หนึ่งอาทิตย์ที่ผ่านมา

ช่วงนี้ขี้เกียจอัพบล็อกชอบกล แต่ก็มาซะหน่อย เอาไว้เตือนความจำตัวเอง เริ่มแก่ลงทุกวันๆ

อาทิตย์ที่ผ่านมา วันศุกร์ไม่ทำงาน ตอนเช้ามีนัดกับหมอ ตกลงว่าไม่ต้องกินยาทุกเดือนแล้วแต่เป็นเดือนเว้นเดือนแทน ดีเหมือนกัน จากที่กิน 14 วันติดต่อก็เปลี่ยนมากินแค่ 10 วันเท่านั้น

หาหมอเสร็จ แวะไปมอลล์ ไปเช็คที่เค้าน์เตอร์ Estee ไปถามว่าจะมีของแถมเมื่อไหร่ คุณป้าพนักงานบอกว่าจะเริ่มมีวันที่ 8 เมษาฯ แต่ถ้าอยากสั่งจองล่วงหน้าก็ได้นะ เลยสั่งครีมทาหน้าก่อนนอนของแม่ไปกระปุกนึง

จากนั้นไปสปาที่ Rock Barn บาร์ตซื้อบัตรของขวัญเป็นสปาแพคเกจให้เมื่อตอนคริสต์มาส ปีก่อนที่ไป ชอบมาก เพราะเงียบสงบ ไม่ค่อยมีคน และบริการดี แต่ไปคราวนี้ผิดหวังอย่างรุนแรง บริการก็ยังดีอยู่เหมือนเิดิม แต่คนมากมายมหาศาล มีกลุ่มสาวน้อย สาวใหญ่ สามสี่กลุ่มที่นั่งเกาะกลุ่มคุยกันเจี๊ยวจ๊าวที่สระว่ายหน้ำ ดิฉันไปคนเดียวเลยกลายเป็นตัวประหลาด จริงๆแล้วสังเกตเหมือนกันว่าคนมาใช้บริการทั้งหมดเป็นผู้หญิงผิวขาว ไม่มี คนดำ ไม่มีเอเชีย (มีแต่เรานี่เอง) แปลกดี ไปสปา แทนที่จะได้รีแล็กซ์ กลายเป็นปวดหัวจี๊ดๆ เฮ้อ พอมาบ่นให้บาร์ตฟัง บาร์ตบอก นั่นไง ไปสปาแล้วปวดหัว ไม่ต้องไปแล้วงั้น

อาทิตย์ที่แล้วอีกเช่นกัน ซื้อตั๋วเครื่องบินกลับไทยเป็นที่เรียบร้อย หลังจากพินิจพิเคราะห์อยู่นานว่าจะบินสายการบินอะไร ไปเมื่อไหร่ กลับเมื่อไหร่ ตัดสินใจได้ว่า กลับ 15-29 พค. และบินจากชาลอตไป JFK เพื่อไปขึ้นเครื่องการบินไทยที่บินตรงจาก JFK-BKK 17.5 ชม. นั่งกันจนปวดตรูดแน่ๆ งานนี้ ทีแรกอยากนั่งชั้น premium economy แต่......แพงสาดดด แค่นั่งชั้น eco นี่ก็ปาเข้าไปพันหกกว่าๆต่อคนแล้ว สองคนรวมกันหมดไปสามพันกว่า บาร์ตเพิ่งได้โบนัสมาหมาดๆ พอจ่ายค่าตั๋วพอดิบพอดี (เหลือเศษไว้ซื้อกาแฟสตาร์บัคกินได้ห้าหกแก้ว หุๆๆ) กระซิกๆ ตั๋วแพงแบบนี้แต่ได้กลับแค่สองอาทิตย์เอง คุ้มไหมล่ะเนี่ย

วันอาทิตย์ สตีฟมาจากแคลิฟอร์เนีย แวะมานอนที่บ้าน บาร์ตเลยให้สตีฟช่วยปลูกต้นไม้ ที่สัญญากับเรามาตั้งแต่ย้ายมาบ้านนี้ ว่าจะปลูกให้ แต่พ่อคนชอบผัดวันประกันพรุ่งอย่างสามีดิฉันนี่หรือจะทำในทันที อยู่บ้านนี้มาสี่ปีกว่าแล้วเพิ่งได้ฤกษ์นี่แหล่ะ (เพราะนังเมียจิกไม่ปล่อย) สรุปแล้วได้ปลูกต้นเชอรี่ 1 ต้น แบรดฟอร์ดแพร์ 2 ต้น และต้นแอปเปิ้ลอีก 1 ต้น

เชอรี่สีชมพูของเราอีกหน่อยจะหน้าตาแบบนี้


ส่วนแบรดฟอร์ดแพร์ก็จะเป็นแบบนี้



แถมด้วยพุ่มดอกการ์ดีเนีย (พุดซ้อน) อีกสองพุ่มหน้าบ้านตามคำสั่งเราเอง (ลงแทนกอพุทธรักษาที่เราขุดรากถอนโคนกำจัดไปหมดสิ้นไป เมื่อเกือบสองอาทิตย์ที่ผ่านมา - ผลที่ได้คือแปลงดอกไม้โล่งๆ และอาการปวดหลังไปหลายชม.)



ชอบดอกไม้สีขาวกลิ่นหอม ถ้าอยู่เมืองไทยคงปลูกดอกโมก ดอกแก้ว และพุดซ้อนนี่แหล่ะ ตอนงานแต่งงานเช้า มีดอกจำปีพันผม งานกลางคืน ทำผมติดดอกพุดซ้อน จนมีคนแซวว่าจะเป็นนางไม้หรือไร

ตบท้ายด้วยเรื่องที่ทำงานละกัน มีคนเขียนจม.บ่นพนักงานห้องสมุดไปลงในนสพ.ของเมือง ที่ทำงานเลยเกิดอาการมาคุทั้งวันเลยเมื่อวาน แถมพายุฝนเข้าอีก เลยมืดครึ้มทั้งนอกห้องสมุดและในห้องสมุด ยัยคนเขียนจม. เธอบ่นว่า พาหลานชายมาที่ห้องสมุดเพื่อจะโหลดเพลงลงไอพ่อดของหลานชาย แต่พนักงานห้องสมุดคนนึง (คือบัดดี้ เป็นบรรณารักษ์อยู่ฝ่าย Reference) ไม่รู้เรื่องเลยว่าทำได้ไหม หรือยังไง ช่างไม่ไฮเทคเอาซะเลย และแถมยังหยาบคายกับหล่อนด้วย บลา บลา บลา หล่อนใช้คำรุนแรงอยู่เหมือนกันในจม.นั้น

อ่านแล้วเฮ้อ เศร้าใจ เพราะเราไม่เชื่อว่าบัดดี้จะหยาบคายกับเค้าตามที่เค้าเขียน คนอเมริกันส่วนมากมีข้อเสียคือ self-centered สุดขีด เอาตัวเองเป็นที่ตั้ง บางทีโวยในเรื่องที่ดูแล้วไม่น่าโวย เรื่องนี้เลยกลายเป็นเรื่องหลักที่คุยกันในที่ทำงานทั้งวัน

สรุปแล้วไดเร็กเตอร์ส่งอีเมลหาพนักงานทุกคน บอกว่า อย่าอารมณ์เสียไปกับจม.ยัยคนนี้มาก เค้าผิดหวังที่ยัยคนนี้ส่งจม.ไปนสพ.แทนที่จะ่มาคอมเพลนกับเค้าก่อน เพื่อเค้าจะได้ชี้แจงให้หล่อนรู้ว่าเรื่องใดเป็นยังไง

เค้าเชื่อว่าลูกค้าส่วนมากของห้องสมุดเราได้รับบริการที่ดี และพอใจกับบริการที่ได้รับอย่างมาก เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ และเมื่อเกิดขึ้นมาแล้ว เราแก้ไขอันนั้นไม่ได้ แต่ก็เป็นประสบการณ์ที่ดีกับเรา ฯลฯ มีลูกค้าอีกหลายคนเหมือนกันที่เข้ามาคุย แล้วบอกว่าอ่านจม.นั่นแล้วหงุดหงิดมาก เพราะเวลามาห้องสมุดพนักงานทุกคนช่วยเหลืออย่างดีมาตลอด เราก็แอบดีใจที่อย่างน้อยโลกนี้มันก็ไม่ได้มีคนแบบแม่นั่นไปซะหมด

บ่นจบละ ไปนอนดีกว่า

ปล. เครดิตรูปทั้งสามรูปเสิร์ชมาจากกูเกิ้ลค่ะ

Create Date : 06 มีนาคม 2551		2 comments
Last Update : 6 มีนาคม 2551 13:54:25 น.
Counter : 3939 Pageviews.
Share Tweet