Group Blog
 
<<
เมษายน 2551
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
27282930 
 
18 เมษายน 2551
 
All Blogs
 
หางนกยูงไทย - ซอมพอ(ดอกไม้ล้านนา)











ชื่อวิทยาศาสตร์: Caesalpinia pulcherrima Sw .

ชื่ออื่น: ขวางยอย (นครราชสีมา), จำพอ, ซำพอ ( แม่ฮ่องสอน), ซมพอ, ส้มผ่อ, ส้มพอ (ภาคเหนือ), นกยูงไทย

วงศ์: LEGUMINOSAE-CAESALPINIOIDEAE



ลักษณะทางพฤกษศาสตร์:

ไม้พุ่ม สูง 3 -4 ม. ลำต้นเกลี้ยงหรือมีหนาม แตกกิ่งก้านสาขาจำนวนมาก เรือนยอดโปร่ง

ใบ ใบประกอบแบบขนนกสองชั้นปลายคู่ เรียงสลับมีใบย่อย 7-11 คู่ ใบ ย่อยออกเป็นคู่เรียงตรงข้ามกัน รูปรีแกมขอบขนานหรือรูปไข่กลับ ปลายใบมนหรือเว้า ฐานใบมนหรือเบี้ยว ขอบใบเรียบ ผิวด้านหลังใบสีเข้มกว่าด้านท้อง


ดอก ดอกช่อ ออกบริเวณซอกใบ ปลายกิ่ง หรือส่วนยอดของต้น ดอกมีหลาย สีตามพันธุ์ กลีบดอก 5 กลีบ กลีบใหญ่ 4 กลีบ กลีบเล็ก 1 กลีบ รูปช้อน ขอบกลีบหยักเป็น คลื่น เกสรเพศผู้ 10 อัน เกสรเพศเมีย 1 อัน รังไข่อยู่เหนือฐานรองดอก กลีบเลี้ยง 5 กลีบ โคนเชื่อม ปลายแยก



ผล ผลเป็นฝักแบน เมล็ดรูปแบนรี

เมล็ด เมล็ดกลมรี แบน เรียงตามขวางของฝักมี 4-9 เมล็ด เมื่อแก่มีสีดำแข็ง


นิเวศวิทยา ขึ้นได้ในดินทุกสภาพ ชอบแดดจัด ดินร่วนปนทราย ปลูกริมทะเลได้

แก่น หางนกยูงไทย, สี ชมพู.



หางนกยูงฝรั่งเป็นต้นไม้ประจำ ม.ธรรมศาสตร์

ประโยชน์ทั่วไป
นิยมปลูกไว้เป็นไม้ดอกไม้ประดับ
เมล็ด ในฝักดิบกินได้ โดยแกะเปลือกหุ้มเมล็ด ซึ่งมีรสฝาดทิ้งเนื้อในมีรสหวานมันเล็กน้อย



เป็นสมุนไพร
ราก มีรสเฝื่อน เป็นยาขับระดู แก้วัณโรคระยะบวม



ผลวิจัย ฤทธิ์ลดไข้จากใบหางนกยูงไทย
จากการทดลองในหนูที่ถูกเหนี่ยวนำให้มีไข้สูงด้วยยีสต์ พบว่าเมื่อให้กินสารสกัดเอทานอล คลอโรฟอร์มและปิโตเลียมอีเธอร์โดยวิธีการชง จากใบหางนกยูงไทย ( Caesalpinia pulcherrima ( L. ) SW. ) มีผลทำให้อุณหภูมิของร่างกายลดลง ซึ่งสารสกัดเอทานอลมีฤทธิ์แรงกว่าสารสกัดคลอโรฟอร์มและปิโตเลียมอีเธอร์ ที่ขนาด 199 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัมน้ำหนักตัว



หางนกยูงไทยเป็นพืชในวงศ์ถั่ว (Family Caesalpiniaceae / Leguminosae) โดยจัดอยุ่ในสกุล Caesalpinia สกุลนี้มีอยู่ด้วยกันประมาณ 70 ชนิด
เป็นไม้ใบเขียวตลอดปี มีทั้งที่เป็นไม้ยืนต้น ไม้พุ่มกึ่งเลื้อย ไม้เลื้อย มีขึ้นทั้งในป่าฝนในที่ราบต่ำ ป่าละเมาะ ไปจนถึงไหล่เขาตามภูเขาสูงในเขตร้อนและเขตกึ่งร้อน



หางนกยูงไทยมีชื่อพฤกษศาสตร์ว่า Caesalpinia pulcherrima ชื่อสามัญคือ Barbadose Pride, Dwarf Poinciana
เป็นไม้พุ่มหรือไม้ยืนต้นขนาดเล็ก สูง 1-3 เมตร บางต้นมีหนาม แต่บางต้นก็ไม่มี ดอกมีหลายสี เช่น เหลือง ชมพู แดง ออกดอกตลอดปี
ถึงจะมีชื่อเรียกว่าหางนกยูงไทย แต่ว่าถิ่นกำเนิดจริงๆ มาจากหมู่เกาะอินเดียตะวันตก ในทะเลคาริบเบียน



สำหรับหางนกยูงฝรั่งที่ออกดอกแดงสะพรั่งทั้งต้นในช่วงฤดูร้อน ที่เป็นสัญลักษณ์ของ มธ. เป็นต้นไม้ในวงศ์ถั่วเช่นกัน แต่ว่าอยู่กันคนละสกุลกับหางนกยูงไทย
โดยหางนกยูงฝรั่งอยู่ในสกุล Delonix ซึ่งสกุลนี้มีอยู่ด้วยกันประมาณ 10 ชนิด ต้นไม้สกุล Delonix นี้มีเป็นไม้ยืนต้น มีทั้งชนิดที่ผลัดใบ กึ่งผลัดใบ หรือเขียวตลอดปี



กระจายพันธุ์อยู่ตามพื้นที่ป่าแห้งแล้ง ในเกาะมาดากัสการ์ที่อยู่ในมหาสมุทรอินเดีย ซึ่งอยู่นอกชายฝั่งตะวันออกของทวีปแอฟริกา
นอกจากนี้ก็ยังมีขึ้นในเขตร้อนของแผ่นดินใหญ่ทวีปแอฟริกา อีกด้วย สำหรับหางนกยูงฝรั่งมีชื่อพฤกษศาสตร์คือ Delonix regia ถิ่นกำเนิดมาจากเกาะมาดากัสการ์



ทางภาคเหนือ ซอมพอ แปลว่า ดอกหางนกยูงเน้อ มีซอมพอหลวง คือ ดอกหางนกยูงฝรั่ง(ต้นใหญ่) ซอมพอหน้อย คือ ดอกหางนกยูงไทย(ต้นเล็ก)



ชอบดอกซอมพอ มีสีเหลือง ชมพู แดง ส้ม
ในอดีตเกือบทุกบ้านทางเหนือจะมีต้นดอกซอมพอ เอาไว้ไปวัดใส่ขันดอกหน้าพระ, ไม่ว่างานบุญอะไรก็จะเห็นดอกซอมพอเสมอ คงเหมือนภาคกลางใช้ดอกบัว เดี๋ยวนี้คนปลูกซอมพอกันน้อยลง อาจจะไปเป็นเพราะดูไม่เท่ เหมือนปลูกลีลาวดี
แต่เห็นดอกซอมพอทีไร ก็ได้กลิ่นไอความเป็นล้านนาทุกที




มีกวีล้านนาได้เอ่ยถึงดอก ซอมพอไว้มากมาย เช่น

มวล............ดอกไม้เบ่งบานสลอน
ฝูงภมรภู่เผิ้งสอดไซร้
เก็บเอามาริสสะหนาสาไหว้
มีตัง"ดอกด้าย" "ดอกเก็ตถะหวา"
ตัง"ดอกจี๋หุบดอกมณฑา"
"ดอกสะบันงา" "จุ๋มป๋า"ไม้เนิ้ง
มีตัง"ดอกเอื้องคำ"และ"ดอกเอื้องเผิ้ง"
"ซอมพอ"กิ่งเสิ้งตังดอก"หอมไกล๋"
"จุ๋มปี๋”ยอดม้อนซ้อน "เกี๋ยงพาใย"
"โกสน"งามใบ"ดอกเเก้ว"กลิ่นกู๊
ตัง"ดอกสะหลิด""ดอกคำปู้จู้"
"ส้มสุก"จื้นสู้ มีแผว"ป๊านจั๋งก๋ร"
"แก้วมหาวัณ"และ"ดอกเครือออน"
"ดอกกุหลาบมอญ""ขะยอม"หลั่งฟ้า
ตัง"ดอกสร้อยทอง""บัวตอง"กาบอ้า
"ดอกโกมเฟื่องฟ้า""เองชัญ"
มีหลากหลายอันผดแผว"ดอกต๋าหล้อม"
เก็บใส่ขันพร่ำพร้อม................นา



มี..........ส้ะป๊ะหมู่มวลบุพผา
ตัง"เอื้องหมายนา""มะลิลา"จื้นจ๊อย
ตัง"ดอกลำดวน""หอมนวล"เป่งป้อย
"ดอกใหม่สร้อย"ก่อคือ"พู่ระหง"
"ดอกคำใต้"และ"ดอกใค่ยง"
"ดอกบัวระวงศ์""ก๋าหลง""บานเจ๊า
ตัง"ดอกสาระปี"และ"ดอกเกี้ยวเกล้า"
"ดอกเก็ตเก๊า"และ"ดอกคำฝอย"
"เอื้องดิน""เอื้องเเซะ"และ"เอื้องสามปอย"
ตัง"เอื้องฝาหอย"หยังมางามเจ้นล้ำ
"คำมอก""คำหยุม"และ"คำผ่าด้าม"
"สะลัก"ขึ้นซ้างและ"ดอกอ้มสาย"
"จี๋หุบ"จี๋มั่ง"มาออกดอกเรียงยาย
"บ่ากัง""บ่ากาย"ปล๋ายแผว"ลมแล้ง"
ตัง"ดอกบุนนาก""พุทธจ้าติ"เป่งแจ้ง
"ดอกปิ้งนางแย้ม""ก๋าสะลอง"จี๋ขาว
มีตัง"ดอกอูน"มีตัง"ดอกอาว"
ตัง"จุ๋มป๋าลาว"หล่นลงเต๋มปี๊น
กลิ่นหอมตะหลบกั๊ดอกตั๋นตื้น
หอมคึคื้น...........อาณา
หมู่มวลบุพผามาลาดอกสร้อย
เก็บเอามาแต่ง..........ฮ้อยนา..



เกี่ยวเกสรดอกซอมภอ (ซอมภอ=ซอมพอ)

เด็กๆที่เล่นเกี่ยวเกสรดอกซอมพอ โดยมากมักจะเป็นเด็กผู้หญิง เพราะเด็กผู้ชายไม่ชอบ
ที่จะนั่งเล่นเงียบๆใต้ต้นไม้ แต่ชอบจะออกไปเล่นทะโมนกลางแจ้งเสียมากกว่า
ในฤดูร้อนประมาณเดือนเมษายน-พฤษภาคม ดอกซอมพอหลวง (ดอกหางนกยูงฝรั่ง) จะบาน
เต็มที่ เด็กๆชอบไปนั่งใต้ต้นซอมพอ แล้วเก็บดอกที่ร่วงหล่นใต้ต้นมาเด็ดเอาก้านเกสรดอกตัวผู้
ของดอกซอมซอที่มีลักษณะคล้ายถั่วงอกมาเกี่ยวกับของอีกฝ่ายแล้วออกแรงดึง เกสรของใคร
หักหลุดถือว่าแพ้ ดังนั้นเด็กๆจึงเลือกเกสรตัวผู้ที่ก้านอวบใหญ่ แข็งแรง บางครั้งหากมีคนเล่น
ด้วยหลายคนก็จะแข่งกันเป็นคู่ๆ แล้วหาผู้ชนะแต่ละคู่มาแข่งกันอีกครั้ง เกสรดอกซอมพอของ
ใครแข็งแรงมากจนชนะหลายๆครั้ง เจ้าของก็จะมีภูมิใจมาก อวดกันไปได้อีกนาน



ชื่อวิทยาศาสตร์ (scientific name)

เป็นชื่อที่กำหนดขึ้นตามหลักสากล และเป็นที่ยอมรับกัน ในหมู่นักวิทยาศาสตร์ทั่วไป ลินเนียส เป็นผู้ริเริ่มการใช้ชื่อวิทยาศาสตร์ เป็นคนแรก โดยกำหนดให้สิ่งมีชีวิตประกอบด้วยชื่อ 2 ชื่อ

ชื่อแรกคือ "จีนัส" และชื่อที่ 2 คือ "สปีชีส์"



การเรียกชื่อซึ่งประกอบด้วยชื่อ 2 ชื่อ
เรียกว่า "การตั้งชื่อแบบทวินาม (binomial nomenclature) ซึ่งจัดว่า เป็นชื่อวิทยาศาสตร์

ถ้าสิ่งมีชีวิตชนิดเดียวกัน มีชื่อวิทยาศาสตร์หลายชื่อ เนื่องจากนักวิทยาศาสตร์ต่างคนต่างพบ แต่ไม่ทราบมีคนพบและตั้งชื่อไว้ก่อนแล้ว และตั้งชื่อขึ้นมาใหม่ เช่น หางนกยูงไทย ลินเนียสตั้งชื่อก่อนว่า Poinciana pulcherime Linn. ต่อมา Swartz ตั้งชื่อเป็น Caesalpinla pulcherima Swartz ในกรณีนี้ ชื่อหลังต้องยกเลิกไป




สุนทรภู่ยังได้กล่าวถึง หางนกยูงไทยไว้ ดังนี้

ประยงค์แย้มแกมสุกรมนมสวรรค์
ทั้งคัดเค้ากฤษณาจำปาดง
มะลิวัลย์มะลิลาแก้วกาหลง
มหาหงส์หางนกยูงฟุ้งขจร

จากเรื่อง "พระอภัยมณี" บทประพันธ์ของสุนทรภู่






....ลมรำเพยพัดโชยมาระรื่น ชุ่มชื่นเร้าใจให้เริงอารมณ์
พันธุ์ดอกไม้ดูน่าชิดชม เคล้ามาตามลมพาให้ชื่นชู ....
....ลมเย็นเย็นพัดโชยมาชื่นฉ่ำ ใกล้ค่ำหอมชื่นกลิ่นพันธุ์บุปผา
ชื่นยิ่งนักเมื่อลมพัดมา แสนชื่นอุราพาใจเบิกบาน





















Create Date : 18 เมษายน 2551
Last Update : 18 เมษายน 2551 0:43:48 น. 8 comments
Counter : 30005 Pageviews.

 
คริคริ อันนี้มันซอมพอน่อยเน่อ
แปลกแฮะลูกเพ่ ปกติอะไรที่ใหญ่ๆ
คนไทยจะเติมท้ายว่า"เทศ"
แต่อันนี้อ่ะ เป็นหางนกยูงเทศคับ
ไอ้ต้นใหญ่ๆ เป็นหางนกยูงไทย
อะไรกันเนี่ย หรือผมมึนส์เอง...

ซอมพอน่อยเนี่ย ฝักมันสวยดี
เมล็ดอร่อยกว่าซอมพอใหญ่ด้วยนะ

ปล. งวดนี้เฉียดไปนิดเดียวเองง่ะ


โดย: Nagano วันที่: 18 เมษายน 2551 เวลา:0:57:04 น.  

 
ฟังเพลงแล้วหลับสบายเลยค่ะเนี่ย ฮี่ๆ
ป.ล.เปิดบล็อกฮันนี่ไม่ได้ตั้งนานค่ะ
เครื่องแฮงค์ไปเลย


โดย: โอน่าจอมซ่าส์ วันที่: 18 เมษายน 2551 เวลา:3:51:32 น.  

 
ตอนเด็ก ชอบเอาเกษรของดอกหางนกยูงมาตีตีกันนะคะ

เห็นรูปแล้วคิดถึงตอนเป็นเด็ก


โดย: นางฟ้าของชาลี วันที่: 19 เมษายน 2551 เวลา:0:23:10 น.  

 
ภาคอีสานเรียกว่า ดอกภูสีสร้อย ค่ะ


โดย: นิ่ม IP: 192.168.212.215, 202.29.53.8 วันที่: 21 พฤษภาคม 2552 เวลา:13:56:58 น.  

 
อิอิ คนทำงานดีใจ


โดย: ไม่ระบุ IP: 58.8.95.173 วันที่: 7 กรกฎาคม 2553 เวลา:17:53:45 น.  

 
รักนีมจัง


โดย: จ๊ะจ๋า IP: 182.52.193.249 วันที่: 10 สิงหาคม 2553 เวลา:13:26:46 น.  

 
ลูกสาวชื่อ น้องซอมพอค่ะพ่อของเค้าตั้งชื่อนี้ตังแต่ลูกยังอยู่ในท้อง.
พ่อของเค้าบอกว่าเป็นดอกไม้ที่วิเศษมากเพราะเอาไว้ใส่ขันดอกหน้าพระ


โดย: จิ๊กกี้ค่ะ IP: 115.87.181.198 วันที่: 22 พฤษภาคม 2554 เวลา:22:00:25 น.  

 
ใช่ ซอมภอเป็นดอกไม้วิเศษท่ีเอาไว้ใส่สวยดอกและ ขันแก้วทั้งสาม สาธุ ฯ


โดย: หนานเตอะ IP: 58.9.122.193 วันที่: 7 กรกฎาคม 2554 เวลา:17:27:41 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

นอกลู่นอกทาง
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 5 คน [?]








ภาพถ่ายดาวเทียมด้านอุตุนิยมวิทยา
ภาพสดๆจากที่ต่างๆทั่วมุมโลก
Ban Na Song BKK, Thailand
Karon Beach , Phuket , Thailand
Federal Highway, Angkasapuri ,Pantai Valley , Malaysia
Delta Estate , Singapore
Malate ,Manila , Philippines
Bandar Seri Begawan , Brunei
Guangxi Guilin, China
달빛무지개분수(Banpo Bridge Fountain )Sin’gilsa-dong , Seoul , South Korea
Hong Kong skyline from Admiralty, China
Shiomidai , Kanagawa , Japan
Cable Beach, Broome, Western Australia, Australia
Keahua Hawaii , USA
Sacramento California, USA
Washington D.C., USA
Manhattan , New York , USA
McCulloch Kelowna, Canada
Niagara Falls , Ontario , Canada
Panama Canal , Bella Vista , Panama
Santiago de Chile , Región Metropolitana , Chile
Fairbanks, Alaska Forecast Arctic
Mar del Plata Buenos Aires , Argentina
Tasiilaq , Østgrønland , Greenland
London Skyline from the Sheraton Park Tower , Knightsbridge , United Kingdom
Trafalgar Square , London , United Kingdom
Eiffel Tower Paris, France
Harstad Nordland , Norway
Halsum , Svalbarð , Iceland
Amsterdam , Netherlands
Vatican City State, Saint Peter's Basilica Borgo , Italy
Berlin, Germany
Чебоксарский залив, Yakimovo, Chuvashia , Russia
Udaipur Lake Pichola , Rājasthān , India
Mount Everest , Junbesi , Sagarmāthā , Nepal
Cape Town Sanddrift, South Africa
Orpen , Richmond , South Africa
Abū Hayl Dubai , United Arab Emirates
Kairo, Egypt
Medhufushi, Maldives
Mawson station Antarctica

Profile Visitor Map - Click to view visits
หนังทุกเรื่องหรือเพลงทุกเพลงในบล็อกนี้ เป็นเจ้าของ ของลิขสิทธินั้นๆตามเจ้าของเดิม นำมาเพื่อแบ่งปันชมกันในหมู่เพื่อนพ้อง ชาวบล็อกแก้งค์เท่านั้นครับ....
ไม่สงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ 2539 หากผู้ใดคิดจะ ลอกเลียน หรือนำส่วนใดส่วนหนื่ง ของข้อความใน Blog แห่งนี้ไปเผยแพร่ ให้นำไปได้เลย โดยไม่ต้องขออนุญาต จขบ. แต่ต้องคัดลอกแจกจ่ายให้ครบ 50 ก็อปปี้ ไม่เช่นนั้น จะมีอันเป็นไป ต่างๆนานา ถึงขั้นชีวิตตกอับ อิอิ หากแต่ว่า..นำชื่อ จขบ. ไปใช้ในทางเสียหายหรือประจาน จะถูกดำเนินคดี ตามที่ กฏหมายบัญญัติไว้สูงสุด นะจ๊ะ
Friends' blogs
[Add นอกลู่นอกทาง's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.