Group Blog
 
<<
สิงหาคม 2552
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
14 สิงหาคม 2552
 
All Blogs
 
Japan in my Shoes

everyone owns thier own shoes, their own routes..


even on the same route..
with different shoes..
things won't be the same


Japan in my shoes


i walked in japan..
in my own shoes


i see things with my eyes,
taste with my tongue,
touch with my hands,


feel with my heart..


and i'm telling you now with my own point of view..


I hope you enjoy seeing me walking ..


in Japan..


in my shoes..


...........................................................................................


Day 1..


* UA 890 *


นั่งเครื่องบินของUAเพราะถูกมาก
เครื่องใหญ่ที่นั่งแคบ แต่อาหารอร่อยดี


Japan in my shoes


นั่งไปประมาณ6ชั่วโมงก็มาถึงแล้ว
โอ้ โตเกียว จุ๊บๆ



...........................................................................


* keisei line to Ueno *


มาถึงสนามบินก็ทำการนั่งรถไฟสายkeisei
ไปที่สถานีอุเอโนะซึ่งมีพี่แพรรอรับอยู่


การเดินทางใช้เวลาเกือบชั่วโมง
บนรถไฟมีฝรั่งคนนึงเดินมา..


พูดกับเราเป็นภาษาญี่ปุ่น


-"-


เบิ๊ดนึกว่าฝรั่งมาฝึกภาษา ทั้งที่ฟังไม่ออกว่าเค้าพูดว่าอะไร มันเลยตอบกลับไปว่า
"
อาริกาโตะ..ขอบคุณครับ"


-"-


ส่วนพลอยเห็นหน้างงๆของฝรั่ง เลยหันไปบอกเบิ๊ดว่า
..
ชั้นว่าเค้านึกว่าเราเป็นคนญี่ปุ่นว่ะ..


ก่อนหันไปบอกฝรั่งว่า
"Anyway, we're not Japanese so we can't speak Japanese"


เท่านั้นล่ะ..
ฝรั่งขำกร๊าก ถามแบบก๊งสุดๆว่า
"oh! you can't?"


พอเห็นเราส่ายหัวดิกๆก็หน้าแตกเดินกลับไปหาเพื่อน
ซึ่งรอต้อนรับเค้าอยู่อย่างดิบดีด้วยคำชมว่า..


"you're such an idiot"


55555


Japan in my shoes


(แอบถ่ายมาเป็นหลักฐาน)


นั่งเล่นไปมาพักนึง เบิ๊ดเล่นกล้องถ่ายนู่นนี่นั่น
พอถึงคราวจะถอดฟิลเตอร์(ที่เห่อค้างตั้งแต่เมื่อวาน)ออก
ก็พบว่า..ถอดไม่เป็น


-"-


นั่งเอ๋ออยู่พักนึง หันไปเห็นฝรั่ง(คนเดิม)หยิบnikonรุ่นไฮโซมาใช้
เบิ๊ดเลยเดินไปหาฝรั่งแล้วพูดอย่างกล้าจัดว่า


"i can't take off my filter"


ฝรั่งก็ทำหน้างงๆ ว่าอีนี่หลอกกูว่าเป็นญี่ปุ่นไม่พอ เดินมาให้กูถอดให้อี๊กก
เลยถามกลับมาคำเดิมเด๊ะๆว่า..


"oh! you can't?"
ก่อนจะยอมถอดให้โดยดี


จบไปอีกกรณีนึง


-"-



นี่เพิ่งเริ่มทริปนะ..



..............................................................................................


* Ueno Station *


และแล้วในที่สุดเราก็มาหยุดกันที่ อุเอโนะ และได้เจอะกะพี่แพร
เย้ๆ


ก่อนอื่นพี่แพรพามากินราเม็งเจ้าอร่อยที่เรียกปากต่อปากกัว่า..
ราเม็งข้อสอบ


สาเหตุที่เรียกเช่นนั้นเพราะว่า...


1.ต้องต่อคิวกินราวกับเด็กแย่งกันสอบเข้ามหาลัย(แถมากนะเนี่ย)


Japan in my shoes


2.(ซึ่งเป็นเหตุผลจริงๆ) คือเราต้องกรอก เลือก และใช้ความคิด ประหนึ่งทำข้อสอบ
คือเค้าจะมีกระดาษมาให้ว่าจะกินอะไร แบบไหน เส้นนุ่มแค่ไหน น้ำซุปเค็มมั้ย
กระเทียมเอามั้ย เป็นกระเทยใช่มั้ย อะไรแบบนี้ แล้วเราก็ต้องทำการลอกพี่แพรไป(อ่นไม่ออกน่ะ)


3.เค้าจะแยกเราเป็นคอกๆ ห้ามลอกการกินของคนข้างๆ


Japan in my shoes


พอเรานั่งปั๊บ.. ยื่นกระดาษคำตอบให้ปุ๊บ
เราก็จะถูกตัดขาดจากโลกภายนอกทันที ม่านเล็กๆจะถูกดึงปิดกั้นระหว่างเราและพ่อครัว
เค้าว่าที่ทำแบบนี้เพื่อให้เราลิ้มรสอย่างมีสมาธิเต็มที่.. กินท่าน่าเกลียดแค่ไหนก็ได้ ประมาณนั้น


Japan in my shoes


4.พอส่งกระดาษคำตอบไปจะได้ไข่กลับมา เหมือนเวลาเราได้0คะแนน -"-


Japan in my shoes


ให้มาไม่พอมีวิธีปอกด้วย คิดดู


เอาล่ะเลิกตั้งเป็นข้อๆดีกว่า(หมดมุข) มากินกันเถอะ..


Japan in my shoes


ราเม็งหน้าตาดีมากๆๆๆๆๆ รสชาติก็ดีอีกต่างหาก
น้ำซุปดูใสๆแต่ซดไปจะรู้สึกราวกับว่าได้รับรสชาติของหมูทั้งตัว
ที่ผ่านการเคี่ยวจนเนียนกลมกล่อม(เว่อร์ดีเนอะ)

ส่วนเส้นที่ลวกตามที่เราชอบก็อร่อยหนึบได้ใจมั่ก(พลอยเลือกแบบนุ่มนิดๆ)
หมูก็อร่อยเอาตะเกียบแตะเบาๆก็แยกออกจากกัน



สุโค่ยยยยยย


เสียอย่างเดียวคือไข่อร่อยแต่ไม่อร่อยเทพเหมือนราเม็งบ้านเราเจ้านึง
ซึ่งทำไข่ได้หวานยังกะไข่หวานที่ใส่บัวลอย


พอกินราเม็งหมดจะมีข้อความอยู่ก้นชามว่า..


Japan in my shoes


หยดสุดท้ายนี่แหละกระเหรี่ยงเอ๋ย.. ที่เป็นหยดที่อร่อยที่สุด


โอ้วว...


จริงอ่ะ?


-"-


..................................................................................................


หลังจากนั้น3พี่น้องก็ทำการเดินย่อย...


ไปกันที่ตลาดอาเมะโยโกะ..
พี่แพรบอกว่าชื่อตลาดนี่ไม่ใช่ภาษาญี่ปุ่นนะ


อ้าวหรอ..


เพราะจริงๆแล้วคำว่า อาเมะ มาจากคำว่า อเมริกานะจ๊ะ
อ้อ... แต่ว่าอเมริกาโยโกะนี่

มันแปลว่าไรอ่ะ


-"-


เค้าไปถึงเราก็ตื่นตากับข้าวของริมทางที่มีแทบทุกอย่างมาวางขาย
ยั๊วเยี๊ยะไปหมดทั้งของสดของคาวของหวานของซื้อของขาย


Japan in my shoes


เป็นตลาดที่มีตั้งแต่ปลาแห้งยังรองเท้าโอนิซึกะไทเก้อร์


งงๆดี


เดินเข้าไปพี่แพรพาไปกินซอฟท์ครีม..อร่อย


Japan in my shoes


ญี่ปุ่นช่วงนี้ร้อนมาก พลอยกินเจ้าซอฟท์ครีมนี่แทบทุกวัน
กินแล้วไม่กล้าคิดเป็นเงินไทยเลย..โคนละร้อย


Japan in my shoes


โอ้วว ก๊อดด


(ไหนว่าไม่กล้าคิดไงยะหล่อน)


.......................................................................................


เดินเล่นพอเย็นใจก็ได้เวลากลับบ้าน..


นั่งรถไฟสองสามต่อ แท็กซี่อีกต่อก็ถึงละ ชิวๆ
(
แฮ่กๆๆๆๆ)


ที่พักเราครั้งนี้คือหอพี่แพร..
ซึ่งการลักลอบพักก็ลำบากใช้ได้ ต้องเดินไปเข้าประตูหลังและทำหน้าเนียนๆ
ส่วนเบิ๊ดก็ต้องเนียนจัดไปอีกคนเนื่องจากไปพักห้องเพื่อนพี่แพรซึ่งตอนนั้นไปอยู่บ้านน้องสาว


ที่สำคัญห้องนั้นมันอยู่ในหอหญิงนี่สิ


-"-


.................................................................................


หลังจากเก้บของเรียบร้อย..
เราก็เดินไปกินข้าวกัน


ที่ร้านเหล้าเล็กๆแถวบ้าน


Japan in my shoes


ร้านนี้น่ารักมากกกกก เป็นร้านเล็กๆแต่ประณีตและใส่ใจทุกรายละเอียด


Japan in my shoes


เริ่มตั้งแต่การบริการผ้าเช็ดมือตามอากาศแต่ละวัน
วันไหนหนาวให้ผ้าร้อน วันไหนร้อนให้ผ้าเย็น


นอกจากนั้นกระดาษรองก็เปลี่ยนลายไม่ซ้ำ


Japan in my shoes


(วันนั้นได้ลายมะเขือม่วง)


Japan in my shoes


และกระดาษใส่ตะเกียบก็เปลี่ยนตามไปด้วย เพื่อให้สีเข้าชุดกัน


น่ารักจริงๆ


Japan in my shoes


ก่อนอื่นสั่งเบียร์มาซด..หวานเย็นชื่นใจ


Japan in my shoes


คุณป้าเจ้าของร้านน่ารักมาก
พยายามสื่อสารภาษามือกับเราสุดฤทธิ์ ยังดีว่าพี่แพรพอพูดภาษาญี่ปุ่นได้ ไม่งั้นอาจอดตายกัน


คุณป้าแนะนำออเดิร์ฟเล็กๆ..


Japan in my shoes


มีไฮไลท์ที่ปูทอดทั้งตัว สีสวยน่ารักสุดๆ


Japan in my shoes


ว่าแล้วก็กัดไปดังกร๊วบบบบ อร่อยดี


นอกจากนั้นมีข้าวปั้นแซลมอนชีส


Japan in my shoes


นี่ก็อร่อยมาก กินแล้วหลับตาพริ้ม...


แต่ที่เด็ดสุดๆๆๆๆๆๆ สิบดาวทองคำคือเจ้านี่..


Japan in my shoes


ออมเล็ตเมนไทโกะ(ไข่ปลาดอง)และชีสอันแสนหยาดเยิ้มหยดย้วย


Japan in my shoes


พอกัดไปหนึ่งคำ


แทบกรี๊ดดดดด..
อร่อยเกือบสิ้นลมสมประดี


อร่อยจริงๆค่ะ


ร้านนี้รักหมดใจกันไปเลย..


Japan in my shoes


my bare feet and sweet couple


แล้วเราก็กลับไปสลบคาห้อง..
หมดวันแรกไปอย่างอิ่มๆ


............................................................................


อ้อ..แอบเนียนลืมเล่าอีกแล้ว
วันนี้ไปเดินตึกม่วงที่อุเอโนะมา


ตึกนี้ขึ้นชื่อมากๆว่าของถูก..


Japan in my shoes


จัดไปอย่าให้เสีย
ได้มาอีกหนึ่งกระหย่อม


.....................................................................................


ขอจบวันแรกไปก่อนล่ะค่ะ
ไม่อยากคิดเลยว่าทริปนี้ต้องอัพไปอีกกี่วันเนี่ย


-"-


.........................................................................


walk with me?


Japan in my shoes


xoxoxo


...................................................................................


 



Free TextEditor


Create Date : 14 สิงหาคม 2552
Last Update : 14 สิงหาคม 2552 13:16:28 น. 2 comments
Counter : 1450 Pageviews.

 
ราเมนข้อสอบอยู่ในลิสท์ที่จะต้องไปจัดการมานาน
ไม่รู้จะได้ไปเมื่อไร?

ข้อสอบยากไหมคะ



โดย: ลอร่า อิงกัลส์ ~* วันที่: 15 สิงหาคม 2552 เวลา:10:15:19 น.  

 


โดย: 360D Gallery วันที่: 22 สิงหาคม 2552 เวลา:9:56:27 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

one way ticket
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 6 คน [?]




ติดต่อพลอยได้ที่ :

divazgirl@hotmail.com
Facebook : http://www.facebook.com/lulu.sunshine
Youtube : http://www.youtube.com/pickpause


Ploy Onewayticket | www.facebook.com/lulu.sunshine

สถิติการเข้าชมblogตั้งแต่26/12/09
Friends' blogs
[Add one way ticket's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.