The Machinist: Whats eating Christian Bale?
ทันทีที่ได้เห็นภาพตัวอย่างหนังเรื่อง The Machinist หลายคน(โดยเฉพาะสาว ๆ)คงออกอาการตกอกตกใจว่า เกิดอะไรขึ้นกับพระเอกสุดหล่อ เจ้าของผลงานดังอย่าง Equilibrium, Reign of Fire และ American Phycho ที่เที่ยวนี้เจ้าตัวกลับมาในสภาพผอมโทรมสุด ๆ
สิ่งที่น่ากล่าวขวัญในหนังเรื่องนี้ก็คือการลดน้ำหนักอย่างบ้าคลั่งของคริสเตียน เบล จากเดิมประมาณ 82 กก. ลงมาเหลือ 54 กก. (จริงแล้วเขาตั้งเป้าจะลดให้ถึง 45 กก. ด้วยซ้ำ แต่ถูกห้ามไว้เพราะกลัวว่าจะตายเสียก่อน) ข้อมูลที่น่าสนใจก็คือ ช่วงที่เขาลดน้ำหนักนั้น ในหนึ่งวันเขาทานอาหารเพียงปลาทูน่าหนึ่งกระป๋องกับแอปเปิ้ลหนึ่งลูกเท่านั้น (ใครอยากลองนำไปใช้บ้างก็ได้)
ตอนนี้สถิติการลดน้ำหนัก 63 ปอนด์(28.5 กก) ของเขา กลายเป็นสถิติใหม่สำหรับนักแสดงที่ลดน้ำหนักมากที่สุดในการรับแสดงหนังหนึ่งเรื่องไปเรียบร้อยแล้ว
ที่น่าสงสารก็คือ เมื่อเขาถ่ายทำหนังเรื่องนี้เสร็จ เขาก็ต้องเพิ่มน้ำหนักและฟิตร่างกายอีกครั้งเพื่อเตรียมตัวมารับบท Batman ในภาคล่าสุดที่เตรียมจะออกฉายด้วย (หวังว่า The Machinist คงจะไม่ทำภาคสองนะ...)
The Machinist เป็นเรื่องราวของ Trevor (คริสเตียน เบล) พนักงานโรงงานเครื่องจักรคนหนึ่งที่มี ปัญหากับการนอนหลับ และการทานอาหาร (แต่ไม่ยักกะมีปัญหากับเรื่องบนเตียง) คือเขาไม่ได้นอนเลยมาเป็นเวลาหนึ่งปีติดต่อกัน และเป็นโรคเบื่ออาหารขั้นรุนแรง (ดูจากหุ่นก็พอเดาได้) ชีวิตของเขาดำเนินไปอย่างซ้ำซาก Trevor เริ่มสังเกตเห็นสิ่งผิดปกติที่อยู่รอบตัวเขา ไม่ว่าจะเป็นกระดาษโน้ตปริศนาที่ใครก็ไม่รู้มาแปะไว้ในห้องของเขา หรือการได้ล่วงรู้ว่าเพื่อนร่วมงานที่เขาเคยพูดคุยด้วยกลับไม่มีใครในโรงงานรู้จักเลย ยิ่งเขาพยายามค้นหาความจริงมากเพียงใด สิ่งที่เขารับรู้ก็ยิ่งน่าฉงนฉงายมากยิ่งขึ้น
ว่าไปแล้ว The Machinist ไม่ใช่หนังที่ดูสนุก เพราะดำเนินเรื่องค่อยข้างช้า และถ้าดูหนังไปสักพักไม่ถึงครึ่งเรื่องเราก็จะเดาปริศนาเกือบทั้งหมดได้ไม่ยาก มักก็เลยยิ่งน่าเบื่อเข้าไปใหญ่
บทหนังเรื่องนี้คงทำให้ใครหลายคนนึกไปถึงหนังหลายๆ เรื่องทั้ง a Beautiful Mind, Open your Eye Insomnia โดยเฉพาะเรื่อง Spider ของเดวิด โครเทนเบิร์กซึ่งเกี่ยวความผิดบาปในอดีตที่ตามหลอกหลอนและเข้าไปกัดกินจิตใจของตัวละครเอก
สิ่งเดียวที่ทำให้บทหนังเรื่องนี้ไม่ใช่บทหนังธรรมดาๆ ก็คือบทเฉลยความลับของตัวละครตอนท้ายของหนัง ที่เรียงร้อยรายละเอียดทุกส่วนให้ขมวดไว้ด้วยกันอย่างน่าทึ่ง
เราจะเห็นว่า สิ่งของเครื่องใช้ทั้ง เสื้อ ไฟฉาย เบ็ดตกปลา ทะเบียนรถ กระจก บ้านผีสิง ทางแยก หมายเลข 666 ฯลฯ ที่เราละเลยไม่ให้ความสนใจในตอนแรกกลับกลายเป็นส่วนประกอบสำคัญสำหรับบทสรุปของหนัง แม้แต่บทสนทนาเล็ก ๆ น้อย ล้วนแล้วแต่เชื่อมโยงกันหมด
หนังใช้รายละเอียดต่าง ๆ เพื่อสื่อถึงประเด็นสำคัญของหนังที่ว่าด้วยเรื่องของการหลีกหนีอดีตอันเจ็บปวดที่ตามมาหลอกหลอนและการหันกลับมาค้นตัวตนที่แท้จริง โดยอาศัยสัญลักษณ์ต่าง ๆ ทั้ง โรคนอนไม่หลับ การล้างมือ สีแดง ทางแยก กระจก หรือแม้แต่โปสเตอร์หนังที่มีเงาสะท้อนรูปกางเขนบนกระจก ฯลฯ รายละเอียดต่างๆ เหล่านี้ถูกจัดวางอย่างจงใจทั้งสิ้น
The Machinist อาจเป็นหนังดีที่หลาย ๆ คนอาจดูไม่สนุกเลย แต่สำหรับผมแล้วนี้เป็นหนังที่ค่อนข้างคุ้มค่ากับความอดทน ยิ่งเมื่อเห็นความอดทนของคริสเตียน เบลด้วยแล้ว ก็คงไม่เสียหายที่เราจะลองใช้ความอดทนดูหนังเรื่องนี้สักครั้ง
Create Date : 04 สิงหาคม 2548 |
|
5 comments |
Last Update : 4 สิงหาคม 2548 17:15:32 น. |
Counter : 3514 Pageviews. |
|
|
|