|
|
1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 |
8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 |
15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 |
22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 |
29 | 30 | 31 | |
|
|
|
24 พฤษภาคม 2554
|
|
|
|
แม่ท้องดื่มอัลกอฮอล์ มีผลให้ลูกชายในครรภ์เป็นผู้มีบุตรยาก
ถ้าคุณแม่ดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ในขณะตั้งครรภ์ คุณแม่อาจไม่ทราบว่าผลเสียอีกอย่างหนึ่งของการดื่มแอลกอฮอล์คือจะสร้างความเสียหายต่อกระบวนการสร้างอสุจิของทารกในครรภ์ซึ่งทำลายความสามารถทารกในการเจริญพันธุ์ต่อไปในอนาคต งานวิจัยใหม่นี้ถูกนำเสนอในการประชุมประจำปีเกี่ยวกับการอนามัยเจริญพันธุ์ของยุโรป ครั้งที่ 26 (The European Society of Human Reproduction and Embryology) ในกรุงโรมเมื่อวันอังคารที่ 29 มิถุนายน 2553 คุณหมอชาวเดนมาร์กพบว่าหากคุณแม่ตั้งครรภ์ดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ปริมาณ 4.5 แก้ว หรือมากกว่า ในแต่ละสัปดาห์ ความเข้มข้นของตัวอสุจิในลูกหลานชายของตน ในอีก 20 ปีต่อมา จะต่ำลงกว่าผู้ชายที่คุณแม่ไม่เคยดื่มเครื่องดื่มมีแอลกอฮอล์ขณะตั้งครรภ์ประมาณ 32% โดยเปรียบเทียบปริมาณของแอลกอฮอล์ในเครื่องดื่ม 1 แก้วเท่ากับประมาณ 12 กรัม ซึ่งเทียบเท่ากับเบียร์ 1 กระป๋อง (330 มล.) ไวน์ 1 แก้ว(120 มล.) หรือสุรา 1 แก้ว (40 มล.) Dr Cecilia Ramlau - Hansen, นักวิจัยอาวุโสที่กรมอาชีวเวชศาสตร์, Aarhus University Hospital (Denmark) และศาสตราจารย์คลินิกที่ Epidemiology, Institute of Public Health, University of Aarhus, กล่าวในการบรรยายข่าว: จากการศึกษาพบว่ามีความสัมพันธ์ระหว่างการดื่มแอลกอฮอล์ปริมาณปานกลาง (ประมาณ 4-5 แก้วต่อสัปดาห์) ในระหว่างตั้งครรภ์และลดความเข้มข้นของตัวอสุจิในบุตร แต่เพราะเป็นการศึกษาสังเกตการณ์เราไม่สามารถบอกได้อย่างชัดเจนว่าแอลกอฮอล์ทำให้ความเข้มข้นอสุจิลดลง แต่เป็นไปได้ว่าการดื่มเครื่องดื่มมีแอลกอฮอล์ในระหว่างตั้งครรภ์ส่งผลร้ายต่อเนื้อเยื่อในอัณฑะ ที่เกี่ยวข้องกับการผลิตตัวอสุจิ และจึงส่งผลต่อคุณภาพน้ำอสุจิต่อมา แต่การศึกษานี้เป็นครั้งแรกของสมมติฐานนี้ และการวิจัยเพิ่มเติมในเรื่องนี้เป็นสิ่งจำเป็น ก่อนที่การเชื่อมโยงสาเหตุสามารถกำหนดหรือนำเสนอการจำกัดการดื่มเครื่องดื่มมีแอลกอฮอล์ในหญิงตั้งครรภ์ Dr. Ramlau - Hansen และทีมงาน ทำการศึกษาในบุตรชายจำนวน 347 รายที่เกิดจากสตรี 11,980 ราย ที่เป็นการตั้งครรภ์เดี่ยว ที่เคยได้รับคัดเลือกเพื่อเข้าร่วมโครงการศึกษาพฤติกรรมสุขภาพ ในเดนมาร์ก ระหว่างปี คศ. 1984-1987 โดยที่เมื่อมีอายุครรภ์ 36 สัปดาห์ มารดาจะต้องตอบแบบสอบถามเกี่ยวกับชีวิตประจำวันและสุขภาพ หลังจากนั้นได้มีการติดตามบุตรระหว่างปี คศ. 2005-2006 เมื่อพวกเขามีอายุระหว่าง 18-21 ปี และเก็บตัวอย่างเลือดน้ำเชื้อและเพื่อมาทำการตรวจวิเคราะห์ บุตรชายเหล่านั้นจะถูกแบ่งออกเป็นสี่กลุ่ม ตั้งแต่ผู้ที่สำผัสกับแอลกอฮอล์น้อยที่สุดระหว่างที่อยู่ในครรภ์ (แม่ของพวกเขาดื่มน้อยกว่าหนึ่งแก้วต่อสัปดาห์) และนี่คือกลุ่มที่อ้างอิงกับกลุ่มอื่น ๆ จากการวัดปริมาณการที่มารดาดื่ม 1 -1.5 แก้วต่อสัปดาห์ ดื่ม 2-4 แก้วต่อสัปดาห์ หรือ 4.5 แก้วขึ้นไปต่อสัปดาห์ นักวิจัยพบว่าบุตรของมารดาที่ดื่มเครื่องดื่มมีแอลกอฮอล์ 4.5 แก้วหรือมากกว่าต่อสัปดาห์ในระหว่างตั้งครรภ์มีความเข้มข้นของอสุจิเฉลี่ย 25 ล้านตัวต่อมิลลิลิตรเทียบกับบุตรผู้ที่ได้สัมผัสแอลกอฮอล์น้อยที่สุดซึ่งมีความเข้มข้นของอสุจิ 40 ล้านตัวต่อมิลลิลิตร หลังจากปรับปัจจัยรบกวนต่างๆ พวกเขาก็พบว่าบุตรชายในกลุ่มสัมผัสกับแอลกอฮอล์มากที่สุด มีความเข้มข้นของอสุจิต่ำกว่าในกลุ่มที่สัมผัสกับแอลกอฮอล์น้อยที่สุด เฉลี่ยที่ประมาณ 32% องค์การอนามัยโลกได้กำหนด"ระดับปกติ"ของความเข้มข้นของเชื้ออสุจิไว้ประมาณ 20 ล้านตัวต่อมิลลิลิตร หรือมากกว่า
Create Date : 24 พฤษภาคม 2554 |
Last Update : 24 พฤษภาคม 2554 10:26:56 น. |
|
1 comments
|
Counter : 1625 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
|
|
DR.TONGTIS |
|
|
|
Location :
กรุงเทพฯ Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 4 คน [?]
|
B.Sc. Chulalongkorn University, Bangkok Thailand 1974-1978. M.D. Chulalongkorn University, Bangkok Thailand 1979-1980. Diploma Board of Obstetrics and Gynecology. Chulalongkorn University, Bangkok Thailand 1981-1983. Postdocteral Fellow Training. Queen's Mother Hospital, Glasgow Scotland. Postdocteral Fellow Training.King's College Hospital, London. UK. Postdocteral Fellow Training. Department of Obstetrics and Gynecology and Department of Radiology. John Hopkins Hospital, John Hopkins University.
|
|
|
สุขภาพ
การดูแลสุขภาพ
อาหารเพื่อสุขภาพ
ออกกำลังกาย
สุขภาพผู้หญิง
สุขภาพผู้ชาย
สุขภาพจิต
โรคและการป้องกัน
สมุนไพรไทย
ผู้หญิง
ศัลยกรรม
ความสวยความงาม
แม่ตั้งครรภ์
ทารกแรกเกิด
เด็ก
ครอบครัว