Group Blog
 
<<
ตุลาคม 2555
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
11 ตุลาคม 2555
 
All Blogs
 
เล่าเรื่อง CHANEL N°5

CHANEL N°5 ได้ชื่อว่าเป็นน้ำหอมซึ่งเป็นที่รู้จักมากที่สุดเริ่มต้นในยุค '20s จากความปรารถนาของมาดมัวแซลชาเนลที่จะค้นหาและรังสรรค์น้ำหอมเพื่อบ่งบอกความเป็นผู้หญิง Grand Duke Dmitri Pavlovich ได้แนะนำมาดมัวแซลชาเนลให้ได้รู้จักกับ Ernest Beaux นักปรุงน้ำหอมชื่อดังชาวรัสเซียและในปี 1921 Ernest Beaux ได้คิดค้นน้ำหอมออกมาทั้งหมดกว่า 80 กลิ่น ก่อนที่จะถูกเลือกจนเหลือเพียง 2ชุด ชุดแรกประกอบด้วยเลข 1 ถึง 5 ขณะที่ชุดที่สองประกอบด้วยเลข 20 ถึง 25 จากน้ำหอม 2 ชุดนี้ มาดมัวแซลชาเนลได้เลือกน้ำหอมหมายเลข5 ที่เธอชอบที่สุดขึ้นมา และตั้งชื่อว่า N°5


ค.ศ. 1921

CHANEL N°5 ได้สร้างความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในวงการอุตสาหกรรมน้ำหอมเหตุเพราะว่า...


   ... เป็นครั้งแรกที่มีการตั้งชื่อน้ำหอมโดยใช้เลขเพียงตัวเดียว
   ... เป็นครั้งแรกที่มีการใช้ขวดน้ำหอมที่เป็นรูปลักษณ์ที่แสนจะเรียบง่ายแทนขวดที่มีรูปทรงหรูหรา
   ... และนับว่าเป็นครั้งแรกที่น้ำหอมได้ถูกสร้างสรรค์ด้วยการนำกลิ่น 2 กลิ่นมาผสานกัน ทั้งกลิ่นของดอกกุหลาบพันธุ์พิเศษที่ถูกเก็บเกี่ยวเฉพาะในเดือนพฤษภาคม (May Rose) และ ดอกมะลิที่ถูกเก็บเกี่ยวในเดือนตุลาคม (Jasmine) จึงกลายมาเป็น CHANEL N°5 น้ำหอมที่คงความเป็นอมตะบอกเล่าถึงตำนาน และนำมาซึ่งยอดขายสูงสุดในประวัติการณ์ทั่วทุกมุมโลก ด้วยความสำเร็จในครั้งนี้เองมาดมัวแซลชาเนลจึงได้เลือกหมายเลข 5 เป็นเลขนำโชคของเธอ




รูปลักษณ์ของขวดน้ำหอม N°5 และความหมายของสีขาวและดำของกล่อง

เพื่อเน้นความสำคัญให้น้ำหอมอย่างเต็มที่ชื่อและกล่องของน้ำหอมจึงถูกเรียกและออกแบบให้คงความเรียบง่าย หากมองดูกล่องของ N°5 จะเห็นความทรงจำของมาดมัวแซลฯสะท้อนออกมาบนกล่องสีขาวขลิบดำเหมือนกับขอบหน้าต่างและระเบียงสีขาวในสถานรับเลี้ยงเด็กที่เธอเคยอยู่ในวัยเยาว์


การออกแบบขวดของ N°5 จนถึงปัจจุบันนั้นได้มีการเปลี่ยนแปลงเพียง 6 ครั้ง และมีแรงบันดาลใจมาจากการที่มาดมัวแซลฯมองลงมายัง Place Vendôme ในขณะที่เธอทำงานชั้นบนของบูติกเครื่องประดับชั้นสูงของชาเนลในปารีสและฝาขวดก็ถูกออกแบบจากความหลงใหลของมาดมัวแซลฯในคริสตัลเมื่อเล่นแสงไฟและใช้วิธีการตัดแต่งแบบเดียวกับเพชร 26 เหลี่ยม ดังนั้นจึงสะท้อนได้ถึงความหรูหราที่อยู่ในความเรียบง่ายไม่เหมือนใครนั่นเอง


ค.ศ. 1924

CHANEL N°5 Eau de Toilette ได้ถูกรังสรรค์ขึ้นโดย Earnest Beaux เช่นเดียวกัน Sandalwoodได้ถูกเพิ่มลงไปเพื่อให้มีกลิ่นหอมของไม้มากขึ้น แต่ก็ยังคงกลิ่นของ May Rose และ Jasmine ไว้ด้วยจึงเป็นกลิ่นที่สะท้อนถึงพลังและความสดชื่น CHANEL N°5 Eau de Toilette นี้จึงเปรียบได้กับเสื้อแจ็คเก็ตผ้าสักหลาดจากชาเนลในโลกของแฟชั่นซึ่งเหมาะกับทุกโอกาส



ค.ศ. 1986

Jacques Polge ซึ่งเป็นหัวหน้านักปรุงน้ำหอมคนปัจจุบันได้รังสรรค์ CHANEL N°5 Eau de Parfum โดยเพิ่ม Bourbon Vanilla เข้าไปใน base note อย่างบางเบาดังนั้น CHANEL N°5 Eau de Parfum จึงเสมือนกับชุดสีดำเข้ารูปที่ทั้งเก๋ทันสมัยและแฝงไปด้วยความสง่าหรูหราในโลกของแฟชั่น

ค.ศ. 2008

22 ปีให้หลัง Jacques Polge ได้รังสรรค์ N°5 Eau Première ซึ่งเป็นการถ่ายทอดจิตวิญญาณของN°5 ในแบบบางเบาและนุ่มนวล โดยเน้นที่กลิ่นของดอกกระดังงาและจัสมิน การตีความใหม่ในรูปแบบที่บางเบาความอ่อนละมุนที่ประสานกันนั้นเผยถึงมุมที่นุ่มนวลและบอบบางของ 5 ที่มีสารสกัด บริสุทธ์ของจัสมินในแก่นกลางของน้ำหอมจวบจนปัจจุบันส่วนประกอบต่างๆของ N°5 ยังคงเหมือนเดิมทุกประการและหากเปรียบ N°5 ดั่งภาพวาดสีน้ำมัน Eau Première ก็เสมือนภาพวาดสีน้ำที่นุ่มนวล อ่อนโยนและบอบบางนั่นเอง


“N°5 หนึ่งเดียวของน้ำหอมที่เปรียบเสมือนดั่งตัวแทนของความงดงามแห่งอิสตรี ความเย้ายวนใจความน่าค้นหา ความงามที่เป็นตำนาน อมตะ ตลอดกาล


พิมพ์มาจนถึงตรงนี้แล้วก็อดใจไม่ไหว ต้องหยิบ N°5 Eau Première ที่มีอยู่มาฉีดสักฟึ้ดสองฟึ้ดแล้วล่ะ ... :D

article source: CHANEL Thailand press release
edit & re-arrange by oHLa




Create Date : 11 ตุลาคม 2555
Last Update : 11 ตุลาคม 2555 13:30:28 น. 2 comments
Counter : 3419 Pageviews.

 
แค่อ่านก็สัมผัสถึงกลิ่นแระคับ


โดย: The-Bi-[O] IP: 101.109.18.224 วันที่: 11 ตุลาคม 2555 เวลา:13:01:32 น.  

 
ขอบคุณสำหรับความรู้มากๆครับพี่เก๋ ไม่เคยรู้ละเอียดขนาดนี้มาก่อนเลย
แล้วเบิร์ดจะแวะมาอ่านบ่อยๆนะ ^^


โดย: Parisienne วันที่: 11 ตุลาคม 2555 เวลา:13:42:01 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

oHLa
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 27 คน [?]



























New Comments
Friends' blogs
[Add oHLa's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.