|
| 1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 |
7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 |
14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 |
21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 |
28 | 29 | 30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
ในที่สุดเราก็ได้เจอกัน
น้องดีที่รักของพ่อจ๋าแม่จ๋า
ในที่สุดเราก็ได้เจอกันนะลูก หลังจากที่แม่ไปหาคุณหมอวันที่ 17 กพ. และคุณหมอฮาแรกีทำ membrane strip ให้แม่ กลับมาคืนนั้นแม่ก็น้ำคร่ำแตกเลย พ่อไปธุระที่ชาลอตรีบขับรถกลับบ้าน แม่น้ำคร่ำแตกตอนราวๆสี่ทุ่ม พ่อโทรหาคุณหมอแล้ว คุณหมอบอกว่า ให้รอดูก่อนว่ามีคอนแทรคชั่นมากแค่ไหน แต่ว่าให้ไปรพ.ภายในหกชม.
ระหว่างนั้นพ่อกับแม่ก็นับเวลาว่ามดลูกบีบตัวบ่อยแค่ไหน พยายามเช็คของในกระเป๋าที่จะเอาไปรพ. พยายามนอนพัก แต่เราสองคนก็ตื่นเต้นกันเต็มที่เลยนอนไม่หลับ ช่วงนี้แม่ยังปวดท้องไม่เท่าไหร่ พี่โอ๊ตดูเหมือนจะรู้ว่ามีอะไรสักอย่างเกิดขึ้น เลยพาลนอนไม่หลับไปด้วย มาวนเวียนอยู่กับพ่อแม่
แม่ปลุกแม่ใหญ่ตอนราวๆตีสอง จากนั้นก็ไปอาบน้ำแต่งตัว เราไปรพ.กันราวๆตีสาม ไปถึงที่รพ.เค้าก็จัดห้องไว้รอรับเราไว้เรียบร้อยแล้วเพราะพ่อโทรไปแจ้งเค้าไว้ คุณพยาบาลชื่อคิมเป็นคนดูแลแม่ เค้ามาเช็คแล้วบอกว่า เป็นน้ำคร่ำจริงๆ แต่ปากมดลูกแม่ยังเปิดแค่ 1 ซม.เหมือนเดิม จากนั้นก็ทำการแอดมิดแม่ แล้วบอกให้แม่เปลี่ยนชุด และพยายามออกไปเดินและสเตชท์ แม่กับพ่อเดินวนไปวนมารอบฟลอร์อยู่ราวๆเกือบชม. แล้วกลับมาที่ห้อง ระหว่างนี้แม่ก็เริ่มปวดขึ้นเรื่อยๆ
จนเช้า พยาบาลมาให้ยาเร่งคลอด แม่ก็ปวดเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ พยายามไม่นอนอยู่บนเตียงเฉยๆ ก็นั่งลูกบอลบ้าง เดินไปมาบ้าง เหนื่อยก็เหนื่อยเพราะไม่ได้นอน กินอะไรก็ไม่ได้ กินได้แต่เจลโล่สตรอเบอรี่นิดหน่อยเอง พอตกบ่าย แม่เริ่มปวดมากแต่ก็พยายามทนไม่เอายาบล็อกหลัง สักบ่ายกว่าๆ แม่ไปเข้าห้องน้ำ อาเจียนเอาเจลโล่ออกมาหมดเลยลูก แม่ใหญ่เห็นแล้วตกใจเพราะว่าไม่รู้ว่าแม่กินเจลโล่เข้าไป แม่ใหญ่เลยนึกว่าเป็นเลือด
จนบ่ายสองแม่เริ่มไม่ไหวแล้ว ปากมดลูกก็ยังไม่เปิดก้าวหน้าไปถึงไหนเลย แม่เลยตัดสินใจขอยาบล็อกหลัง เพราะไม่งั้นแม่ไม่มีแรงเบ่งแน่นอน คุณหมอวิสัชญีแพทย์มาบล็อกหลังให้แม่เจ็บนิดหน่อย แต่พอทนได้ พอบล็อกหลังเสร็จ แม่ได้นอนพักนิดหน่อย พ่อขับรถไปส่งแม่ใหญ่กลับบ้าน เพราะก็เหนื่อยเหน็ดกันมาทั้งวัน พอหกโมง คุณผดุงครรภ์วาลารี่มาตรวจปากมดลูกบอกว่าเปิดแล้ว 4 ซม. ดีใจกันใหญ่ ก็นั่งๆนอนๆคุยกับพ่อจนถึงราวๆ สามทุ่มกว่า วาลารี่มาตรวจอีกที บอกว่า ปากมดลูกเปิด 9 ซม.แล้ว เดี๋ยวได้เบ่งเลย แม่ดีใจมากเลยเพราะมันจะ 24 ชม.แล้วนี่ลูก
แต่...แม่ต้องเบ่งอยู่เกือบสามชม.เลยนะลูกกว่าหนูจะยอมออกมา วาลารี่ต้องโทรตามคุณหมอฟารุคให้มาใช้ที่ดูด เพื่อช่วยดูดหัวหนูออกมา แม่รู้สึกได้เลยว่ายาบล็อหลังมันค่อยๆหมดฤทธิ์ไปตอนใกล้ๆเที่ยงคืน เพราะแม่ปวดท้องมากๆตอนมดลูกบีบตัว แม่เบ่งจนเหนื่อยสุดๆไปเลย แต่พ่ออยู่ข้างแม่ตลอดเวลา ทำให้แม่มีกำลังใจมากๆ พอหนูออกมาก็หายเหนื่อย หนูออกมาตอนเวลาเที่ยงคืนยี่สิบเจ็ดนาที คือเช้าวันศุกร์ที่ 19 กพ. เสียดายที่แม่เบ่งหนูให้ออกมาวันที่ 18 ซึ่งคือวันดิวเดทของหนูไม่ได้
หนูออกมาแข็งแรงสมบูรณ์ครบ 32 พ่อจ๋าร้องไห้ดีใจ และได้ตัดสะดือหนูด้วยตัวเองด้วย พ่อเป็ฯคนแรกที่สังเกตเห็นว่าหนูมีหูติ่งที่เดียวกับของแม่เดี๊ยะๆเลย ฮามาก สำเนาถูกต้องทุกประการ
หนูได้อยู่ที่ห้องกับพ่อแม่ตลอดเวลา จนเจ็ดโมงเช้าคุณพยาบาลมารับหนูไปให้คุณหมอเด็กตรวจที่เนิสเซอรี่ คุณหมอบอกว่า เนื่องจากว่าเวลานับตั้งแต่แม่น้ำคร่ำแตกจนแม่คลอดหนูมันเกิน 24 ชม. หมอเลยอยากเก็บตัวหนูไว้ดูสักสองวัน แต่พออีกวันหมอมาตรวจตอนเช้า หมอบอกว่าหนูสมบูรณ์แข็งแรงดีทุกอย่าง เพราะฉะนั้นก็กลับบ้านได้เลย เรากลับบ้านกันมาวันเสาร์ตอนค่ำๆ พี่โอ๊ตตื่นเต้นมาก มาดมๆหนูใหญ่เลย
ระหว่างเวลาที่อยู่รพ. พยาบาลและเจ้าหน้าที่ทุกคนบริการดีมากๆ พ่อและแม่ประทับใจการดูแลเอาใจใส่ของเค้า วันที่เราจะกลับบ้าน พ่อไปซื้อกาแฟสตาร์บั๊คกับโดนัทคริสปี้ครีมไปแจกทุกคนในวอร์ดด้วย เค้าดีใจกันใหญ่เลย
ดีใจที่ได้เจอกันซะทีนะลูก ขอให้หนูสุขภาพสมบูรณ์แข็งแรง อย่าได้มีโรคภัยไข้เจ็บ เป็นเด็กดีของพ่อแม่นะคะ รักหนูทีุ่สุด
Create Date : 05 มีนาคม 2553 |
|
7 comments |
Last Update : 5 มีนาคม 2553 8:14:06 น. |
Counter : 1809 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
โดย: ตติตา 5 มีนาคม 2553 8:29:40 น. |
|
|
|
| |
โดย: น้องเอย (atom_kj ) 5 มีนาคม 2553 8:41:49 น. |
|
|
|
| |
โดย: คุณแม่น้องกัสจัง (Pink Acid ) 5 มีนาคม 2553 12:49:16 น. |
|
|
|
|
|
|
เรื่องราวชีวิตธรรมดาของหญิง(เกือบ)กลางคน เคยผอม แต่งงานกับอเมริกันชน ย้ายมาอยู่เมืองเล็กๆทางตะวันออกเฉียงใต้ ของประเทศสหรัฐอเมริกา มีลูกสาวคนสวยหนึ่งคน มีหมาน้อยสีน้ำตาลหนึ่งตัว
|
|
|
|
|
|
|