|
|
|
| 1 | 2 | 3 | 4 | 5 |
6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 |
13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 |
20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 |
27 | 28 | 29 | 30 | |
|
|
|
16 มิถุนายน 2553
|
|
|
|
ว่าด้วยเรื่องพยาธิ (อีกรอบ)
พยาธิไส้เดือน พยาธิไส้เดือนหรือเรียกว่าพยาธิตัวกลมอาศัยอยู่ในลำไส้สุนัขเช่นกัน ขนาดตัวยาว 2-3 นิ้ว จะดูดกินอาหารที่กระเพาะย่อยแล้ว พบมากในลูกสุนัข คอยแย่งอาหารที่ได้รับการย่อยพร้อมที่ร่างกายสุนัขจะดูดซึมไปใช้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งโปรตีน แต่กลับถูกพยาธิแย่งไป พยาธิจะเติบโตดี ขณะเดียวกันสุนัขก็โตแต่ส่วนพุง เพราะเต็มไปด้วยพยาธิ และเกิดสภาวะท้องมาน คือมีน้ำขังอยู่ในช่องท้อง เนื่องจากน้ำซึมผ่านเส้นเลือดออกมารวมกันอยู่ภายในช่องท้อง จึงทำให้เกิดท้องโตยิ่งขึ้นกว่าเดิม ในลูกสุนัขจะพบว่ามีอาการท้องป่องคล้ายกับกินอาหารอิ่มทั้งวัน ถ่ายอุจจาระเหลว ถ้ามีมากพยาธิจะไปอุดตันท่อน้ำดี เกิดอาการดีซ่าน บางตัวมีพยาธิไส้เดือนตัวแก่จำนวนมหาศาลขยุกขยิกเป็นก้อนจุกอยู่แน่นลำไส้ ทำให้อาหารไม่สามารพผ่านไปได้ตามปกติ ผลสุดท้ายลูกสุนัขก็ตาย
การติดต่อของโรคพยาธิไส้เดือนเหมือนกับพยาธิปากขอ คือ สุนัขกินไข่แก่ที่มีฟองไข่พยาธิเข้าไป หรือชอนไชทะลุผิวหนังเข้าสู่กระแสเลือด นอกจากนี้ลูกสุนัขอาจมีพยาธิตั้งแต่อยู่ในท้องแม่ โดยชอนไชเข้ากระแสเลือดที่ไปเลี้ยงลูกสุนัขในมดลูกผ่านทารก การป้องกันพยาธิไส้เดือนจะต้องทำก่อนที่จะผสมพันธุ์สุนัขและในช่วงท้ายๆ ของอาการตั้งท้อง พอลูกสุนัขเกิดมาได้ 2-3 อาทิตย์ จึงถ่ายพยาธิอีกครั้งหนึ่ง หลักจากนั้นก็พิจารณาที่จะทำทุก 3-4 เดือน เหมือนกับการถ่ายพยาธิปากขอ ส่วนการรักษาสุนัขที่เป็นพยาธิมาแล้ว ก็อาจใช้ยา เปปเปอร์ราซีน ให้กินตามคำแนะนำในฉลาก
โรคพยาธิไส้เดือน เป็นพยาธิตัวกลม ขนาดค่อนข้างใหญ่ ยาวเกือบ 10-18 เซ็นติเมตรตัวสีน้ำตาลขาวคล้ายๆเส้นบะหมี่ติดต่อโดยการถ่ายทอดผ่านทางรกของแม่สุนัขไปสู่ลูกสุนัขถ้าลูกสุนัขที่ป่วยเนื่องจากการเคลื่อนที่ของตัวอ่อนพยาธิไปตามอวัยวะภายใน มักจะตายใน 2 - 3 สัปดาห์หลังเกิด โดยที่เรามักจะไม่ทราบสาเหตุถ้าลูกสุนัขโตขึ้นมาแล้วมีการป่วย มักจะมีอาการถ่ายเหลว ท้องป่อง กินอาหารจุแต่ผอม บางครั้งจะอาเจียนออกมาและมีตัวพยาธิปนออกมากับอาเจียนด้วยการตรวจวินิจฉัยควรเก็บอุจจาระมาให้สัตวแพทย์ตรวจหาไข่พยาธิ หรือถ้าลูกสุนัขอาเจียน ถ่ายอุจจาระออกมาพร้อมกับมีพยาธิไส้เดือนให้เก็บมาให้สัตวแพทย์ตรวจดูด้วยควรรักษาโดยการถ่ายพยาธิทุก I4 - 21 วัน เพื่อขจัดเอาตัวแก่ของพยาธิออกไปเป็นช่วงๆ
โรคพยาธิเส้นด้าย เป็นพยาธิตัวกลม ขนาดเล็กยาวเพียง 0.2 เซนติเมตร ติดต่อโดยการถูกพยาธิชอนไชผ่านผิวหนังและสุนัขกินตัวอ่อนระยะติดต่อเข้าไปอาการป่วยขึ้นอยู่กับจำนวนพยาธิที่อยู่ในตัวลูกสุนัข ถ้ามีน้อยจะมีอาการถ่ายเหลวเฉยๆ ถ้ามีมากจะมีอาการถ่ายเหลว และมีเลือดปน สุนัขจะซึม เบื่ออาหารไม่กินอาหารน้ำหนักตัวลดลงการตรวจวินิจฉัยต้องทำโดยการนำเอาอุจจาระของลูกสุนัขมาตรวจหาไข่พยาธิ สำหรับการรักษาให้ใช้ยาถ่ายพยาธิตัวกลมติดกัน 3 - 5 วันเพราะตัวอ่อนของพยาธิเส้นด้ายจะออกจากไข่ทุก 24 ชม.
โรคพยาธิตืดเม็ดแตงกวา เป็นพยาธิตัวแบนเป็นท่อน ๆ ขนาดประมาณ 2.5 เซนติเมตร เวลาที่เราเห็นมักจะยังมีชีวิตขยับได้ อยู่ปนกับก้อนอุจจาระของสุนัขสีจะออกเหลืองขาว สามารถติดต่อได้โดยการกินแมลงพวกหมัดที่อยู่บนตัวของสุนัข ตัวหมัดจะเป็นที่อาศัยกึ่งกลางของตัวอ่อนพยาธิชนิดนี้ ถ้าสุนัขมีหมัดโอกาส ที่จะเป็นพยาธิตัวตืดเม็ดแดงกวามีสูงมาก อาการที่แสดงออกคือ มีอาการคันก้น อาจจะมีการเอาก้นไถพื้น น้ำหนัก ลด ขนแห้งหยาบ สุนัขไม่สมบูรณ์ การตรวจวินิจฉัยสามารถดูจากตัวแก่ที่อยู่ในก้อนอุจจาระและบริเวณรูทวารหนัก สามารถรักษาได้โดยให้ยาถ่ายพยาธิตัวตืด ทุก 2 - 3 อาทิตย์ เพื่อตัดวงจรของพยาธิตัวแก่ ออกไปนอกจากนั้นยังด้องกำจัดหมัดที่เป็นที่อยู่อาศัยกึ่งกลางของพยาธิให้หมดไปด้วย
โรคพยาธิหนอนหัวใจ เป็นพยาธิตัวยาวมาก พยาธิตัวผู้ยาว 12-16 ซม.พยาธิตัวเมียยาว 25 - 30 ซม.อาศัยอยู่ในหัวใจห้องล่างขวาถึงเส้นเลือดใหญ่ไปที่ปอด ติดต่อโดยมียุงเป็นพาหะนำเอาตัวอ่อนของพยาธิในระยะติดต่อปล่อยลงตัวสุนัขเวลาที่ดูดเลือดสุนัขกิน จากนั้นตัวอ่อนระยะติดต่อจะพัฒนาตัวเองเป็นพยาธิตัวแก่และอาศัยอยู่ในหัวใจของสุนัข สุนัขที่ป่วยเป็นพยาธิหนอนหัวใจมักจะมีอายุ 3-5ปีขึ้นไปเพราะถ้ามีจำนวนพยาธิน้อยๆ จะไม่มีผลกระทบต่อตัวสุนัข พยาธิหนอนหัวใจจะอยู่ในหัวใจห้องล่างขวาและเส้นเลือดไปที่ปอดของสุนัข
ถ้ามีเยอะจะทำให้ขัดขวางการไหลของเลือดหัวใจจึงต้องบีบตัวให้แรงขึ้นมากจึงทำให้กล้ามเนื้อหัวใจทำงานหนักและขยายตัวสุนัขที่ป่วยเป็นโรคนี้มักจะมีความผิดปกติที่หัวใจด้วยเพราะกว่าที่เจ้าของจะสนใจดูแลสุนัขตัวเองก็เมื่อมันมีอาการ เช่น ไอแห้งๆตลอด บางตัวไม่มีแรงออกกำลังกาย นอนซม
ถ้าเป็นมากจะท้องมาน ตัวซีดไม่มีแรง และอาจจะหมดแรงล้มไปดื้อๆ ก็ได้การตรวจวินิจฉัยต้องใช้วิธีเจาะเลือดไปตรวจซึ่งมีวิธีการตรวจหลายวิธี โดยอาจจะใช้วิธีส่องดูตัวอ่อนด้วย กล้องจุลทรรศน์หรือนำไปย้อมสีพิเศษเพื่อดูแต่ทั้งสองวิธีข้างต้นจะตรวจหาพยาธิตัวอ่อนไม่พบ
ถ้าท่านพาสุนัขของท่านไปฉีดยาฆ่าเห็บหมัด ตัวไร ตัวเรือน และอีกวิธีหนึ่งเป็นการตรวจที่เฉพาะเจาะจงในการหาแอนติเจนของพยาธิโดยตรง ต้องเจาะเลือดไปเช่นกันและใช้ เครื่องมือที่ชื่อว่า ''สแนปเทสต์" ผลการตรวจแม่นยำมาก เชื่อถือได้แน่นอน
ฉะนั้นจึงควรจะป้องกันโดยให้ลูกสุนัขเข้าโปรแกรมป้องกันพยาธิหนอนใจตั้งแต่อายุ 2-3 เดือนเพราะถ้าป้องกันช้าตัวอ่อนของพยาธิที่ยุงปล่อยไว้จะโตขึ้นทุกวัน ๆ การป้องกันทำได้โดยการกินยาหรือฉีดยาเดือนละ 1 ครั้งตลอดชีวิตบางครั้งอาจจะพบว่ามีสัตวแพทย์บางท่านแนะนำโดยการฉีดยา 2 เดือนครั้งตลอดชีวิตโปรแกรมดังกล่าวก็ใช้ได้แต่ต้องใช้ยาในขนาดที่สูง
ส่วนถ้าท่านไปพบเจอการป้องกันโดยการฉีดยา 3 เดือนครั้งตลอดชีวิตโปรแกรมนี่ไม่น่าจะได้ผลเพราะนานเกินไปพยาธิหนอนหัวใจได้พัฒนาตัวเองเป็นพยาธิตัวอ่อนที่จะเข้าสู่ตัวเต็มวัยจนยาป้องกันไม่มีประสิทธิภาพพอที่จะฆ่าได้
โรคพยาธิปากขอ เป็นพยาธิตัวกลมขนาดเล็กยาวเพียงแค่ 1.6 เชนติเมตรมีเขี้ยวแหลม 3 คู่ เอาไว้ดูดเลือดในลำไส้เล็กของลูกสุนัข ติดต่อโดยถูกพยาธิตัวอ่อนไชเท้าทางผิวหนัง หรือถูกถ่ายทอดทางน้ำนมจากแม่สุนัข ลูกสุนัขมักจะมีอาการชีดของเยื่อเมือก ในปาก ตา เกิดภาวะโลหิตจาง มีการถ่ายเหลวมีเลือดปนลักษณะอุจจาระ จะเป็นสีแดงคล้ำๆ ลูกสุนัขอ่อนเพลีย ผอม และไม่โต สำหรับการตรวจ วินิจฉัยนั้น เจ้าของสุนัขควรเก็บอุจจาระนำไปให้สัตวแพทย์ตรวจหาไข่ของพยาธิ โดยสามารถทำการรักษาด้วยวิธีการถ่ายพยาธิทุก 14 วัน เพื่อนำเอาตัวแก่ของพยาธิออกไปเป็นข่วงๆ
โรคไข้หัดหรือดิสเทมเปอร์ เกิดจากเชื้อไวรัส มักเกิดกับลูกสุนัขอายุตั้งแต่ 2-3 เดือนเป็นต้นไป หากเป็นแล้วโอกาสที่จะหายมีน้อยมาก อาการของโรคนี้มักแสดงออกทาระบบหายใจก่อน คือมีขี้มูกสีเขียวไหลย้อย ดูเหมือนปอดบวมมีไข้ เบื่ออาหารซึมมีตุ่มหนองขึ้นใต้ท้อง มีขี้ตาสีเขียวขึ้นเกรอะกรังอยู่ตลอดเวลา เมื่ออาการุนแรงขึ้นจะพบว่ามีอาการทางประสาท คือ ริมฝีปากสั่น กระตุก และจะลามไปที่บริเวณหนังหัว ใบหน้า ขาหลัง อาจพบว่าบริเวณฝ่าเท้ากระด้างขึ้น บางรายพบว่ามีท้องร่วงร่วมด้วยสุดท้ายของโรคมักตาย แต่ก็สามารถป้องกันได้โดยการฉีดวัคซีนป้องกันโรคหัดตั้งแต่อายุ 2 เดือนเป็นเข็มแรก และฉีดเข็มที่สองในอีกหนึ่งเดือนถัดมาเป็นการกระตุ้นภูมิคุ้มกันและฉีดซ้ำทุก ๆ ปี(ปีละครั้ง)
คัดลอกมาจาก //web.bomload.com/dog/_DCareDog.php?name=%BE%C2%D2%B8%D4&view=0&sid=36&type=2
Create Date : 16 มิถุนายน 2553 |
Last Update : 16 มิถุนายน 2553 11:36:41 น. |
|
0 comments
|
Counter : 10124 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
|
|
mooaoun |
|
|
|
|