Group Blog
 
 
พฤศจิกายน 2549
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
2627282930 
 
23 พฤศจิกายน 2549
 
All Blogs
 
เหตุเกิด ณ ศาลาท่าน้ำ

งานนี้ ขอขุดเอาเรื่องเก่า ที่(ไม่)จารึกในตำราประวัติศาสตร์ ณ รอยหยักแห่งคลื่นสมอง มาหากิน ไม่ว่ากันนะคะ....

สาเหตุที่จู่ๆเกิดระลึกชาติได้ ก็ไม่ใช้ อะไร หรอกค่ะ ได้ ออนเอ็ม คุยกับ หนูเป้ และ ในขณะเดียวกัน อิฉันก็เบิ่งตา ดูละคร เรื่อง เรือนรัก เรือนทาส ไปด้วย

เหตุที่ดูเรื่องนี้ เพราะ โดนตาผู้พันมอมเมา พี่แกบอกว่า อิฉันน่าจะชอบ เพราะเป็นเรื่อง อิง ปวศ

แต่......สิ่งหนึ่งที่ผู้พันไม่รู้ คือ เนื้อเรื่องน่ะ ไม่ได้เข้าหัวหรอก เนื่องจาก มัวแต่เบิ่ง แผงอกทาสหนุ่มๆ ซะเป็นส่วนใหญ่ ดังนั้น จึงออกจะรำคาญ เมื่อ เรื่องวนเวียน อยู่ระหว่างการจู๋จี๋จุ๋งจิ๋ง ตกปลาสร้อย ปลากระดี่ อ้อยสร้อย อ้อร้อ กันอยู่นั่นแหละ ไม่รู้จักเลิกรา ระหว่าง คุณ พัฒน์ (ชาคริต ) กับ แม่จำเรียง (จอย-ศิริลักษณ์ ) ณ ศาลาท่าน้ำแห่งหนึ่ง ใครเค้าอยากดูกัน เค้าดูหนุ่มๆต่างหาก....

พอดี หนูเป้ เธอถามว่า บ้านอิฉัน ที่อยู่ริมน้ำเนี่ย มีศาลาท่าน้ำสวยๆแบบในเรื่องไหมคะ

แหม...บ้านไหน อยู่ริมน้ำ ไม่มีศาลาท่าน้ำ ก็เหมือนกับตำส้มตำ ไม่ยกครก (หนี) จริงมะคะ.....

แล้วศาลาท่าน้ำ บ้านอิฉันเนี่ย ขอบอก.... สวยกว่าในเรื่องอีก สวยชนิดที่ว่า ละครย้อนยุค เรื่องหนึ่ง เกี่ยวกับ ท่านหญิง ท่านชาย เคยขอมาถ่ายทำละครด้วย

เสียดายแต่ว่า ฮองเฮาใหญ่ ( คุณยาย ) ไม่อนุมัติ เนื่องจาก ทางคณะละคร ไม่สามารถที่จะปฏิบัติตามเงื่อนไขของท่านได้ คือ เรื่องนี้ ต้องให้อิฉันเป็นนางเอก จึงจะให้ถ่าย

เมื่อคุยกันถึงเรื่องนี้ ความทรงจำ อันเลอะเลือนของอิฉัน เลยลอยละล่องปลิวไปหาเรื่อง ชวนผวา เรื่องหนึ่งในอดีต

เรื่องนี้ สมาชิกสมาคมโรคปอด(แหก) อ่านได้ค่ะ ไม่มีพิษมีภัย อ่านจบแล้วเด๋วจะแจกยันต์กันผี เป็นการคืนกำไรให้ลูกค้า

เรื่องนี้ เกิดขึ้นเมื่อ หลายปีมาแล้ว สมัยอิฉันยังเป็นสาวเอ๊าะๆ บีบสิวแตกดังเปรี๊ยะ เหมือนที่เค้าเรียกกันว่า แตกเนื้อสาวน่ะค่ะ (แต่ สมัยนี้ ก็ใช่ว่าจะแก่ ยังแตกอยู่ แต่ นังเพื่อนสาว เธอเรียกว่า"แตกลายงา" )

ช่วงนั้นเป็นช่วงที่มหาวิทยาลัยที่อิฉันเรียน ปิดเทอมใหญ่ ไล่ที่บรรดาผีสางแม่นางโกง ที่สิงสู่ ตามหอ ตามคณะทั้งหลาย กลับสู่หลุมใครหลุมมัน

อิฉันเองก็ต้องซมซานกลับมาดำรงตนเป็นนางใน...กรุ....ที่ กรุงเก่า เช่นเคย

ความที่บ้านอิฉันนั้น (พูดให้ถูก คือ บ้าน คุณยาย แต่ก็เถอะน่า ยายตาย ป้าตาย จะไปไหนเสีย เป็นหลานสุดเลิฟ สุดสวาท ทั้งที จะไม่ยกให้ ก็ใจร้ายไปหน่อย จริงมะคะ ) เป็นบ้านของคนใจบุญ จึงเลือกทำเล ดี คือ ใกล้วัด แล้ว วัดดังๆ ตอนนั้น ก็ คือ วัด พระญาติ (วัดนี้ดังนะคะ แม่ชีอะไร ที่โดนจับ เรื่องอุปโลก เจ้าทางเหนือ ก็วัดนี้แหละค่ะ อ้อ เหรียญหลวงพ่อกลั่นรุ่นแรกของวัดนี้ เห็นเค้าว่า แลกรถเบนซ์ได้เป็นคันๆเลยนะ ) อีกวัด ก็ วัดสะแก ( เอ ดังในทางไหน จำมะได้ แต่คนขึ้นคึ่กๆเลยละค่ะ) แถม ไม่ไกลจากนั้น ก็เป็นทุ่งหันตรา หนึ่งในสมรภูมิดัง สมัยอยุธยา

วันที่เกิดเรื่อง... เป็นวันฤกษ์งามยามดีเสียยิ่ง ด้วยว่า วันนั้นไม่มีใครอยู่บ้าน เพราะ ที่วัดสะแก มีงาน ทางเจ้าอาวาส เชิญ คุณยาย กับ คุณป้า อิฉัน ไปเป็นหัวเรือใหญ่ ช่วยจัดแจงกิจธุระต่างๆ เพราะ เห็นว่า มีแขกระดับๆ ได้รับเชิญมามากมาย

ตอนแรก ทั้งสองท่าน อยากให้ อิฉันติดสอยห้อยตาม เชิญ หีบหมาก หีบพลู เกาะหางไปด้วย แต่ อิฉัน มัวแต่ อ้อยสร้อย บิดตะกูด ไม่อยากไป แหม...คนดีอย่างอิฉันเนี่ย เข้าวัดไหน เสร็จเด็กวัด วัดนั้นเสียทุกทีไป

ก่อนเกิดเหตุ...หยิบหนังสือ หนังหา ตำรับตารามานอนหนุนให้บรรดาสรรพความรู้มันซึมเข้าหัว ส่วนตัวเองหรือคะ นอนอ่าน เรื่อง" ผ้าทอง " ของ แก้วเก้า อย่างเมามัน

อ่านไปอ่านมา... อ๊ะ... ชักอิน แฮะ ประจวบเหมาะกับวันนั้น พระจันทร์ งามผ่องเพี้ยง ราวกับ ใบหน้านวลใย ของอิฉันเลยค่ะ

ได้ที...เพื่อให้เข้ากับบรรยากาศตามท้องเรื่อง อิฉันเลยลุกขึ้นไปค้น ผ้าผ่อนท่อนสไบ ของเก่า ของ โคตรเหง้า บรรพบุรุษ ที่สะสมเอาไว้ ค้นได้ ผ้ายกเมืองนครฯ สีส้มอมแดง ที่คุณยาย เคยนุ่งสมัยแต่งงาน (ขอบอกว่า ผืนนี้ ถ้าคุณยายอิฉันรู้ ละก็ หัวขาดแน่ เพราะท่านหวงมาก เนื่องจากเจ้านายฝ่ายในพระองค์หนึ่ง ประทานให้ ) กับ ผ้าสไบกรอง ห่มทับนอก สวยงาม

ลูบๆคลำๆ ก่อนจะจัดแจงแต่งองค์ นุ่งจีบหน้านาง ชักชายพกนิดๆ ห่มสไบ สีชมพูตัดกับสีผิว แบบ อีกาคาบพริก ก่อนจะทับด้วยสไบกรอง หรือ ที่คนสมัยใหม่ ชอบเรียกแบบไม่รู้ความหมายว่า สไบปัก นั่นแหละค่ะ

พอนุ่งผ้าจีบเนี่ย เวลาเดิน ก็ต้อง นวยนาดวาดกรจรจรัล เพราะ มันก้าวขาไม่ค่อยออก กลัวหลุด ขืนหลุดละก็ ผีสาง ผีบ้าน ผีเรือน เผ่นกระเจิงแน่นอน( คงเคยได้ยิน คนโบราณเค้าว่า เวลาผีหลอก ให้แก้ผ้าน่ะค่ะ )

ดีกรีความต่อมแตก เริ่มทะลุทะลวง....

หันซ้ายหันขวา ไอเดียใหม่แวบขึ้นสู่สมอง ผ้าพวกนี้ จะสวยใต้แสงตะเกียง อิฉันก็สับคัตเอาต์ ปิดไฟในบ้านจนมืด จุดตะเกียง เอาเสื่อ ไปปูลาด ที่ศาลาท่าน้ำ เอนอิง พิงหมอนขวาน ตามแบบฉบับ กุลสตรียุคโบราณไม่ผิดเพี้ยน เสียดายก็แต่ แต่งไม่ครบเครื่อง จริงๆน่ะ น่าจะได้ใส่ เครื่องทองโบราณ ฝังเพชรซีกให้ครบชุดด้วย แต่ หากุญแจเซฟของ คุณยายไม่เจอ

เอาน่ะ... แค่นี้ ก็งาม พอจะเป็นนางในวรรณคดีได้แล้ว....

บรรยากาศตอนนั้นเป็นใจเสียเหลือเกิน ทั้งสงบ ทั้งเยือกเย็น พระจันทร์ส่องแสงสุกสกาว สวยทีเดียว มีเสียงหมาหอน เป็นแบ๊กกราวด์ อยู่ไกลลิบๆ ลมพัด กิ่งมะม่วง มะดัน โยกไหวไปมา เสียดสี เสียงเหมือนแม่นาคมาไกวเปลกล่อมลูก ดอกราตรีส่งกลิ่นตลบอบอวล แบบ รื่นรื่นชื่นจิตพี่จำได้.....และ เสียงยุงตัวเท่าแม่ไก่ บินหวู่หวิว ชวนให้พิฆาตเป็นที่ยิ่ง

ได้บรรยากาศซะขนาดนี้ จิตใจย่อมฟุ้งซ่าน สั่นไหว "ผ้าทอง" ยิ่งออกรสเป็นที่ยิ่ง เวลาล่วงเลยผ่าน ยิ่งดึก... ยิ่งเคลิบเคลิ้ม

และแล้ว...........ความสงบงาม มีอันให้แตกสลาย ด้วยเสียงตะโกนคุยกันเอะอะ โวยวาย ของ คนที่พายเรือกลับจากงานวัด

ความวิเวกของอิฉันแตกสลายเหมือนฟองสบู่ จนอยากจะตะโกนด่า แต่ความเป็นกุลเกเก้ พุ่งปราดจากหัวใจ มาอุดปากไว้ทัน เลยทำได้แค่ ทำปากขมุบขมิบ อุทิศส่วนบาปให้ มารทั้งหลายผู้ที่บังอาจเข้ามาทำลาย ความสงบ ยามราตรีของอิฉันไป

กำลังรวบรวมสมาธิอ่านอีกรอบ ก็มีอันให้แตกกระเจิง..... ด้วยเสียง "เฮ้ยยยย" "ว๊ายยยย" สอดประสานไปกับเสียง จ้ำเรืออุตลุต เอ้า จ้ำบึ้ดๆๆๆๆ จ้ำเข้าไป ไอ้เวร.....

จนอีกสามสี่วันต่อมา คุณยายกับคุณป้า กลับจากทำบุญที่วัด ทันทีที่วางตะกร้าเครืองทำบุญให้เด็กเอาไปล้าง (ซึ่งก็คือ อิฉันนั่นแหละค่ะ ) ทั้งสองท่าน รีบรุดลงไปดู ศาลาท่าน้ำทันที

วันรุ่งขึ้น ท่านสั่งให้อิฉัน ไขกุญแจ เอา เครื่อง อัฏฐบริขาร พานทองเหลือง เรียกว่า อุปกรณ์ในการจัดงานบุญ ออกมาขัด รวมทั้งจานชามที่เก็บไว้ในหลัวออกมาล้าง

ระหว่างขัด อิฉันก็คุยตามประสาเด็กน่ารัก ช่างซัก ช่างถาม... (เพื่ออรรถรส นึกภาพ นางมัทธนพาธา ประกอบไปด้วยนะคะ )

คุณยายเลยขยายความว่า

"มีคนเค้าลือกันว่า เห็น นางตะเคียนที่ท่าน้ำหน้าบ้าน เมื่อวาน ยายลงไปดู เห็นเสาต้นนึงตกน้ำมัน คงออกมาจากเสาต้นนั้นแหละ ยายเลยว่าจะทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้ท่านซักหน่อย"

สะดุ้งวาบเลยค่ะ....เพื่อนๆ ต๊ายยยยย ขนลุกซู่ด้วยความกลัว ก็อิฉันชอบไปนั่งเล่นที่ศาลาตอนเย็นๆ ตะวันโพล้เพล้ซะด้วย

พอดี คุณป้าเสริมว่า

"แต่หนูว่า ท่านมาดีนะคะ คุณแม่ เพราะ เค้าว่า ท่านแต่งตัวสวย นุ่งยกห่มจีบ จุดตะเกียง นั่งพับเพียบเอี้ยมเฟี้ยม เรียบร้อยเชียว คงจะมาบอกกล่าว และ เฝ้าบ้านให้เราน่ะค่ะ"

เอ....ซีนนี้ ชักจะคุ้นๆแฮะ

เลยถามคุณป้า ว่า เค้าเห็นกันเมื่อไหร่หรือคะ พอได้ คำตอบ ตัวเย็นอีกรอบ แต่ไม่ได้พูดอะไรออกไป ก็ตอนนั้น เหลือบดู ของในมือ คุณยาย คือ โตกทองเหลืองเท้าสิงห์ใบใหญ่ยักษ์ ขืนสารภาพ ละก็ หัวสวยๆของอิฉันมีหวัง ร้าวสนิท ด้วยโตกใบนั้นเป็นแม่นมั่น

จนวันทำบุญใหญ่มาถึง บรรดาพี่ๆเมาท์เรื่องนี้ กันอย่างเสียวสยอง ปนสะพรึงพรั่น โดยเฉพาะ พี่สาวคนโต ที่ไม่กลัวอะไรในโลก ยกเว้น ผี (ที่ไม่น่าจะกลัว แต่น่าจะชินด้วยซ้ำยามหล่อนส่องกระจก )

ส่วนอิฉันนั้นเหมือนน้ำท่วมปาก เข้าใจความรู้สึกของคนที่จะร้องไห้ มิได้ หัวร่อมิออก เลยละค่ะ

จนในที่สุด พระกลับวัดไปแล้ว อิฉันกับพี่สาวคนที่สาม รับหน้าที่ ล้างเครื่องแก้ว ที่เอาออกมาจัดสำรับ เลี้ยงพระ

" ต้อย ตัวรู้ป่ะ ว่า นางตะเคียนที่ชาวบ้านเห็นน่ะ เป็นเค้าเองแหละ "

ทันทีที่เล่าเรื่องจบ พี่สาว อิฉัน อ้าปากค้าง บ่นใหญ่ว่า "ทำไมแกอุตริ อย่างนี้วะ เอ...." หล่อนทำท่าครุ่นคิด ก่อนจะทะลุกลางปล้องออกมา

"ชั้นว่านะ...ที่ชาวบ้านกลัวน่ะ อาจจะไม่ใช่แกก็ได้ เค้าอาจจะกลัว คนที่มานั่งทับซ้อนอยู่ข้างหลังแกก็เป็นได้นะ "

ว๊ายยยยย ช่างคิด ช่างจินตนาการเหลือเกินนะคะ คุณพี่

จนบัดนี้ ทั้งคุณยาย และ คุณป้า ลาโลกไปแล้ว อิฉันยังไม่มีโอกาสสารภาพผิดเลยค่ะ ก็ขอสารภาพไว้ตรงนี้ก็แล้วกันนะคะ.....

ส่วนเรื่อง เสียงเดินกุกกักๆๆๆ ในห้องพระ ที่ผู้พัน เคยบ่นน่ะ อิฉันไม่รับผิดชอบนะคะ ไม่ใช่เสียงอิฉันแน่นอน.....

เอ....แล้วเสียงใครเดิน......


Create Date : 23 พฤศจิกายน 2549
Last Update : 23 พฤศจิกายน 2549 15:51:44 น. 45 comments
Counter : 879 Pageviews.

 
ว้ายยยยยยยยยยย


โดย: แพนด้ามหาภัย วันที่: 23 พฤศจิกายน 2549 เวลา:16:01:38 น.  

 
เจอแผนซ้อนแผน นั่งซ้อนกันข้างหลังแบบนี้ขนลุกได้ง่ายๆเหมือนกันนะครับ..


โดย: namit วันที่: 23 พฤศจิกายน 2549 เวลา:16:02:51 น.  

 
55555555เสียงลือเสียงเล่าอ้างกระจายไปทั่วอยุธยาแล้วแน่ๆค่ะเจ้
เป็นแป๋มก็คงช๊อคแน่ๆค่ะ
มองไปศาลาริมน้ำมีสาวห่มสใบนั่งอยู่
เป็นหนู๋ก็เผ่นค่ะเจ่เจ้





โดย: หยิ๋งแป๋ม วันที่: 23 พฤศจิกายน 2549 เวลา:16:21:40 น.  

 
เจ้ขา ไมตอนจบมันต้องเอาไปคิดต่ออะคะ ...


กลับมาแล้วค่ะ คิดถึงเจ้นะคะ


โดย: Love U forever. วันที่: 23 พฤศจิกายน 2549 เวลา:16:36:01 น.  

 
โชคดีนะครับที่คนที่พายเรือมาเค้าเห็นเป็นนางตะเคียน
ถ้าเค้าเห็นเป็น ปอบผีฟ้า หรือ กระสือ ล่ะก็ หุหุ

ตัวใครตัวมันอ่ะนะคร๊าบบบ


โดย: สะเทื้อน วันที่: 23 พฤศจิกายน 2549 เวลา:16:41:59 น.  

 
เจ๊เป็นสาวกรุเก่าเหรอคะ
ว้าย ตก ง.งูไปตัว
หมายถึงกรุงเก่าค่ะ
แล้วอยู่ใกล้วัดด้วย
เหมียนนนหนูเปี๊ยบ
หันตราอีกตะหาก
โอ๊ย ใกล้กันแค่นิดเดียว
จริงๆ นะคะ
แต่หนูไม่เคยได้ยินว่าให้แก้ผ้าหลอกผีนะคะ
ว่าแต่ใครนั่งอยู่ข้างๆ เจ๊เหรอคะตอนนี้
อิอิ
^^


โดย: I am just fine^^ (I am just fine^^ ) วันที่: 23 พฤศจิกายน 2549 เวลา:18:03:54 น.  

 
เง่อ..ปอดแหก

แต่ก็อ่านจนจบค่ะเจ๊


โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 23 พฤศจิกายน 2549 เวลา:18:14:52 น.  

 
สะพรึง ทั่วเมือง


โดย: มัชฌิมา วันที่: 23 พฤศจิกายน 2549 เวลา:18:14:57 น.  

 


อะจ๊ากกกกกกก

เรื่องนี้ก็ติดหยองนะคะเจ๊ขา



ปล.อยากเห็นผ้าผืนนั้นจริงๆ เลยค่ะ ^^



โดย: jengly วันที่: 23 พฤศจิกายน 2549 เวลา:19:18:23 น.  

 
ท่าทาง ผีตะเคียนคงจะสวยเนอะเจ๊


โดย: vecchio (vecchio ) วันที่: 23 พฤศจิกายน 2549 เวลา:19:51:23 น.  

 
เมื่อวันก่อน เปิดช่อง 3 อัดละครทีวีเรื่องบริษัทประกันรักให้คุณนายแม่ (แม่เข้ากรุง) แล้วปล่อยเลยไปถึง เรือนรัก เรือนทาส ที่เจ๊พูดถึง

ทาสสาวๆ เรือนนี้ หน้าผ่องแผ้วกันทุกคนเลยค่ะ

ดูแล้วก็ขำๆ เพราะคนในเรื่องนี้เขารักกันที่หน้าตา ถ้าหน้าตาดีปุ๊บ รักเลย ไม่ต้องดูนิสงนิสัยอะไรแล้ว ... สะดวกดีจริงๆ

วันไหนฤกษ์สะดวก ไปนั่งห่มสไบจิบไวน์ที่ศาลาบ้านเจ๊ดีกว่า ...

เขียนแล้วก็เกิดไอเดีย... เจ๊จัดปาร์ตี้ไทยเดิมที่บ้านสิคะ ...


โดย: Mutation วันที่: 23 พฤศจิกายน 2549 เวลา:20:11:51 น.  

 
แวะมาขอบคุณที่ไปอวยพรวันเกิดให้มังคุดค่ะ
ของขวัญได้สองสามชิ้นเองค่ะ
เพื่อนน้อย และไม่ค่อยสนิทกะใครด้วย


โดย: mungkood วันที่: 23 พฤศจิกายน 2549 เวลา:20:28:27 น.  

 
เห็นด้วย ว่าจัดปาร์ตี้เรือนไทยกันเต๊อะ

เล่าเรื่องสยองก็ไม่บอกกันก่อนเน้อ


โดย: grappa วันที่: 23 พฤศจิกายน 2549 เวลา:21:56:49 น.  

 
พักนี้ ทำไมมีแต่เรื่องชวนให้หวาบหวิวตอนดึกๆ อิอิ อยากจะเห็นนางพรายตะเคียนสักที แต่ที่มานั่งซ้อนข้างหลังไม่เอานะ คิดถึงน๊า วันนี้จะกินน้ำองุ่นเผื่อ


โดย: พิพพ์ วันที่: 23 พฤศจิกายน 2549 เวลา:22:30:36 น.  

 
อ่านแล้วคิดถึงบ้านริมน้ำของเพื่อน

และ

คิดถึง ผ้าทอง ของ แก้วเก้า


โดย: ~:พุดน้ำบุศย์:~ วันที่: 23 พฤศจิกายน 2549 เวลา:22:41:58 น.  

 
ช่วงนี้เจ๊เล่าเรื่องผีบ่อยจัง

แล้วทำไมผมต้องอ่านบล๊กเจ๊ตอนดึกๆตลอดเลยเนี่ย

บรึ๋ยยยย



โดย: Dr.Manta วันที่: 23 พฤศจิกายน 2549 เวลา:23:11:59 น.  

 
สวัสดีค่ะ

ขอเข้ามาแนะนำตัวในฐานะสมาชิก
บล๊อกคนใหม่..
เขียนบ่อยๆนะคะ เพราะ สนุกมาก
อ่านแล้วอารมณ์ดีทั้งวัน

ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ

วิวันดา


โดย: wiwanda (WIWANDA ) วันที่: 23 พฤศจิกายน 2549 เวลา:23:39:56 น.  

 
เรื่องนี้เป็นการยืนยันอีกครั้งว่าเจ๊นั้น "สวยสะพรึง" จริง ๆ 555

วันนี้ ไปดูหนังสือสมบัติฟาโรห์ของ อ.กิ่งแก้ว ที่อนุสาวรีย์มาให้แล้วค่ะ เหลืออีกสองชุด คนขายบอกว่าเพิ่งมีคนซื้อไปชุดนึง ใช่เจ๊รึเปล่าเอ่ย?


โดย: ยาคูลท์ วันที่: 24 พฤศจิกายน 2549 เวลา:1:20:33 น.  

 
สรุป คนได้ยินเสียงผี ไม่ใช่..คนเห็นผี
ใช่ป่ะครับคุณพี่


โดย: กุมภีน วันที่: 24 พฤศจิกายน 2549 เวลา:5:11:53 น.  

 


ขอบคุณคำอวยพรวันเกิดติโตค่ะ


โดย: prncess วันที่: 24 พฤศจิกายน 2549 เวลา:11:07:07 น.  

 
เจ๊คิดได้ไงเนี่ย ห่มสไบ นุ่งผ้า จุดตะเกียงอ่านหนังสือที่ศาลาท่าน้ำ


หนูเห็น...หนูก็โกยล่ะค่า....


โดย: ขบวนการเหมียวเหมียว วันที่: 24 พฤศจิกายน 2549 เวลา:11:21:26 น.  

 
มาดูนางตะเคียนครับ 55555555
.
.
เจ๋งไปเลยฮะเจ๊


โดย: little-joe วันที่: 24 พฤศจิกายน 2549 เวลา:13:29:46 น.  

 


มาทักทายวันศุกร์สุดสัปดาห์ พรุ่งนี้วันหยุดขอให้มีความสุขนะจ๊ะ

ปล.คุณพี่คงจะสวยเหมือนนางตะเคียนนะค่ะ...




โดย: แอน (thattron ) วันที่: 24 พฤศจิกายน 2549 เวลา:19:33:43 น.  

 
555 ตอนแรกก็ตลกดีนะ แต่มาหักมุมตรงที่พี่คุณนายบอกว่า คนเค้ากลัวข้างหลังคุณนายมากกว่าอ่ะดิ่ แล้วยังมีเสียงกุกกักในห้องพระอีก บรื๋ออ


โดย: P.Ta วันที่: 24 พฤศจิกายน 2549 เวลา:20:44:23 น.  

 
กร๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
คุณนายนางตะเคียน

กินไป หม่ำไป อ่านจบถึงกับหัวร่อตกเก้าอี้ โอ๊ย! ช่างอุตริได้ใจ
เย็นย่ำค่ำขนาดนั้น ใครเห็นก็เป็นต้องกรี๊ดดดทั้งนั้นดอกเจ้าค่ะ

พูดถึงเรื่องเรือนรักเรือนทาส อิฉันฉันชอบธันย่ามาก แสดงเก่งดีจัง
ทีแรกก็ไม่ชอบดูแต่ชอบดูพ่อทาสล่ำๆที่เป็นศัตรูกับคุณพัฒน์น่ะ
หล่อดี หน้าตาเชี่ยมเร้าใจอิฉันดีจัง เร้าจนอยากรำถวายดอกบัว
อ่ะเอิ๊กส์ๆๆๆ


ปล. พันทิบล่มไปพักใหญ่ๆ เพิ่งจะโพสต์ได้เจ้าค่ะ


โดย: -=.Gay-E-Cha.=- วันที่: 24 พฤศจิกายน 2549 เวลา:23:42:53 น.  

 
โห มีทิ้งให้คิดต่ออีกแน่ะคะ ... กรั่กๆ ..เอ๊ เสียงอะไรหนอ ...


โดย: JewNid วันที่: 25 พฤศจิกายน 2549 เวลา:0:25:35 น.  

 
อิอิ...ขำก๊ากเลยเจ๊..
ของหนูน่ะ วันดีคืนดีมีคนมาชวนไปทำงานร้านไทย...เงินดีงานสนุก ประมาณผู้จัดการร้านเลยแหละ แต่หนูไม่ไป...เหตุผลง่ายๆ เพราะเค้าให้หนูใส่ชุดไทย อันนี้ก็ยังไม่เท่าไหร่ แต่ที่สะเทือนใจเพราะ เพื่อนมันบอกว่า ใส่แล้วหนูเหมือนนางตานี...แงงงงงง

คิดถึงเจ๊จัง...จุ๊บๆ 2 ที


โดย: Tante Ta วันที่: 25 พฤศจิกายน 2549 เวลา:4:42:14 น.  

 
555 คราวนี้เจ๊กอเป็นผีซะเอง ซีรี่ย์เรื่องผีในกรุเจ๊มีอีกป่ะค๊า เอามาเล่าให้ฟังอีกนะค๊า อ่านไปขำไป สนุกดีแท้
เสียงกุก ๆ กัก ๆ เสียงใครน๊อ กอดผู้พันไว้แน่น ๆ จะได้หายกลัวนะค๊า ^^


โดย: คุณย่า วันที่: 25 พฤศจิกายน 2549 เวลา:7:39:04 น.  

 
เกือบจะได้เป็นนางเอก...เกือบจะได้เป็นนางตะเคียน....อีกนิดนึงค่ะ อีกนิดดดดด------->>ทำบุญเพิ่มอีกนิดเกือบแล้วค่ะเกือบแล้ว


ดี.แวะมาส่งความสุขยามเช้านะคะ


โดย: d__d (มัชชาร ) วันที่: 25 พฤศจิกายน 2549 เวลา:8:13:45 น.  

 
อ่า..เป็นธรรมดาของคนมีเพื่อนเยอะแหละค่ะเจ๊

ดูแผ่นเอาก็ได้ค่ะ


โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 25 พฤศจิกายน 2549 เวลา:13:49:44 น.  

 




สวัสดีตอนเช้าของ เนเธอร์แลนด์ นะจ้า


กาลเวลาทำให้ใครเปลี่ยนไป
กาลเวลาทำให้ใครแปรผัน
กาลเวลาทำให้ใครลืมกัน
แต่กาลเวลาไม่อาจทำให้ลืม...
** คิดถึง ห่วงใย เธอ **




** มีความสุขและสุขภาพแข็งแรงเสมอมากนะจ้า **



โดย: จอมแก่นแสนซน วันที่: 25 พฤศจิกายน 2549 เวลา:17:37:39 น.  

 
มาดูนางตะเคียนครับ อิอิ


โดย: แมท (everything on ) วันที่: 25 พฤศจิกายน 2549 เวลา:21:46:30 น.  

 
หนูเชื่อแล้วว่า..
เจ๊เป็นนางเอกหนัง(ผี)ได้สบายๆ


โดย: spaceship วันที่: 26 พฤศจิกายน 2549 เวลา:0:36:59 น.  

 
สวัสดียามวิกาล..สาธุ เป็นเหตุให้ทำบุญใหญ่นะคะ..คุณยาย คุณป้าท่านต้องให้อภัยแน่ๆค่ะ เพราะทำให้ท่านได้ทำบุญใหญ่..

ขำค่ะ..คุณเล่นซนได้สวยสมเป็นผู้หญิ๊งผู้หญิง..

จะทำอีกมั๊ยคะ..


โดย: ป่ามืด วันที่: 26 พฤศจิกายน 2549 เวลา:2:04:04 น.  

 
เด็กแช่น้ำในกะละมัง
หน้าตากวนโอ๊ย มั่กๆ
ท่าทางจะไม่กลัวผีนะครับนั่น
พาไปนั่งแช่น้ำ ที่ศาลาท่าน้ำทีเหอะครับคุณพี่


โดย: กุมภีน วันที่: 26 พฤศจิกายน 2549 เวลา:9:00:54 น.  

 
เข้ามาอ่านหนังผีอ่ะครับ เรื่องย๊าวยาว กินลอดช่องหมดไปถ้วยนึงเลยอ่ะ เหอ เหอ หนุกดีครับ


โดย: ปอมปอม วันที่: 26 พฤศจิกายน 2549 เวลา:15:50:47 น.  

 
บาปไหมล่ะนั่น

แต่ว่าไม่ได้ตั้งใจอะเนอะ แต่เองานนี้เจ๊เราจะดีใจดีไหมเนี่ยก็สวยๆออกอย่างนี้ใครๆดั๊นมองว่าเป็นผอ สระอี ผีไปซะได้


แวะมาตามเจ๊ไปดูภาพงานมีตติ้งค่ะ


โดย: ณ มน วันที่: 26 พฤศจิกายน 2549 เวลา:17:30:11 น.  

 




สวัสดีตอนเที่ยงของ เนเธอร์แลนด์ นะจ้า


กินข้าวก็ไม่อิ่ม
กินมาม่าก็ไม่หร่อย
มันทำให้จิตใจเหงาหงอย
เพราะคอยคิดถึง ห่วงใย ..เธอ...
.... eieiei ....




** มีความสุขและสุขภาพแข็งแรงเสมอมากนะจ้า **



โดย: จอมแก่นแสนซน วันที่: 26 พฤศจิกายน 2549 เวลา:18:06:46 น.  

 
เจ๊ขา...ได้บรรยากาศจริงๆเลยค่ะ หนูหลับตาจินตนาการตามเจ๊ค่ะ

...ดรุณนางหนึ่ง นั่งอิงพิงหมอนขวานรับลมที่ศาลาท่าน้ำ ห่มสไบผืนงาม..เผยผิวนวลสวยกระทบกับแสงจันทรา... แสงไฟจากตะเกียงไหวเอนน้อยๆ ยิ่งขับให้ผิงนวลยิ่งผุดผ่องยิ่งขึ้น.....

ในจินตนาการหนู..ไม่เป็นจะเหมือนน้องตะเคียนซักกะหน่อย..ทำไม๊..ชาวบ้านคนนั้นถึงเห็นเป็นอย่างนั้นไปได้

เจ๊ขา..เจ๊แต่งแบบนี้อีกรอบซิคะ อยากเห็นค่ะ ไอเดียคุณMutation ก็เยี่ยมไม่เบาเลยค่ะ เจ๊ว่าไงคะ


โดย: paemagic วันที่: 26 พฤศจิกายน 2549 เวลา:19:24:48 น.  

 
กรี๊ดดดดด เจ๊ ขา ทำไม๊ ทำไมพักนี้ ขยันเล่าเรื่องผีเสียจริ๊งงง
อิฉันยิ่งสยองๆ เพราะอยู่บ้านไทยล้านนา
หน้าตาชวนผีมาเข้าสิงเสียด้วยซิ เฮ้อๆๆๆ
แต่ขำ คุณพี่สาว จริงๆ นะคะ มุขเด็ดไม่แพ้คุณน้องเลย เอิ๊กกกก
วันหลังแต่งชุดแม่เคียน ให้ดูมั่งนะค้า


โดย: *ProuD* วันที่: 26 พฤศจิกายน 2549 เวลา:23:43:50 น.  

 

เหอๆๆ ไว้แต่งแบบนี้ไปเดินเล่นแถวบ้านตอนดึกๆ มั่ง คิกคิก




โดย: กำปงพิราเทวี วันที่: 27 พฤศจิกายน 2549 เวลา:1:55:20 น.  

 
555 ต้องให้ป้ากอเป็นนางเอกถึงถ่ายศาลาท่าน้ำได้ อย่างนี้ต้องเพิ่มอีกข้อให้บัดดี้เป้นพระเอก


โดย: อ้วนดำปื๊ดปื๊อ วันที่: 27 พฤศจิกายน 2549 เวลา:3:33:38 น.  

 
อ่านรอบสองก้อยังน่ากลัวเหมือนเดิมอ่ะครับ


โดย: แมท (everything on ) วันที่: 27 พฤศจิกายน 2549 เวลา:3:59:18 น.  

 
เข้าใจเลยอ่ะเจ๊

ขำอ่ะ


โดย: ตะเกียงแก้ว วันที่: 27 พฤศจิกายน 2549 เวลา:11:46:00 น.  

 
เข้ามารับรู้ความสนุกสนานค่ะ จะเข้ามาอ่านอีกนะคะ


โดย: you've got my attention วันที่: 29 พฤศจิกายน 2549 เวลา:6:29:43 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

นางกอแบกเป้
Location :
พระนครศรีอยุธยา Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]





ไม่มีไรค่ะ

ชีวิตอิฉันคือการเดินทางค่ะ เดินทางมันหมดทุกสัดส่วนตั้งแต่สมอง หัวใจ และ ปลายเท้า ได้พบได้เห็นอะไรมากมายเท่าฝุ่นธุลีของสุริยจักรวาล ทั้งมีสาระและไม่มีสาระ แล้วแต่เราจะเลือกอย่างไหน ขอให้ผุ้อ่านเรื่อง(ไร้)สาระของอิฉันมีความสุขนะคะ อาเมน
http://www.hanahouse.net/sozai/bg/bg8/tuyu25.gif
Friends' blogs
[Add นางกอแบกเป้'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.