เพลงศึกอยุธยา (๑๒๘)
วันนี้ฟ้าไม่มีเลยสีฟ้า
มีแต่ฝ้าเมฆฝอยลอยหงอยเงื่อง
วันสงกรานต์นี้กรุงเคยรุ่งเรือง
กลับซึมเซื่องซบเซาโศกเศร้าซม
เพราะสงกรานต์นี้ตรงกับสงคราม
จึงไร้ความสนุกเล่นสุขสม
อ้ายช้างเหม่อมองฟ้าปล่อยอารมณ์
ทุกข์ระทมอยู่ป้อมมหาไชย
เห็นควันโขมงดำข้างกำแพง
สุดแสลงในอกเหมือนหมกไหม้
บรรดาทหารทางฝ่ายข้างไทย
ทอดอาลัยหดหู่มองดูควัน
ลอยฟ่องขึ้นท้องฟ้าเคลื่อนคลาคล่ำ
ฟ้ากระหน่ำเสียงผ่าเป็นอาถรรพ์
หัวอกเมืองจะแตกกระแทกกระทั้น
หรือเขตขัณฑ์ป้อมค่ายจะพ่ายพัง
ลมกระโชกโฮกฮากกระชากเสียง
ฟ้าปร้างเปรี้ยงปานว่าเบื้องฟ้าคลั่ง
ภูตผีพรายพร่างพรมระงมดัง
ปืนใหญ่ปังเปรี้ยงปร้างลงกลางกรุง
อ้ายปีศาจสงครามคำรามเสียง
ส่งสำเนียงสนั่นขวัญสะดุ้ง
เปลวไฟฝุ่นควันฝ้าท่วมฟ้าฟุ้ง
มัจจุราชมาดมุ่งถล่มเมือง
พลพม่าหยัดยืนยิงปืนใหญ่
กระหน่ำใส่ตึงตังดังต่อเนื่อง
โหมโครมครามครั่นครืนลูกปืนเปลือง
แก้วกระเบื้องเปลื้องเปรี้ยงทั่วเวียงวัง
ไม่ประวิงยิงเข้าสู่เป้าหมาย
มีสองค่ายยิงมาอย่างบ้าคลั่ง
จากวัดแม่นางปลื้มประเคนปัง
และอีกฝั่งจากวัดท่าการ้อง
ด้วยสองค่ายนี่ก่อป้อมหอสูง
แล้วลากจูงปืนขึ้นทะมึนส่อง
คนในกรุงล้มตายกันก่ายกอง
ที่เหลือต้องหนีซุกหลบลูกปืน
โบสถ์วิหารบ้านช่องหอห้องหับ
แตกพังยับเกลื่อนกลาดลงดาษดื่น
ตำหนักพระที่นั่งนั้นพังครืน
ร่วงลงพื้นพังสิ้นไร้ชิ้นดี
ควายเฒ่า
เวลาอุ้มไปอยุธยาทีไร
เวลาเห็นซากอิฐแล้วจะไปเผาพม่าเลยค่ะ
555