Group Blog
 
<<
กุมภาพันธ์ 2551
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
242526272829 
 
14 กุมภาพันธ์ 2551
 
All Blogs
 
เทพ ตรีมูรติ.......เทพของผู้ขาดรัก













ช่วงในวันวาเลนไทน์..วัยรุ่นไทยส่วนใหญ่จะมีใครบ้างหนอที่จะมาระลึกถึง เทพเจ้า จูโน
ผู้เป็น จักรพรรดินีแห่งเทพเจ้าโรมัน ...ซึ่งพระองค์ยังทรงเป็นเทพเจ้าแห่ง อิสตรีเพศและการแต่งงาน

เพราะดูตามข่าวที่โพล ต่างๆเสนอมา...ส่วนมากจะคิดถึงความสุขส่วนตัวกันทั้งนั้น

วันวาเลนไทน์..คงไม่ต่างกับ วันที่ต้องพิสูจน์ให้เห็นว่า...สวรรค์นั้นมีจริงๆๆ

ซึ่งเบื้องหลังความเป็นจริงของวาเลนไทน์จะ เป็นตำนานที่มืดมัว
เรื่องราวที่แสดงให้เห็นถึงความรู้สึกสงสาร ความ กล้าหาญและที่สำคัญที่สุดเป็นเครื่องหมาย ของความโรแมนติค

ประวัติโดยคร่าวคือ..ในรัชสมัยของ จักรพรรดิคลอดิอัส ที่ 2 (Emperor Claudius II) แห่ง กรุงโรม พระองค์ ทรงเป็นกษัตริย์ที่มี ใจคอดุร้ายและทรงนิยม การ ทำสงครามนองเลือด ได้ทรงตระหนักว่าเหตุที่ ชายหนุ่มส่วนมากไม่ประสงค์จะเข้าร่วม ในกองทัพเนื่องจากไม่อยากจากคู่รัก และครอบครัวไป จึงทรงมีพระราชโอง การสั่งห้ามมิให้มีการจัดพิธีหมั้นและ แต่งงานกันในโรมโดยเด็ดขาด ทำให้ ประชาชนทุกข์ใจเป็นอย่างยิ่ง และขณะนั้น มีนักบุญรูปหนึ่งนามว่า เซนต์วาเลนไทน์ หรือวาเลนตินัส ซึ่งอาศัยอยู่ในโรมได้ ร่วมมือกับเซนต์มาริอัสจัดพิธีแต่งงานให้กับ ชาวคริสต์หลายคู่ และด้วยความปรารถนา ดีนี้เองจึงทำให้วาเลนไทน์ถูกจับและระ หว่างนี้ก็ยังคงส่งคำอวยพรวาเลนไทน์ ของเขาเองขณะที่เขาเป็นนักโทษ เป็น ความเชื่อว่าวาเลนไทน์ได้ตกหลุมรักหญิง สาวที่เป็นลูกสาวของผู้คุมที่ชื่อจูเลีย ซึ่งได้มาเยี่ยมเขาระหว่างที่ถูกคุมขัง ในคืนก่อนที่วาเลนไทน์จะสิ้นชีวิตโดยการถูกตัดศีรษะ เขาได้ส่งจดหมายฉบับ สุดท้ายถึงจูเลีย โดยลงท้ายว่า “From Your Valentine”


นั่นคือความเป็นมา..และความเชื่อทางฝั่งตะวันตก ครับ

มาดูทางด้านตะวันออกบ้าง

ถ้าเราผ่านไปผ่านมาตรงสี่แยกราชประสงค์..ตรงด้านมุม เวิด์ลเทรด

จะเห็นหนุ่มสาว...มาไหว้สักการะขอพรกับเทพองค์นึงที่หัวมุมสี่แยก

นั่นเป็นเทพ...ในความเชื่อของเรา....หากใครไม่รู้ว่าด้านตะวันออกก็มีเทพ

เราก็มีเทพเจ้า..ด้านความรักเหมือนกัน นั่นคือ

พระ ตรีมูรติ....เทพแห่งความรัก...และการงาน


นำประวัติและเรื่องราวต่างๆมาฝากกันครับ


--------------------------------------------------------




ตำนาน "ตรีมูรติ"

ศาสตราจารย์หม่อมเจ้า สุภัทรดิศ ดิศกุล หนึ่งในนักโบราณคดีชื่อดังของไทย อธิบายไว้ว่า "ตรีมูรติ" แปลว่า รูปสาม หมายถึง รูปสามองค์ของเทวะ หรือธรรมชาติที่ทรงอำนาจ คือ อัคนี (ไฟ) วายุ (ลม) และสุริยะ (ดวงอาทิตย์)

ตามความเชื่อ โลกต้องมีความร้อน เพื่อเผาไหม้สิ่งปฏิกูล ต้องมีลมหายใจและแสงสว่าง เพื่อดำเนินชีวิต หรือพูดอีกอย่าง ตรีมูรติ" ก็คือ พระเป็นเจ้า 3 พระองค์รวมกันเป็นหนึ่ง ได้แก่ พระพรหม พระศิวะ และพระนารายณ์ กลายเป็นพระเป็นเจ้าผู้ยิ่งใหญ่ที่สุดพระองค์เดียว





พระพรหม พระศิวะ


ตำนาน "ตรีมูรติ" เกิดขึ้นในประเทศอินเดีย ตามความเชื่อที่ว่า การเวียนว่ายตายเกิดมีจริงสมัยที่ชนชาวอารยันบุกเข้าไปในอินเดีย พร้อมกับนำ "ศาสนาพระเวท" เข้าไปเผยแผ่ผสมกับคติความเชื่อพื้นเมือง เพื่อใช้ในการครอบครองอินเดีย แม้ว่าศาสนาพระเวท ไม่เชื่อในเรื่องเวียนว่ายตายเกิด เชื่อเพียงว่ามีเทวดาหลายองค์ เชื่อว่าผู้ที่ตายแล้วจะไปรวมกันในสถานที่มีพระยมเป็นเทพเจ้าแห่งความตาย ต่อมาเมื่อความเชื่อผสมปนเป จึงเกิดเป็น "ศาสนาพราหมณ์"


พระนารายณ์ พระตรีมูรติ


ม.จ.สุภัทรดิศ อธิบายว่า เดิมศาสนาพราหมณ์มีเทวดาองค์เดียว ไม่ได้เป็นพระพรหม แต่เรียกว่า "พรหมมัน" หรือประชาบดี คล้ายกับเป็นเทวะผู้สร้างโลก สร้างมนุษย์ ในยุคที่ ศาสนาพราหมณ์รุ่งเรือง เชื่อกันว่า สิ่งที่มนุษย์ปรารถนา คือ ความต้องการของพระผู้เป็นเจ้า ศาสนาพราหมณ์จึงพัฒนาขึ้นใหม่กลายเป็น "พราหมณ์ยุคใหม่" หรือศาสนาฮินดูเกิดมีเทวดาที่สำคัญขึ้น 3 พระองค์ คือ พระพรหม พระอิศวร และพระนารายณ์



พระพรหม คือ ผู้สร้างโลก พระวิษณุหรือนารายณ์ คือผู้บำรุงรักษาโลก และ พระศิวะหรืออิศวร คือผู้ทำลาย หมายถึง การทำลายแล้วสร้างขึ้นมาใหม่พร้อมกัน เมื่อนำคติความเชื่อเหล่านี้รวมกัน จึงกลายเป็น "ตรีมูรติ"

ถ้าจะพูดถึงที่มาของการกำเนิด “พระตรีมูรติ” อาจกล่าวได้ว่ามีด้วยกันหลายตำนาน กำเนิดของ“พระตรีมูรติ” มีแหล่งที่มาที่แตกต่างกันในรายละเอียด ในความแตกต่างกันนั้นแสดงถึงวันเวลาที่จารึกตำนานที่มีความเชื่อกันในแต่ละยุค ไม่เหมือนกันโดยเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับลัทธิที่นับถือ “พระทัตตาเตรยะ” (ตรีมูรติ) มีการบูชา “พระตรีมูรติ” โดยทั่วไป นิยมสร้างรูปปั้นหรือรูปหล่อ เป็นการแสดงออกทางรูปธรรมที่ประชาชนทั่วไปมีต่อสิ่งสูงสุด ทั้งนี้คนส่วนใหญ่เชื่อกันว่าหากบูชา “พระตรีมูรติ” จะมีความหมายที่แสดงถึง ความอุดมสมบูรณ์ทั้งในชีวิต ความรัก และการงาน เทพทัตตาเตรยะเป็นอวตารของมหาวิษณุ (พระนารายณ์) มีฤาษีอัตริเป็นบิดาและนางอนุสูยาเป็นมารดา เรื่องที่กล่าวไว้ในพฺรหมณฺฑปุราณอัธยายที่ ๑๙ ถึง ๔๐ มีดังนี้...



มีฤาษีตนหนึ่งชื่อ อณิมาณฺฑวฺย (อะ-นิ-มาน-ดับ-วยะ) ขณะที่ฤาษีตนนี้นั่งสมาธิอยู่ โจรกลุ่มหนึ่งได้หนีเจ้าหน้าที่ผ่านมาทางนั้น ตำรวจหลวงที่ติดตามโจรได้สอบถามถึงโจรกับฤาษี ฤาษีอยู่ในสมาธิจึงไม่ยอมปริปากใด ๆ ตำรวจหลวงเข้าใจว่าฤาษีนั่นเองเป็นโจร จึงจับมัดมือมัดเท้านำไปเฝ้าพระราชา พระราชาทรงตัดสินประหารชีวิตฤาษีโดยใช้วิธีเสียบด้วยตรีศูล เจ้าหน้าที่ได้ทำตามนั้น และนำฤาษีที่ถูกเสียบแต่ยังไม่ตายไปปักไว้บนยอดเขา

ในระหว่างนั้น นางศีลวตีซึ่งเป็นภรรยาที่ซื่อสัตย์ต่อสามีอย่างยิ่ง เดินทางผ่านมาทางนั้น โดยให้สามีชื่อ อุครศรวัส (อุค-คระ-คระ-วัส) ขี่คอ เพื่อไปยังบ้านของหญิงแพศยา ขณะที่ฝนตกทำให้ทางเดินลำบากอุครศรวัสได้ด่าทอฤาษีหาว่าเป็นตัวการทำให้ฝนตก ฤาษีโกระจึงสาปให้ศีรษะของอุครศรวัสแตกเป็นเจ็ดเสี่ยงเมื่อพระอาทิตย์ขึ้น ศีลวตีได้ยินคำสาป นางมีความซื่อสัตย์ต่อสามีมาก จึงตั้งจิตอธิษฐานไม่ให้พระอาทิตย์ขึ้น ซึ่งคำอธิษฐานก็ได้ผล



เมื่อพระอาทิตย์ไม่ขึ้น ทำให้เดือดร้อนไปทั่วจักรวาลรวมถึงเทวดา เทวดาพากันไปเฝ้า พระพรหมพระพรหมช่วยอะไรไม่ได้ จึงพากันไปเฝ้าพระศิวะ พระศิวะก็ช่วยอะไรไม่ได้จึงพากันไปเฝ้าพระมหาวิษณุ พระตรีมูรติ (พระพรหม พระศิวะ และพระวิษณุ) จึงพากันไป หานางอนุสูยาเพื่อให้นางขอร้องศีลวตี ถอนคำอธิษฐาน นางอนุสูยา และเทพตรีมุรติ จึงไปพบนางศีลวตี และขอร้องให้นางถอนคำอธิษฐาน นางก็ยอมตามที่ขอ และเทพตรีมูรติได้ให้คำมั่นสัญญาว่า อุครศรวัส จะไม่ตาย เทพตรีมูรติยินดีในความสำเร็จจึงให้นางอนุสูยาขอพร นางจึงขอขอพรให้เทพทั้งสามมาเกิดเป็นลูกของนาง เทพตรีมูรติ จึงให้พรตามที่ขอ พระวิษณุจึงเกิดจากนางเป็น พระทัตตาเตรยะ พระศิวะเป็น ทุรวาสัส และพระพรหมเป็นพระจันทร์ พระทัตตาเตรยะ บำเพ็ญตบะตั้งแต่ยังเป็นเด็ก และได้เป็นฤาษีทัตตาเตรยะ



หากมองตามความหมายทางธรรม ความเชื่อในศาสนาฮินดูแล้ว การบูชา “พระตรีมูรติ” คือ การที่บุคคลนั้นกำลังบูชาเพื่อรับรู้ และเข้าถึงสภาวธรรมทั้งสามอันได้แก่ การสร้าง การ ดำรงอยู่ และแตกสลายไปของสิ่งทั้งปวง (ไตรลักษณ์ : ทุกขํ อนิจฺจํ อนตฺตา) แต่เดิม ความเชื่อในยุคต้นของพระตรีมูรติแบ่งได้มาตั้งแต่ยุคพระเวทตอนต้น ยุคพระเวทตอนปลายและตรีมูรติ ในศาสนาฮินดูยุคใหม่ ซึ่งความเชื่อที่ส่งผ่านมาในแต่ละยุคแต่ละสมัยนั้นมีการเปลี่ยนแปลง และพัฒนากันต่อเนื่องตามลำดับ



ความศรัทธาใน "ตรีมูรติ" ได้สืบทอดผ่านยุคผ่านสมัย ทั้งในอินเดีย เขมร พม่า ลาวและไทย เทพตรีมูรติ มีเศียรกลางเป็นพรหม เศียรขวาและองค์เป็นวิษณุ เศียรซ้ายและยอดเป็นศิวะ ได้รับการเทิดทูนจนกลายเป็นสัญลักษณ์ใหม่ ของการประทานความรัก และความสมหวังให้มวลมนุษย์ผู้โหยหาความรักไปแล้วในปัจจุบัน




บทสรรเสริญพระตรีมูรติ

พาลารกปรภมินทรนีลชฎิล ภสมางคราโคชวลศานต นทวิลีนจิตตปวน ศารทูลจรมามพรม พรหมชไชญะ สนกาทิภิะ ปริวฤต สิทไธะ สมาราธิตม อาเตรย สมุปาสมเห หฤทิมุท เธยย สทา โยคิภิะ




บทสวดขอพรพระตรีมูรติ


สาธุ สาธุ สาธุ อุกาสะ ข้าแต่องค์พระตรีมูรติที่ยิ่งใหญ่ข้าพเจ้า

นาย,นาง............................( บอกชื่อ นามสกุล และที่อยู่ )

กราบเบื้องบาทแด่องค์ท่านแล้ว พระองค์เคยประทานพรแด่ทวยเทพทั้งหลาย ผู้ปฎิบัติดี ผู้ปฎิบัติชอบทั้งหลาย บัดนี้ข้าพเจ้ามากราบเบื้องบาทแด่พระองค์ท่านแล้ว จึงขอพรจากพระองค์ซึ่งประทานไว้ ณ บัดนี้ ( .....ขอพร..... )

เตสัง อัมหากัง พรใดอันประเสริฐจงมาบังเกิดแด่ข้าพเจ้าตุมหากัง และจงบังเกิดแด่ผู้คุ้มครองข้าพเจ้าฑีฆายุกา มหาเดชา มหาปัญญา มหาโภคา มหายะสา มหาลาภา ปัญจวีสติภยันจะ ทวัตติงสะ ฉันนะวุฒิติโรคัญจะ โสระสะ อุบัติอันตรายยัญจะ อัยยัญติกะอันตรายยัญจะ พาหิระ อันตรายยัญจะ วิระหิตะวา โหตุ ยาวะชีวัง พระวิสตีติ
( พระตรีมูรติ )






วิธีการบูชา

ธูปแดง ๙ ดอก, เทียนแดง, ดอกกุหลาบแดง และ ผลไม้

ขอให้ท่านตั้งจิตเป็นกุศล และขอพรจากองค์พระตรีมูรติในเรื่องที่ดีงาม ถูกต้องตามทำนองครองธรรม พรนั้นก็จะสัมฤทธิ์ผลตามต้องการ



ข้อมูลเพิ่มเติม
เวลาประทับทรง (เวลาที่เราสามารถเข้าไปไหว้และขอพรได้)
ช่วงเช้า 9.30 น. และอีกครั้งในช่วงกลางคืน 21.30 น.
ให้นำ เทียนสีแดงหรือสีเหลือง 1 เล่ม ธูปสีแดง 9 ดอก
พร้อมพวงมาลัยดอกกุหลาบสีแดงไปด้วย
อาจจะมีของสักการะอย่างอื่นไปเพิ่มก็ได้ แต่เน้นสีแดง
ในขณะที่ขอพรให้เตรียมกระดาษจดสิ่งที่ต้องการขอพรจากท่านตรีมูรติลงไปอย่างละเอียด
พร้อมกล่าวชื่อ นามสกุล รวมทั้งที่อยู่ของตนเองไปด้วย
(ตรงนี้สำคัญมากๆ เพราะเราต้องมีสมาธิ
แน่วแน่และไม่ลืมรายละเอียดที่ต้องการ
การจดใส่กระดาษ จะช่วยให้เราไม่ลืมและโฟกัสมากขึ้นด้วย)






//archaeology.thai-archaeology.info/


----------------------------------------------------------

ตามประวัติ สาเหตุที่ "ตรีมูรติ" ถูกอัญเชิญไปประดิษฐานไว้ที่หัวมุมห้างเซ็นทรัลเวิลด์ฯ เป็นเพราะ วิรุฬ เตชะไพบูลย์ อดีตผู้อำนวยการใหญ่เวิลด์เทรดเซ็นเตอร์ เห็นว่า ในอดีต พื้นที่ก่อสร้างห้างฯเคยเป็นบริเวณ "วังเพชรบูรณ์" มาก่อน

อาจารย์สุชาติ รัตนสุข เจ้าพิธีผู้บวงสรวงองค์ตรีมูรติ ช่วยเชื่อมโยงในประเด็นนี้ว่า ศาสนาพราหมณ์เป็นเรื่องของการสร้างสรรค์เกี่ยวกับวัง และศาสนโบราณสถาน



บริเวณซึ่งเคยเป็นวังเก่าที่ประทับของกษัตริย์หรือราชนิกูล มักถือกันว่า มีเทพารักษ์คอยปกปักษ์รักษา เจ้าของห้างฯจึงได้สร้างองค์ตรีมูรติขึ้นมาประดิษฐานไว้

ปัจจุบัน...เทพตรีมูรติ เศียรกลางเป็นพรหม เศียรขวาและองค์เป็นวิษณุ เศียรซ้ายและยอดเป็นศิวะ ได้รับการเทิดทูนจนกลายเป็นสัญลักษณ์ใหม่ ของการประทานความรัก และความสมหวังให้มวลมนุษย์ผู้โหยหาความรักไปแล้ว

ประมาณ 3 ทุ่มครึ่ง ทุกวันพฤหัสบดี บริเวณโดยรอบศาล "พระตรีมูรติ" มักจะมีหนุ่มสาวจำนวนมาก นำพวงมาลัยกุหลาบสีแดง พร้อมเทียนสีแดง 1 เล่ม ธูปสีแดง 5 หรือ 9 ดอก และผลไม้ตามแต่ศรัทธา ไปสักการบูชาและขอพร





ร่ำลือว่า พรส่วนใหญ่ที่ผู้ไปกราบไหว้ มักเน้นหนักไปในเรื่องของความรัก เช่น ขอให้สมหวังในรัก มีรักใหม่ที่สดใส พานพบคู่ครองที่ดี หรือขอให้มีบุตร

องค์ตรีมูรติ จึงมีบทบาทคล้าย "คิวปิด" ในเทพนิยายของฝรั่ง


-----------------------------------------------------------------------


...คิดดี พูดดี ทำดี เป็นศรีเป็นพรสูงสุด
ไม่มีพรเทพ พรมนุษย์ เปรียบประดุจความดีที่ทำเอง...

-----------------------------------------------------------------------






























Create Date : 14 กุมภาพันธ์ 2551
Last Update : 14 กุมภาพันธ์ 2551 0:01:45 น. 9 comments
Counter : 4544 Pageviews.

 
P.S I Love you


โดย: โอน่าจอมซ่าส์ วันที่: 14 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:0:15:25 น.  

 


โดย: somnumberone วันที่: 14 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:0:44:41 น.  

 
ง่ะ ๆ ผมไม่เคยไหว้เยยอ้ะ
ถึงแม้ตอนยังไม่มีแฟนก็ไม่เค้ย ไม่เคย
ป่าวลบหลู่นะ แต่รักมันเรื่องของใจ


สงสารเทพทั่นมั่งก็ดี อิอิ...

ได้ยินมานานเรื่องเทพแห่งความรักแห่งแยกราชประสงค์ แต่เพิ่งได้อ่านความเป็นมาก็หนนี้แหละ
ขอบคุณนะคับลูกเพ่ อุตส่าห์เอามาฝากกัน

ปล. เพื่อนผมคนนึง เคยลงรถที่สยามฯ แล้วโดนมอไซค์ชน แต่เชื่อป่าว หลังจากนั้นคุณเธอยังไปกราบท่านเทพตรีมูตรขอฟามรักเลยอ่า

สุดยอดแท้ ๆ อิอิ


โดย: Nagano วันที่: 14 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:3:24:57 น.  

 
ผมเคยไปไหว้ท่านด้วยครับ

ตอนนั้นไม่รู้ ไปวันที่เค้าไหว้กันพอดี ดอกกุหลาบแดงเต็มไปไหมด เหอๆ

Happy Valentine's day Comments

Happy Valentine's day Comments



โดย: shinsaibashi วันที่: 14 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:9:35:29 น.  

 
ครั้งหนึ่งเมื่อยังเปนโสด เคยอ่านเจอเรื่องเทพองค์นี้ ดั่นด้นไปกราบขอพรจากท่านอีก 3 เดือนต่อมา เจอคู่แล้วได้แต่งงาน สมความตั้งใจตอนนี้มีลูกชายน่ารักด้วยไม่เชื่ออย่าลบหลู่ แต่เราว่าเต็ม100 แน่นอน


โดย: chanya IP: 125.27.92.198 วันที่: 14 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:11:01:57 น.  

 
ยังไม่เคยไปไหว้เลยอา...
ชวนใครไปไหว้ดีอ่ะ


โดย: ไร่ปลายตะวัน วันที่: 14 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:16:32:50 น.  

 
ข้อมูลดีมากเลยค่ะ


โดย: ayopolie วันที่: 14 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:16:55:13 น.  

 
เคยไปมาแล้วก็ได้อย่างที่ขอเลยค่ะ กลับไปเมือ่ไรจะไปอีกค่ะ ..ขอบคุณข้อมูลดีดีค่ะ


โดย: Napassawan วันที่: 14 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:21:20:48 น.  

 
ถ้าตอนนี้มีปัญหากับแฟน ประมาณว่าโดนรุ่นน้องที่สำงานมาจ๊ะจ๋าด้วย แล้วเหมือนแฟนเค้ารู้สึกดีด้วย ไปขอท่านช่วยได้ไหมค่ะ ต้องการที่พึ่งอย่างมากอ่ะ


โดย: himitsu IP: 203.144.144.164 วันที่: 21 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:21:27:06 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

นอกลู่นอกทาง
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 5 คน [?]








ภาพถ่ายดาวเทียมด้านอุตุนิยมวิทยา
ภาพสดๆจากที่ต่างๆทั่วมุมโลก
Ban Na Song BKK, Thailand
Karon Beach , Phuket , Thailand
Federal Highway, Angkasapuri ,Pantai Valley , Malaysia
Delta Estate , Singapore
Malate ,Manila , Philippines
Bandar Seri Begawan , Brunei
Guangxi Guilin, China
달빛무지개분수(Banpo Bridge Fountain )Sin’gilsa-dong , Seoul , South Korea
Hong Kong skyline from Admiralty, China
Shiomidai , Kanagawa , Japan
Cable Beach, Broome, Western Australia, Australia
Keahua Hawaii , USA
Sacramento California, USA
Washington D.C., USA
Manhattan , New York , USA
McCulloch Kelowna, Canada
Niagara Falls , Ontario , Canada
Panama Canal , Bella Vista , Panama
Santiago de Chile , Región Metropolitana , Chile
Fairbanks, Alaska Forecast Arctic
Mar del Plata Buenos Aires , Argentina
Tasiilaq , Østgrønland , Greenland
London Skyline from the Sheraton Park Tower , Knightsbridge , United Kingdom
Trafalgar Square , London , United Kingdom
Eiffel Tower Paris, France
Harstad Nordland , Norway
Halsum , Svalbarð , Iceland
Amsterdam , Netherlands
Vatican City State, Saint Peter's Basilica Borgo , Italy
Berlin, Germany
Чебоксарский залив, Yakimovo, Chuvashia , Russia
Udaipur Lake Pichola , Rājasthān , India
Mount Everest , Junbesi , Sagarmāthā , Nepal
Cape Town Sanddrift, South Africa
Orpen , Richmond , South Africa
Abū Hayl Dubai , United Arab Emirates
Kairo, Egypt
Medhufushi, Maldives
Mawson station Antarctica

Profile Visitor Map - Click to view visits
หนังทุกเรื่องหรือเพลงทุกเพลงในบล็อกนี้ เป็นเจ้าของ ของลิขสิทธินั้นๆตามเจ้าของเดิม นำมาเพื่อแบ่งปันชมกันในหมู่เพื่อนพ้อง ชาวบล็อกแก้งค์เท่านั้นครับ....
ไม่สงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ 2539 หากผู้ใดคิดจะ ลอกเลียน หรือนำส่วนใดส่วนหนื่ง ของข้อความใน Blog แห่งนี้ไปเผยแพร่ ให้นำไปได้เลย โดยไม่ต้องขออนุญาต จขบ. แต่ต้องคัดลอกแจกจ่ายให้ครบ 50 ก็อปปี้ ไม่เช่นนั้น จะมีอันเป็นไป ต่างๆนานา ถึงขั้นชีวิตตกอับ อิอิ หากแต่ว่า..นำชื่อ จขบ. ไปใช้ในทางเสียหายหรือประจาน จะถูกดำเนินคดี ตามที่ กฏหมายบัญญัติไว้สูงสุด นะจ๊ะ
Friends' blogs
[Add นอกลู่นอกทาง's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.