Group Blog
 
<<
ตุลาคม 2553
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
 
5 ตุลาคม 2553
 
All Blogs
 
6 คำถามที่พบบ่อย เกี่ยวกับ “มะเร็งปากมดลูก”

ยังจำเรื่องมดลูกสุดที่รักซึ่งพลอยเคยลเ่าให้ฟังได้มั้ยคะ
(ใครจำไม่ได้คลิกไปดูได้ค่ะ ที่นี่)


ล่าสุดพลอยมีข้อมุลดีๆมาฝากกันอีกแล้ว
เลยนำมาฝากกันค่ะ


 หวังว่าสาวๆจะตระหนักถึงภัยใกล้ตัวที่อันตรายมาก แต่ป้องกันได้
อย่างเจ้า "มะเร็งปากมดลูก"


ที่สำคัญรู้แล้วอย่าเก้บไว้กับตัว
ขอให้บอกต่อไปยังคนที่คุณรักด้วยนะคะ


 ^^


********************************************


เดี๋ยวนี้หันไปทางไหน
จะซ้ายหรือขวา ก็จะได้ยินแต่คำว่า
“มะเร็งปากมดลูก”


แม้กระทั่งรายการผู้หญิงอันดับ
1 อย่าง รายการ “ผู้หญิงถึงผู้หญิง”
จากวิกพระราม 4
ยังพูดถึงภัยเงียบที่ร้ายกาจของโรคนี้


โรคมะเร็งอันดับ
1 ของสาวไทย
และตอนนี้มีอัตราการเสียชีวิตเพิ่มขึ้น จาก
7 เป็น 14 คน ต่อวันแล้ว!!!


แต่คุณสาว ๆ ยังไม่ต้องกลัว จนต้องกรีดร้องเสียงหลงนะคะ
เรามาทำความรู้จักกับเจ้า “มะเร็งปากมดลูก”

พร้อมกับคำถามที่มักจะมีคนพูดถึงอยู่บ่อย ๆ เกี่ยวกับโรคนี้ดีกว่า




1. ตรวจภายใน หรือ คัดกรอง (แป๊บเสมียร์)
เจ็บไหมคะ?
อายคุณหมอจัง ? แล้วราคาเท่าไหร่คะ



ไม่เจ็บเลยค่ะ คุณหมอจะมีเครื่องมือที่มีขนาดเหมาะสมกับผู้หญิงแต่ละคน

ถ้าไม่เคยตรวจมาก่อนก็บอกคุณหมอด้วยนะคะ
คุณหมอจะได้ให้คำแนะนำเป็นพิเศษ


ใช้เวลาในการตรวจแค่แป๊บเดียวก็เสร็จ
ถ้าอายหมอผู้ชายก็บอกที่โรงพยาบาลได้ค่ะว่าอยากตรวจกับคุณหมอผู้หญิง




ราคาก็ขึ้นอยู่กับแต่ละโรงพยาบาลค่ะ

ถ้าของรัฐบาลก็ไม่เกิน
100 บาท
เอกชนทั่วไปก็ไม่น่าเกิน
400-500 บาท

2.  
วัคซีนแพงไหม ราคาเท่าไหร่ กลัวไม่คุ้มค่า ค่ะ ?



 ปัจจุบันราคาวัคซีนถูกลงมามากแล้ว

เห็นราคาที่โรงพยาบาล ขายเป็นแพคเก็จ
3 เข็ม ประมาณ 6-7 พันบาทเอง
เทียบกับแต่ก่อนที่ราคาตั้งเป็นหมื่น กับการที่สามารถป้องกันมะเร็งได้
ก็ถือว่าคุ้มมาก ๆ เลยนะคะ


ถูกกว่า BB หรือ กระเป๋าแบรนด์นอกอีกค่ะู^^



- 3.มะเร็งปากมดลูกเกิดจากเพศสัมพันธ์เหรอคะ ?



 “มะเร็งปากมดลูก” เกิดจากการติดเชื้อ
“เอชพีวี”
ซึ่งส่วนใหญ่มาจากการมีเพศสัมพันธ์

(อย่าคิดว่าใช้ถุงยางแล้วจะกันได้นะคะ
คิดใหม่ได้เลยค่ะ
เพราะถุงยางอนามัยไม่สามารถป้องกันเจ้าเชื้อนี้ได้
100%)


ผู้หญิงโสดก็อย่าเพิ่งวางใจนะคะ

เพราะค้าพบว่าผู้หญิงที่ไม่เคยมีเพศสัมพันธ์
ก็มีโอกาสเป็นมะเร็งปากมดลูกได้เช่นกันค่ะ


โดยอาจได้รับเชื้อเอชพีวีจากทางอื่น เช่น ห้องน้ำ
หรือผ้าเช็ดตัวร่วมกับผู้ที่มีเชื้ออยู่
(แต่เค้าว่ามีโอกาสเกิดน้อยกว่ามาก ๆ...)



-        4. 
ถ้าตรวจคัดกรองแล้วจำเป็นต้องฉีดวัคซีนด้วยหรือเปล่า
หรือว่าทำอย่างใดอย่างหนึ่งก็ได้



 การป้องกันต่างกันค่ะ



การตรวจคัดกรอง เป็นการตรวจหาความผิดปกติของเซลล์ที่ปากมดลูก
หลังจากที่มีการติดเชื้อเอชพีวีมาแล้ว


ซึ่งถ้าเจอว่าผิดปกติก็ต้องรีบรักษา ก่อนที่มันจะเปลี่ยนไปเป็นมะเร็งร้ายค่ะ



การฉีดวัคซีน เป็นการป้องกันไม่ให้เชื้อเอชพีวีสายพันธุ์หลักมาติด
เป็นการป้องกันที่ต้นเหตุโดยตรง

ถ้าไม่มีเชื้อมาติดก็จะไม่มีความผิดปกติของเซลล์ไงล่ะคะ



แต่ทั้ง 2 วิธีก็ไม่มีวิธีไหนป้องกันได้ 100% นะคะ
คุณหมอเลยแนะนำเราว่า ต้องทำร่วมกันทั้ง
2 วิธีค่ะ



 สาว ๆ
ที่ตรวจคัดกรองเป็นประจำอยู่แล้ว ขอชื่นชมมาก ๆ ค่ะ
แต่ก็อยากเชียร์ให้ฉีดวัคซีนด้วยนะคะ





ถ้าให้ดีที่สุด ก็ควรที่จะฉีดวัคซีนควบคู่กับการตรวจคัดกรองไปด้วย


วัคซีนป้องกันไม่ให้เชื้อมาติดเราค่ะ
^^



  5. 
จริงหรือเปล่าคะว่าจะต้องฉีดตั้งแต่ยังไม่เคยมี sex
แล้วถ้าคนที่เคยมี sex แล้ว จะฉีดได้มั้ย
วัคซีนช่วยป้องกันได้หรือป่าวคะ ?


ไม่จิ๊งงง ไม่จริง . .
.ที่จริงคือคนที่ยังไม่เคยมี
Sex จะได้ประโยชน์มากที่สุด
เพราะยังไม่เคยติดเชื้อมาก่อนแน่ ๆ


แต่คนที่มี
sex แล้ว เค้าบอกว่ามีน้อยกว่า
1% ซะอีกที่ติดเชื้อ HPV 16, 18 พร้อมกันที่ปากมดลูก

(ถ้าติดก็มักติดเพียงแค่สายพันธุ์ใดสายพันธุ์หนึ่งเท่านั้นเองค่ะ)


การฉีดวัคซีนก็เลยสามารถป้องกันสายพันธุ์อื่นที่ยังไม่เคยติดมาก่อนได้



สรุปแล้วคือ ประมาณ 99% ของผู้หญิงที่มี sex แล้วจะได้ประโยชน์จากวัคซีนอยู่ค่ะ
^_^



-      6.   
อยากฉีดวัคซีนป้องกัน “มะเร็งปากมดลูก” ค่ะ
ขอทราบรายละเอียดหน่อย วัคซีนเอชพีวี
ฉีดกี่เข็ม และมีภูมิคุ้มกันนานแค่ไหน?



วัคซีนเอชพีวีใช้ฉีดเข้ากล้ามเนื้อบริเวณต้นแขน

จะต้องฉีดทั้งหมด 3 เข็ม โดยเข็มที่ 2 และ 3 ห่างจากเข็มแรก 1-2 เดือน และ 6 เดือน
ตามลำดับ


จากการศึกษาพบว่า
การฉีดวัคซีนเอชพีวี สามารถกระตุ้นให้ร่างกายสร้างภูมิคุ้มกันได้สูงมาก
และมีประสิทธิภาพสูงมากถึง
100 %
ในการป้องกันการติดเชื้อเอชพีวีสายพันธุ์
16 และ 18 ซึ่งเป็นสาเหตุ 70% ของมะเร็งปากมดลูก



และในบ้านเรานั้น มีอยู่ 2
ยี่ห้อ ซึ่งได้ แก่ . . .



1. Cervarix

แม้จะเรียกกันว่า วัคซีน
2
สายพันธุ์
แต่ในความเป็นจริง วัคซีนตัวนี้สามารถป้องกัน เชื้อ
HPV
ได้มากกว่า 2 สายพันธุ์อีกนะคะ

โดยเฉพาะสายพันธุ์ที่เป็นสาเหตุของมะเร็งปากมดลูกอันดับที่
1, 2, 3, 4 คือสายพันธุ์ ที่ 16
,18 , 45 , 31
ซึ่งก่อให้เกิดมะเร็งปากมดลูก ถึง
80% และยังป้องกันมะเร็งปากมดลูกชนิดอะดิโนได้ดีอีกด้วย

Cervarix มีภูมิคุ้มกันในระดับสูงอย่างน้อย 8 ปี
เชื่อว่า อาจอยู่ได้ตลอดชีวิตโดยไม่ต้องฉีดกระตุ้นซ้ำ


การฉีดของ Cervarix  คือฉีดที่
เดือน 0, 1,

และช่วงอายุที่สามารถรับวัคซีนชนิดนี้ได้คือ
  10 – 55 ปี ตัวนี้เน้นป้องกันมะเร็งค่ะ



2. Gardasil

เรียกกันว่า วัคซีน 4 สายพันธุ์ คือสามารถป้องกันเชื้อ HPV 16, 18,
6 และ 11ได้
โดย สายพันธุ์
16 และ 18 ก่อให้เกิดมะเร็งปากมดลูก ส่วนสายพันธุ์ 6
และ 11 ก่อให้เกิดหูดค่ะ!
(หูดไม่ทำให้เป็นมะเร็งนะคะ
อย่าสับสน ถ้าเป็นหูดก็รักษาได้ค่ะ)


Gardasil นี้ป้องกันสายพันธุ์
45 ไม่ได้ ภูมิคุ้มกันก็อยู่ได้แค่ 5 ปีค่ะ

ในส่วนของการฉีดวัคซีนยี่ห้อนี้ คือฉีดที่
เดือน 0, 2, 6
และช่วงอายุที่สามารถรับวัคซีนชนิดนี้ได้คือ
9 – 26 ปี

วัคซีนตัวนี้มีข้อมูลการฉีดในผู้ชายค่ะ
ดังนั้นคุณผู้ชายทั้งหลายถ้าอยากป้องกันเชื้อ
HPV ก็ต้องเลือก
Gardasil นะคะ



จากการค้นคว้าด้วยตัวเองและถามคุณหมอที่รู้จริง

คุณหมอก็บอกว่า ทั้ง
2 ตัวมีข้อดีต่างกัน และก็ถามว่า อยากป้องกันอะไร
ระหว่างมะเร็งปากมดลูกกับหูด
?
ก็ตอบไปทันทีแบบไม่ต้องคิดเลยค่ะ
ก็ต้องป้องกันมะเร็งสิคะ กลัวตายค่ะ ขอฉีด “
Cervarix” ค่ะ


ก็อย่างที่บอก
Cervarix กระตุ้นให้ภูมิสูงกว่า

และสามารถป้องกัน
HPV สายพันธุ์ก่อมะเร็งอื่น ๆ ได้อีกด้วย

โดยเฉพาะสายพันธุ์ 45 ที่ทำให้เกิด มะเร็งปากมดลูกชนิด
“อะดีโน”
*

ที่การตรวแป๊บเสมียร์
ก็ยังตรวจหาไม่ค่อยเจอ เพราะมันจะอยู่ลึกลงไปในคอมดลูก
แต่การฉีดวัคซีน
Cervarix สามารถช่วยป้องกันได้นะคะ



Cervarix สามารถป้องกัน
HPV สายพันธุ์เหล่านี้ได้

จึงป้องกันมะเร็งปากมดลูกชนิดอะดีโนได้
(เนื่องจาก
Cervarix ใช้สารกระตุ้นภูมิรุ่นใหม่
จึงป้องกันได้มากกว่าสายพันธุ์ 16
, 18 ที่มีอยู่ในวัคซีนได้ด้วยคือ
45
, 31)”






สำหรับเรื่อง “มะเร็งปากมดลูก” นั้นเป็นภัยใกล้ตัวที่เราไม่อาจมองข้าม


หันมาทำความเข้าใจและพร้อมรับมือกับมันดีกว่าค่ะ


ก่อนที่จะให้มันเข้ามาสู่ชีวิตเรา
คนใกล้ตัว คนที่คุณรัก
ก่อนที่จะสายเกินจะเยียวยา
อย่าลืมบอกต่อเกี่ยวกับข้อมูลเหล่านี้ นะคะ

พลอยคนนึงล่ะค่ะที่ “สัญญาว่าจะบอกต่อ”




เครดิต ข้อมูลจาก



- รศ.นพ.วิทยา ถิฐาพันธ์ ภาควิชาสูติศาสตร์-นรีเวชวิทยา คณะแพทยศาสตร์ ศิริราชพยาบาล



//mchnetwork.thaihealthykids.com/site_data/thaihealthykids_mchnetwork/1/schedual_53/pdf/10_6VittayaT.pdf





- สมาคมมะเร็งนรีเวชไทย โดย (//www.tgcsthai.com/)



- //www.bloggang.com/viewdiary.php?id=donotremember&month=07-2010&date=23&group=21&gblog=11



- โครงการผู้หญิงปกป้องผู้หญิง ( //www.womenprotectwoment.com)







Create Date : 05 ตุลาคม 2553
Last Update : 5 ตุลาคม 2553 10:45:30 น. 1 comments
Counter : 889 Pageviews.

 
ขอบคุณมากนะคะพี่พลอย สำหรับข้อมูลดีๆ ค่ะ


โดย: อะตอมกลมๆ วันที่: 6 ตุลาคม 2553 เวลา:0:09:31 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

one way ticket
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 6 คน [?]




ติดต่อพลอยได้ที่ :

divazgirl@hotmail.com
Facebook : http://www.facebook.com/lulu.sunshine
Youtube : http://www.youtube.com/pickpause


Ploy Onewayticket | www.facebook.com/lulu.sunshine

สถิติการเข้าชมblogตั้งแต่26/12/09
Friends' blogs
[Add one way ticket's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.