<<
กันยายน 2553
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
2627282930 
9 กันยายน 2553

ภาวะมดลูกแตก

ภาวะมดลูกแตก Uterine Rupture
ภาวะมดลูกแตกนั้นเป็นกรณีฉุกเฉินอันนำมาซึ่งอันตรายต่อชีวิตของแม่และทารกในครรภ์ การแตกของมดลูกอาจเกิดขึ้นอย่างสมบูรณ์ทำให้โพรงมดลูกสามารถติดต่อกับช่องท้องได้โดยตรง หรือการแตกแบบไม่สมบูรณ์ซึ่งยังคงมีเยื่อบุช่องท้องบางๆที่คลุมมดลูกกั้นอยูระหว่างโพรงมดลูกและช่องท้อง สำหรับการแยกตัวของมดลูกจากการผ่าตัดมดลูกครั้งก่อน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการผ่าตัดคลอดและการผ่าตัดเนื้องอกของมดลูกนั้นถือเป็นการแตกของมดลูกแบบไม่สมบูรณ์อย่างหนึ่ง โดยที่ถุงน้ำคร่ำอาจยังไม่แตกและทารกยังคงอยู่ในโพรงมดลูก การแยกของแผลเป็นจากการผ่าตัดมดลูกลักษณะนี้นั้นมักแยกออกเพียงบางส่วนของแผลเป็น และยังคงมีเยื่อบุช่องท้องกั้นระหว่างโพรงมดลูกและช่องท้อง ในกรณีนี้เลือดที่ออกมาให้เห็นทางช่องคลอดมักมีน้อยมากหรือไม่มีเลือดออกมาให้เห็นเลย กรณีที่มีการแตกของมดลูกแบบสมบูรณ์ทารกจะมีอัตราการเสียชีวิตสูงถึงร้อยละ 50-75 ซึ่งถ้าสามารถตรวจพบว่าทารกยังมีชีวิตอยู่ภายหลังมดลูกแตก แพทย์จะรีบทำการผ่าตัดเพื่อทันทีเพื่อช่วยชีวิตทารก

สาเหตุของการแตกของมดลูกแบ่งออกเป็นสองกลุ่มใหญ่
1. เกิดจากการที่มดลูกได้รับบาดเจ็บหรือการกระแทก ที่พบได้บ่อยคือเกิดจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ การใช้ยากระตุ้นการบีบตัวของมดลูกอย่างไม่ถูกต้องทำให้เกิดการหดรัดตัวของมดลูกอย่างรุนแรง การทำคลอดทารกด้วยสูติศาสตร์หัถการต่างๆ เช่นการทำคลอดทารกท่าก้นทางช่องคลอด การกลับตัวทารกในโพรงมดลูกและทำคลอดทารก การคลอดทารกที่ติดใหล่ การคลอดทารกที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วและรุนแรง หรือการออกแรงดันที่มดลูดอย่างแรงระหว่างเบ่งคลอดเป็นต้น สาเหตุอื่นนอกจากนี้ได้แก่ การคลอดที่ติดขัดเป็นเวลานานจากสาเหตุต่างๆ เช่น เชิงกรานแคบ ทารกตัวโตมาก ท่าทารกผิดปกติ หรือทารกหัวบาตร เป็นต้น
2. การแตกของตัวมดลูกที่เกิดขึ้นเอง ส่วนใหญ่ของผู้ป่วยกลุ่มนี้มักจะมีประวัติที่ทำให้เกิดแผลเป็นที่โพรงมดลูกมาก่อน เช่นเคยได้รับการผ่าตัดที่ตัวมดลูก เคยรับการขูดมดลูก หรือทำให้แท้งบุตรแล้วเกิดภาวะแทรกซ้อนซึ่งทำให้เกิดความอ่อนแอของผนังมดลูก ไม่ว่าจะเป็นผลจากมดลูกทะลุ หรือการติดเชื้อ เป็นต้น บางครั้งการแตกของมดลูกอาจจะเกิดขึ้นกับผู้ป่วยที่ไม่เคยมีประวัติได้รับการผ่าตัดที่ตัวมดลูกมาก่อน และไม่เคยได้รับการทำหัตถการใดๆในโพรงมดลูกมาก่อน แต่กล้ามเนื้อของมดลูกเองมีความอ่อนแอจากการตั้งครรภ์และคลอดบุตรมาแล้วหลายครั้ง

อาการที่นำไปสู่การวินิจฉัยมดลูกแตกได้แก่
 อาการปวดและกดเจ็บบริเวณเหนือหัวหน่าว
 มดลูกหยุดการหดรัดตัวโดยทันทีภายหลังจากที่มีการหดรัดตัวอย่างรุนแรง
 ไม่สามารถฟังเสียงการเต้นของหัวใจทารกได้
 ส่วนนำของทารก (ศีรษะหรือก้นหรือส่วนแรกที่จะคลอดออกมา) ลอยสูงขึ้น
 มีเลือดออกทางช่องคลอด หลังจากนั้นจะตามมาด้วยอาการแสดงของภาวะช็อค ได้แก่ชีพจรเต้นเร็ว ความดันต่ำ เนื่องจากมีการเสียเลือดมีเลือดออกในช่องท้อง

การแตกของมดลูกสามารถเกิดได้ในทุกระยะของการตั้งครรภ์ อย่างไรก็ตามส่วนมากมักเกิดขึ้นในระยะเจ็บครรภ์ สิ่งที่สำคัญก็คือไม่มีอาการแสดงใดๆที่จำเพาะก่อนที่มดลูกใกล้จะแตก

การรักษานอกเหนือจากการรักษาสภาวะช็อคแล้ว การตัดมดลูกออกเป็นการรักษาหลักของภาวะมดลูกแตกแบบสมบูรณ์ ในกรณีที่มดลูกแตกแบบไม่สมบูรณ์และผู้ป่วยต้องการมีลูกอีก และสามารถยอมรับถึงความเสี่ยงของการเก็บมดลูกไว้ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว แพทย์อาจทำการเย็บซ่อมแซมบริเวณรอยต่อของมดลูกไว้ให้ได้ และวางแผนให้มีบุตรภายหลังการผ่าตัดอย่างน้อย 6 เดือนถึง 1 ปี








Create Date : 09 กันยายน 2553
Last Update : 9 กันยายน 2553 11:48:31 น. 1 comments
Counter : 1467 Pageviews.  

 


โดย: สมาชิกหมายเลข 1779106 วันที่: 30 มีนาคม 2558 เวลา:17:02:20 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิกช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

DR.TONGTIS
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 4 คน [?]




• B.Sc. Chulalongkorn University, Bangkok Thailand 1974-1978.
• M.D. Chulalongkorn University, Bangkok Thailand 1979-1980.
• Diploma Board of Obstetrics and Gynecology. Chulalongkorn University, Bangkok Thailand 1981-1983.
• Postdocteral Fellow Training. Queen's Mother Hospital, Glasgow Scotland.
• Postdocteral Fellow Training.King's College Hospital, London. UK.
• Postdocteral Fellow Training. Department of Obstetrics and Gynecology and Department of Radiology. John Hopkins Hospital, John Hopkins University.
[Add DR.TONGTIS's blog to your web]