One Love One Life ... For You... Harley Babie and Bowling
<<
ธันวาคม 2552
 
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
14 ธันวาคม 2552

การทำคลอดสุนัข

การทำคลอดสุนัข

กำหนดคลอดของแม่สุนัข

อยู่ในราว 60-63 วัน หลังจากการผสมพันธุ์การเตรียมจัดที่คลอด จะต้องทำล่วงหน้า การให้ความอบอุ่นแก่ลูกสุนัข ขณะคลอดและหลังคลอด 2-3 วัน นับว่าสำคัญในอนาคตของ ลูกสุนัขมาก ลูกสุนัขได้รับอุณหภูมิจากแม่ของมัน ด้วยความร้อน 101.4 องศาฟาเรนไฮ คือ เท่ากับอุณหภูมิของโลกภายนอก ดังนั้นอาหารที่จะให้แม่มันในวันแรก ๆ ควรจะต้องเป็นอาหาร ที่ก่อให้เกิดความร้อนในตัวมันเท่านั้น ไม่จำเป็นต้องให้อาหารประเภทบำรุงความเติบโตแต่อย่างใด อย่างน้อยอุณหภูมิขณะคลอดและหลังคลอด 48 ชั่วโมง ควรจะเป็น 105 องศาฟาเรนไฮแต่จาก นั้นจะลดน้อยลงเรื่อยจนถึงปลายสัปดาห์แรกลูกสุนัขจะมีอุณหภูมิปกติและมีความสมบูรณ์ ที่คลอดนั้นที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งคือต้องเป็นที่เงียบ อย่าให้มีสุนัขรบกวนได้

สำหรับที่นอนของมัน

ลูกสุนัขนั้นควรเป็นหีบไม้แข็งแรง กว้างใหญ่พอเหมาะแก่จำนวน ลูกสุนัข แต่ถ้าหากเป็นคอกเล็ก ๆ จะใช้หีบขาตะแคงก็เหมาะดีเหมือนกัน ถ้าใช้ชนิดหีบปิดฝาปิดจะ ต้องปิดเปิดได้คล่อง ๆ พื้นที่นอนคลอด ควรปูด้วยกระสอบที่สะอาดหรือวัตถุอื่นซึ่งเวลาไม่ต้องการใช้จะได้ ทำลายเสียเลย โดยปกติแม่สุนัขมักจะชอบกัดแทะเครื่องปูนอนเหล่านี้เพื่อปรับปรุงที่นอนของมัน ฉะนั้นควรให้แม่สุนัขคุ้นเคยกับที่นอนของมันสัก 1-2 สัปดาห์ ก่อนวันคลอด การออกกำลังให้สุนัข ขณะมีครรภ์นับว่าสำคัญมากจะละเลยเสียมิได้จนกระทั่งถึงสัปดาห์สุดท้าย แม้ตัวมันจะหนักอุ้ยอ้ายสักเพียงไร ก็ควรให้เดินในระยะใกล้ ๆ และที่เงียบ ๆ ควรให้เล่นกับสุนัขอื่น ๆ บ้างเป็นครั้งคราวยิ่งใกล้วันคลอดแม่สุนัขจะเริ่มจัดรังนอนของมันด้วยการ กัดสิ่งของที่มันพบอยู่ในบริเวณใกล้เคียง ฉะนั้นหากจะใช้ผ้าห่มดี ๆ แล้วไม่ควรให้มันในระยะนี้

อาการแสดงว่าจะคลอดนั้นคือ

ช่องคลอดจะบวมโตและนุ่มจะมีเมือกลื่น ๆ ไหลออกมา สุนัขจะไม่ยอมกินอาหาร และแสดงว่าจะคลอด อาการเช่นนี้จะมาก่อนการคลอดจริงราว ๆ 24 ชั่วโมง
ระยะที่ 2 เมื่อการคลอดจะสำเร็จผลก็ต่อเมื่อมดลูกทำการบีบรัดตัวและบีบลูกสุนัขให้ผ่านจากช่อง คลอดออกมา ขณะนี้แม่สุนัขจะรู้สึกเจ็บปวดยิ่งขึ้นและร้องครวญคราง อาจเป็นเสียงดังหรือเสียง แหลมเป็นระยะ ๆ และก็ดังยิ่งขึ้น ในไม่ช้าก็จะมีแมือกลื่น ๆ ไหลออกจากช่องคลอด ตามธรรมดา ลูกสุนัขจะโผล่หัวและขาหน้าก่อน แต่ก็มีบ่อยที่หางออกก่อนโดยปราศจากความลำบาก เว้นแต่จะเป็น ลูกสุนัขนั้นหัวโต การคลอดในลักษณะอย่างนี้จะทำให้เจ็บปวดและยุ่งยาก ขณะที่หัวสุนัขโผล่ออกมา นั้นเองแม่สุนัขจะได้รับความเจ็บปวดและร้องดัง ตามธรรมดาลูกสุนัขขณะคลอดจะถูกหุ้มอยู่ในถุง เยื่อเหนียว ๆ ซึ่งแม่สุนัขจะกัดเลียเพื่อแยกให้ลูกออกมา แต่ถ้าหากมันทำเองไม่สำเร็จ ผู้พยาบาล ต้องคอยช่วยเหลือมันทันที มิฉะนั้นลูกสุนัขจะตาย
ลูกสุนัขขณะคลอดออกมาจะยังคงถูกล่ามกับแม่ของมันโดยสายสะดือ ซึ่งติดต่อไปยังรก และรก นี้ก็ออกมาจากช่องคลอดของแม่สุนัข หลังจากลูกสุนัขได้คลอดออกมาแล้ว รกนี้แม่สุนัขจะกินทันที และขบไต่ไปตามสายสะดือ จนกระทั่งเกือบถึงสะดือของลูกสุนัข ถ้าหากแม่สุนัขไม่ทำเช่นนั้นผู้พยาบาล จะต้องรีบตัดสายสะดือให้ห่างสายสะดือของลูกสุนัข 1 คืบด้วยกรรไกรที่สะอาด แล้วมัดด้วยด้าย เหนียว ๆ สายสะดือที่แห้งจะหลุดออกมาพร้อมกับด้ายที่มัดภายในไม่กี่วัน

ต่อจากนั้นแม่สุนัขก็จะเข้าเลียลูกของมันให้แห้ง และในขณะนี้เอง ลูกสุนัขตัวที่อยู่ในท้องก็จะ เคลื่อนออกมา แม่สุนัขก็จะจัดการกับลูกสุนัขเช่นเดียวกับวิธีการที่กล่าวมาแล้วจนกระทั่งคลอดเป็น ตัวสุดท้าย บางครั้งลูกสุนัขคลอดมาเร็วมากแม่ของมันไม่ทันที่จะมีเวลาเลียลูกตัวที่ออกก่อนให้แห้ง ถ้าเป็นเช่นนี้ ผู้พยาบาลต้องใช้ผ้าเช็ดตัวอุ่น ๆ เช็ดให้แห้งแล้วนำไปไว้เสียอีกมุมหนึ่ง อย่างไรก็ดีจะ ปล่อยให้ลูกสุนัขให้เปียกชื้นและหนาวสั่นย่อมเป็นอันตราย ระหว่างคลอดหากแม่สุนัขแสดงอาการ อ่อนเพลีย ควรจะให้นมอุ่น ๆ แก่แม่สุนัขสักหน่อย ในระหว่างที่คลอดลูกยังไม่หมด และเมื่อคลอด หมดแล้ว ก็ควรให้ต่อไปอีกสักถ้วยแล้วจึงปล่อยให้มันนอนกับลูกสัก1-2 ชั่วโมง หลังจากนี้จึงควร ให้ทั้งลูกและเม่สุนัขขึ้นนอนในที่ ๆ มีความอบอุ่นและสงบเงียบ

การดูแลบำรุงเลี้ยง
สัก2-3ชั่วโมงต่อมา แม่สุนัขก็จะออกจากที่นอนมาถ่ายมูล ขณะนี้ควรให้อาหารน้ำอุ่น ๆแก่มัน ขณะนี้ แม่สุนัขย่อมอยู่ในอาการที่ธาตุไม่ปกติในระหว่างที่ต้องทำการคลอดลูก และถ้าหากมันกินรกเข้าไปด้วย นักเพาะเลี้ยงสุนัขบางท่านไม่ยอมให้แม่สุนัขกินรกหรือเครื่องในของมันเอง แต่ก็ต้องถื่อว่าเป็นสัญชาติ ญาณของสัตว์อย่างหนึ่ง แต่ในการที่มันได้กินอวัยวะภายในสด ๆ ของตัวมันเองเข้าไปเช่นนั้นก็ย่อมได้ รับฮอร์โมนหรือน้ำสกัดของชีวิต

การดูแลภายหลังการคลอด

หลังการคลอดสัก 2-3ชั่วโมง แม่สุนัขควรได้รับการเอาใจและควรให้ได้กินอาหารเหลว ๆ อุ่น ๆ ถ้ามัน กินรกเข้าไปย่อมเป็นธรรมดาอยู่เองที่ท้องของมันจะไม่เป็นปกติในระหว่าง2-3วันแรกหลังการคลอด มูลที่ถ่ายออกมาจะมีสีดำคล้ายน้ำมันดิน ทั้งนี้เนื่องจากโลหิตที่กินเข้าไป ในระยะวันหรือสองวันแรก ควรสังเกตุแม่สุนัขให้ดี เพราะว่าลูกสุนัขยังค้างอยู่ในท้องหรือไม่ ตามที่ทราบกันมาอาจเป็นเช่นนั้นได้ ถ้าหากเป็นเช่นนั้นก็จะสังเกตได้ว่า แม่สุนัขจะพยายามเบ่งเหมือนเมื่อทำการคลอดใหม่ ๆ ในกรณีเช่น นี้ให้ไปตามสัตวแพทย์มาทำการผ่าตัดโดยด่วน ผู้ที่มีความชำนาญอาจใช้นิ้วมือที่ชุบยาฆ่าเชื้อแล้วล้วง เข้าไปในช่องคลอดเพื่อทำการตรวจสอบอย่างระมัดระวัง หากเห็นว่ามีอะไรผิดปกติจะเรียกสัตวแพทย์ มาทำการผ่าตัดโดยไม่ชักช้า บางทีอาจมีอุปสรรคอันร้ายแรงเนื่องจากตำแหน่งที่ลูกสุนัขติดอยู่นั้นจำ เป็นต้องทำการผ่าตัดเอาออกทันที ในกรณีนี้ การชักช้าอยู่นานเท่าไรก็เป็นอันตรายมากเท่านั้น เป็นธรรมดาที่แม่สุนัขจะมีโลหิตออกมาเปื้อนเปรอะอยู่เป็นเวลาหลายวันหลังการคลอดแล้ว มันจะค่อย ๆ จางลง ๆ และจะหยุดในปลายสัปดาห์ที่1หรือ2 ตามธรรมดาอุณหภูมิ(ปรอท) จะขึ้นสูงหนึ่งดีกรีหรือ ราว ๆ นั้นหลังคลอดแล้วมันควรจะกลับมาอยู่ในเกณฑ์ปกติในราว 8 ชั่วโมง ต่อมาถ้ามีใข้ขึ้นสูงก็จะแสดง ให้ทราบว่า มีอะไรผิดปกติและต้องคอยตรวจสอบดูแลโดยไม่ชักช้า

การคลอดผิดปกติ

คำแนะนำที่ดีที่สุดสำหรับการคลอดที่ไม่ปกติผิดไปจากธรรมดาก็ควรพบให้สัตวแพทย์ช่วยโดยด่วน ความลำบากในการคลอดอาจเป็นด้วยว่าลูกสุนัขอยู่ในท่าผิดปกติเนื่องจากความอ่อนแอ การหดตัว ของมดลูก หรือรูปร่างของแม่สุนัขผิดส่วนสัด และอาการเหล่านี้ผู้สมัครเล่นไม่อาจจะแก้ให้หายได้ การกระทำง่าย ๆ บางทีอาจจะทำให้ลูกสุนัขออกมาได้แต่อย่างไรก็ดีในเรื่องนี้จำเป็นต้องมีความรู้ เกี่ยวกับกายวิภาควิทยาและมีความชำนาญในการตรวจรู้ได้ว่าอะไรผิดปกติและสามารถแก้ไขให้ดีได้ หลักสำคัญยิ่งในการคลอดก็คือให้ตามสัตวแพทย์ ถ้าแม่สุนัขทำการเบ่งจนอ่อนกำลังลง (มีอาการ หอบเบ่ง) มาเป็นเวลาถึง 3ชั่วโมงแล้ว ลูกสุนัขยังไม่ออก โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าถุงเยื่อหุ้มโผล่มา และแตกไปแล้ว อาการเช่นนี้ควรจัดการโดยด่วนไม่ว่าเป็นการคลอดลูกสุนัขตัวแรกหรือตัวอื่นถัดไป ก็ตาม การทอดระยะออกของลูกสุนัขจะห่างกันราว 15ถึง30 นาทีแต่อาจจะออกถี่กว่านี้ก็ได้ การดูแลระหว่างคลอด ควรจะสังเกตุดูด้วยความเอาใจใส่เป็นอย่างดีถ้าผิดปกติควรให้ไปตาม หมอสัตวแพทย์ ทันที ซึ่งเป็นหนทางที่ดีที่สุดในการที่จะหลีกเลี่ยงการสูญเสียแม่สุนัขที่ดีไป
//www.geocities.com/dogthai2000/dog27.htm

ย้ายมาจาก board เก่าโดยคุณ Pecan
-------------------------------------------------------

1. จำนวนวันในการตั้งท้อง เป็นเครื่องบ่งบอกที่ดี ปกติจะอยู่ที่ 60-62 วัน นับแต่วันผสม
2. การวัดอุณหภูมิโดยการเสียบปอรททางก้น ถ้าอุณหภูมิลดต่ำลงกว่า 100 F มาก และติดต่อกัน ก็เป็นสัญญาณอันหนึ่ง
3. การขุด และแยกตัวไปในที่สงบๆ ก็เป็นจุดสังเกตง่ายๆ โดยเฉพาะ ถ้ามีอาการข้างเคียงอื่นๆ ประกอบด้วย
4. การไม่กิน หรือกินน้อย อาจชี้บ่งได้ แต่ก็ไม่แน่เสมอไป เพราะเขาอาจอยากจะกินอย่างอื่นก็ได้
5. คลำท้องแล้ว มีลักษณะบวมเบ่ง และลูกดิ้นเบาๆ ก็พอจะบอกได้ โดยเฉพาะตัวลูกตกลงมาต่ำอยู่แถวๆ ปากช่องคลอด
6. นมบวม อาจจะมีน้ำนม หรือไม่มีก็เป็นไปได้
7. ที่แน่ๆ ถ้ามีน้ำสีคล้ำๆ ไหลออกมาจากช่องคลอดในจำนวนที่มากพอ ก็แสดงว่า จวนแล้วครับ อีกไม่เกิน 1 ชม. ต้องคลอดแน่ๆ
8. เมื่อลูกสุนัขคลอดออกมาแล้ว ถ้าไม่แน่ใจว่า แม่จะเลี้ยงได้ ให้จับแยกไปไว้ในที่แห้ง สะอาด ไม่ถูกลมเป่า และควรมีหลอดไฟ 100 แรงเทียนส่องเพื่อให้ความอบอุ่นด้วย (ควรตั้งหลอดไฟห่างประมาณ 30 ซม. และไม่ควรให้แสงส่องโดนดวงตาตรงๆ ควรมีการพรางแสงบ้าง ไม่งั้นเดี๋ยวตาบอดได้ครับ) จับให้มาเจอกันตอนให้นมก็พอครับ

ย้ายมาจาก board เก่าโดยคุณ บูรพา
-------------------------------------------------------

ผมส่งเมล์ไปถามพี่หมอที่ผมรู้จักมาให้น่ะครับ
มาดูเรื่องระยะการคลอดลูกกันดีกว่านะ ซึ่งจะมีอยู่ 3 ระยะ ดังนี้

ระยะที่ 1 : แม่เบื่ออาหาร กระวนกระวาย หอบ เกิดขึ้น 2-3 วันก่อนคลอดทั้งนี้สืบเนื่องมาจากการเพิ่มขึ้นของฮอร์โมนrolactin มีการขยายใหญ่ของเต้านม อาจมีน้ำนมไหลออกมาได้ตั้งแต่1-2สัปดาห์ จนถึงไม่กี่ชม.ก่อนคลอด บางรายอาจมีการอาเจียน มีพฤติกรรมหาที่คลอด

ระยะที่ 2 : เป็นระยะคลอดลูก กล่าวคือลูกก็จะค่อยๆออกมาทางbirth canalนั้นแล พอลูกออกแม่ แม่สุนัขจะใช้ปากในการฉีกเยื่อที่หุ้มตัวลูกออก เลียลูกสุนัขเพื่อกระตุ้นการหายใจลูก ทำความสะอาดลูกและกัดสายสะดือลูก ระยะนี้ ผู้เลี้ยงอาจสามารถช่วยเหลือได้โดยการ
- ตัดสายสะดือลูกให้ยาวประมาณ 1 นิ้ว
- แต้มปลายสะดือด้วยTincture Iodine
- ใช้ลูกยางดูดเสมหะและของเหลวในช่องจมูกและช่องปากลูกออกมา ใช้ผ้าสะอาดเช็ดและถูตัวลูกเบาๆ วิธีนี้จะช่วยกระตุ้นการหายใจให้ลูกได้อีกทางหนึ่ง

ระยะที่ 3 : เป็นระยะของการขับรกออกมา แต่ในบางครั้ง รกอาจจะออกมาในระยะที่ 2 แล้วก็เป็นได้

จะว่าไปยังไม่ได้ตอบคำถามให้เลย

Q: นี่อีกนานไม๊ค๊ะกว่าเค้าคลอดอ่ะค่ะ? จะได้เตรียมเครื่องไม้เครื่องมือให้พร้อมอ่ะค่ะ

A: ก็ตามที่รายละเอียดข้างต้นที่ผมได้ให้ไปน่ะครับ ผมคงจะฟันธงลงไปเลยไม่ได้ว่าเป็นวันที่เท่าไหร่ บอกได้แต่ว่าอยู่ในช่วงนี้ ถ้าดูจากอาการของน้องปอมแล้ว น่าจะใกล้แล้วครับ ยังไงก็ดูแลอย่างใกล้ชิดแล้วกันครับ

Q: และอยากทราบว่าถ้ายังไม่ครบ 60 วันจะอันตรายไม๊อ่ะค่ะ

A: อย่างที่ได้บอกไปครับ ถ้านับจากวันทีผสมวันแรก ช่วงของการตั้งท้องจะค่อนข้างกว้างมาก ตรงนี้ก็ขอให้เจ้าของดูแลเอาใจใส่อย่างใกล้ชิดนะครับ อย่างไรก็ตาม ผมคิดว่าไม่น่ามีปัญหาอะไรครับ แต่หากว่าวันที่คลอด แล้วลูกสุนัขไม่ออก ซึ่งตรงนี้อาจเกิดจากลูกสุนัขตัวใหญ่ หรือแม่ไม่มีแรงเบ่ง ตรงนี้ขอให้รีบพาไปหาสัตวแพทย์ที่อยู่ใกล้ที่สุดครับเพื่อทำการช่วยคลอด

ฝากไว้สักนิดนะครับว่า หากต้องการให้น้องปอมผสมอีก ควรจะทำประวัติสุขภาพของน้องปอมให้ละเอียด โดยบันทึกในเรื่องของวันที่ผสม วันที่คลอด รายละเอียดการคลอดต่างๆ วันที่พาไปตรวจสุขภาพหรือระบบสืบพันธุ์ ลักษณะเซลส์เยื่อบุช่องคลอด ระดับฮอร์โมนที่ตรวจวัดได้ (ถ้ามี) ฯลฯ

ย้ายมาจาก board เก่าโดยคุณ honghong



Create Date : 14 ธันวาคม 2552
Last Update : 23 เมษายน 2553 9:32:31 น. 1 comments
Counter : 2392 Pageviews.  

 
อยากรู้ว่าสุนัขที่ใกล้คลอดสามารถให้นั่งรถได้ใช่มั้ยคะ
เวลาพาไปหาหมออ่ะ


โดย: mo (watymel'n ) วันที่: 6 พฤษภาคม 2553 เวลา:15:26:10 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

mooaoun
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 12 คน [?]




One Love One Life...
Love Harley Babie Angie and the Gangs
& Bowling...2 ka
Background.MyEm0.Com
[Add mooaoun's blog to your web]