คนไทยต้องการอะไร


ธรรมชาติสร้างสิ่งที่มีชีวิตให้เกิดขึ้นมาในโลกนี้เพื่ออะไรไม่มีใครรู้แม้แต่ scientist ก็ไม่สามารถให้คำตอบได้ ในความเข้าใจของตัวเองคิดว่าความต้องการของสัตว์โดยธรรมชาติและส่วนรวมคือการอยู่ร่วมกันอย่างสันติในโลกนี้ พึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกัน ให้ความรักแก่กันและกัน รู้จักแบ่งปันทรัพยากรธรรมชาติเพื่อให้สิ่งที่มีชีวิตในโลกนี้สามารถที่จะอยู่ร่วมกันได้ตราบเท่านานแสนนาน

แต่การที่เกิดมาเป็นมนุษย์ ธรรมชาติสร้างมาให้มีความแตกต่างจากสัตว์ทั้งปวงเพราะมีสมองที่ให้รู้จักใช้ให้เกิดการคิดค้นและวิวัตนาการณ์สภาพความเป็นอยู่และความอยู่รอดให้สมดุลกับสภาวะและความเปลี่ยนแปลงของธรรมชาติ ถ้าสัตว์ต่างๆในโลกนี้มีสมองที่มีประสิทธิภาพเหมือนกับมนุษย์คิดว่ามนุษย์เราคงจะไม่มีปัญหาดังที่เหมือนกับสิ่งที่เกิดขึ้นทุกวันในแต่ละประเทศในโลกนี้ เพราะสมองของมนุษย์คงต้องใช้และคิดเพื่อที่ไม่ให้สัตว์ประเภทอื่นเข้ามารุกร้ำในถิ่นที่อยู่ของตัวเอง แต่ที่น่าเสียดายที่สัตว์ประเภทอื่นมีน้อยกว่ามนุษย์หลายร้อยหลายพันเท่า สมองของมนุษย์เลยถูกใช้เพื่อที่จะให้กำจัดมนุษย์ด้วยกันเองซึ่งเป็นสิ่งที่น่าเสียดายและเศร้าใจอย่างที่สุด

เคยนึกกันบ้างหรือเปล่าว่าตั้งแต่ที่เราเป็นเด็กเริ่มเข้าโรงเรียนเรียนจนกระทั่งถึงระดับปริญญาเอกไม่ว่าจะเป็นสาขาไหนก็ตามทุกคนได้เรียนรู้ว่าสัตว์ต่างๆทั้งหลายในโลกนี้ไม่ว่าจะเป็นสัตว์ป่าสัตว์เล็กสัตว์น้อยเช่นมด ผึ้ง หมา หนู นก เป็นต้น สัตว์เหล่านี้จะมีผู้นำของตัวเองที่จะนำพวกเขาไปยังที่ที่ปลอดภัยและหาแหล่งที่สามารถมีอาหารเพื่อความอยู่รอดเช่นเดียวกับมนุษย์เมื่อหลายร้อยหลายพันปีที่ผ่านมา

ทุกวันนี้มนุษย์มีจำนวนมากขึ้นและก็เป็นตัวที่ทำลายสิ่งที่ธรรมชาติสร้างขึ้นมามากที่สุด จึงไม่แปลกใจเลยว่าทำไมจึงได้มีสัตว์สายพันธุ์ชนิดอื่นๆในรูปของไวรัสและแบคทีเรียที่ได้เกิดขึ้นมามากมายรวมทั้งภัยธรรมชาติต่างๆ ที่เกิดขึ้นในช่วง 100 ปีที่ผ่านมา อาจเพื่อที่จะเป็นการลดระดับจำนวนของมนุษย์ที่มีอยู่และเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วก็เป็นได้ นักค้นคว้าและนักวิจัยจึงได้เกิดขึ้นมาในแต่ละสาขาเพื่อค้นหาวิธีการป้องกันชีวิตมนุษย์เพื่อความอยู่รอด


มนุษย์เกิดขึ้นมาพร้อมกับสมองเพื่อให้ใช้และวิวัฒนาการณ์ จะถูกใช้ไปในด้านใด อันนี้ก็ขึ้นอยู่กับสมองที่ได้รับรู้และถูกครอบงำตั้งแต่แรกเกิดว่าจะต้องคิดอย่างไรและจะถูกกำหนดให้หันเหไปทางใดขึ้นอยู่กับสิ่งแวดล้อมที่อยู่ใกล้ตัวนั่นก็คือพ่อแม่และต่อมาก็คือครูบาอาจารย์ ทุกคนเกิดมามีสมองเท่าเทียมกันเพียงแต่ว่าจะถูกใช้มากหรือน้อยแค่ไหนขึ้นอยู่กับแต่ละคนที่อยากจะใช้มัน เพราะถ้าธรรมชาติสร้างให้สัตว์ทุกชนิดได้ใช้สมองและมีความสามารถเท่าเทียมกันหมด ลองนึกสภาพดูว่าอะไรมันจะเกิดขึ้น


มนุษย์ที่เกิดมาเพื่อเป็นผู้นำต้องใช้สมองมากกว่าคนทั่วไปเพราะเขาต้องรู้จักวางแผนว่าถ้ามีอะไรเกิดขึ้นจะต้องแก้ไขอย่างไรการปกครองและให้ความช่วยเหลือความยุติธรรมกับคนเป็นล้านไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ละประเทศก็มีผู้นำที่แตกต่างกันออกไปเพื่อให้เหมาะสมกับกฏหมายประเพณีและวัฒนธรรมของแต่ประเทศนั้นๆ คนๆเดียวจะเป็นผู้นำไม่ได้ถ้าไม่มีผู้ที่คอยช่วยเหลือและสนับสนุนเพื่อที่จะให้เขาผู้นั้นเป็นผู้นำและนั่นก็คือคนทุกคนในแต่ละประเทศที่เป็นผู้กำหนดและเลือกขึ้นมา

อย่าลืมว่าสัตว์สายพันธ์อื่นเช่นสัตว์ป่าทั้งหลายแสดงการเป็นผู้นำด้วยการต่อสู้และปลดชีวิตของฝ่ายตรงข้าม มนุษย์เราก็ใช้วิธีการแบบนี้เมื่อหลายร้อยหลายพันปีที่ผ่านมา และนี่เองจึงอาจทำให้มนุษย์ได้ใช้สมองมากขึ้นเพื่อทำให้เกิดการวิวัฒนาการณ์ทั้งทางด้านสรีรวิทยาและพฤติกรรมเพื่อที่จะได้มองเห็นความแตกต่างระหว่างมนุษย์และสัตว์สายพันธุ์อื่นๆ เปรียบเทียบเมืองไทยกับประเทศด้อยพัฒนาทั้งหลายที่ยังมีผู้นำที่ต้องการเข้ามามีอำนาจในการปกครองประเทศก็มีพฤติกรรมไม่ต่างเหมือนกับสัตว์ป่าในโลกนี้


ไม้ได้ติดตามข่าวที่เมืองไทยตั้งแต่เริ่มต้นถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นเนื่องจากไม่มีเวลาเพียงแต่ติดตามข่าวตามที่ทางทีวีของสวีเดนออกมาเสนอและทุกข่าวก็ให้ข้อคิดเป็นเสียงเดียวกันว่าทักษิณเป็นบุคคลสำคัญที่ทำให้เกิดภาวะและเหตุการณ์เช่นนี้ในเมืองไทย คิดว่าผู้สื่อข่าวต่างประเทศอาจจะไม่เข้าใจถึงเหตุผลที่แท้จริงว่าทำไมมันถึงเกิดขึ้นได้


ในความรู้สึกส่วนตัวก็คิดว่าพวกเสื้อแดงก็คงอาจจะมีด้วยกัน 2 ฝ่ายคือฝ่ายหนึ่งเป็นพวกที่ต้องการความยุติธรรมที่ทุกคนควรจะได้รับในสังคมทุกวันนี้ หากได้มองลึกถึงปัญหานั่นก็คือประชาชนส่วนใหญ่ยังอยู่ในฐานะยากจนช่องว่างและความแตกต่างระหว่างความรวยกับความจนเห็นได้ชัด และอีกฝ่ายหนึ่งคือฝ่ายที่ถูกซื้อด้วยเงิน ใครว่าอะไรก็ว่าตามกันขอให้ได้มีส่วนแบ่งเพียงเล็กน้อยก็พอ แต่จากที่ได้ดูข่าวทางทีวีคนเหล่านี้ไม่มีข้อเสนอที่จะแจ้งเพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลทำอะไรนอกจากที่จะให้รัฐบาลลาออก ในเมื่อไม่ชอบและไม่ถูกใจกับรัฐบาลชุดนี้ก็ควรจะรอไปจนถึงวาระที่รัฐบาลชุดนี้หมดอายุแล้วมีกำหนดเลือกตั้งใหม่เหมือนกับประเทศพัฒนาทั้งหลายที่เขาทำกัน และที่สะท้อนใจตัวเองที่ได้ดูข่าวทางทีวีนั่นก็คือเห็นคนต่างชาตินั่งวิปัสนาอยู่ในที่ที่เกิดเหตุท่ามกลางความชุลมุนวุ่นวายของคนไทยทั้งหลาย


ได้อ่านหนังสือพิมพ์ท้องถิ่นฉบับหนึ่งของสวีเดนเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาพาดหัวข่าวว่าประเทศไทยเป็นประเทศหนึ่งที่ถูกจัดให้อยู่ในกลุ่มประเทศที่มีความเสี่ยงและอันตรายดังเช่นประเทศอิสลามบางประเทศ อ่านแล่วก็สะอึกเพราะนึกไม่ถึงว่าต่างชาติจะมองประเทศไทยไปในทางลบถึงขนาดนั้น ทำไมก็เพราะการประท้วงของประเทศด้อยพัฒนาทั้งหลายคือการฆ่าฟันกันเพื่อให้อีกฝ่ายหนึ่งสูญหายและสุดสิ้นลงไปโดยไม่นึกถึงความสำคัญและการสูญเสียของประเทศชาติ

หนังสือพิมพ์รายวันนี้ฉบับนี้ได้นำเอาข้อมูลจาก Maplecroft ที่ได้จัดอันดับประเทศที่อยู่ในขั้นเสี่ยงและอันตรายของโลกดังนี้

1. Irak
2. Afghanistan
3. Pakistan
4. Somalia
5. Libanon
6. India
7. Algeria
8. Colombia
9. Thailand

หลายครั้งที่เคยได้ยินคนต่างชาติพูดว่าประเทศไทยเป็นประเทศที่น่าตื่นเต้นและน่าสนใจที่อยากจะทำความรู้จักให้ลึกซึ้ง เพราะส่วนใหญ่ไม่สามารถที่จะรู้ว่าว่าอะไรจะเกิดขึ้นเมื่อไร วันนี้และพรุ่งนี้อาจจะต่างกันจากหน้ามือเป็นหลังมือ ไม่มีใครรู้ว่าความคิดภายใต้รอยยิ้มที่ผู้นำทุกยุคทุกสมัยโฆษณายกย่องประเทศไทยว่าเป็น The Land of Smiles นั้นอาจจะแฝงสิ่งที่ซ่อนเร้นที่ไม่มีใครสามารถเดาความได้แม้แต่คนไทยด้วยกันเอง

จากที่ได้ฟังการให้สัมภาษณ์ของคนไทยบางคนที่ผู้สื่อข่าวของสวีเดนไปสอบถาม หลายคนอยากให้ทักษิณกลับมามีอำนาจเพื่อการครองชีพของคนส่วนใหญ่จะได้ดีขึ้นถึงแม้จะรู้ว่าบุคคลผู้นี้จะโกงกินบ้านเมืองก็ตามเพราะคิดว่าเรื่องการคอรัปชั่นเป็นเรื่องธรรมดาเพียงแต่ขอให้ตัวเองอยู่ดีกินดีก็พอแล้ว (ได้ฟังแล้วก็เศร้าใจ) บางคนก็ยอบรับสถานภาพของตัวเองที่ต้องทำงานเหนื่อยแสนเหนื่อยและรู้จักที่จะอยู่แบบพอเพียงเพื่อส่งเสียลูกให้เรียนจบปริญญา จะเห็นได้ว่าแต่ละคนที่มีสภาพเดียวกันยังมีความคิดที่แตกต่างกันออกไป อะไรที่ทำให้คนยอมรับได้และอะไรที่ทำให้คนบางส่วนยอมรับไม่ได้

อะไรคือสิ่งที่คนไทยต้องการ ทำไมไม่มีรัฐบาลชุดไหนที่ทำให้ประชาชนพอใจได้ในช่วงระยะเวลา 50 ปีที่ผ่านมา อย่าลืมว่าทุกประเทศในโลกนี้ไม่มีรัฐบาลใดของประเทศไหนที่จะทำความพอใจให้กับคนภายในประเทศของตัวเองได้ทั้งหมด

คิดว่ามนุษย์ทุกคนที่เกิดมาต่างก็มีความหวังที่จะมีความสุข ความเท่าเทียมกันในสังคม มีรายได้พอเพียงที่จะจุนเจือและเลี้ยงดูครอบครัว นี่คือสิ่งที่ทุกคนต้องการทั้งนั้นไม่ว่าจะอยู่ในประเทศใดศาสนาไหนหรือพูดภาษาอะไรก็ตามในโลกนี้ ความรู้สึกนึกคิดและความต้องการของคนแต่ละชาติในส่วนลึกก็คล้ายคลึงกันหมด

ในความคิดเห็นส่วนตัวคิดว่าท่านนายกรัฐมนตรีคนปัจจุบันของไทยเป็นผู้ที่มีความเหมาะสมที่สุดในสายตาของตัวเองเพราะท่านมีพร้อมทั้งความรู้และความสามารถที่จะปกครองประเทศได้แต่สิ่งแวดล้อมแบบไทยๆที่มีระบบผู้อาวุโสและเจ้าขุนมูลนายทั้งหลายที่ยังมีอิทธิพลเลยทำให้การเปลี่ยนแปลงต่างๆเป็นไปอย่างเชื่องช้า ประเทศไทยไม่ได้เป็นแต่เพียงประเทศเดียวในโลกที่มีกษัตริย์อยู่ใต้กฏหมายของระบอบประชาธิปไดย แต่ทำไมประเทศอื่นๆเช่นอังกฤษ เบลเยียม สวีเดน เดนมาร์ค นอร์เวย์ สเปน ญี่ปุ่น โมนาโค มาเลเซีย เนเธอร์แลนด์และจอร์แดน เป็นต้น จึงไม่มีปัญหาเช่นนี้เกิดขึ้น

ทำไมคนต่างๆในประเทศเหล่านี้ไม่คิดที่จะทำลายประเทศของตัวเองเมื่อไม่พอใจรัฐบาล ความคิดเห็นของคนบางกลุ่มที่ไม่ต้องการจะให้เงินภาษีของตัวเองส่วนหนึ่งต้องถูกส่งไปเลี้ยงดูราชวงษ์ทั้งหลายก็มีอยู่ในประเทศเหล่านี้ แต่ก็ไม่เคยมีความรุนแรงถึงขนาดที่ต้องใช้คำพูดหยาบคายกระทบกระทั่งระบบกษัตริย์ของไทยเหมือนกับที่คนไทยได้ทำกันแล้วเอาไปลงใน youtube บอกตรงๆว่าทุกวันนี้ไม่เคยมีความภาคภูมิใจที่ได้เกิดเป็นคนไทยแล้วมาอาศัยอยู่ในต่างแดน เพราะมันมีสภาพไม่ต่างกันกับพวกที่ลี้ภัยไม่ว่าจะเป็นเพราะทางด้านการเมืองหรือหนีความยากจนเพื่อมาขุดทองในประเทศทางตะวันตกก็ตามเนื่องจากหาคำตอบและคำอธิบายให้กับคนต่างชาติไม่ได้กับคำถามที่ถูกถามว่าทำไมจึงเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ในเมืองไทยซึ่งเป็นเมืองพุทธศาสนาและให้ชื่อเมืองไทยว่า Land of Smiles.








Create Date : 26 เมษายน 2553
Last Update : 26 เมษายน 2553 12:27:54 น. 3 comments
Counter : 1109 Pageviews.

 


โดย: thanitsita วันที่: 26 เมษายน 2553 เวลา:14:06:38 น.  

 


โดย: ถุงก๊อปแก๊ป วันที่: 26 เมษายน 2553 เวลา:19:18:58 น.  

 
สวัสดีค่ะ

เคยเข้ามาดูการตกแต่งบ้าน ชอบเลยแวะมาเยี่ยมชมอีก

Myspace Comments
Hello Comments - 2.0 Myspace Layouts


โดย: Jookjik วันที่: 28 เมษายน 2553 เวลา:20:27:02 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Mellitus
Location :
กาญจนบุรี Sweden

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 16 คน [?]




ขอปรับปรุงข้อมูลของตัวเองซักหน่อยเอาเป็นว่าเป็นคนไทยคนหนึ่งที่อาศัยอยู่ในสวีเดนมานานพอสมควรและชอบกับระบบและวัฒนธรรมของสวีเดนจึงทำให้เข้ากับชีวิตประจำวันของตัวเองได้ดีทีเดียว

เป็นคนเกิดที่จังหวัดกาญจนบุรีแต่มาแก่อยู่ที่กรุงสต๊อกโฮล์ม อายุเริ่มมากแล้วแต่จิตใจยังวัยรุ่นอยู่เพราะไม่มีเวลาที่จะมากังวลเรื่องความแก่ ถ้าคิดว่าตัวเองแก่มันก็แก่อย่างที่คิด
กำลังคิดที่จะเขียนประวัติย่อๆของตัวเองเพราะมีน้องคนหนึ่งเขียนถามมา ที่จริงไม่ค่อยอยากจะเปิดเผยเท่าไร เพราะชีวิตจริงไม่มีอะไรที่น่าตื่นเต้นแต่อาจจะเป็นสิ่งที่น่าเบื่อหน่าย เพราะนั่งอยู่หน้าคอมพิวเตอร์ทั้งที่ทำงานและในยามว่าง ไม่ค่อยมีคนไทยเป็นเพื่อนเนื่องจากเป็นคนตรงและปากเสีย เลยคนส่วนใหญ่ไม่อยากจะคบ ไม่เคยเกรงกลัวคนประเภทโอ่ๆทั้งหลาย เคยทำงานที่ Office of Commercial Affairs มาก่อน (เดี๋ยวนี่คงจะไม่มีแล้วในสวีเดน ไม่ทราบเหมือนกัน) เจอประเภทพวกใหญ่ๆโตๆทั้งหลายที่มาสวีเดนมาแล้วทำตัวเหมือนเจ้าแล้วมองคนอื่นเหมือนทาส เลยเบื่อและออกห่างจากสังคมไทยมานานเกือบ 20 ปีแล้วเนื่องจากเห็นมาเยอะ เกลียดคนที่ชอบเลียก้นนักการเมืองและผู้ที่มีอิทธิพลทั้งหลาย วัฒนธรรมและขนบธรรมเนียมประเพณีของไทยไม่เคยลืมแต่จะใช้และแสดงออกก็ต่อเมื่อฝ่ายตรงข้ามสมควรที่จะได้รับ



Locations of visitors to this page







Group Blog
 
<<
เมษายน 2553
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
252627282930 
 
26 เมษายน 2553
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add Mellitus's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.