เตรียมความพร้อมก่อนตั้งท้องจนถึงคลอด คัดลอกมาจาก //www.pukpuiclub.com/%E0%B8%AA%E0%B8%B8%E0%B8%99%E0%B8%B1%E0%B8%82%E0%B8%95%E0%B8%B1%E0%B9%89%E0%B8%87%E0%B8%97%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%84%E0%B8%A5%E0%B8%AD%E0%B8%94/ มีเจ้าของสุนัขหลายๆคนคิดว่า การตั้งท้องและการคลอดลูกสุนัขเป็นเรื่องที่ไม่ต้องใส่ใจมาก ปล่อยให้เป็นของธรรมชาติ แต่ความจริงนั้นแล้วการเตรียมตัวก่อนคลอดของสุนัขนั้นเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนมากไม่แพ้กับการตั้งท้องของคนเลย เพื่อให้ทำความเข้าใจ ได้ง่ายขึ้น ขอให้สังเกต แผนภาพนี้ คำอธิบาย Process A - ใช้อาหารสูตรลูกสุนัข - ให้อาหารเพิ่มจากปกติ ประมาณ 20% - นำสุนัขเดิน เพื่อเสริมสร้างความฟิต ไม่มากจนสุนัขเหนื่อยเกินไป และ ไม่น้อยเกินไป - ดูแลรักษาความสะอาด ของสุนัข ให้ปราศจากโรคผิวหนัง พยาธิ ฯลฯ - หลีกเลี่ยงสิ่งแวดล้อมที่ทำให้สุนัข เกิดความกังวล เครียด Process B - ก่อนจะถ่าย x ray ควรงดอาหารอย่างน้อย 10 ชม. หรือ พาไปถ่าย x ray ตอนเช้า(งดข้าวเช้า) - ถ่าย x ray ท่านอนหงาย และ นอนตะแคง ฟิลม์ใหญ่ จะได้เห็นชัดๆ - หลังจากกลับจากถ่าย x ray แล้ว ให้สุนัขดื่มน้ำมากหน่อย เพราะอากาศบ้านเราร้อน Process C - หากสัตวแพทย์ พิจารณา ปัจจัย ความสมบูรณ์ของตัวอ่อน ขนาดกะโหลกของตัวอ่อน ขนาดของพ่อและแม่พันธุ์ ความจุช่องท้อง และ ความกว้างกระดูกเชิงกรานของแม่พันธุ์แล้ว จะบอกได้ว่า ควรเพิ่มอาหารให้แม่สุนัข อีกหรือไม่ อย่างไร ตรงนี้ ให้พิจารณาตามสภาพในฟิลม์เอ๊กซ์เรย์ - จัดสถานที่สำหรับคลอด และ ย้ายแม่สุนัข ไปไว้ที่นั่น สถานที่ที่เหมาะสม คือ เงียบ มืด สะอาด แห้ง และ ปราศจากอะไรรบกวน (ลองนึกภาพ ห้องมืด ดูก็แล้วกัน) - ให้อาหาร โดย แบ่งเป็นมื้อเล็กๆ แต่ให้บ่อยๆ - เสริมแคลเซียม หรือ ให้กินนม - เสริมธาตุเหล็ก ด้วย ตับหมุต้ม ในน้ำขลุกขลิก - พาเดินออกกำลังกาย แต่อย่าให้เล่นกับสุนัขตัวอื่น อย่าเดินนาน - ตัดเล็มขน ที่หาง ก้น ขาหลัง ลำตัว ให้สั้น เพื่อสะดวกในการทำความสะอาด หลังคลอด เพราะน้ำคาวปลาและ เลือดเสีย จะไหลออกมาตลอด หลังจากที่คลอดแล้ว) - จัดเตรียมอุปกรณ์ต่างๆ ตามรายการ ดังต่อไปนี้ เบต้าดีน , มหาหิงส์ , คอตต้อนบัด , ทิชชู , ผ้าขนหนูผืนเล็ก ตามจำนวนลูกสุนัข , ผ้าขนหนูใหญ่ 3 ผืน , ด้ายสำหรับมัดสายสะดือ , กรรไกรคมๆ , แอลกอฮอล์ฆ่าเชื้อ แคลเซียม สำหรับบำรุงแม่หมาหลังคลอด(แนะนำยี่ห้อ Hoffmann johnson IDEL Cal) , วิตามินน้ำ Pettonic Plus (บำรุงธาติเหล็ก สำหรับ เลือดของแม่สุนัข) , ขวดนมสำหรับลูกสุนัข โคมไฟแบบหนีบ พร้อมหลอดไฟ 60-80 วัตต์ , นมผง Esbilac , กลูโคลิน , ไซริงก์ขนาดเล็ก , ลูกยางดูดเสมหะ เบอร์ 1 Process D - เตรียมน้ำร้อน พร้อมผสม เป็นน้ำอุ่น สำหรับเช็ดตัว ลูกสุนัข หลังคลอด - เตรียมไฟกก ปูผ้าขนหนู จัดสถานที่คลอดให้ดี - ฆ่าเชื้อกรรไกร และ อุปกรณ์ ทั้งหมด ที่ต้องแตะตัวลูกสุนัข กระบวนการคลอด - สังเกตวันคลอด แม่สุนัข มีอาการ กระวนกระวาย ฉี่บ่อย มากๆ ขุดๆ หลบซ่อน หาที่เงียบๆ มืดๆ ข้อควรระวัง อย่า นั่งเฝ้าข้างๆ หรือ ให้สุนัขเห็น เพราะ เขาจะไม่ยอมคลอด แล้วจะคลอดเวลาเราเดินไปทำธุระเล็กๆ น้อยๆ ทำให้เราอาจจะพลาดการช่วยเหลือลูกสุนัขตัวแรกที่คลอด ได้ *ระวัง* หากแม่หมา มีน้ำเขียวๆ ออกมาแล้ว แต่ไม่ยอมคลอดสักที ให้หาไปหาหมอด่วนที่สุด ลำดับการคลอด - ลูกสุนัข พร้อม ถุงน้ำคร่ำ สายสะดือ รก จะออกมาพร้อมๆ กัน คือ ตัวละ 1 ชุด - ฉีก ถุงน้ำคร่ำ ตรงใกล้หัวลูกสุนัข นำลูกสุนัข ออกจากถุง ใช้ลูกยางดูดเสมหะ ดูดน้ำจากรูจมูกและในคอลึกๆ - ลูบตัวสุนัข แรงเท่าๆ กับ แม่สุนัขเลีย เพื่อกระตุ้นให้ปอดทำงาน หรือ ให้แม่สุนัขเลียก็ได้ ทำจนกว่า ลูกสุนัข จะร้องเสียงดังๆ หากไม่ร้อง ให้หยิกตรงฝ่าเท้าแรงๆ - มัดสายสะดือ ด้วย ด้าย ห่างจากพุงลูกสุนัขสัก 1 ซม. - ตัดสายสะดือ ระหว่างตรงที่มัด กับ รก (ห่างจากที่มัด ไปทางรก ประมาณ 1/2 ซม.) - หยอดเบต้าดีน ตรงที่มัดด้าย และ ตรงที่ตัดสายสะดือ - นำลูกสุนัขไป กกไฟ แต่หากแม่สุนัขไม่ยอมเบ่งคลอดตัวต่อไป ก็ให้น้ำลูกสุนัขกินนมแม่ ปัญหา ที่อาจเกิดขึ้น ในการทำคลอด น้ำเขียวออก แต่ หมาไม่ออกมา - ให้พาไปพบแพทย์ ภายใน 20 นาที หากนานกว่านี้ ให้ทำใจเสียลูกสุนัขตัวแรกได้เลย แม่สุนัข ขู่ แยกเขี้ยว หวงลูก ไม่ยอมให้เราช่วยทำ แต่ตัวเองก็ไม่ช่วยทำคลอด - ให้นำผ้าขนหนู หนาๆ กดหัวแม่สุนัขไว้(ป้องกันการกัด) แล้ว แยกลูกสุนัข ออกมาทำการช่วยเหลือโดยด่วน ลูกสุนัข ตัวแดงๆ นิ่มๆ ทั้งตัว หายใจช้า คลานช้า แห้งช้ากว่าตัวอื่น - ให้สงสัยว่า เป็นอาการบวมน้ำ คุณต้อง ให้กกไฟเขาร้อนๆ หน่อย เพื่อไล่ความชื้นออก หากไม่ทำแล้ว ลูกสุนัข มีโอกาสเป็นปอดบวม และ ตายสูง ข้อสังเกต ในการกกไฟ คือ ไฟหลอด 60-80 วัตต์ อยู่สุงจากตัวลูกสุนัข ประมาณ ฟุตนิดๆ กกไว้ตลอด 24 ชม จนกว่า ลูกสุนัข จะเป็นปกติ การเลี้ยงดู ลูกสุนัข เพิ่งเกิด - เช็ดหัวนม แม่สุนัข ด้วยน้ำอุ่น และ เช็ดแห้ง ให้สะอาด ทุกครั้งก่อนลูกสุนัขกินนม - เขากินทุกๆ ชั่วโมง ดังนั้น ต้องพาเขามากินนมแม่ เต้าที่เต่งๆ - ให้กินสลับเต้าไปเรื่อยๆ อย่าให้เต้าใด ไม่ถูกดูด เพระแม่หมาอาจเป็นไข้น้ำนม เพราะนมคัด ทำให้นมเป็นพิษได้ - สังเกต ว่ากินอิ่มหรือไม่ ให้ดูที่พุง ลำตัว ลูกสุนัข หากป้านๆ ออกมา แสดงว่ากินพอแล้ว - เมื่อตัวใดกินเสร็จ ให้จับหงาย เอานิ้วเขี่ยเบาๆ ที่อวัยวะเพศ เพื่อให้ฉี่ และ เขี่ยที่รูก้นเบาๆ เพื่อให้อึ - จากนั้น เช็ดน้ำอุ่นสะอาดๆ และ เช็ดแห้ง นำไปกกไฟ เหมือนเดิม - หากลูกสุนัขร้องโยเย แต่ไม่ใช่เพราะหิว(พุงยังป่องอยุ่) อาจเป็นเพราะหนาว ให้กกไฟ - หากลูกสุนัขร้องโยเย แต่ไม่ใช่เพราะหิว(พุงยังป่องอยุ่) อาจเป็นเพราะท้องอืด ให้เอามหาหิงส์ทาพุง ข้อควรระวัง ลูกสุนัขอาจตายได้ หากสูญเสียความร้อนเพียงนิดเดียว ให้กกไฟไว้ก่อน ความร้อน มีความสำคัญกับเขามาก เพราะ ระบบของเค้ายังทำงานไม่เต็มที่ ความร้อนจะช่วยให้ระบบของลุกสุนัข เกิดการย่อยต่างๆ ด้วย ขอบคุณบทความดีๆจาก : ThaiDogCenter.Com เครดิต : คุณ Tekashi Create Date : 03 พฤศจิกายน 2553 Last Update : 3 พฤศจิกายน 2553 17:23:17 น. 0 comments Counter : 1197 Pageviews.   Share Tweet ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก Comment :   *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet