เครียดกับการที่มาเที่ยวเมืองไทยปีนี้



นี่เป็นครั้งแรกที่ได้อัพเดท blog ของตัวเองขณะที่อยู่ในเมืองไทยและกำลังที่จะต้องจากไปในอีกไม่กี่วันข้างหน้า มาคราวนี้เครียดมากกับเหตุการณ์น้ำท่วมในภาคกลางและในกรุงเทพๆ และก็เข้าใจว่าคนที่บ้านน้ำท่วมนั้นจะต้องเครียดแค่ไหน ได้เห็นได้ฟังอะไรจากทางทีวี ฟังมากจนมันสับสนและไม่เข้าใจกับสิ่งอะไรหลายๆอย่าง หรือว่าเรามันอาจจะห่างเหินจากสังคมไทยไปนานทำให้ไม่เข้าใจอะไรเลย


ปีนี้เดินทางมาคนเดียวไม่ได้พบน้องๆชาว bloggang เพื่อนฝูงก็ไปเยี่ยมไม่ได้เพราะห่วงบ้านของตัวเองไอ้เรารึจะเข้ากรุงเทพๆก็ไม่ได้เพราะหลายๆที่ในกรุงเทพๆก็น้ำท่วมแล้วเลยต้องติดแหงกอยู่ที่บ้านเมืองกาญจน์นั่นแหละ แถมไม่มีคนขับรถให้อีกเลยต้องพยายามทำใจกล้าขับรถออกไปไหนมาไหนด้วยตัวเอง คนกรุงเทพๆอพยพหนีน้ำไปอยู่เมืองกาญจน์กันมากเพราะเห็นได้จากการจราจรที่ติดขัดและหาที่จอดรถก็ไม่ค่อยจะได้เลยในตัวเมือง ทั้งรถทั้งคนเยอะจริงๆ


วันแรกที่ถึงเมืองกาญจน์ก็หาซื้อน้ำดื่มไม่ค่อยได้แล้วแต่ก็ทราบล่วงหน้ามาก่อนทางทวิตเตอร์แล้วว่าน้ำดื่มที่เทสโกโลตัสไม่มีขายเลยต้องขับรถตระเวนหาน้ำดื่มตามร้านที่อยู่ออกไปนอกเมืองซึ่งก็พอจะมีอยู่บ้างและถึงแม้ราคาจะสูงขึ้นแต่ก็ต้องซื้ิอตุนเอาไว้จนกว่าจะเดินทางกลับ น้ำขึ้นให้รีบตักโกยได้โกยเอาเพราะมันเป็นสำนวนไทยที่สอนกันเอาไว้แต่โบร่ำโบราณ และวันแรกที่เดินทางถึงเมืองกาญจน์ก็ได้ทราบจากคุณแม่ว่าน้าสาวและครอบครัวก็จะอพยพจากดอนเมืองมาอยู่ที่บ้านคุณแม่ชั่วคราว ส่วนบ้านของตัวเองก็จะเตรียม stand by ไว้สำหรับครอบครัวของหลานซึ่งก็ไม่รู้ว่าน้ำจะท่วมเมื่อไร


ช่วงอาทิตย์แรกก็นั่งอยู่แต่หน้าทีวีทั้งกลางวันและกลางคืนดูมันทุกช่องยิ่งดูก็ยิ่งเครียดเพราะเริ่มอารมณ์เสียเพราะไม่รู้ว่าจะดูช่องไหนและจะฟังใครและก็คิดว่าหลายๆคนก็คงจะคิดเช่นเดียวกัน ไม่เห็นมีช่องไหนที่จะมีคนของรัฐบาลออกมาชี้แจงใดๆทั้งสิ้นมีแต่สื่อของแต่ละช่องนำเอาผู้มีความรู้ทั้งหลายออกมาพูด ทำให้รู้สึกว่าเมืองไทยเรานี้มีนักวิชาการเยอะมาก ด๊อกเตอร์มีให้เกลื่อนบ้านเกลื่อนเมืองทำให้นึกย้อนหลังไปเมื่อ 40 ปีที่ผ่านมาที่จบปริญญาตรีออกมาก็ยังหางานทำกันแทบไม่ได้แต่เดี๋ยวนี้ยิ่งหนักเข้าไปอีกต้องปริญญาโทหรือไม่ก็เอกจากเมืองนอกมาถึงจะได้มีโอกาสหางานทำได้ง่ายมีรายได้ดี จึงไม่ค่อยจะแปลกใจอะไรเท่าไรว่าบางครั้งตัวเองดูทีวีแล้วฟังไม่รู้เรื่อง ถ้าเราฟังไม่รู้เรื่องแล้วตาสีตาสาเขาจะฟังรู้เรื่องไหมเนี่ย


สงสารรัฐบาลชุดนี้นะเพิ่งจะเริ่มเข้ามาเป็นรัฐบาลโดยที่ไม่มีประสบการณ้อะไรทั้งสิ้นกลับต้องมาเจอปัญหาที่ตัวเองทำอะไรไม่ถูกคนไทยก็เลยต้องมารับเคราะห์กันไปอย่างแสนสาหัส นักวิเคราะห์นักวิชาการออกมาพูดออกสื่อกันปาวๆให้ประชาชนฟังแล้วประชาชนจะไปทำอะไรได้ก็เพียงแต่นั่งฟังเท่านั้นเอง ยังสงสัยว่านักวิเคราะห์และนักวิชาการเหล่านี้ทำไมไม่ติดต่อกับรัฐบาลโดยตรงและให้ข้อเสนอแนะกับรัฐบาลหรือรัฐบาลไม่จำเป็นต้องขอความช่วยเหลือจากใครเพราะจากที่ได้ฟังและดูทางทีวีก็คือว่าไม่มีปัญหาเราป้องกันได้และจัดการได้น้ำมันมาแล้วมันก็ไป แทบจะทุกช่องก็เอาภาพน้ำท่วมในกรุงเทพๆเมื่อเกือบ 70 ปีที่ผ่านมาเพื่อให้คนไทยรุ่นใหม่ได้เห็นว่ารุ่นพ่อแม่ปู่ย่าตายายที่อยู่ในกรุงเทพๆก็เคยได้พายเรือมาแล้วเนื่องจากน้ำท่วมกรุงเทพๆ ดูแล้วก็สงสัยว่านี่สื่อเมืองไทยเขาต้องการให้ประชาชนยอมรับกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ไม่ต้องนึกถึงการป้องกันไม่ต้องเรียกร้องอะไรมากนัก นี่ถ้าเกิดแผ่นดินไหวขึ้นมาแล้วจะทำอย่างไรกัน


เมื่อมีข่าวออกว่าน้ำเริ่มเข้านิคมอุตสาหกรรมบางชันและลาดกระบังแล้วสนามบินสุวรรณภูมิมันก็อยู่ติดอยู่แค่นั้นแล้วมันจะรอดหรือดูข่าวแล้วก็รู้สึกไม่มีใครที่จะให้คำตอบได้ ก็เลยคิดว่ารัฐบาลคงจะต้องมีแผนการณ์รองรับหากมันจะเกิดขึ้นจริงๆเพราะสนามบินดอนเมืองมันก็ท่วมไปแล้ว ยิ่งได้้ฟังรัฐมนตรืกระทรวงอะไรก็ไม่รู้ออกมาพูดทางทีวีว่าขอร้องให้บริษัทท่องเที่ยวช่วยชี้แจงกับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติว่าสถานท่องเที่ยวของไทยตามแหล่งต่างๆและทางภาคใต้น้ำยังไม่ท่วม ตอนนั้นรอบวัดพระแก้วน้ำก็เจิ่งแล้ว ทำไมไม่เชิญผู้สื่อข่าวทั่วโลกที่ทำข่าวอยู่ในเมืองไทยแล้วชี้แจงให้เขาทราบ แต่ก็คงจะไม่กล้าหรอกเพราะถ้าโดนฝรั่งซักก็คงจะตอบอะไรไม่ได้ขายหน้าเขาไปทั่วโลกอีกก็เลยออกเฉพาะสื่อไทยก็พอ เสียดายว่าที่เมืองกาญจน์น่ะอยู่ห่างจากกรุงเทพๆเพียงแค่ 120 ก.ม.แต่ความเจริญไม่ว่าทางด้านไหนมันยังไปไม่ถึงซื้อ mobile internet 200 ชั่วโมงกว่าจะเช็ค e-mail แต่ละทีก็รอแล้วรออีกเลยไม่สามารถที่จะอ่านข่าวต่างประเทศได้ แต่เพื่อนที่ทำงานก็อุตส่าห์โทรมาเช็คตลอดเวลาว่าเป็นอย่างไรบ้างกลัวจะกลับไปทำงานไม่ได้ แต่ก็บอกว่าข่าวที่สวีเดนออกว่าสถานการณ์น้ำท่วมในเมืองไทยนั้นวิกฤคิแล้ว ก็เลยบอกว่าเฮ้ยรัฐบาลไทยยังไม่เห็นบอกอะไรเลยไม่ต้องห่วงจะต้องได้กลับไปทำงานอย่างที่แพลนเอาไว้


แต่อย่าลืมนะคะเมืองไทยก็คือเมืองไทยฝรั่งเขาถึงได้ให้ชื่อย่อๆของเมืองไทยว่า TIT=This is Thailand เพราะฉะนั้นจะมัวมานั่งฟังคนนั้นพูดทีคนนี้พูดทีไม่ได้แล้ว If you didn't hear it with your own ears or see it with your own eyes, don't invent it with your small mind and share it with your big mouth!


ค่ะเนื่องจากว่าได้ติดต่อรถตู้เพื่อจะให้ไปส่งที่สุวรรณภูมิวันที่จะเดินทางกลับแต่พอเมื่อได้ยินข่าวว่าน้ำเริ่มเข้าไปที่บางชันก็ชักจะใจไม่ดีเลยตัดสินใจที่จะต้องโทรไปถาม ศปภ 1111 กด 5 ตามที่ได้เห็นในทีวีแทบทุกช่องเมื่อวันที่ 8 พ.ย.แล้วก็ได้เรื่องมาแบบนี้แหละค่ะ


ผู้เขียน - สวัสดีค่ะอยากทราบข้อมูลเรื่องสนามบินสุวรรณภุมิเนี่ยน้ำมันจะท่วมรึเปล่าคะเพราะดูข่าวทางทีวีว่าน้ำได้เข้าถึงนิคมอุตสาหกรรมบางชันแล้วและถ้ามันถึงลาดกระบังแล้วมันก็คงต้องถึงสุวรรณภูมิแน่ๆ

ศปภ - ไม่หรอกค่ะทางเรามีการป้องกันอย่างเต็มที่แล้ว สุวรรณภูมิจะไม่ท่วมเด็ดขาด


ผู้เขียน - ถ้าเกิดน้ำมันมาถึงจริงๆแล้วทางรัฐบาลมีแผนอะไรไว้บ้างรึเปล่าคะเพื่อให้เครื่องบินขึ้นลงได้เพราะถ้าเกิดมีสภาพอย่างดอนเมืองแล้วนักท่องเที่ยวเขาจะเดินทางกลับประเทศจากที่ไหนคะเพราะพี่จะต้องเดินทางออกนอกประเทศอาทิตย์หน้าแล้ว ทางรัฐบาลจะรับประกันอะไรได้บ้างเพราะพี่เปลี่ยนตั๋วไม่ได้ จะทำได้ก็คือต้องซื้อตั๋วใหม่แล้วใครจะจ่ายค่าทดแทนให้

ศปภ - นั่นเป็นอนาคตที่ทางเราไม่สามารถจะให้คำตอบได้ค่ะ ทางเรามีข้อมูลเฉพาะวันต่อวันต้องคอยติดตามดูทางทีวีค่ะ


ผู้เขียน - อึ้งค่ะ ก็เลยถามต่อไปว่าถ้าชาวต่างประเทศเขาโทรมาถามก็จะบอกให้เขาเฝ้าดูข่าวทางทีวีเหมือนกันหรือคะ คงไม่มีฝรั่งคนไหนมานั่งดูทีวีข่าวไทยที่ฟังไม่รู้เรื่องหรอกนะคะ เข้าใจค่ะว่าน้องเหมือนเจ้าหน้าที่ระดับล่างที่ต้องรับหน้าที่ให้ข่าวเฉพาะที่น้องมี เพราะฉะนั้นต้องจดไว้ทุกคำถามที่มีคนโทรเข้ามาติดต่อว่ามีใครสอบถามที่จะทราบเรื่องอะไรบ้างหรือว่าจะต้องมีการอัดเทปไว้เผื่อมีใครโทรเข้ามาขู่จะได้เอาไว้เป็นหลักฐานฟ้องร้องทางกฏหมาย เห็นเบอร์ของพี่ขึ้นอยู่บน display รึเปล่าคะ


ศปภ - ขึ้นค่ะและทางเราก็จะรายงานไปให้ผู้ที่มีความรับผิดชอบทราบค่ะ

ผู้เขียน - ขอให้น้องบอกความจริงดีกว่าค่ะเพราะทราบว่าน้ำมาถึงสุวรรณภูมิแล้ว

ศปภ - ก็เป็นเพียงซึมเข้ามาเล็กน้อยค่ะและเครื่องบินยังคงบินขึ้นลงได้ค่ะ



ที่จริงการสนทนายังมีต่ออึกยาวค่ะแต่เอามาเล่าให้ฟังเพียงแค่นี้ก่อนเพราะหลังจากนั้นก็ต้องนั่งเฝ้าดูทีวีเหมือนกับที่เขาบอกนั่นแหละค่ะ ไม่มีคนหน้าไหนในรัฐบาลที่ออกมาชี้แจงก็ต้องมานั่งฟังนักวิชาการทั้งหลายที่วิเคราะห์เหตุการณ์จนไม่รู้ว่าจะฟังใคร ยังคิดว่าตัวเองเป็นคนที่โชคดีที่ยังฟังภาษาไทยรู้เรื่อง แต่พอมาได้ข่าวว่าน้ำกำลังจะมาถึงพระราม 2 แล้ว เอาล่ะซิแล้วเราจะเดินทางไปสุวรรณภูมิยังไงละเนี่ยเพราะมันมีอยู่ทางเดียวที่จะไปได้ ก็ต้องสอบถาม ศปภ อีกตามเคยเมื่อวันที่ 11 พ.ย.เพราะจะให้ไปถามคนไทยที่ไหนก็คงไม่มีใครทราบ


ผู้เขียน - อยากทราบว่าถ้าถนนพระราม 2 น้ำท่วมแล้วจะมีเส้นทางไหนที่จะเดินทางไปสุวรรณภูมิได้คะ

ศปภ - พระราม 2 น้ำยังไม่ท่วมนะคะ

ผู้เขียน - เริ่มนับหนึ่งถึงสิบแล้วค่ะ เลยตอบว่าน้องฟังคำถามที่พี่ถามรึเปล่าคะทราบค่ะว่ายังไม่ท่วมแต่ตอนนี้มันจะถึงพระราม 2 แล้วนะคะเพราะนักวิชาการเขาบอกว่าอย่างนั้นน้องดูทีวีรึเปล่าคะ


ศปภ - จะเดินทางจากที่ไหนคะ

ผู้เขียน - จากกาญจนบุรีค่ะ

ศปภ - รอสักครู่ค่ะ

แล้วสายก็ตัดไปโดยปริยายก็ต้องกดใหม่อีกแล้วก็เริ่มต้นกันใหม่

ผู้เขียน - เมื่อสักครู่ได้โทรมาติดต่อสอบถามว่าถ้าถนนพระราม 2 น้ำท่วมจะเดินทางจากกาญจนบุรีไปสุวรรณภุมิได้ทางไหนคะ

ศปภ - รอสักครู่ค่ะ


แล้วก็รอสักพักถึงจะได้คำตอบว่าให้ไปเส้นทาง 304 ฟังแล้วก็งงเพราะแผนที่ประเทศไทยก็ไม่มีแล้วเราจะรู้ได้อย่างไรกว่าจะรู้ชัดแจ้งเล่นเอาเหนื่อยค่ะเหนื่อยใจ

แถมเมื่อได้ฟังการประชุมรัฐสภาได้ฟังสมาชิกทั้งหลายอภิปรายก็ยิ่งเหนื่อยเข้าไปอีกไม่รู้เลือกเอาเข้าไปเป็นตัวแทนได้อย่างไร เอาเถอะเราก็ต้องคอยดูปีหน้ากันต่อไปว่าจะมีปัญหาอะไรเกิดตามขึ้นมา ตอนนี้สงสารแต่คนจนที่ยิ่งจนหนักเข้าไปอีกแต่ไม่เป็นไรเดี๋ยวน้ำลดทุกอย่างก็จะกลับเหมือนสภาพเดิมและอะไรต่อมิอะไรมันก็จะเลือนหายไปกับสายน้ำ สำหรับชาวบ้านได้ดูละครได้ดูตลกลดความทุกข์ไปได้โขเหมือนกันนะ









 

Create Date : 14 พฤศจิกายน 2554
2 comments
Last Update : 14 พฤศจิกายน 2554 12:25:45 น.
Counter : 659 Pageviews.

 

สวัสดีค่ะพี่ mellitus

เมื่อเช้าหนู ส่ง sms ไปให้พี่ค่ะ ตอนประมาณ 9.00 น ของวันศุกร์ เพราะจำได้ว่าพี่จะเดินทางวันศุกร์ค่ะ ไม่แน่ใจว่าจะได้รับข้อความหรือเปล่าค่ะ


เมื่อคินวันพฤหัส เข้านอนเร็วค่ะ ก็เลยไม่ได้คุยกับพี่ทางโทรศัพท์


เมื่อกี้หยิบโทรศัพท์มาดู เจอข้อความ sms จากพี่ ก็ดีใจด้วยค่ะ ที่เดินทางถึงบ้านที่สวีเดนแล้ว ปลอดภัยนะคะ


ช่วงเวลาก่อนหน้านี้หลายอาทิตย์ และปัจจุบันนี้หลายคนก้เครียดอยู่ เพราะกลับบ้านไม่ได้ คิดถึงบ้าน และอีกหลายอย่าง หนูเองก็เช่นกัน มีงานที่อยู่ที่บ้าน ก็ไปเอาไม่ได้ เพราะน้ำท่วมมาก


พี่ mellitus ค่ะ ไม่ใช่เส้นถนน 304 ค่ะ แต่เป็น 340 ค่ะ แถวๆบ้านหนูเองค่ะ ก่อนหน้านี้ 2 วันที่ดูข่าว 340 นำเรือมาวิ่งได้เลยค่ะ ยังไม่แห้งสนิทดี ทราบไหมค่ะ ว่าเขาสูบน้ำไปทิ้งที่ไหน เขาก็นำน้ำจาก 340 มาทิ้งในซอยแถวๆ หมู่บ้านละแวกนั้นค่ะ ตอนนี้ 1 เดือนแล้วค่ะ ที่น้ำในหมู่บ้านต่างๆตรงนั้น น้ำไม่ลดเลย


คาดว่าคงต้องสิ้นมกราคมกว่าจะแห้งค่ะ น่าเศร้าค่ะ


 

โดย: athena_b 18 พฤศจิกายน 2554 21:22:58 น.  

 

ดีใจด้วยค่ะที่เดินทางกลับสวีเดนได้อย่างที่ตั้งใจไว้
คงเครียดและเสียอารมณ์ใช่น้อยกับการแก้ปัญหาน้ำท่วม
ของรัฐบาลไทยนะคะ
หนูเองแทบไม่อยากจะเปิดทีวีดูข่าวเลยค่ะ
เพราะมีแต่ข่าวน้ำท่วม และน้ำท่วมทุกวี่ทุกวัน เป็นเดือนๆ
ไม่มีวันไหน ที่จะไม่มีคนมาวิเคราะห์สถานการณ์น้ำท่วม
อยู่หน้าจอทีวี
หนูก็คิดเหมือนคุณค่ะ ว่าจะมาวิเคราะห์ให้ประชาชนฟังทำไม ทำไมไม่ไปบอกรัฐบาล หรือไปประชุมตกลงกันว่าจะแก้ปัญหายังไง
ดูข่าวแล้วหนูต้องเอาธรรมมะเข้าข่มทุกทีค่ะ ไม่งั้นอารมณ์เสีย จิตตก
บ้านหนูน้ำไม่ท่วมก็จริง เพราะอยู่จันทบุรี แต่หนูก็อดรู้สึกขัดเคืองใจ และหดหู่แทนคนกรุงเทพฯไม่ได้
อีกอย่าง..ที่รู้สึกอายต่อสายตาชาวโลกเหลือเกิน
ก็คือข่าวที่นักการเมืองทำตัวเหมือนปอบ คอยดูดเลือดดูดเนื้อ โกงได้แม้กระทั่งถุงยังชีพ อะไรก็ไม่ช้ำใจเท่าคนไทยซ้ำเติมกันเองหรอกค่ะ
น่าอายเหลือเกิน

 

โดย: หกพันไมล์ 20 พฤศจิกายน 2554 0:23:28 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


Mellitus
Location :
กาญจนบุรี Sweden

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 16 คน [?]




ขอปรับปรุงข้อมูลของตัวเองซักหน่อยเอาเป็นว่าเป็นคนไทยคนหนึ่งที่อาศัยอยู่ในสวีเดนมานานพอสมควรและชอบกับระบบและวัฒนธรรมของสวีเดนจึงทำให้เข้ากับชีวิตประจำวันของตัวเองได้ดีทีเดียว

เป็นคนเกิดที่จังหวัดกาญจนบุรีแต่มาแก่อยู่ที่กรุงสต๊อกโฮล์ม อายุเริ่มมากแล้วแต่จิตใจยังวัยรุ่นอยู่เพราะไม่มีเวลาที่จะมากังวลเรื่องความแก่ ถ้าคิดว่าตัวเองแก่มันก็แก่อย่างที่คิด
กำลังคิดที่จะเขียนประวัติย่อๆของตัวเองเพราะมีน้องคนหนึ่งเขียนถามมา ที่จริงไม่ค่อยอยากจะเปิดเผยเท่าไร เพราะชีวิตจริงไม่มีอะไรที่น่าตื่นเต้นแต่อาจจะเป็นสิ่งที่น่าเบื่อหน่าย เพราะนั่งอยู่หน้าคอมพิวเตอร์ทั้งที่ทำงานและในยามว่าง ไม่ค่อยมีคนไทยเป็นเพื่อนเนื่องจากเป็นคนตรงและปากเสีย เลยคนส่วนใหญ่ไม่อยากจะคบ ไม่เคยเกรงกลัวคนประเภทโอ่ๆทั้งหลาย เคยทำงานที่ Office of Commercial Affairs มาก่อน (เดี๋ยวนี่คงจะไม่มีแล้วในสวีเดน ไม่ทราบเหมือนกัน) เจอประเภทพวกใหญ่ๆโตๆทั้งหลายที่มาสวีเดนมาแล้วทำตัวเหมือนเจ้าแล้วมองคนอื่นเหมือนทาส เลยเบื่อและออกห่างจากสังคมไทยมานานเกือบ 20 ปีแล้วเนื่องจากเห็นมาเยอะ เกลียดคนที่ชอบเลียก้นนักการเมืองและผู้ที่มีอิทธิพลทั้งหลาย วัฒนธรรมและขนบธรรมเนียมประเพณีของไทยไม่เคยลืมแต่จะใช้และแสดงออกก็ต่อเมื่อฝ่ายตรงข้ามสมควรที่จะได้รับ



Locations of visitors to this page







Group Blog
 
<<
พฤศจิกายน 2554
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
27282930 
 
14 พฤศจิกายน 2554
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add Mellitus's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.