Bloggang.com : trufa : คุณยอมติดคุกเพื่อช่วยชีวิตใครสักคนไหม

คุณยอมติดคุกเพื่อช่วยชีวิตใครสักคนไหม

. เรื่องมีอยู่ว่า เชอร์รีฟฟ์ โทนี่ และลูอิส เดินทางมาท่องเที่ยวแถบเอเชียอาคเนย์ พวกเขาพักผ่อนอยู่ในบังกะโลริมชายหาดที่มาเลเซีย เพลิดเพลินไปกับเบียร์ กัญชา และผู้หญิง ทั้งสามคนมีช่วงเวลาอันแสนวิเศษร่วมกันก่อนที่จะแยกย้ายกันไป
. เชอร์รีฟฟ์กับโทนี่เดินทางกลับบ้าน ขณะที่ลูอิสตั้งใจจะเข้าร่วมกลุ่มอนุรักษ์อุรังอุตังที่อินโดเนเซีย
สองปีต่อมา ทนายของลูอิสเดินทางมาหาเชอรีฟฟ์และโทนี่เพื่อแจ้งข่าวว่า หลังจากทั้งคู่เดินทางกลับสหรัฐนั้น ตำรวจมาเลเซียได้ตรวจค้นบังกะโลและพบกัญชา100กว่ากรัมที่พวกเขาสูบ ลูอิสจึงถูกดำเนินคดีและติดคุกในมาเลเซียกว่าสองปี
. ปัญหาก็คือกฏหมายมาเลเซียระบุว่าผู้ที่มีกัญชาในครอบครองเกิน 100 กรัม จะถือว่าเป็นผู้จำหน่าย ซึ่งมีโทษประหารชีวิต
. หนทางเดียวที่ ลูอิสจะรอดคือ เชอรีฟฟ์และโทนี่ต้องเดินทางกลับไปที่มาเลเซีย เพื่อมอบตัวในคดีร่วมครอบครองกัญชาจำนวนดังกล่าว ซึ่งถ้าหากพวกเขาทั้งคู่เดินทางกลับไป ก็จะถูกจำคุกที่มาเลเซียคนละสามปี แต่ถ้ามีคนเดินทางกลับไปเพียงคนเดียว เขาก็จะถูกจำคุกหกปี
. นี้คือจุดเริ่มต้นของหนังเรื่อง Return to Paradise (1998) นำแสดงโดย Vince Vaughn (Phycho) รับบทเชอรีฟฟ์ Anne Heche (6 Days and 7 Nights) รับบททนายสาว และ Joaquin Phoenix (Gladiator) รับบทลูอิส หนังที่ใช้ฉากหลังในมาเลเซีย (และเมืองไทยด้วยบางฉาก)เรื่องนี้ ได้ตั้งคำถามหนักอึ้งให้กับตัวละครและก็ย้อนไปตั้งคำถามกับผู้ชมอยู่ในทีว่า หากต้องอยู่ในสถานการณ์นี้ เราจะทำอย่างไร
. ใครที่คิดว่าสามารถตอบคำถามนี้ได้ง่าย ๆ ขอให้ลองกลับไปคิดดูให้ดี…
. ถ้าตัดสินใจกลับไปช่วยเพื่อน เราได้ลองจินตนาการชีวิตสามปีในคุกมาเลเซียไว้หรือยัง (อาจจะเป็นหกปีหากเพื่อนอีกคนไม่เอาด้วย) และถ้าเรากำลังจะแต่งงาน คู่หมั่นเขาจะรอเราหรือเปล่า หรือถ้าเรากำลังจะมีลูก หรือมีแม่ที่ต้องเลี้ยงดูหละ ฯลฯ
แต่ถ้าตัดสินใจไม่กลับ เพื่อนที่มาเลเซียก็จะตาย (ถ้าเราไม่กลับ เพื่อนอีกคนจะยอมกลับไปคนเดียวหรือ?) แล้วเราพร้อมจะแบกความรู้สึกผิดไปชั่วชีวิตหรือไม่ หรือถ้าหากคดีนี้กลายเป็นข่าวครึกโครม เราจะยังมองหน้าผู้คนได้อีกหรือ ?
. หนังเรื่องนี้เป็นเหมือนสถานการณ์จำลองที่ใช้ตั้งคำถามเชิงศีลธรรมที่ตอบได้ยากยิ่ง แต่นี้ไม่ใช่หนังสูตรสำเร็จที่พยายามยัดเยียดคำว่า “คุณธรรม” ให้กับคนดูโจ่งแจ้ง ในทางกลับกันตัวหนังเองกลับพยายามชี้ถึงความสับสนและความลังเลของตัวละครที่ต้องเลือกทางใดทางหนึ่ง ผู้เขียนบทได้วางบุคลิกลักษณะตัวละครได้สมจริงอย่างมาก เราจะเห็นว่าฐานะทางสังคมและทัศนคติที่แตกต่างกัน ทำให้แต่ละคนมีวิธีเผชิญปัญหาที่ต่างกันไป เราไม่อาจแบ่งชัดว่า ใครดี ใครเลว เพราะการตัดสินใจของตัวละครแต่ละตัวนั้นล้วนมีเหตุผลของตัวมันเอง
. เค้าโครงเรื่องลักษณะนี้สะท้อนลักษณะของมนุษย์ทั่วไปอย่างชัดเจนว่า ไม่มีใครอยากเป็นคนเลว หรือต้องการให้ใครเดือดร้อน แต่มนุษย์ก็ยังรักตัวเอง
. Return to Paradise ก็เป็นหนังที่ตีแผ่สัญชาตญาณในการปกป้องตัวเองของมนุษย์เช่นกัน ชื่อเรื่องที่บอกว่า “กลับคืนสู่สวรรค์” นั้นก็เหมือนกับการค้นหาคุณความดีที่ซ่อนอยู่ในจิตใจของมนุษย์นั้นเอง แต่ตัวหนังก็บอกชัดเจนแล้วว่า ทางไปสวรรค์นั้นมันยากลำบากเพียงใด
. ตอนที่ดูหนังผมเองก็มีคำตอบอยู่ในใจเช่นกัน แต่เมื่อดูหนังจนจบผมยอมรับเลยว่าเริ่มลังเลกับคำตอบที่เลือกไว้ เพราะหนังกลับจบอย่างช็อกคนดู จนเราอาจต้องมาตั้งคำถามเกี่ยวกับ “คุณค่าของความดี” กันใหม่ทีเดียว
ในสถานการณ์นี้ คนดูแต่ละคนอาจคิดวิธีรับมือที่ต่างกัน บางคนอาจให้เพื่อนอีกคนตัดสินใจแทน บางคนอาจตอบปฎิเสธโดยไม่ต้องเสียเวลาคิด หรือบางคนอาจยินดีช่วยเพื่อนจนลืมนึกไปว่าช่วงเวลาในคุกเขาอาจต้องเจออะไรบ้าง ไม่ว่าคนดูจะคิดจินตนาการไปทางใด ที่สุดแล้วคำตอบที่คิดไว้อาจเปลี่ยนไปถ้าเราต้องเผชิญคำถามนั้นจริง ๆ

ถ้าเป็นคุณหละ! คุณจะยอมกลับไหม?…

Create Date : 14 มกราคม 2548

Last Update : 14 มกราคม 2548 15:14:59 น.

3 comments

Counter : 1075 Pageviews.

อืม . . คิด หนัก . . !!

โดย: Memo no.72

วันที่: 14 มกราคม 2548 เวลา:17:14:27 น.

แวะมาเยี่ยมค่ะ
คลิกที่นี่ค่ะ

โดย: prncess

วันที่: 14 มกราคม 2548 เวลา:18:34:09 น.

โลกแห่งความเป็นจริง คงไม่มีใครยอมกลับไปง่ายๆหรอก การเอาตัวรอดเป็นสัญชาติญาณของทุกคนอยู่แล้วนี่นะ หรือคุณว่าไง จริงๆผมดูหนังเรื่องนี้นะ จำได้ว่าไม่ค่อยประทับใจเท่าไหร่ ถ้าเค้ามาไทยกัน ก็คงไม่ต้องตกระกำลำบาก ฮิฮิ

++:คลิ๊กที่นี่:++
บ้าน ของพีอาร์ชมรมแพนด้า

โดย: จ๊อบ (joblovenuk

) วันที่: 14 มกราคม 2548 เวลา:18:44:02 น.