ตลาดสามชุก



ได้อ่านข่าวจากหนังสือพิมพ์รายวันของสวีเดนที่ชื่อว่า Dagens Nyheter ของวันที่ 22 กรกฎาคม 2553 ในหัวข้อที่ว่า ตลาดของไทยที่ได้รับรางวัลกำลังอยู่ภายใต้การคุกคาม นี่ถ้าไม่ได้เห็นคำว่า " ไทย" ก็คงจะไม่ได้สนใจที่จะอ่านแถมไม่รู้ด้วยว่าตลาดอะไรที่ได้รับรางวัลจากใครที่ไหน


พอเห็นชื่อสามชุกและสุพรรณบุรีจึงนึกขึ้นได้ว่าเคยเห็นรูปที่สมาชิกหลายๆคนใน bloggang เอามาเขียนเมื่อได้ไปเยี่ยมเยียนกันมา หนังสือพิมพ์ฉบับนี้ยังได้อ้างอิงข้อเขียนใน Bangkok Post ที่ได้ตีพิมพ์เมื่อวันที่ 12 ธันวาคม 2552 ถึงได้ทราบว่าตลาดสามชุกได้รับรางวัลในด้านการอนุรักษ์ความเก่าแก่ของสถาปัตยกรรมการก่อสร้างด้วยไม้จากองค์การยูเนสโก ซึ่งเมื่อ 10 ปีมาแล้วเกือบจะไม่ได้คงอยู่ให้คนไทยรุ่นหลานเหลนได้เห็นสภาพการเป็นอยู่ของชาวบ้านที่ดำรงชีวิตมาเป็นเวลาร้อยปีเพราะมันเกือบจะถูกรื้อทิ้งและสร้างเป็นตึกแทนแต่ด้วยที่ชุมชนชาวบ้านสามชุกได้ทำการคัดค้านตลาดสามชุกจึงได้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวของคนไทยและทำให้มีอีกหลายจังหวัดเปิดตลาดเก่าขึ้นมาอีกมากมายเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวไม่ว่าจะเป็นคนไทยหรือคนต่างชาติก็ตาม


จากการเขียนของหนังสือพิมพ์ Dagens Nyheter ก็นำเอาข้อความจากหนังสือพิมพ์ Bangkok Post ของวันที่ 17 ก.ค. 2553 มาลงและได้มีหลายคนออกความคิดเห็นเรื่องนี้ในเรื่องของทุนนิยมรวมทั้งยังอ้างถึงการเมืองของไทยไปด้วย


สรุปได้ว่านักท่องเที่ยวที่ไปเยี่ยมเยือนไม่ได้คำนึงถึงประวัติศาสตร์และวัฒณธรรมของการดำรงชีวิตของชุมชนสามชุกเท่าใดนักแต่ไปเพื่อจับจ่ายหาซื้อของและทานอาหาร และเมื่อมีนักท่องเที่ยวมากขึ้นก็เกิดมีการขายสินค้าเพิ่มขึ้นด้วย แต่สินค้าที่ขายกลับกลายไม่ใช่สินค้าพื้นเมืองที่ชุมชนสามชุกได้ใช้ตลาดแห่งนี้ดำรงชีวิตการซื้อขายของพื้นเมืองมาเป็นเวลาร้อยปีและนี่ทำให้เสน่ห์และเอกลักษณ์ของความเป็นตลาดเก่าแห่งนี้กำลังลดถอยลง


อ่านแล้วก็สร้างจินตนาการว่าอีก 10 ปีข้างหน้าตลาดนี้จะมีสภาพเป็นอย่างไรถ้าจะให้มีอยู่ถึงในเวลานั้น หากคนไทยด้วยกันไม่ช่วยกันรักษาและอนุรักษ์ของไทยๆเอาไว้อีกหน่อยตลาดนี้คงจะกลายเป็นช๊อปปิ้งมอลขนาดเล็กเพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยวที่เพิ่มมากขึ้นและคงสามารถหาซื้อเครื่องอีเล็กโทรนิคที่ทันสมัยเมดอินในต่างประเทศได้อย่างแน่นอน






Create Date : 24 กรกฎาคม 2553
Last Update : 24 กรกฎาคม 2553 4:59:54 น. 11 comments
Counter : 754 Pageviews.

 
ผมว่าน่าจะอยู่นานเพราะชุมชนดูแลกันเอง


โดย: คนขับช้า วันที่: 24 กรกฎาคม 2553 เวลา:6:13:20 น.  

 
ผมว่าจริง..อย่างที่เขาว่า
ตอนนี้กลายเป็นว่าคนไปสามชุกเพราะของกิน...รวมทั้งผมด้วย

สงสัยต้องช่วย ๆ กันสะกิดเรื่องนี้หน่อยล่ะครับ...





โดย: CEO นิ้วก้อย วันที่: 24 กรกฎาคม 2553 เวลา:8:43:03 น.  

 
เมื่อก่อนก็อยู่กันได้ดี
แต่พอมีการโหมประชาสัมพันธ์มากเข้า กลับสูญเสียเอกลักษณ์ไป

ก็น่าคิดเหมือนกันนะครับ
ว่าต่อไปตลาดแห่งนี้จะคงอยู่ในทิศทางใด


โดย: ทุเรียนกวน ป่วนรัก วันที่: 24 กรกฎาคม 2553 เวลา:9:09:24 น.  

 
เลี้ยวเข้ามาเห็นตลาดสามชุก ซึ่งพึ่งเคยไปสัมผัสเพียงครั้งเดียว ก็อยากออกความเห็นประสาคนอยู่ไม่สุข

สามชุก ตลาดเก่าแก่เป็น 100 ปี อาจเปลี่ยนแปลงไปได้จริงแบบคุณว่า อาจจะไม่ถึง 10 ปีข้างหน้าด้วยซ้ำ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับวิสัยทัศน์ของผู้บริหารตลาด ว่าจะเน้นความเก่าแก่แต่ดั้งเดิม เน้นวัฒนธรรมพื้นบ้านทั้งของกินของใช้ หรือว่าเน้นที่ตัวเงิน อะไรก็ได้ ขอให้คนเข้ามาเที่ยวเยอะๆ ถ้าปล่อยปละละเลย อีกหน่อยสามชุกหรือที่ไหนก็แล้วแต่ คงไม่แตกต่างกับตลาดนัดทั่วๆไป จริงไหมครับ


โดย: ปลายแป้นพิมพ์ วันที่: 24 กรกฎาคม 2553 เวลา:10:12:57 น.  

 


สวัสดีคะ แวะมาทักทายในวันหยุดยาวๆ
มีโปรแกรมไปเที่ยวไหนบ้างเอ่ย
มีความสุขมากๆ นะคะ


โดย: หน่อยอิง วันที่: 24 กรกฎาคม 2553 เวลา:12:34:12 น.  

 
ถูกของเค้าเลยค่ะ เราเป็นคนไทยเอง เราก็รู้ตัวว่าตลาดสามชุกและตลาดน้ำอัมพวา เปลี่ยนไปเยอะ

คนต่างถิ่นเข้าไปจับจองพื้นที่ ขายสินค้าอารต์ๆแนวๆ เยอะขึ้นทุกปี

แต่ก็ต้องยอมรับว่า คนที่ไปเที่ยว ก็ไม่ได้ชื่นชมกับความเก่าแก่ดั้งเดิมจริงๆเลยค่ะ

ไปดูแต่ว่ามีอะไรกิ๊บ เก๋ขายมั่ง มาอะไรเท่ห์ๆให้ไปยืนถ่ายรูปมั่ง

อุปสงค์ อุปทานเลยเกิดค่ะ

ตอนนี้กำลังห่วงเมืองเชียงคานค่ะ ว่าจะสูญเสียความเป็นเมืองดั้งเดิมไปอีกเมือง

ไม่อยากให้เป็นอย่างนั้นเลยค่ะ

ขอบคุณสำหรับข่าวจากสวีเดนนะคะ มันทำให้เราได้นึกมองย้อนตัวเองจริงๆค่ะ


โดย: Shallow Grave วันที่: 24 กรกฎาคม 2553 เวลา:13:51:49 น.  

 
สวัสดีค่ะ

ก็คงจะเหมือนหลายๆที่ค่ะ

ได้ยินข่าวว่าที่ปราย นักท่องเที่ยวเยอะมากๆ อะไรหลายๆอย่างก็เริ่มจะเปลี่ยนไปค่ะ

แต่หารู้ไม่ว่าที่คนทั่วๆไปเข้าแห่ไปกัน ก็เพราะต้องการสัมผัสวิถีชีวิตแบบดั่งเดิม ตามที่ควรจะเป็น

ถ้าเปลี่ยนมากจนไม่สามารถหาความแตกต่าง ในแต่ละที่ได้ ทุกๆอย่างเหมือนกันหมด

ก็ไม่มีอะไรน่าดึงดูดให้ไปเที่ยวที่นั่นอีกต่อไปค่ะ





โดย: athena_b วันที่: 24 กรกฎาคม 2553 เวลา:20:58:58 น.  

 

สวัสดีตอนเช้าของ เนเธอร์แลนด์ จ้า



จอมแก่นยังไม่เคยไปตลาดสามชุกเลยสักครั้ง
อ่านแบบเนี่ยแล้วอยากลองไปดูสักครั้งจังเลยอะจ้า
ขอบคุณที่นำเรื่องราวดีๆๆมาให้อ่านและขอบคุณมากนะจ้า
ที่แวะไปชมดอกไม้ที่บล็อกจอมแก่น

* ขอให้มีความสุขและสุขภาพแข็งแรงนะจ้า *


โดย: จอมแก่นแสนซน วันที่: 25 กรกฎาคม 2553 เวลา:13:31:07 น.  

 
สวัสดีตอนเช้าตรู่มากๆค่ะ

และราตร๊สวัสดิ์ค่ะ

แวะมาลาเข้านอนค่ะ

บ๊อกๆ บ๊อกๆ





โดย: athena_b วันที่: 26 กรกฎาคม 2553 เวลา:5:02:50 น.  

 
ทุเรียนกวนที่ชาวสวนจริงๆทำขาย เขาจะไม่ใส่ยากันบูด วางไว้ในอุณหภูมิห้องอย่างเก่งก็ 7 วัน หลังจากนั้นมันก็จะขึ้นเห็ด เป็นอันตรายต่อผู้บริโภค ส่วนที่วางขายในห้าง หรือร้านสะดวกซื้อ ผมเห็นมีตลอดปี แน่นอนนะครับว่าจะหลีกเลี่ยงยากันบูดไม่ได้เลย ส่วนผสมก็แน่นอน มั่นใจได้เลยว่าไม่ใช่เนื้อทุเรียนล้วนๆ

อากาศและความเป็นอยู่ทางโน้น เป็นอย่างไรบ้างครับ เมืองไทยตอนนี้ก็ฝนตกชุก การเมืองก็อึมครึม อย่างเมื่อวานก็มีระเบิดหน้าห้างบิ๊กซีในกรุงเทพฯ มีทั้งคนเจ็บและคนตาย แย่นะ..บ้านเรา เมื่อไหร่จะกลับมาสงบสุขเหมือนเดิมก็ไม่รู้


โดย: ปลายแป้นพิมพ์ วันที่: 26 กรกฎาคม 2553 เวลา:7:54:02 น.  

 
แวะมาอ่านจร้าว่างๆแวะไปเยี่ยมblogเราบ้างนะ bigeye


โดย: NSA (tewtor ) วันที่: 13 เมษายน 2554 เวลา:12:19:45 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Mellitus
Location :
กาญจนบุรี Sweden

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 16 คน [?]




ขอปรับปรุงข้อมูลของตัวเองซักหน่อยเอาเป็นว่าเป็นคนไทยคนหนึ่งที่อาศัยอยู่ในสวีเดนมานานพอสมควรและชอบกับระบบและวัฒนธรรมของสวีเดนจึงทำให้เข้ากับชีวิตประจำวันของตัวเองได้ดีทีเดียว

เป็นคนเกิดที่จังหวัดกาญจนบุรีแต่มาแก่อยู่ที่กรุงสต๊อกโฮล์ม อายุเริ่มมากแล้วแต่จิตใจยังวัยรุ่นอยู่เพราะไม่มีเวลาที่จะมากังวลเรื่องความแก่ ถ้าคิดว่าตัวเองแก่มันก็แก่อย่างที่คิด
กำลังคิดที่จะเขียนประวัติย่อๆของตัวเองเพราะมีน้องคนหนึ่งเขียนถามมา ที่จริงไม่ค่อยอยากจะเปิดเผยเท่าไร เพราะชีวิตจริงไม่มีอะไรที่น่าตื่นเต้นแต่อาจจะเป็นสิ่งที่น่าเบื่อหน่าย เพราะนั่งอยู่หน้าคอมพิวเตอร์ทั้งที่ทำงานและในยามว่าง ไม่ค่อยมีคนไทยเป็นเพื่อนเนื่องจากเป็นคนตรงและปากเสีย เลยคนส่วนใหญ่ไม่อยากจะคบ ไม่เคยเกรงกลัวคนประเภทโอ่ๆทั้งหลาย เคยทำงานที่ Office of Commercial Affairs มาก่อน (เดี๋ยวนี่คงจะไม่มีแล้วในสวีเดน ไม่ทราบเหมือนกัน) เจอประเภทพวกใหญ่ๆโตๆทั้งหลายที่มาสวีเดนมาแล้วทำตัวเหมือนเจ้าแล้วมองคนอื่นเหมือนทาส เลยเบื่อและออกห่างจากสังคมไทยมานานเกือบ 20 ปีแล้วเนื่องจากเห็นมาเยอะ เกลียดคนที่ชอบเลียก้นนักการเมืองและผู้ที่มีอิทธิพลทั้งหลาย วัฒนธรรมและขนบธรรมเนียมประเพณีของไทยไม่เคยลืมแต่จะใช้และแสดงออกก็ต่อเมื่อฝ่ายตรงข้ามสมควรที่จะได้รับ



Locations of visitors to this page







Group Blog
 
<<
กรกฏาคม 2553
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
24 กรกฏาคม 2553
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add Mellitus's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.