ชีวิตที่เลือกเกิดไม่ได้



หยุดอยู่กับบ้านทั้งอาทิตย์เนี่ยไมได้ทำอะไรเลยมัวแต่นั่งหน้าคอมพ์ไม่เครื่องเล็กก็เครื่องใหญ่ทั้งวัน เพราะคิดที่จะเปลี่ยนสีบ้านใหม่ไม่ใช่ที่จะเป็นสีแดงหรือเหลืองอย่างที่เมืองไทยกำลังฮิตกันหรอกนะ เพียงแต่อยากให้มันเข้ากับฤดูกาลที่กำลังจะตามมาแต่มันก็ยังไม่ถูกใจซะที

อยากจะมีความสบายใจเมื่อเข้าบ้านตัวเอง ที่จริงหยุดอยู่กับบ้านเฉยๆมันก็ไม่ดีเท่าไรอารมณ์มันฟุ้งซ่านเอาเหมือนกัน เมื่อตอนเย็นแฟนโทรมาถามว่ากำลังทำอะไรอยู่ ทำอะไรทานหรือยัง

ก็ตอบว่านั่งอ่านหนังสือเพราะไปค้นในลังเจอหนังสือที่กำลังอยากจะหาอ่านแต่จะมานั่งหาอ่านในอินเทอร์เนตตลอดเวลามันก็ไมไหวและก็จำไม่ได้เช่นกันว่าตัวเองมีหนังสือพวกนี้อยู่เลยเอาออกมานั่งอ่าน (ที่จริงหนังสือยังมีอีกเยอะแต่ชั้นที่วางหนังสือมันเต็มไปหมดแล้ว ขืนเอาออกมาวางเต็มบ้านใครไปใครมาบ้านเดี๋ยวเขาจะนึกเป็นห้องสมุดไป ) ตอนนี้ไม่มีหมาเป็นเพื่อนเลยต้องหันมาหาหนังสือเพราะบางที่เราก็นอนดูมันหรือไม่มันก็นอนดูเราผลัดกันไป แต่อ่านหนังสือพวกนี้ทีไรมันเล่นนอนดูเราก่อนเสียทุกที เพราะสมองมันไม่ค่อยจะรับเสียแล้ว


กับข้าวก็ทำไว้ตั้งแต่วันอังคารมันก็ยังไม่หมดซักทีเลย 2-3 วันมานี่แสนที่จะสบายไม่ต้องมานั่งทำกับข้าวทุกวัน ก็บอกกับแฟนว่าไม่ต้องห่วงเรื่องกินหากที่สวีเดนเกิดอะไรขึ้นมา แล้วทำให้ออกจากบ้านไม่ได้ ชั้นก็ไม่อดตายเพราะของแห้งของแช่แข็งอะไรก็เต็มไปหมดไม่ต้องไปจ่ายกับข้าว 3 เดือนก็ยังได้ ซึ่งเพ่อเจ้าประคุณก็รู้อยู่แก่ใจดีเพราะไปช่วยหิ้วทุกครั้งเวลาไปจ่ายกับข้าวของเต็มรถกลับบ้านทุกที ที่ทำไว้ก็แกงเผ็ด 1 หม้อที่เห็นนี่แหละ แล้วก็ความที่อยากจะทานอะไรเผ็ดๆ ก็เลยละเลงพริกป่นลงไปด้วย รับรองแกงหม้อนี้รสชาดไม่เหมือนใคร ครั้งหนึ่งแฟนเคยถามว่าถ้าอยากทานอะไรเผ็ดๆทำไมไม่เอาพริกขี้หนูใส่ปากเคี้ยวเลยล่ะ ไม่รู้ว่าเขาประชดให้หรือเปล่าเลยตอบไปว่ามันไม่อร่อยเพราะมันมีแต่รสเผ็ดอย่างเดียว

หลายปีมาแล้วช่วงหน้าหนาวที่อากาศข้างนอกลบ 15 องศา มีเพื่อนคนใต้มาเยี่ยมพร้อมทั้งเอาแกงเหลืองและแกงไตปลามาฝากด้วย ล่อกันซะพุงกาง ทั้งร้อนทั้งเผ็ดจนหุบปากไม่ลง มันร้อนเสียจนต้องเปิดประตูระเบียงออกไปเพื่อให้ความเย็นเข้ามา แต่เดี๋ยวนี่ทานเผ็ดไม่ได้มากเหมือนเมื่อก่อนเพราะท้องมันต้องครวญครางออกมาให้รู้


คิดว่าวันนี้คงจะได้ล้างหม้อซะที 2 วันทานกับข้าว อีก 2 วันทานกับสปาเก็ตตี้ พรุ่งนี้ค่อยคิดต่อว่าจะทำอะไรดี ถ้าความขี้เกียจมันมาเยี่ยมก็คงไม่พ้นที่จะต้องพึ่งมาม่าเพื่อนยามยากเหมือนกัน แต่คุณแม่เคยสั่งไว้ว่าอย่าทานบ่อยเพราะมันไม่ดีไม่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายเนื่องจากเคยได้ยินข่าวในเมืองไทย เลยต้องปลอบใจคุณแม่ว่าไม่ต้องกลัวหรอกค่ะเพราะสลับกันไประหว่างไข่ต้มไข่เจียวไข่ดาวไปด้วย เรื่องไข่นี่เป็นของโปรดขาดบ้านไม่ได้เวลาอยู่ดึกๆหิวขึ้นมา ก็ได้ไข่นี่แหละเอามันมาทำ omlette ใส่ cheese ham เห็ด เหยาะ tabasco ลงไป แค่นี้ก็นั่งทำงานต่อได้อีกหลายชั่วโมง ถามว่าไม่กลัวมี high cholesterol บ้างรึไง ก็กลัวเหมือนกันนะแต่ตอนนี้เช็คร่างกายทุกปียังไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลยใจเย็นได้หน่อย


พูดถึงเรื่องอาหารที่กินกันทุกวัน พวกเราเป็นพวกที่โชคดีนะที่ยังมีโอกาสได้เลือกว่าอยากจะกินอะไร ลองนึกถึงคนที่ไม่มีอะไรจะให้เลือกและไม่มีอะไรจะให้กินนี่ ถ้าเป็นเราบ้างเราจะทำอย่างไร ในสวีเดนมีพวก Documentary film มาให้ดูทางทีวีอยู่บ่อยๆ เกี่ยวกับเรื่องความยากจนและความไม่เจริญของประเทศต่างๆทั่วโลก ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นประเทศในแถบอัฟริกาหรือละตินอเมริกา ในประเทศอัฟริกานี่ไม่เพียงแต่ที่จะมีปัญหากับความแห้งแล้งของประเทศแล้วแต่การคอรับชั่นก็ยังสูงอีก



การช่วยเหลือจากต่างประเทศไม่ค่อยจะได้ถึงมือประชาชนอย่างแท้จริง แม้แต่น้ำก็ยังขาดแคลน เห็นรูปพวกนี้แล้วคงไม่มีใครที่จะอยากจะเกิดมาเป็นเช่นนี้หรอกเพียงแต่ขอภวานาให้ชาติหน้าถ้ามันมีจริงก็เกิดให้มันดีกว่านี้


เด็กพวกนี้ไม่มีอนาคต ไม่มีจะกิน ไม่ได้รับการศึกษา เพราะพวกเขาไม่มีหนทางให้เลือก เหนื่อยก็ต้องนอนกลางดินกินกลางทราย อยู่ไปวันๆเพื่อให้มีชีวิตอยู่รอด ไม่จำเป็นต้องกัดฟันต่อสู้เพราะไมรู้ว่าจะต่อสู้เพื่ออะไร ดูแล้วมันก็ไม่ผิดอะไรกลับหมากลางถนนบ้านเราหรอก มันต่างกันตรงที่ว่าเด็กพวกนี้ยังมีปากที่จะบอกให้ใครได้รู้ว่าเขาเจ็บปวดตรงไหนถ้ามีคนถาม เราเองก็บริจาคเงินช่วยเหลือไปเยอะเวลาที่มีรายการช่วยเหลือผ่านองค์กรต่างๆทางทีวี แต่ยิ่งบริจาคก็ดูเหมือนว่าคนจนก็มีเพิ่มขึ้นทั่วโลกทุกวัน


มนุษย์ถือว่าเป็นสัตว์ที่ประเสริฐและฉลาด พวกที่จะฉลาดเหนือกว่ามนุษย์คงจะเป็นพวก Aliens ละมั้งถ้ามันมีจริง การทำสงครามของมนุษย์ที่ฆ่ายิงแย่งชิงดินแดนมีมานับเป็นพันๆปี การต้องฆ่าสัตว์ตัดชีวิตเพื่อมาเป็นอาหารก็คงเป็นสิ่งที่ธรรมชาติกำหนดให้ แม้แต่สัตว์ก็ยังฆ่ากินกันเองเพื่อความอยู่รอด


เคยนึกสงสัยกันบ้างไหมว่าทำไมไม่มีมนุษย์ที่ถูกล่าแล้วฆ่ากันเองเพื่อเป็นอาหาร ทั้งๆที่มนุษย์ก็มีจนล้นโลกแล้ว ถ้าสัตว์ไม่มีหลงเหลือในโลกนี้แล้วมนุษย์จะกินอะไร คงจะกินอาหารมังสวิรัติกันทั้งโลก


เมื่อวานนี้ค้นหาเว็บไทยที่เกี่ยวกับมูลนิธิช่วยเหลือสัตว์ต่างๆในเมืองไทย ส่ง email ไป 2-3 ที่ เช็คดูเมื่อเช้านี้ก็ยังไม่ได้รับคำตอบจากใคร จนกระทั่งมาเจออีกเว็บหนึ่งชื่อว่าหมาหัวเน่า Mah Hua Nao Petdonation Web โดยบังเอิญ ซึ่งเจ้าของเว็บได้นำเอาชื่อและที่อยู่ของแหล่งช่วยเหลือสุนัขจรจัดและสุนัขที่ถูกทอดทิ้งจากเจ้าของที่ไม่มีความรักให้พวกเขาอีกแล้ว ก็ต้องขอขอบคุณเจ้าของเว็บไซต์ ณ ที่นี้ด้วย



หลังจากที่อ่านดูก็เลือกโทรไปที่ เกาะสุนัข พุทธมณฑล ตามที่เจ้าของเว็บแจ้งหมายเลขโทรศัพท์ไว้ให้ คุณตุ่นซึ่งเป็นผู้ดูแลหมารับโทรศัพท์ ก็ได้แต่บอกว่าเธอว่าต้องการช่วยเหลือเพราะทราบว่าต้องดูแลหมาที่ถูกละทิ้งมากมาย ถามว่ามีบัญชีธนาคารอะไร เธอก็บอกไม่มี แล้วก็ถามว่าอยู่ที่ไหน เธอก็บอกที่อยู่ว่าอยู่ที่พุทธมณทล สาย 4 ที่มีพระพุทธรูปองค์โตๆ ถ้าไปก็เห็นเอง เอาแหละซิไอ้เราก็ไม่เคยไปแล้วก็ไม่รู้ว่ามันอยู่ตรงไหนเคยแต่นั่งรถผ่านและเห็นว่าถนนสายนั้นเขาเรียกว่าพุทธมณฑลก่อนที่จะเข้ากรุงเทพฯ


เลยต้องบอกว่าโทรจากต่างประเทศเพราะอยากจะช่วยเหลือบ้างเล็กๆน้อยๆเท่าที่พอจะช่วยได้ เธอเลยบอกว่ามีแต่บัญชีส่วนตัวของที่ธนาคารกรุงไทย ที่ไม่อยากบอกใครเพราะเดี๋ยวคนจะหาว่าเอาเงินเข้ากระเป๋า เราก็บอกว่าบอกมาเถอะเราไม่ไปล้วงเอาเงินออกจากบัญชีเธอหรอกน่า เธอก็หัวเราะแล้วก็ให้เลขที่บัญชี เราก็ถามต่อถึงที่อยู่ เธอก็บอกมาแต่สะกดไม่ถูกไอ้เราก็เขียนไม่ถูกอีกเลยบอกว่าเดี๋ยวหาทางอื่นดีกว่า เธอเล่าต่อให้ฟังอีกว่าเธอไม่ได้มีที่นี่ทีเดียว มีที่ตลิ่งชันอีกเพราะเธอต้องไปช่วยป้าคนใจบุญที่มีอาชีพเก็บเศษเหล็กขายแต่ไม่วายที่จะต้องรับเลี้ยงหมาจรจัดด้วย


พอวางหูเสร็จเช็คเงินในธนาคารที่เมืองไทยมีเงินอยู่นิดเดียว เพราะเงินโอนไปยังไม่เข้าคงเนื่องจากติดวันหยุดสงกรานต์หลายวันที่เมืองไทยเลยโทรไปบอกหลานชายว่าจะโอนเงินเข้าบัญชีให้เพื่อให้เอาไปซื้อข้าวและอาหารให้หมาถ้าเผื่อมีเวลา
หลานก็บอกว่าให้เงินไปดีกว่า เดี๋ยวจะขับรถไปเยี่ยมน้องหมาทั้งหลายให้ไม่วันเสาร์ก็อาทิตย์นี้เพื่อเขาจะได้มีเงินไว้รักษาหมายามเจ็บป่วยด้วย


หลังจากนั้นอีกหนึ่งชั่งโมงก็โทรกลับไปหาคุณตุ่นและก็บอกว่าจะให้หลานนำเงินไปมอบให้ ถ้าได้มีโอกาสกลับเมืองไทยเมื่อไรจะแวะไปหา เธอก็ขอบคุณเราและก็ให้ศีลให้พร เราก็บอกว่า เราต่างหากที่ต้องขอบคุณเธอที่ช่วยต่อชีวิตให้กับหมาเหล่านั้น เธอพูดให้ฟังต่อว่าทุกวันนี้มีคนไปทำบุญที่วัดแล้วก็จะเอาหมาไปปล่อยให้เธออีกแต่เธอก็ไม่สามารถรับได้เพราะมันเริ่มเยอะแล้ว


คิดอยู่ในใจว่าถ้าคนมีปัญญาไปทำบุญแล้วก็ทำบาปไปในตัว มันจะได้บุญหรือทำไมพระท่านถึงไม่สั่งสอนหรือว่ากลัวจะไม่มีเงินเข้าวัด อย่างน้อยก็ให้เงินช่วยเหลือกับคนที่เขาจะรับเลี้ยงดูต่อไป


เราก็สอบถามว่ามีสัตวแพทย์มาทำหมันให้หมาตัวเมียหรือเปล่า เธอก็บอกว่ามีแต่ยังไม่หมดทุกตัว มิหนำซ้ำเมื่อไม่นานมานี้มีคนจะเอาหมามาปล่อยให้เธออีกเธอก็ตอบว่ารับไม่ไหวแล้ว เธอถามกลับไปว่าเพราะอะไรถึงเลี้ยงไม่ได้ รู้ว่าเลี้ยงไม่ได้แล้วเอาหมาไปเลี้ยงทำไม คำตอบก็ออกมาว่าเพราะลูกชายเพิ่งออกรถป้ายแดงแล้วถอยรถทับมันขาหักเลยไม่อยากเลี้ยงเพราะไม่มีเวลา แต่แล้วเธอก็เห็นคนคนนั้นเอาหมาไปปล่อยไว้ข้างนอก และในที่สุดเธอก็ต้องไปเก็บเอามาเลี้ยงเอง
เราได้ฟังเพียงแค่นี้ก็ต้องขอตัวเพราะไม่อยากฟังต่อและบอกคุณตุ่นว่าจะโทรไปคุยด้วยใหม่


มานั่งนึกดูว่าทำไมคนที่ไม่ค่อยจะมีกินเขายังมีน้ำใจกรุณาต่อสัตว์ แต่ไอ้คนทีมีอันจะกินทำไมจิตใจถึงต่ำทรามขนาดนี้ อยากจะไปเจอหน้าไอ้คนพวกนี้จังเลย อะไรทำให้สังคมไทยเปลื่ยนแปลงได้ขนาดนี้ อะไรทำให้จิตใจคนต่ำลงเป็นเพราะว่าไม่มีจะกินหรือมีกินมากเกินไป


แต่ก็ช่างเถอะคิดเสียว่ามนุษยก็เป็นสัตว์โลกชนิดหนึ่ง ธรรมชาติสร้างให้มีมนุษย์เหมือนสัตว์อื่นทั้งหลาย เกิดมาแล้วก็ต้องตาย ถ้ามีตายน้อยมากกว่าเกิดธรรมชาติก็ต้องบันดาลให้เกิดเหตุอะไรสักอย่างไม่ว่าจะเป็นสงครามหรือวิบัติภัยทางธรรมชาติ เราคิดว่าเราทำได้แค่นี้ก็สบายใจแล้ว


คงต้องขอพักผ่อนจิตใจสักระยะเพราะหมดทั้งแรงและกำลังใจที่จะเขียนเรื่องอื่นต่อแล้วค่ะ




Create Date : 18 เมษายน 2552
Last Update : 18 เมษายน 2552 20:34:45 น. 8 comments
Counter : 405 Pageviews.

 
เห็นรุปเด็กนั้นแล้วน่าสงสาร ใช่ ใช่ พวกเรายังมีโอกาสดีกว่าคนอื่นๆอีกตั้งมากมายในโลกนี้

คุณ Mellitus ใจดีมากมากเลย ที่ช่วยคนที่ดูแลสุนัขจรจัด ขออนุโมทนาบุญด้วยค่ะ ยังไงก็อย่าไปเครียดมากนะคะ รักษาตัวด้วย นึกซะว่า 'สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม'

พอหายเซ็งเมื่อไหร่ ก็มาอัพเดทบล็อกด้วยนะคะ


โดย: Mermaid AI วันที่: 18 เมษายน 2552 เวลา:20:15:07 น.  

 
วันนี้ไปเฝ้าแม่อยู่ที่โรงพยาบาล ตอนเย็นทาง รพ.เอาอาหารมาให้คนไข้ เป็นแกงส้ม ผัดผัก ปลานึ่ง ซึ่งแน่นอนว่าทุกอย่างต้องจืด คนไข้เลยงอแง กำลังหาทางว่าจะพูดอย่างไรกันดี ก็พอดีมีรายการวงเวียนชีวิต เป็นรายการที่เขาไปไปถ่ายทำชีวิตของผู้พิการ ยากจน หรือคนแก่ เด็ก ที่ถูกทอดทิ้ง ให้เผชิญกับชะตากรรมที่แสนลำบาก

น้องชายเลยได้ที บอกกับแม่ว่า เห็นมั๊ยนั่นเขาไม่มีจะกินกัน แต่เรามีก็กลับกินไม่ได้อีก ชีวิตช่างไม่มีความพอดีเลย สุดท้ายแม่เลยฝืนกินเข้าไปได้นิดหน่อยค่ะ

ชีวิตไม่ว่าคนหรือสัตว์ เลือกเกิดไม่ได้อย่างที่พี่ว่านั่นแหละค่ะ แต่สำหรับคนเลือกที่จะเป็นได้ บางคนก็ไม่เลือกที่จะเป็นอีก สุดท้ายก็รอแล้วแต่เวรกรรม เฮ่อ


โดย: pinkyrose วันที่: 18 เมษายน 2552 เวลา:20:48:11 น.  

 
คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...


โดย: ตีไม่แรง ไม้แพง แต่งตัวเท่ห์ วันที่: 18 เมษายน 2552 เวลา:22:46:14 น.  

 
ทุกวันนี้ผมแทบจะไม่ฝากความหวังอะไรกับประเทศเราแล้วหล่ะครับ

มันย่ำแย่ซะจนอยากจะหนีไปเป็นประชากรของประเทศอื่นซะจริงๆ

...........

ไม่ทาสีบ้านแบบห้องของผมมั่งหล่ะครับ
รับรองเข้ามาบ้านปุ๊บแสบตาปั๊บ


เรื่องราวที่ขนบรรดาเพื่อนๆไปทาสีคลิกดูที่ิลิงค์ล่างนี้ครับ


//www.pantip.com/cafe/home/topic/R7662511/R7662511.html




โดย: Dr.Manta วันที่: 19 เมษายน 2552 เวลา:9:04:13 น.  

 
แวะมาทักทายยามค่ำค่ะ ฝันดีนะคะ


โดย: pinkyrose วันที่: 19 เมษายน 2552 เวลา:21:54:05 น.  

 
สาธุ กับผู้ใจบุญ,

คนไทยทอดทิ้งสุนัขมากมาย(ที่สุดในโลก?) เป็นเหตุให้ประชาธิปไตยไม่ก้าวหน้าเสียที...ตรรกะของประโยคนี้มันเชื่อมโยงกันหรือไม่ครับ?

คุณเขียนหนังสือน่าอ่านนะ อย่าถล่มตัวเลย


โดย: ขามเรียง IP: 58.64.63.51 วันที่: 19 เมษายน 2552 เวลา:23:56:29 น.  

 
ขอบคุณทุกๆคนที่เข้ามาเยี่ยมเยียนค่ะ ช่วงนี้ขอหยุดเขียนซักพักหนึ่งก่อน ต้นเดือนหน้าค่อยว่ากันใหม่

ขอตอบคุณขามเรียงนะคะว่า ตัวเองไม่ได้เป็นคนใจบุญอะไรเพราะวัดก็ไม่ได้เข้าบุญก็ไม่เคยทำมานาน แต่อยากจะช่วยสุนัขจรจัดเพราะเกิดตวามสงสารเนื่องจากพวกเขาไม่สามารถที่จะช่วยตัวเองและขอความช่วยเหลือจากใครได้ค่ะ คงไม่ได้เกียวหรือเป็นสาเหตุให้ประชาธิปไตยเมืองไทยไม่ก้าวหน้าหรอกค่ะ นี่เป็นเพียงแค่ความคิดเห็นส่วนตัว

แต่ถ้าจะคิดให้ลึกซึ้งไปกว่านั้นในฐานะที่เมืองไทยเป็นเมืองพุทธ ประชาธิปไตยของไทยคงอาจต้องมีรากฐานของพระธรรมเข้าช่วยเพื่อให้สอดคล้องกับความเคารพ ความเชื่อถือ และความคิดของคนไทยค่ะ

ขอถามคุณขามเรียงในที่นี้ด้วยว่า คำว่าตรรกะนั้นหมายถึงอะไรคะ ไม่ทราบจริงๆแล้วก็ไม่เคยได้ยินมาก่อนค่ะ


โดย: Mellitus วันที่: 20 เมษายน 2552 เวลา:3:24:21 น.  

 
ดีมากๆ เลยครับ
ไม่ว่าเกิดเป็นอะไร ก็เป็นเพื่อนร่วมโลกกันทั้งนั้น


ขอให้มีแรงใจกลับมาไวๆ นะครับ


โดย: ทุเรียนกวน ป่วนรัก วันที่: 24 เมษายน 2552 เวลา:20:38:47 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Mellitus
Location :
กาญจนบุรี Sweden

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 16 คน [?]




ขอปรับปรุงข้อมูลของตัวเองซักหน่อยเอาเป็นว่าเป็นคนไทยคนหนึ่งที่อาศัยอยู่ในสวีเดนมานานพอสมควรและชอบกับระบบและวัฒนธรรมของสวีเดนจึงทำให้เข้ากับชีวิตประจำวันของตัวเองได้ดีทีเดียว

เป็นคนเกิดที่จังหวัดกาญจนบุรีแต่มาแก่อยู่ที่กรุงสต๊อกโฮล์ม อายุเริ่มมากแล้วแต่จิตใจยังวัยรุ่นอยู่เพราะไม่มีเวลาที่จะมากังวลเรื่องความแก่ ถ้าคิดว่าตัวเองแก่มันก็แก่อย่างที่คิด
กำลังคิดที่จะเขียนประวัติย่อๆของตัวเองเพราะมีน้องคนหนึ่งเขียนถามมา ที่จริงไม่ค่อยอยากจะเปิดเผยเท่าไร เพราะชีวิตจริงไม่มีอะไรที่น่าตื่นเต้นแต่อาจจะเป็นสิ่งที่น่าเบื่อหน่าย เพราะนั่งอยู่หน้าคอมพิวเตอร์ทั้งที่ทำงานและในยามว่าง ไม่ค่อยมีคนไทยเป็นเพื่อนเนื่องจากเป็นคนตรงและปากเสีย เลยคนส่วนใหญ่ไม่อยากจะคบ ไม่เคยเกรงกลัวคนประเภทโอ่ๆทั้งหลาย เคยทำงานที่ Office of Commercial Affairs มาก่อน (เดี๋ยวนี่คงจะไม่มีแล้วในสวีเดน ไม่ทราบเหมือนกัน) เจอประเภทพวกใหญ่ๆโตๆทั้งหลายที่มาสวีเดนมาแล้วทำตัวเหมือนเจ้าแล้วมองคนอื่นเหมือนทาส เลยเบื่อและออกห่างจากสังคมไทยมานานเกือบ 20 ปีแล้วเนื่องจากเห็นมาเยอะ เกลียดคนที่ชอบเลียก้นนักการเมืองและผู้ที่มีอิทธิพลทั้งหลาย วัฒนธรรมและขนบธรรมเนียมประเพณีของไทยไม่เคยลืมแต่จะใช้และแสดงออกก็ต่อเมื่อฝ่ายตรงข้ามสมควรที่จะได้รับ



Locations of visitors to this page







Group Blog
 
 
เมษายน 2552
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
2627282930 
 
18 เมษายน 2552
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add Mellitus's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.