กลับมาแล้วตามคำเรียกร้อง
(เอิ่ม...ใครเรียกร้องเธอไม่ทราบ)
ไม่พูดพร่ำทำเพลงเรามาเที่ยวกันต่อดีกว่าโฮะๆๆๆๆ
......................................................
หลังจากที่ผ่านพ้นวันนรกแรกมาได้
วันที่สองตื่นมาเลยสิบโมงกว่าๆ
อาบน้ำแต่งตัวแล้วก็ออกหากิน
เริ่มมื้อแรกที่มอริเชียสกับของกินท้องถิ่น
เป็นร้านอาหารอินเดียที่มีเมนูเดียว
แต่มีคนกินเยอะมากๆๆๆๆๆๆๆ
ไปถึงต่อคิวอยู่หลายอึดใจก็ซ์้อกลับมารับประทานที่บ้าน(พูดให้หรูทำไม)
เป็นคล้ายๆโรตีแต่แป้งนุ่มมากกกกกก
ข้างในเป็นไส้แกงใส่พริกสดกับมันฝรั่ง
อร่อยมากเลย แม่ช้อยรำให้สามเพลง
...............................................
หลังจากกินเสร็จก็ออกจากบ้านไปที่บ้านของลุงพี่กะทิ
ทุกวันอาทิตย์พี่กะทิกะพ่อแม่จะมารวมตัวกันที่บ้านลุง
some mountain
ไปถึงเจอลุงเข้าจะเข้ามาหอมแก้มแล้วพลอยทำหน้าเหวอ...ฮามากๆ
ลงม้ายด้วยการยกมิือไหว้สวัสดีค่ะ ลุงเค้าก็สวัสดีตอบ ฮาดี
ครอบครัวนี้น่ารักมากๆเลย
ลุงกะป้าดูอารมณ์ดี
ชอบลูกพี่ลูกน้องเค้ามาก
มีราเชลอายุยี่สิบ กับเซบาสเตียนอายุสิบห้า
คุยกันเฮฮาเพลิดเพลินเจริญใจ
ตอนแรกพี่กะืทิบอกว่ามาแวะบ้านลุงซักชั่วโมงแล้วจะพาพลอยไปชายหาด
ปรากฎว่าพอครอบครัวรู้ว่าจะไปชายหาด
ก็ตามกันไปยกบ้านเลย
พี่กะืทิก็งงๆว่าปกติไม่ไปหาดกัน วันนี้ไปกันยกบ้าน
ขำดี
...............................................................................
ก่อนไปหาดก็ไปสวนสาธารณธก่อน
coconut rachelle aunt
เป็นสวนที่ใหญ่และร่มรื่นมากๆๆๆๆๆๆ
ในสวนนอกจากมีต้นไม้(แน่แหละ) ก็มีกวาง มีเต่า มีนกเป็ดน้ำ
rachelle ploy
เดินไปถ่ายรูปไปประปราย
ปรากฎว่าคนที่ถ่ายรูปเยอะกลับเป็นเรเชล
พี่กะทิบิกว่าเธอดูเป้นนักท่องเที่ยวกว่ายูเยอะเลย
จริงของมัน
heart shaped lotus
..............................................................
จากนั้นก็ไปชายหาด
พี่กะทิบอกว่าหาดนี้ไม่สวยเท่าไหร่นะ(แล้วพากูมาทำไมไม่ทราบ)
ก่อนจะบอกว่าแต่วันนี้มาทำกิจกรรมเก็บหอยเสียบ(อ๋อ..)
เก็บเสร็จจะเอากลับบ้านไปทำซุปกินกัน(อ้อออออ)
coconut and rachelle
coconut
ว่าแล้วครอบครัวก็ทำการหยิบกรัป๋องตระแกรงออกมา(เตรียมกันมาตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย)
แล้วก็นั่งเสียบหอย เอ้ยยย ขุดหอยเสียบกันเพลิดเพลิน
biggg armmmm
เพลินมากๆ
ราเชลกะพี่กะทิพยายามสอนเคล็ดลับตลอดเวลา
hoi-seab
(ขุดลงไปรอน้ำขึ้นแล้วมองหอยขยับ เปลี่ยนที่บ่อยๆ มันชอบทรายละเอียด ทรายอุ่นๆ)
แต่ถึงกระนั้นพลอยก็ยังขุดได้แย่มาก ส่วนมากได้ตัวเล็กๆ
ไม่เหมือนะี่กะทิที่เซียนจัด น้ำขึ้นที่กอบมาได้เป็นกำๆ
nooo makeee uppppp
เก็บหอยเสร็จก็นั่งดูพระอาทิตย์ตก
เก็บรูปบรรยากาศมาเยอะกว่าหอย
จากนั้นก็กลับไปยังบ้านลุงกะทิอีกครั้ง
HAHAHAHA
...............................................
กลับมาถึงก็กินข้าวอย่างเพลิดเพลิน
อาหารไม่ประหลาดมากเพราะเป็นอาหารจีนที่คุ้นเคย
กินเอร็ดอร่อยจิบไวน์ไปพลาง
นั่งคุยกันในโต๊ะอาหารสนุกมากๆๆๆๆๆ
เฮฮาสุดๆ นั่งขำอร่อยเวลา เพิ่งรุ้ว่าตัวเองเป็นคนตลก
ฮ่าๆ
hoy-seab soup
หลังจากกินเสร็จก็กลับบ้าน
นอนนนนนนน
..........................................................................................
วันจันทร์
ตื่นมาเจอโน้ตพี่กะทิว่าไปทำงานล่ะนะ
ก็เลยนั่งเล่นตามเรื่อย
อาบน้ำแต่งตัวเสร็จก็มาาจัดการแปะภาษาไทยลงคีย์บอร์ด
เนื่องจากมีความมุ่งมั่นในการอัพไดสูง
จากนั้นก็ทำกับข้าว ดูทีวี ตามเรื่องตามราว
ออนเอ็มคุยกะเพื่อนฝูงบ้าง
รับโทรศัพท์นัดสัมภาษณ์งานบ้าง(มีเยอะมากๆจะบ้าตาย)
ห้าโมงตรงพี่กะทิกลับบ้าน
ลากพลอยไปดูพระอาทิตย์ตก(อีกแล้ว)ที่ชายหาด(อีกหาดนึง)
เมื่อวานนี้ชายหาดเหมือนบางแสน คนเยอะๆพลุกพล่าน
วันนี้เป็นหาดเหมือนสวนสนที่ชะอำ
คือมีสวนสนติดกะหาด
ที่นี่เงียบ ส่วนมากเป้นรีสอร์ต ทรายละเอียดน้ำใสแจ๋ว ฝรั่งเพียบ
clear sea!!!
พี่กะทิแอบนอยว่าลืมเอากล้องมา วันนี้รูปเลยไม่ค่อยสวยเพราะใช้กล้องพลอยถ่าย
HAHAHAHA
เดินเล่นริมหาด คุยกันไปแกล้งกันไป เดินกันดีๆไม่มีซะล่ะ
ดูพระอาทิตย์ตก.....
สวยมากๆเลย
จากนั้นก็เดินเต้นกะร้องเพลง(บ้ากันอยู่สองคน)กลับรถ
กลับบ้านนนนนน
............................................................
อาหารวันนี้คือแกงกะหรี่เนื้อ(จานถนัด)
แบกน้ำปลากะผงกะหรี่มาจากบ้านเพื่อการนี้
พี่กะทิหุงข้าวด้วยไมโครเวฟ(เพิ่งรู้ว่าทำได้)
กินข้าวไปดูโคลเวอฟิลด์ไป
เป็นไปตามคาดหนังเรื่องนี้พลอยชอบมากกกกกกก
พี่กะทิไม่ชอบเลย
จากนั้นก็อ่านหนังสือแล้วนอน
.....................................................................
วันอังคาร
ตื่นมาเก้าโมงอาบน้ำแต่งตัว
นั่งดูพริซั่นเบรกไปสองตอนพี่กะทิก็มารับ
วันนี้หนูจะเข้าเมืองงงงงงง
.........................................................
เมืองหลวงของมอริเชียสชื่อว่าPort Loius
เป็นเมืองท่าเรือตามชื่อ
มองออกไปจะเห็นเรือลำใหญ่ๆจอดเรียงๆกันให้บรรยากาศประมาณซานฟราน(พูดเหมือนเคยไป)
พี่กะทิหย่อยพลอยลงไว้ที่นี่แล้วกลับไปทำงานต่อ
ก็เลยเดินเล่น
ช้อปปิ้งของฝากรวมถึงเก็บรูปมาฝากด้วย
เดินเข้านั่นออกนี่มีคนชวนคุยเป้นระยะแต่ฟังไม่ออกเลยได้แต่ยิ้มๆ
ช้อปปิ้งมอลล์เค้าเป็นตึกสวยๆเตี้ยๆหลายๆตึก
อยู่ติดทะเลเลยบรรยากาศดี๊ดี
แต่ข้าวของไม่มีอะไรมาก แล้วก็ไม่ถูกด้วย เลยไม่ค่อยได้ซื้ออะไร
shopping malls
เดินไปเดินมาเดินมาเดินไปจนเหนื่อยก็ไปนั่งคาเฟ่เล็กๆวิวดีๆ
ชื่อว่าซันเซ้ท คาเฟ่
sunset cafe'
สั่งเบียร์ฟีนิกซ์มากิน(สิงห์อร่อยกว่า)
นั่งเก็บบรรยากาศเรื่อยๆ
ตอนนั้นตระหนักไว้ว่าคนที่นี่ไม่ค่อยน่ารักเลย
พนักงานเสิร์ฟไปถึงเจ้าของร้านไม่ค่อยเป็นมิตรเท่าไหร่
ไม่ค่อยยิ้มแย้ม ไม่ค่อยช่วยเหลือ
ผิดกับเมืองไทยที่ต้อนรับขับสู้กันอย่างน่ารักขั้นรุนแรง
มาอยู่นี่รู้สึกตัวเองเป็นนางงามมิตรภาพเพราะยิ้มมมมมมมากกว่าคนอื่นสิบเท่าครึ่ง
นั่งเล่นซักพักพี่กะทิก็เดินมารับจากที่ทำงาน
มองถุงข้าวของที่พลอยซื้อแล้วส่ายหน้าดิกๆ
ประมาณว่าอีนี่หมดทางเยียวยาจริงๆ
.................................................................
จากนั้นแวะไปหาแม่เค้าพักนึง
แล้วขับรถขึ้นเขาไปที่ป้อมปราการโบราณ
ไปดูพระอาทิตย์ตก(อีกแล้ว)
เป้นจุดชมวิวที่สวยเห็นเมืองทั้งเมืองเลย
พอหโมงตรงก็มีเสียงนำละหมาดดังมากๆๆๆๆๆจากมัสยิด
กะทิเล่าว่าเคยเป็นประเด็นในศาลอยู่ช่วงนึงว่ามันเสียงดังไปมั้ย
มีคนยกหัวข้อมาว่า..พระเจ้าไม่ได้หูหนวกนะ...ฮาดี
นอกจากเสียงนำละหมาดก็เป็นเสียงระฆังเหง่งหง่างๆจากโบสถ์อีกสี่ห้าแห่ง
ระงมกันเลยทีเดียว
HAHAHAHA
......................................................................
กลับบ้านมาช่วยกันทำกับข้าว
ทำการทอดเบคอนในไมโครเวฟอย่างไม่รู้เรื่องรู้ราวทำเอาจานเป็นรูแถมเบคอนไหม้
หลังจากนั้นพี่กะทิไม่ไว้ใจเดินตามพลอยตลอดเวลา
กลัวทำของพังอีก
ไอ้บ้า ผิดครั้งเดียวเอง!
ช่วยกันทำได้ออกมาเป็นสลัดมันฝรั่งโรยเบค่อน
กับฟาฟาร่า โบโลนเนส
กินกับไวน์แดง
อร่อยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย
............................................................................
ยาวสะใจ
ขอลาไปก่อน
ฮี่ๆ
..............................................................................