่อง.. แล้วก็ออกเที่ยว..วันนี้เราจะไปชิบูย่าและฮาราจุ๊กกรู้กันค่ะ.. ........................................................ นั่งรถไฟไปถึงฮาราจุ๊กกรู้.. เติมท้องให้อิ่มกันก่อนกับราเมงร้านนี้..ชื่อไรอ่ะนานแล้ว จำไม่ได้ จำได้ว่าในร้านร่าเริงมาก..พนักงานไฮเปอร์สุดๆ
ยิ้ม คุย หัวเราะ ตะโกน..เดินเข้าร้านทีจะร้องต้อนรับด้วยเสียงทรงพลัง ทำให้รู้สึกเหมือนขึ้นศาลไคฟงเลย เข้าไปเมื่อไรมีเสียงตอบรับทันที..
เว....ฮุ..ฮู......
ร้านนี้คนไทยน่าจะนิยมนะ.. เพราะว่ามีเมนูภาษาไทยบรรยายสรรพคุณเสร็จสรรพ
ส่วนเมนูภาษาญี่ปุ่นก็..
น่ารักและสีสันคัลเลอร์ฟูลม้ากกกก
ว่าแล้วสามพี่น้องไปรอช้าสั่งมาคนละชาม (คราวนี้ถ่ายของตัวเองมาอย่างเดียว เพราะคนอื่นหิวมาก ไม่รอถ่ายรูปเลย Y_Y) ราเมงเจ้านี้น้ำข้นและเข้มจัดๆๆๆ กินไปครึ่งชามจะแน่นท้องมาก แน่นแล้วไง..ไม่สน...กินต่อจนหมดอยู่ดี.. ทีเด็ดคือหมุสามชั้นที่นุ่มละลายใจไม้ยมกหกสิบตัว
นุ่มมากกกกกกกกก..ใช้ตะเคียบคีบยังเกือบนิ่มไหลกลับลงชาม กรี๊ดดดดดด
กินๆไป แอบชิมชามคนอื่นไป แอบชอบชามพี่แพรว่ากระเทียมเยอะฉุนกั่ก..อร่อย..แก้เลี่ยนดี ..................................................... กินอิ่มแล้วเดินย่อยกันหน่อยดีกว่า.. ก่อนเข้าฮาราจุกกรู้เราก็ไปวัดกันก่อน ศาลเจ้าเมจิ..เอ๊ะ..ใช่มั้ยนะ..เริ่มลืมๆ (ประตูทางเข้าซึ่งอยู่ห่างจากทางเข้าจริงมากๆ -"-) ที่จำได้คือทางเข้าเดินไกลมากกกกกกกกกกกก มากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก มากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก ไม่ต้องสงสับเลยว่าทำไมทัวร์ไทยไม่ค่อยไปลง ทั้งที่เป้นศาลเจ้าที่สวยและตั้งในใจกลางเมืองจัดๆ เพราะมันต้องเดินไกลมากกกกกกกกกกกกก นั่นเอง แต่ตลอดทางที่เดินไปก็รื่นรมยืร่มรื่นเป้นที่สุด ต้นไม้เพียบบบบบบบ จำได้เลยว่าแสงไม่พอถ่ายรูปทั้งที่เป็นกลางวันแสกๆ
ต้นไม้ครึ่มไปหมด แถมฝนก็ครึ้มด้วย ตกมาให้ตกใจเล่นเป็นระยะๆ
เดินไกลมากในที่สุดก็ถึง.. โอ้ววว สวยมากนะ (พลอยกะพี่แพร?..ไม่ใช่ค่ะ ศาลเจ้าค่ะ) ประตูทางเข้า(ของจริง) ศาลเจ้าญี่ปุ่นจะเรียบ ง่าย แต่ทรงพลัง ไม่เน้นการประดับวับวาว เป็นไม้ล้วน สวยสง่า.. ที่สำคัญกว้างมากๆ
ลานของเขากว้างจริงจัง..ชวนงงว่ามีไว้ทำอะไรนะ..
เบิร์ดไปถึงไม่พูดพร่ำทำเพลง..กระหน่ำถ่ายรูปอย่างแรง
ส่วนพลอยกับพี่แพรเดินวนรอบนึง..หมดแรง เลยไปนั่งเล่นพักเหนื่อยกันในศาลา ระหว่างนั้นถ่ายรูปเล่นกันไปพลางๆ วันนี้พี่แพรอยากได้ตาเข้มๆดำๆแบบพังค์ร็อค..พลอยก็จัดให้ ปรากฎแต่งเสร็จคุณพี่ไม่มั่นใจ..บ่นตลอดทางว่าเหมือนกะเทย นี่คือหนึ่งในปัจจัยที่ไม่ค่อยอยากรับแต่งหน้าให้คนอื่นนะ..ลางเนื้อชอบลางยา -"- แป๊บนึงพอเบิร์ดเดินมาถึงเลยลากมาถ่ายรูปพี่สาวบ้าง.. มีกล้องทั้งทีต้องใช้ให้คุ้มนะ.. มีช็อตนึงไปนั่งถ่ายที่ประตูข้างกันนมนาน จนยามเดินมาบอกว่า ..นี่ๆ พอแล้ว จะนอนค้างที่นี่เลยมั้ย.. ก็เลยจำใจลาจากเมจิมา... ชริ เดินกลับทางเดิม ไกลมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
ปวดขาไปหมดเลย .................................................................. ออกมาแล้วไปอาราจุ๊กกรู้ต่อ จริงๆย่านนี้ตอนมาครั้งที่แล้วก็เคยเดินแล้วรอบนึง เดินอีกรอบก็ได้อ่ะ.. เดินดุคนอื่น ร้านอื่น บ้านอื่น เหมือนเดิม ไม่ซื้ออะไรเหมือนเดิม(แพตตินัมสวย+ถูกกว่านะ)
อ้อซื้ออย่างนึง.. ของกิน เอาให้สมคอนเซ็ปต์ (ร้านนี้)อร่อยนุ่มเหมือนเดิม(มาคราวที่แล้วก็กิน ยังจำได้)
ตอนนั้นเมื่อยขามากอยากหาที่นั่งกินสุดๆ(แต่ไม่มี) เลยเดินเข้าไปในซอยนึง นั่งกินบนกระถางต้นไม้ มองไปตรงหน้าเป็นโรงเรียนอนุบาลซึ่งเงียบและร่มรื่นสุดๆ..ต้นไม้เพียบยังกะป่า งงเลย..มาตั้งกลางซอยฮาราจุกุเนี่ยนะ (เหมือนมีโรงเรียนอนุบาลตั้งในถนนข้าวสาร อารมณ์นั้น) เดินวนครบรอบก็ลาจาก..ขึ้นรถไฟไปชิบูย่าต่อ .................................................................. โอ้ววววววววววววววววววววววว (อุทานก่อน) นี่เองชิบูย่า มาคราวที่แล้วพลาดย่านนี้ไปอย่างน่าเสียดาย ผู้คนเดินไปมาดูขวั่กไขว่เป็นที่สุด ที่นี่เบิร์ดขอขึ้นไปนั่งบนสตารืบัคชิบูย่า..เพื่อถ่ายรูปสี่แยกชิบูย่าอันเลื่องลือ
ส่วนพลอยกับพี่แพรก็เดินช้อปสิคะ.. พี่แพรพาเข้าซอกนู้นออกร้านนี้ด้วยเวลาจำกัดแค่หนึ่งชั่วโมง เลยไม่ได้ซื้ออะไรมาก ดูเยอะกว่า อาศัยกวาดตามองๆๆๆๆๆ ร้านเยอะและของน่ารักดีแต่ก็แพงตามประสาญี่ปุ่น วันนั้นเดินไม่ได้1/3ชิบูย่าก็หมดเวลาและหมดแรงเสียแล้ว เมื่อยขาจนสลัดส้นสูงและซื่อรองเท้าคู่ใหม่มาในราคาลดกระหน่ำ(พันเยนเท่านั้น!!) (ออกแนวอินเดียแดง) ครบเวลาที่นัดไว้..
กลับไปหาเบิร์ดแล้วพบว่าคุณน้องเธอนั่งถ่ายรูปอย่างจริงจังหลายร้อยใบ โดยถ่ายแต่สี่แยกอย่างเดียว ออกมาเป็นช็อตต่อเนื่อง แบบว่าเอามาต่อกันจะเหมือนวิดีโอเลยทีเดียว ว่าแล้วจิ๊กมาให้ดูสองสามรูป.. สวยดีเนอะ ดึกดื่นแล้วซื้อของอีกนิดหน่อยก่อนกลับ ร้านเบิร์ด..(ภาพหลักฐาน คริคริ) ร้านพลอย...(เครื่องสำอางมากมายก่ายกอง ถูกต้องนะคร้าบบบ) ได้มาตามนี้.. คุณน้องชายซื้อนี่มาด้วย อร่อยยยยยยยยย!!!! จบไปอีกวัน คราวหน้ามาต่อค่ะ!! ^^ ............................................................................................ Don't forget to feed your soul
xoxoxo ............................................................
Free TextEditor
Create Date : 11 พฤศจิกายน 2552 |
Last Update : 11 พฤศจิกายน 2552 21:25:52 น. |
|
1 comments
|
Counter : 3383 Pageviews. |
|
|