|
|
| 1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 |
7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 |
14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 |
21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 |
28 | |
|
|
|
|
|
|
|
|
ทฤษฎีที่จะทำให้ชีวิตชัดเจน Part 2 : คิดแบบทฤษฎียู (จบ)
คิดแบบทฤษฎียู
การเดินทางเป็นตัวยูของความคิดนั้นสามารถแบ่งออกเป็นขั้นตอนดังนี้
ขั้นแรก Downloading เปรียบเสมือนคอมพิวเตอร์ที่เข้าถึงคำตอบจากข้อมูลที่บันทึกไว้แต่เดิม แล้วดาวน์โหลดมาใช้งาน
ขั้นที่ 2 Open Mind คือการเปิดความคิดและเปิดสายตาให้กว้าง (Seeing) เพื่อให้เห็นความเป็นจริงที่อยู่ตรงหน้า โดยการไม่ด่วนตัดสินและการสังเกตที่ละเอียดถี่ถ้วน ซึ่งตรงข้ามกับการคิดและการมองแบบ Stereotype เช่น เวลาเห็นคนผิวดำก็บอกว่าเป็นคนดุร้าย เป็นต้น
ขั้นที่ 3 Open Heart คือการเปิดหัวใจรับรู้ความรู้สึกร่วม (Sensing) เพื่อการเป็นหนึ่งดียวกันกับสิ่งที่เราสังเกต ด้วยการลุกออกจากมุมมองของเรา แล้วเดินไปมองด้านมุมเดียวกับเขา เป็นการเอาใจเขามาใส่ใจเรา โดยที่เราก็ยังเป็นตัวของตัวเอง ไม่จำเป็นต้องคิดเห็นเหมือนกันหมด ขั้นตอนนี้จะช่วยให้เกิดความหลากหลายของความคิด
ขั้นสุดท้าย Open Will หรือ Presencing อาจารย์หมอประเวศ วะสี ใช้คำแปลว่า "มหาสติ" คือการอยู่กับปัจจุบันที่สุด เราจะเห็นคำตอบมากมาย ทางเลือกหลากหลาย และความเป็นได้ทุกทางในอนาคต
ความคิดสร้างสรรค์ ไหวพริบปฎิภาณ การปิ๊งแวบ! ซาโตริ หรือ Intuition คือ จุดที่ก้นตัวยูนี่เอง หลายคนอาจจเดินทางผ่านจุดนี้มาแล้วหลายครั้ง แต่อาจจะยังไม่รู้ว่า มีโมเดลหรือทฤษฎีอธิบายไว้อย่างเป็นขั้นเป็นตอน และสามารถนำมาทำซ้ำได้ เมื่อทำซ้ำด้วยโมเดลเดิม ก็จะได้ผลแบบเดิม จากแต่เดิมที่เคยเชื่อว่า สภาวะนี้ต้องปล่อยให้มันเกิดเอง จะเกิดขึ้นหรือไม่ก็ได้ เมื่อไรก็ได้ พิสูจน์ซ้ำไม่ได้
เมื่อมาถึงก้นตัวยูและได้ความคิด คำตอบ และทางเลือกที่ต้องการแล้ว ขาขึ้นของตัวยู คือการนำไปสู่การปฎิบัติลงมือทำนั่นเอง
ขั้นแรก Crystallizing คือการตกผลึกของความคิดให้ชัดเจนเข้มแข็ง
ขั้นที่ 2 Prototyping คือการนำความคิดนั้นมาแปรให้กลายเป็น "ต้นแบบ" และฝังอยู่ภายในตัวตนความคิดของเรา
ขั้นที่ 3 Performing คือการนำความคิดและการลงมือกระทำทั้งหมดนำไปสู่ผลสำเร็จ
จุดมุ่งหมายของทฤษฎียู ไม่ใช่เพื่อให้เราได้คิดเร็วขึ้นหรือช้าลง แต่ต้องการให้เราคิดอย่างถ้วนถี่มากขึ้น ระยะทางที่เห็นเป็นเส้นโค้งยาวในแผนผัง ไม่ได้มีนัยยะว่า ต้องไกลหรือ นานขึ้น เพราะกระบวนการทั้งหมดนี้เกิดขึ้นในสมอง เรายังไม่ทันรู้ตัวว่า จะช้าหรือเร็วได้แค่ไหน ตััวยูจึงไม่จำเป็นต้องช้า เร็วขึ้นได้ถ้าฝึกฝน เพียงแค่เราไม่เลือกเส้นทางเก่า และฝึกฝนการเดินลงสู่ก้นตัวยูอย่างสม่ำเสมอ
Create Date : 27 กุมภาพันธ์ 2553 |
Last Update : 27 กุมภาพันธ์ 2553 21:12:02 น. |
|
1 comments
|
Counter : 3115 Pageviews. |
|
|
|
โดย: อีคิวศูนย์ วันที่: 1 มีนาคม 2553 เวลา:12:10:53 น. |
|
|
|
| |
|
|
Location :
กรุงเทพ Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]
|
Drive by ,Miami Styles
***ใครอยากสอบถามข้อมูลใด ๆ เพิ่มเติม อันเนื่องจากอ่าน blog แล้วนั้น สามารถส่งหลังไมค์ได้ เพราะเราไม่ค่อยได้เห็น คอมเมนต์ นะ หรือบางทีไม่เห็นเลยก็มี
ยินดีเสมอ
|
|
|
|
|
|
|
|
|