๏L๏s ~:~:~ . . ชมฝูงนกนางนวลอพยพ บินหนีหนาวมาไทย ที่ สถานตากอากาศบางปู สมุทรปราการ . . .~:~:~๏L๏s
สวัสดีปีใหม่ 2556 ครับ 
สำหรับรีวิวแรกของปี ประเดิมบอร์ดใหม่ของพันทิป ผมจะพาไปเที่ยวที่ จังหวัดสมุทรปราการ ซึ่งใกล้กรุงเทพมากๆ สามารถมาเที่ยวแบบวันเดย์ทริปได้สบายๆ ที่นี่มีสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจหลายแห่ง และหนึ่งในนั้น ก็คือ " สถานตากอากาศบางปู "หรือที่นิยมเรียกกันสั้นๆ ว่า " บางปู " หลายคนอาจจะเคยไปเที่ยวกันมาบ้างแล้ว โดยเฉพาะช่วงนี้ซึ่งเป็นฤดูหนาว จะเป็นช่วงที่มีปริมาณนกนางนวลมากที่สุด เมื่อเทียบกับช่วงอื่นๆผมฝันมานานแล้ว ว่าอยากไปถ่ายภาพฝูงนกนางนวล ที่บินกันเต็มท้องฟ้า กับเค้าบ้างหลังจะรอเวลามานาน ก็มีโอกาสสักที พร้อมแล้วไปเที่ยวกันเลยครับ  สถานตากอากาศบางปู ตั้งอยู่หลักกิโลเมตรที่ 37 ตรงข้ามกับนิคมอุตสาหกรรมบางปู ถนนสุขุมวิท ตำบลบางปู อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ
โทร.02-323-9911, 02-323-9983
เปิดบริการ : 05.00-20.00
//www.bangpurta.com/
 การเดินทาง
หากมาทางเส้นถนนศรีนครินทร์ เข้าเมืองสมุทรปราการ จนสุดสาย ให้เลี้ยวซ้ายไปทางถนนสุขุมวิท(สายเก่า) เส้นเดียวกับที่ไปชลบุรีตรงไปตามทางเรื่อยๆ ซึ่งจะผ่านเมืองโบราณ และนิคมอุตสาหกรรมบางปู พอเห็นป้ายสถานตากอากาศบางปูให้กลับรถ ก็เตรียมชิดขวาไว้พอกลับรถแล้ว ก็จะเห็นป้ายสถานตากอากาศบางปู อย่างชัดเจน เลี้ยวซ้ายเข้าไปเลยครับ หากมาทางรถโดยสารประจำทาง ก็มีหลายสายครับ เช่น จากปากน้ำ ก็สามารถต่อรถ สาย 36 ปากน้ำ-คลองด่าน
ซึ่งคิวรถอยู่ตรงข้าม ศาลากลางจังหวัดสมุทรปราการ ได้ครับ
 ป้ายขนาดใหญ่มองเห็นได้อย่างชัดเจน ดูจากป้ายแล้วคลาสสิคมากครับ ฟ้อนท์แบบนี้สมัยก่อนนิยมใช้กันมาก อิอิ
 สำหรับสถานตากอากาศบางปู เป็นพื้นที่ของกองทัพบกครับ ตั้งอยู่ภายใน กองอำนวยการสถานพักผ่อน กรมพลาธิการทหารบก ซึ่งที่นี่ใช้เป็นสถานพักฟื้นพักผ่อนภายในหน่วยงาน มีพื้นที่ทั้งหมด 639 ไร่ ครับ ด้านหลังติดกับทะเลอ่าวไทยเป็นแนวยาวกว่า 2 กิโลเมตร
 เมื่อขับรถยนต์เข้ามาภายใน ก็จะพบกับทางเข้าครับ ด้านหน้ามีศาลพ่อปู่ชัยมงคล ตั้งไว้ให้เคารพสักการะ เราสามารถจอดรถได้ที่ด้านขวามือครับ มีที่จอดรถกลางแจ้งอยู่มากมาย
 ด้านหน้ามีรถรับส่งไปยังด้านในด้วยครับ สโลแกนของที่นี่ " กินปู ดูนก เต้นรำ ย่ำป่าชายเลน "แต่พวกเรามาแค่ดูนกอย่างเดียว อิอิ ซึ่งนกจะบินหนีหนาวลงมาจากทางไซบีเรีย ช่วงเวลาที่เราสามารถมาดูนกนางนวลได้ ก็ตั้งแต่เดือน พฤศจิกายน จนถึง เดือนพฤษภาคม ครับ
 มารู้จัก นกนางนวล กันก่อนครับ
นกนางนวลที่พบเป็นจำนวนมากที่บางปู เป็น นกนางนวลธรรมดา ซึ่งสามารถพบเห็นได้ง่ายทั่วโลกครับเนื่องจากว่ามันปรับตัวได้เก่ง จึงสามารถอาศัยอยู่ร่วมกับมนุษย์อย่างเราได้ดี แถมยังกินง่ายทั้งพวกสัตว์น้ำขนาดเล็ก ปลาต่างๆ ซากสัตว์ รวมถึงเศษอาหารจากมนุษย์ด้วยสำหรับนกนางนวลในฤดูหนาว ขนทั้งตัวจะมีสีขาวสะอาดตา ส่วนคอและไหล่จะมีสีเทาจางๆ หลังและปีกเป็นสีเทา มีแต้มสีดำเล็กๆที่ดวงตา ปลายปีกสีดำ ใต้ปีกจะมีวงสีขาวล้อมรอบด้วยสีดำ ปากแดงคล้ำ ปลายปากดำ ขาสีแดงเข้ม แต่ถ้าในฤดูร้อน ช่วงปลายเมษายนถึง พฤษภาคม นกมันจะผลัดขนก่อนที่จะบินกลับไปสร้างรังวางไข่ ขนทั่วลำตัวยังเป็นสีขาวเหมือนเดิม แต่ขนส่วนหัวจะเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลเข้มเกือบดำ มีวงรอบตาสีขาว ปากและขาจะเป็นสีแดงสด
 สาเหตุที่นกมาอาศัยอยู่ที่บางปูเป็นจำนวนมาก เนื่องจากพื้นที่ในแถบนี้มีอาหารอุดมสมบูรณ์ ปลอดภัย ทั้งอาหารธรรมชาติจากสัตว์น้ำเล็กน้อยต่างๆ รวมถึงอาหารจากคน ซึ่งก็คือ กากหมูเจียวน้ำมัน นั่นเอง หลายคนคงสงสัยว่าทำไมนกนางนวลถึงกินกากหมู เป็นเพราะตั้งแต่ปี 2495 สมัยนั้นภัตตาคารบนสะพานสุขตา มีกากหมูซึ่งเหลือจากการเจียวน้ำมันเป็นจำนวนมาก หลายครั้งที่นกนางนวล แอบมากินกากหมูภายในห้องครัว รวมถึงกากหมุที่หล่นลงไปในน้ำ จึงมีการแบ่งกากหมู ใส่ถุงเล็กๆ จำหน่ายให้กับผู้ที่มารับประทานอาหาร ใช้เลี้ยงนกนางนวล จนปัจจุบัน การให้กากหมูกับนกนางนวล จึงเป็นกิจกรรมที่นักท่องเที่ยวนิยมทำกัน สำหรับวิธีให้กากหมู ไม่ควรใช้กากหมุล่อเพื่อจับตัวนก ควรโยนให้นกโฉบกินกลางอากาศ และไม่ควรยื่นให้นกมาจิกกากหมูกับมือ
 ด้านหน้าทางเข้า มีตู้ไปรษณีย์ เพนท์ลายนกนางนวลด้วยครับ เข้ากับสถานที่มากๆ เผื่อใครอยากส่งโปสการ์ด ก็ส่งได้ที่นี่เลยครับ
 สำหรับหาดที่บางปู เป็นหาดโคลนสีดำ ซึ่งอาจจะไม่สวยเหมือนหาดทั่วไป แต่ก็มีประโยชน์ต่อสัตว์น้ำมากมาย เนื่องจากมีความอุดมสมบูรณ์ในด้านความหลากหลายทางชีวภาพ ทำให้มีสัตว์จำพวกกุ้ง หอย ปู ปลาตีน และอีกมากมาย
รวมทั้งยังเป็นแหล่งอาหารของนกอพยพ เพื่อใช้ในการสะสมพลังงานในช่วงฤดูหนาว ครับ หาดโคลน จึงถือเป็น สวรรค์บนดิน ของสิ่งมีชีวิตในป่าชายเลยแถบนี้
สะพานที่เราจะไปดูนกนางนวล มีชื่อว่า "สะพานสุขตา" ครับ เพราะวิวจากสะพานนี้มองไปก็ได้เห็นวิวที่สวยงาม ของท้องทะเลอ่าวไทย รวมถึงนกนางนวลฝูงใหญ่ ที่นี่เปิดให้เข้าชมฟรี ครับ
สำหรับผู้ที่จะเตรียมอาหารไปให้นกเอง ต้องติดต่อเจ้าหน้าที่ด้านหน้าก่อนนะครับ
เพื่อความปลอดภัยของนกนางนวล และระบบนิเวศน์ป่าชายเลนแถบนี้
 เมื่อเข้ามาด้านใน สองข้างทางก็จะเป็นป่าชายเลน ที่อุดมสมบูรณ์ เราไปช่วงเช้า น้ำขึ้นสูงเหมือนกันครับ สะพานสุขตา มีความยาวประมาณ 500 เมตร ยาวไกลไปจนถึง ตัวอาคารด้านหลังสุด ซึ่งก็คือ ศาลาสุขใจ
 ด้านในศาลาสุขใจ ก็จะมีส่วนจัดแสดง รวมถึงจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่ม
เปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 10.00 - 20.00 น.ครับ
 ถัดจากป่าชายเลน ก็จะเป็นปากอ่าวไทยอันกว้างใหญ่ มีการนำไม้ไผ่มาปักเป็นแนวยาว เพื่อลดกระแสคลื่นที่ซัดเข้าฝั่ง และมันยังช่วยกักเก็บสารอาหารอันอุดมสมบูรณ์ ที่พัดจากท้องทะเล รวมถึงเป็นแหล่งอนุบาลสัตว์น้ำขนาดเล็กด้วยครับ
 นอกจากนั้นยังมีประโยชน์ทางอ้อม ก็คือไว้ให้นกเหล่านี้เกาะ อีกด้วย อิอิ
 น่าจะเป็นพวกนกกระยางครับ เห็นขายาวๆ
 นกที่นี่มีหลายชนิดครับ บางตัวก็ปากสีดำ บางตัวก็ปากสีส้ม ตัวนี้สงสัยลงไปเดินหาอาหารกิน ตามันดุจริงๆ บริเวณริมสะพาน จะมีป้ายให้ความรู้เกี่ยวกับนกชนิดต่างๆ ครับ
 นกพวกนี้ก็จะอาศัย ไม้ที่ปักลงน้ำ เป็นที่เกาะ อาศัยครับ ฝูงนี้น่าจะเป็น นกนางนวลหางดำ ครับ
 แถวตรง!! หน้าเดิน อาหาร สำหรับให้นกนางนวล คือ กากหมู ครับ
ถ้าเป็นถาดโฟมแบบนี้ราคา 50 บาท ครับ แพงเหมือนกันเนอะ
 ถ้าเป็นถุงกระดาษเล็กๆ แบบนี้ 10 บาท
หากเป็นชาวมุสลิม ก็มี กากไก่ ไว้จำหน่ายด้วยครับ
 ดูมันปลีกวิเวกกันจัง เนอะ
 ฝูงนกนางนวลพวกนี้ อพยพหนีความหนาวจากแผ่นดินเกิด แถบๆ ตอนกลางของทวีปเอเชีย อย่าง มองโกเลีย ที่ราบทุ่งใหญ่ทางตะวันตกของจีน จนถึงธิเบต รวมถึงไซบีเรีย ซึ่งเป็นเขตหนาวเหนือ อยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศรัสเซีย ครับ
 นกพวกนี้จะเดินทางลงมาทางใต้ อย่างบ้านเรา ซึ่งมีอากาศที่อบอุ่นกว่า
 โดยในช่วงฤดูหนาว นกนางนวลจะอพยพมาอยู่ที่ประเทศไทยมากที่สุดครับ
ช่วงอื่นก็อาจจะพอเห็นบ้างแต่ไม่มากเท่าฤดูหนาว
 ซึ่งที่สถานตากอากาศบางปู จังหวัดสมุทรปราการ นี่แหละครับ ที่มีนกมาอาศัยอยู่มากที่สุด
 หลังจากผมมานั่งนับ เก็บสถิติที่นี่ทุกวัน ก็พบว่า มีประมาณ ปีละเกือบสองหมื่นตัว ครับ
 ซึ่งโดยธรรมชาติของนกอพยพเหล่านี้ ถ้าไปหากินอยู่ที่ใดในโลกแล้ว ปีถัดไป นกเหล่านั้น ก็จะกลับไปหากินที่เดิมอีก เป็นอย่างนี้ตลอดไป
 ยกเว้นนกที่หลงจากฝูง หรือเจ็บป่วยระหว่างการเดินทาง ทำให้บินตามฝูงไม่ทัน ก็อาจจะหลงไปยังที่อื่นได้
 บินกันเต็มท้องฟ้าเลยครับ
 ที่มันลอยน้ำได้ เพราะ มีต่อมน้ำมันอยู่ตามตัวมาก น้ำเลยไม่เกาะขน ขนจึงไม่เปียก พวกนกนางนวลเป็นนกน้ำ มีตีนเหมือนเป็ด มีขนสีขาวอมเทา ดูสะอาดตา
 เวลาที่มันบินขึ้นจากน้ำ ขนจะแห้งเร็ว ไม่เป็นอุปสรรคต่อการบิน ครับ
นกนางนวลเป็นนกขนาดกลาง ครับ รูปร่างคล้ายนกพิราบ แต่ตัวใหญ่กว่านกพิราบนิดเดียว พวกมันชอบกินอาหารตามธรรมชาติ พวก ปลา กุ้ง ที่อยู่ในทะเล หรือ แม่น้ำ ครับ ที่มันบินฉวัดเฉวียน อยู่บนท้องฟ้า ก็เพื่อมองหาอาหารที่อยู่ในน้ำ
 ถ้าเห็นก็จะบินลงไปจิกกินทันที
 โดยเฉพาะในช่วงใกล้เดินทางกลับถิ่นเกิด มันจะกินอาหารไม่เลือก กินทุกอย่าง
เพราะมันต้องกักตุนอาหาร เพื่อใช้เป็นพลังงานในการเดินทางกลับไปยังถิ่นเกิดของมันครับ
 ถ้าสังเกต นกนางนวลมันจะบินวนเป็นวงกลม ครับ
 เวลามันบินผ่านคน ถ้ามันเห็นกากหมูที่เราโยนขึ้นไปในอากาศ เจ้านางนวลแสนรู้ก็จะบินเข้ามางับจิกอาหารในอากาศได้ทันทีโดยไม่ยอมปล่อยให้ตกลงพื้นเด็ดขาด แต่ถ้ามันมองไม่เห็น หรือรับไม่ทัน กากหมูก็จะตกลงไปที่น้ำ ก็จะเป็นหน้าที่ของนกนางนวลอีกส่วนหนึ่ง ที่ลอยคออยู่ในน้ำตรงนั้น บางช่วงที่น้ำทะเลยังไม่ขึ้นสูง ด้านล่างของสะพานสุขตาจะเป็นหาดโคลน
นกนางนวลที่ไม่ได้บิน ก็จะเดินเก็บกินเศษกากหมู อยู่บนพื้นครับ
พอมันเบื่อ มันก็จะสลับหน้าที่กันครับ ระหว่างตัวที่บิน กับ ตัวที่เดิน อยู่ด้านล่าง เวลาที่นกนางนวลบินอยู่ในระดับเหนือผิวน้ำเป็นฝูง จะเป็นภาพที่สวยงามมากครับ
 ธรรมชาติของนกเอง เวลาลอยน้ำจะต้องหันหน้าทวนลม หรือ ลอยทวนกระแสน้ำขึ้น น้ำลงครับ
ถ้าเพื่อนๆมีเวลาว่าง ในวันหยุดสุดสัปดาห์ช่วงนี้ ก็ลองแวะไปสัมผัส ชีวิตนกนางนวล กันได้นะครับ ขอบคุณเพื่อนๆ ที่แวะมาชม พบกันใหม่โอกาสหน้านะครับ หากต้องการติดตาม หรือพูดคุย เชิญได้ ที่ https://www.facebook.com/oLosMagazine เลยครับ
| Create Date : 04 มกราคม 2556 |
| Last Update : 4 มกราคม 2556 15:33:54 น. |
|
3 comments
|
| Counter : 7407 Pageviews. |
 |
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 15 คน [
แวะมาชมฝูงนกนางนวลอพยพ ด้วยคนค่ะ
ภาพสวยงามมากๆค่ะ
ขอให้มีความสุขนะคะ