พาล แปลว่า "อ่อน", "ตัดประโยชน์ทั้งสอง" อ่อนความคิด ==> ไม่อาจริเริ่มสร้างชีวิตให้ดีขึ้นกว่าภาวะเดิมได้ อ่อนสติ ==> ไม่มีกำลังพอจะปลุกตนให้ตื่นตัวตื่นใจ อ่อนปัญญา ==> ไม่มีปรีชาสอดส่องให้รู้ดีรู้ชั่วหรือรู้เหตุผล เป็นคนมีชีวิตอยู่แค่ลมหายใจเข้าออกเท่านั้น มิหนำซ้ำยังตัดประโยชน์ทั้งสองที่ตนควรบำเพ็ญเสียด้วย ประโยชน์ทั้งสอง คือ ประโยชน์ชาตินี้ และประโยขน์ชาติหน้า เป้นเครื่องมือพัฒนาฃีวิตให้ก้าวหน้า คนพาล ตัดทอนประโยชน์ทั้งสอง ==> ฉุดชีวิตตนเองไว้ไม่ให้ก้าวหน้า และเหยียบย่ำชีวิตให้ตกต่ำอับเฉาเศร้าหมองในโลกนิติว่า "คนพาลชอบแสดงท่าทีเทียมบัณฑิต แต่เมื่อถูกบัณฑิตถาม ก็ได้แต่พูดว่าครับ..ครับเหมือนกับเจ้ากบแม้จะยกตัวขึ้นเทียมราชสีห์ แต่พอถูกกาเฉี่ยวไป ก็ได้แต่ร้องปอดปอด"ประโยชน์ชาตินี้ที่คนพาลตัดทอนมี 4 ประการ อุฏฐานสัมปทา สมบูรณ์ด้วยความขยันหมั่นเพียร มุ่งมั่นศึกษาเล่าเรียน เพียรหาทรัพย์เลี้ยงชีวิต และเสริมสร้างฃีวิตให้มีหลักฐาน @ พาลเฉาเซาซบซ้ำ ซมซาน หลับสนิทเนานมนาน บ่เว้น ไป่ลุกเร่งกอบการ กิจใหญ่ น้อยนา ทิ้งทับถมซ่อนเร้น เริศร้างทางเจริญ อารักขาสัมปทา สมบูรณ์ด้วยการักษา คือรู้จักถนอมทรัพย์ที่หาหามาได้ รู้จักทำให้ผลิดอกออกผล คุ้มครองให้ปลอดภัย และรักษาหน้าที่ของตนไม่ให้เสื่อมเสีย @ พาลเกิดในชาติเชื้อ สูงวงศ์ ประมาทจิตคิดทะนง ทั่วหน้า มั่วหลงกลับพาพงศ์ ตนเสื่อม สูญแฮ นานหน่อนค่อยต่ำช้า หมดเชื้อเครือสูง กัลยาณมิตตตา คบเพื่อนที่ดีงาม คือเพื่อนมีอุปการะเกื้อกูลอุดหนุนแก่กัน เพื่อนร่วมสุขร่วมทุกข์ด้วยกัน เพื่อนคอยตักเตือนให้สติ แนะนำสิ่งที่เป็นประโยชน์ และเพื่อนมีความรักใคร่กันจริง (พิมพ์ถึงบรรทัดนี้นึกถึงเพื่อนๆ เลยครับ) สมชีวิตา เลี้ยงชีวิตตามกำลังทรัพย์ที่มีอยู่ รู้จักประหยัดตามหลักธรรมในพระศาสนา คือ แบ่งใช้จ่ายเลี้ยงชีวิตส่วนหนึ่ง แบ่งไว้ประกอบการงาน ๒ ส่วน แบ่งไว้ช่วยตัวในคราวมีความจำเป้นเกิดขึ้นส่วนหนึ่ง @ มีทรัพย์บ่เลือกใช้ สิ่งใด ควรนา ทรัพย์หมดก่อหนี้ไป เกียรติสิ้น หวังสุขแต่ทุกข์ภัย มาสู่ ตนแฮ ดุจนกติดแร้วดิ้น เพื่อพ้นภัยถึงประโยชน์ชาติหน้าที่คนพาลตัดทอนมี 4 ประการ สัทธาสัมปทา สมบูรณ์ด้วยศรัทธา คือเชื่อกรรมเชื่อผลของกรรม ว่าทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่วและเชื่อว่าพระรัตนตรัยมีคุณดีจริง เพราะพระพุทธตรัสรู้สัจธรรมจริง พระธรรมเป็นสัจธรรมแท้ พระสงฆ์ปฏิบัติสัจธรรมได้ถูกต้อง ประกาศให้ประชาชนทราบว่า มีผู้ปฏิบัติได้จริง และผู้ถือปฏิบัติตามก็เป็นคนดีได้แน่นอน คนพาลเป็นอศรัทธา คือไม่เชื่อเหตุเชื่อผล ไพล่ไปเชื่อมงคลตื่นข่าว ตื่นผู้วิเศษ หลงงมงายในข่าวลือที่เหลวไหล เชื่อฤกษ์ เชื่อยาม เชื่อโชคเชื่อลาง @ พาลโทษไทท้าวท่วย เทวา และโทษสถานภูผา ย่านกว้าง โทษถึงหมู่วงศา มิตรญาติ ไป่โทษกรรมเองสร้าง ส่งให้เป็นผล สีลสัมปทา สมบูรณ์ด้วยศีล คือมีศีลบริสุทธิ์สะอาด ไม่ขาด ไม่ทะลุ ไม่ด่าง ไม่พร้อย @ คนโลภหรือห่อนได้ ครองศีล คนมักมังษากิน บาปสู้ มักเมาเล่าห่อนยิน คำเที่ยง คนมักมากเล่นชู้ ห่อนรู้กลัวอาย จาคะสัมปทา สมบูรณ์ด้วยจาคะ คือยอมสละประโยชน์สุขส่วนน้อย ออกแผ่เผื่อเจือจานผู้อื่นด้วยเมตตากรุณา เพื่อประโยชน์สุขส่วนใหญ่ ปัญญาสัมปทา สมบูรณ์ด้วยปัญญา คือมีปรีชาฉลาดหลักแหลม มีสติครองตนให้เฉลียว รู้จักเหตุให้เกิดสุขว่า เมื่อทำแล้วให้ชื่นใจ ไม่เดือดร้อนในภายหลัง และรู้จักเลือกเฟ้นทำแต่สิ่งดี หลีกเลี่ยงส่วนชั่วเสียหาย @ รู้น้อยว่ามากรู้ เริงใจ กลกบเกิดอยู่ใน บ่อจ้อย ไป่เห็นชะเลไกล กลางสมุทร ชมว่าน้ำบ่อน้อย มากล้ำลึกเหลือ (โลกนิติ) @ พาลมีตาดูได้สีใสปลอด แต่เหมือนบอดอับแสงทุกแห่งหน หูฟังมีน่าเบื่ออื้อเหลือทน ปัญญาตนมีไว้เหมือนใบ้บ้า @ มีกำลังเป็นดั่งกำลังโหด เมื่อประโยชน์เกิดเหมาะจำเพาะหน้า ไม่รีบร้อนนอนซ้ำมินำพา ประหนึ่งว่าคนตายน่าหน่ายเอย
อุฏฐานสัมปทา สมบูรณ์ด้วยความขยันหมั่นเพียร มุ่งมั่นศึกษาเล่าเรียน เพียรหาทรัพย์เลี้ยงชีวิต และเสริมสร้างฃีวิตให้มีหลักฐาน @ พาลเฉาเซาซบซ้ำ ซมซาน หลับสนิทเนานมนาน บ่เว้น ไป่ลุกเร่งกอบการ กิจใหญ่ น้อยนา ทิ้งทับถมซ่อนเร้น เริศร้างทางเจริญ อารักขาสัมปทา สมบูรณ์ด้วยการักษา คือรู้จักถนอมทรัพย์ที่หาหามาได้ รู้จักทำให้ผลิดอกออกผล คุ้มครองให้ปลอดภัย และรักษาหน้าที่ของตนไม่ให้เสื่อมเสีย @ พาลเกิดในชาติเชื้อ สูงวงศ์ ประมาทจิตคิดทะนง ทั่วหน้า มั่วหลงกลับพาพงศ์ ตนเสื่อม สูญแฮ นานหน่อนค่อยต่ำช้า หมดเชื้อเครือสูง กัลยาณมิตตตา คบเพื่อนที่ดีงาม คือเพื่อนมีอุปการะเกื้อกูลอุดหนุนแก่กัน เพื่อนร่วมสุขร่วมทุกข์ด้วยกัน เพื่อนคอยตักเตือนให้สติ แนะนำสิ่งที่เป็นประโยชน์ และเพื่อนมีความรักใคร่กันจริง (พิมพ์ถึงบรรทัดนี้นึกถึงเพื่อนๆ เลยครับ) สมชีวิตา เลี้ยงชีวิตตามกำลังทรัพย์ที่มีอยู่ รู้จักประหยัดตามหลักธรรมในพระศาสนา คือ แบ่งใช้จ่ายเลี้ยงชีวิตส่วนหนึ่ง แบ่งไว้ประกอบการงาน ๒ ส่วน แบ่งไว้ช่วยตัวในคราวมีความจำเป้นเกิดขึ้นส่วนหนึ่ง @ มีทรัพย์บ่เลือกใช้ สิ่งใด ควรนา ทรัพย์หมดก่อหนี้ไป เกียรติสิ้น หวังสุขแต่ทุกข์ภัย มาสู่ ตนแฮ ดุจนกติดแร้วดิ้น เพื่อพ้นภัยถึง
@ พาลเฉาเซาซบซ้ำ ซมซาน หลับสนิทเนานมนาน บ่เว้น ไป่ลุกเร่งกอบการ กิจใหญ่ น้อยนา ทิ้งทับถมซ่อนเร้น เริศร้างทางเจริญ
@ พาลเกิดในชาติเชื้อ สูงวงศ์ ประมาทจิตคิดทะนง ทั่วหน้า มั่วหลงกลับพาพงศ์ ตนเสื่อม สูญแฮ นานหน่อนค่อยต่ำช้า หมดเชื้อเครือสูง
@ มีทรัพย์บ่เลือกใช้ สิ่งใด ควรนา ทรัพย์หมดก่อหนี้ไป เกียรติสิ้น หวังสุขแต่ทุกข์ภัย มาสู่ ตนแฮ ดุจนกติดแร้วดิ้น เพื่อพ้นภัยถึง
สัทธาสัมปทา สมบูรณ์ด้วยศรัทธา คือเชื่อกรรมเชื่อผลของกรรม ว่าทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่วและเชื่อว่าพระรัตนตรัยมีคุณดีจริง เพราะพระพุทธตรัสรู้สัจธรรมจริง พระธรรมเป็นสัจธรรมแท้ พระสงฆ์ปฏิบัติสัจธรรมได้ถูกต้อง ประกาศให้ประชาชนทราบว่า มีผู้ปฏิบัติได้จริง และผู้ถือปฏิบัติตามก็เป็นคนดีได้แน่นอน คนพาลเป็นอศรัทธา คือไม่เชื่อเหตุเชื่อผล ไพล่ไปเชื่อมงคลตื่นข่าว ตื่นผู้วิเศษ หลงงมงายในข่าวลือที่เหลวไหล เชื่อฤกษ์ เชื่อยาม เชื่อโชคเชื่อลาง @ พาลโทษไทท้าวท่วย เทวา และโทษสถานภูผา ย่านกว้าง โทษถึงหมู่วงศา มิตรญาติ ไป่โทษกรรมเองสร้าง ส่งให้เป็นผล สีลสัมปทา สมบูรณ์ด้วยศีล คือมีศีลบริสุทธิ์สะอาด ไม่ขาด ไม่ทะลุ ไม่ด่าง ไม่พร้อย @ คนโลภหรือห่อนได้ ครองศีล คนมักมังษากิน บาปสู้ มักเมาเล่าห่อนยิน คำเที่ยง คนมักมากเล่นชู้ ห่อนรู้กลัวอาย จาคะสัมปทา สมบูรณ์ด้วยจาคะ คือยอมสละประโยชน์สุขส่วนน้อย ออกแผ่เผื่อเจือจานผู้อื่นด้วยเมตตากรุณา เพื่อประโยชน์สุขส่วนใหญ่ ปัญญาสัมปทา สมบูรณ์ด้วยปัญญา คือมีปรีชาฉลาดหลักแหลม มีสติครองตนให้เฉลียว รู้จักเหตุให้เกิดสุขว่า เมื่อทำแล้วให้ชื่นใจ ไม่เดือดร้อนในภายหลัง และรู้จักเลือกเฟ้นทำแต่สิ่งดี หลีกเลี่ยงส่วนชั่วเสียหาย @ รู้น้อยว่ามากรู้ เริงใจ กลกบเกิดอยู่ใน บ่อจ้อย ไป่เห็นชะเลไกล กลางสมุทร ชมว่าน้ำบ่อน้อย มากล้ำลึกเหลือ (โลกนิติ) @ พาลมีตาดูได้สีใสปลอด แต่เหมือนบอดอับแสงทุกแห่งหน หูฟังมีน่าเบื่ออื้อเหลือทน ปัญญาตนมีไว้เหมือนใบ้บ้า @ มีกำลังเป็นดั่งกำลังโหด เมื่อประโยชน์เกิดเหมาะจำเพาะหน้า ไม่รีบร้อนนอนซ้ำมินำพา ประหนึ่งว่าคนตายน่าหน่ายเอย
@ พาลโทษไทท้าวท่วย เทวา และโทษสถานภูผา ย่านกว้าง โทษถึงหมู่วงศา มิตรญาติ ไป่โทษกรรมเองสร้าง ส่งให้เป็นผล
@ คนโลภหรือห่อนได้ ครองศีล คนมักมังษากิน บาปสู้ มักเมาเล่าห่อนยิน คำเที่ยง คนมักมากเล่นชู้ ห่อนรู้กลัวอาย
@ รู้น้อยว่ามากรู้ เริงใจ กลกบเกิดอยู่ใน บ่อจ้อย ไป่เห็นชะเลไกล กลางสมุทร ชมว่าน้ำบ่อน้อย มากล้ำลึกเหลือ (โลกนิติ) @ พาลมีตาดูได้สีใสปลอด แต่เหมือนบอดอับแสงทุกแห่งหน หูฟังมีน่าเบื่ออื้อเหลือทน ปัญญาตนมีไว้เหมือนใบ้บ้า @ มีกำลังเป็นดั่งกำลังโหด เมื่อประโยชน์เกิดเหมาะจำเพาะหน้า ไม่รีบร้อนนอนซ้ำมินำพา ประหนึ่งว่าคนตายน่าหน่ายเอย